27 กรกฎาคม 2554

<<< เหตุการณ์ ฮ. ตกซ้ำซาก 9 วัน 3 ลำ ที่แก่งกระจาน >>>

วันที่ 17 กรกฎาคม 2554 12:24
พบ5ศพฮ.ตกแล้ว ย้ำฟ้าปิดนำศพออกไม่ได้

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

พบ 5 ศพ จากฮ.กองทัพบกตกในป่าแล้ว แต่เนื่องจากสภาพอากาศนั้นยังมีฝนตกและท้องฟ้ามืดครึ้ม นำศพออกมาไม่ได้

ราชบุรี-จากกรณีเฮลิคอปเตอร์ ของกองทัพบก ฮ.ท.1 รุ่น UH 1 H (ฮิ้วอี้) ได้ประสบอุบัติเหตุตกกลางป่า ขณะกำลังบินเข้าไปรับเจ้าหน้าที่ชุดลาดตะเวณที่ยังตกค้างอยู่ในป่าหลังจาก เข้าไปปฎิบัติภารกิจกวาดล้างชนกลุ่มน้อยที่เข้ามาถากถางป่าเพื่อทำไร่เลื่อน ลอยบริเวณเขตรอยต่อจ.ราชบุรีและเพชรบุรี ใกล้แนวเขตเทือกเขาตะนาวศรี ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค.54 ที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถกลับมาได้ เนื่องจากมีฝนตกหนักตลอด ทำให้เฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถบินขึ้นไปรับได้ และเมื่อฝนหยุดตกท้องฟ้าเปิด ในวันที่ 15 ก.ค.54 ที่ผ่านมา เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบกจึงเข้าไปรับชุดปฎิบัติหน้าที่ออกมาได้ซึ่งรวมถึงนักข่าวของประเด็นเด็ด 7 สี ที่ร่วมเดินทางไปด้วย แต่ยังไม่ทันรับกลับมาได้หมด ก็มีฝนตกลงมาอีกการปฎิบัติหน้าที่ของเฮลิคอปเตอร์ จึงต้องหยุดลง

และในวันที่ 16 ก.ค.54 ทางกองพันบิน ของกองพลทหารราบที่ 9 กองกำลังสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี ได้เปลี่ยนเฮลิคอปเตอร์ลำใหม่มาใช้ในการปฎิบัติหน้าที่ และบินขึ้นไปรับชุดลาดตระเวณที่ยังเหลือในเวลาประมาณ 12.00 น. ของวันที่ 16 ก.ค.54 ที่ผ่านมา และไปตกกลางป่าทึบใกล้เขตชายแดนไทยพม่าบริเวณต้นน้ำเพชรเขตเทือกเขาตะนาวศรี ทำ ให้นักบิน ช่างเครื่องและนายทหารยุทธการของหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ กองกำลังสุรสีห์ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งร่วมเดินทางไปด้วย รวม 5 นาย สูญหายไปด้วย ทาง หน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ ซึ่งนำโดย พ.อ.ดนัย บุญตัน รองผู้บังคับหน่วยฉก.ทัพพระยาเสือ ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่รวม 5 ชุด ออกเร่งระดมค้นหาเฮลิคอปเตอร์ที่ตก รวมทั้งทหารทั้ง 5 นาย ซึ่งคาดว่าอาจจะมียังมีชีวิตรอดแต่อาจจะได้รับบาดเจ็บ

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (17 ก.ค. 54) ทางกองทัพบกได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ ฮ.ท.1 ฮ.ท.212 จํานวน 2 ลํา และรุ่นแบ็คฮอก อีก 2 ลําเป็น 4 ลํา นําเจ้าหน้าที่ทหารเข้าพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และมีเฮลิคอปเตอร์เล็กอีก 2 ลํา จากกระทรวงทรัพย์ฯมาช่วยด้วย ซึ่งได้รับรายงานจากทหารชุดลาดตระเวนที่เข้าไปสำรวจแล้วว่าพบศพทหารทั้ง 5 นายแล้ว โดยทั้งหมดอยู่ในสภาพศพไหม้เกรียม และขณะนี้อยู่ในระหว่างการนำศพกลับ แต่เนื่องจากสภาพอากาศนั้นยังมีฝนตกและท้องฟ้ามืดครึ้ม เฮลิคอปเตอร์จึงยังไม่สามารถที่จะเข้าไปรับศพออกมาได้

สําหรับเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนที่ยังตกค้างอยู่ออกมาไม่ได้นั้น ได้ใช้เฮลิคอปเตอร์เล็กนําอาหารไปหย่อนให้แล้วสามารถดํารงชีวิตอยู่ได้หลายวัน และชุดลาดตระเวนดังกล่าว ก็ยังเป็นหน่วยที่ติดตามค้นหาเฮลิคอปเตอร์ลําที่ตกด้วย เพราะเนื่องจากอยู่ห่างจากฐานปฏิบัติการที่ ฮ.ลงจอดเพียงไม่กี่กิโลเมตร และเห็นเหตุการณ์ ในช่วงที่ก่อนเฮลิคอปเตอร์จะตกด้วย

สำหรับศพนายทหารทั้ง 5 นายนั้นจะถูกนำกลับไปตั้งรวมกันที่ กองพลทหารราบที่ 9 กองกำลังสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี ก่อนจะมอบให้ญาติๆนั้นนำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามภูมิลำเนาต่อไป

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/politics/20110717/400477/พบ5ศพฮ.ตกแล้ว-ย้ำฟ้าปิดนำศพออกไม่ได้.html

-------------------------------------------------------
เผยวาทะ ผบ.พล.ร.9 ก่อนบิน ลั่นจะพาทุกคนกลับให้ได้

แบล็คฮอล์กตก


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

เผย วาทะ ผบ.พล.ร.9 ก่อนขึ้นแบล็กฮอว์ก ลั่นจะนำน้อง ๆ กลับมาให้ได้ พร้อมกล่าวติดตลกกับนักข่าวที่ขอไปด้วย บอกอย่าไปเลย เดี๋ยวก็ตกกันหมดหรอก

นับเป็นข่าวร้ายที่สร้างความเศร้าสะเทือนใจเป็นอย่างมาก หลังจากเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เฮลิคอปเตอร์แบบแบล็กฮอว์กเกิดเหตุขัดข้องและขาดการติดต่อหลังขึ้นบินเพียง 20 นาที เพื่อปฏิบัติภารกิจลำเลียงศพทหารจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกก่อนหน้านี้ จนเป็นเหตุให้ นายทหารเสียชีวิตรวม 5 ศพ ก่อนจะได้รับการยืนยันว่า แบล็กฮอว์กลำดังกล่าวได้ตกซ้ำรอยบริเวณใกล้กับจุดเดิม ห่างกันเพียง 1.5 กิโลเมตร และยังไม่มีใครทราบชะตากรรมผู้โดยสารทั้ง 9 ราย ซึ่งประกอบไปด้วยนักบิน ช่างเครื่อง นักข่าว รวมไปถึงระดับผู้บังคับบัญชา พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผบ.พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ฉก.ทัพพระยาเสือ จ.กาญจนบุรี

ทั้งนี้ มีรายงานว่า พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ได้กล่าวก่อนที่จะขึ้นเครื่องแบล็กฮอว์ก ว่า หากกรณีท้องฟ้าปิดสนิท มีกลุ่มฝนตกไม่สามารถดำเนินการทั้ง 2 แผนแรกตามที่ได้วางแผนไว้ ก็จะใช้แผนที่ 3 โดยการใช้เฮลิคอปเตอร์จากสำนักฝนหลวงบินขึ้นไปโปรยสารเคมีเพื่อให้ความกด อากาศเปลี่ยน และเมื่อเมฆหมอกยกตัวสูงขึ้นจะใช้เฮลิคอปเตอร์ขนาดเล็ก ขับเข้าไปจอดที่ระดับความสูง 900 โดยจะใช้กำลังพลเดินเท้าลำเลียงศพมา คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 4-5 ชั่วโมง

พล.ต.ตะวัน ยังได้กล่าวอีกว่า ตนมีความมั่นใจสูงมากที่จะสามารถขนย้ายศพทหารทั้ง 5 นายออกจากพื้นที่ประสบเหตุได้ จากนั้นก็จะนำศพทหารทั้งหมดออกมาชันสูตร ณ ค่ายฝึกรบพิเศษแก่งกระจาน แล้วเคลื่อนที่ศพไปทำพิธีทางศาสนา ณ วัดทุ่งลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี ก่อนที่จะปฏิบัติภารกิจที่ 2 คือเข้าไปรับชุดลาดตระเวนที่ช่องทางห้วยสามแพร่งจำนวน 7 นาย และชุดวิทยุส่งต่อที่บริเวณช่องทางใจแผ่นดิน จำนวน 5 นาย ออกจากพื้นที่กลับฐานปฏิบัติการ และเมื่อ พล.ต.ตะวัน กล่าวจบ ก็นำคณะทั้งหมดขึ้นเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กไปปฏิบัติภารกิจ

โดย พล.ต.ตะวัน ได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ตนจะเดินทางไปด้วยตัวเอง เพื่อนำน้อง ๆ ผู้ประสบเหตุทั้ง 5 กลับมาให้ได้ในวันนี้ เพราะสงสารญาติ ๆ ที่รออยู่ และเมื่อผู้สื่อข่าวพยายามจะขอติดตามไปด้วย พล.ต.ตะวัน ได้กล่าวอย่างติดตลกว่า "อย่าไปเลย เดี๋ยวก็ตกกันหมดหรอก" จน กระทั่งเมื่อเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กขึ้นไปได้ประมาณ 20 นาที สัญญานวิทยุสื่อสารได้ขาดหายไป ทำให้ไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งเวลา 13.00 น. จึงมีการรับแจ้งว่า เฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กประสบอุบัติเหตุดังกล่าว

อย่าง ไรก็ดี จากอุบัติเหตุน่าเศร้าในครั้งนี้ ถือเป็นข่าวที่ผู้คนต่างให้ความสนใจ และถูกวิจารณ์ว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ตกทั้ง 2 ครั้งนั้น อาจเป็นเรื่องของอาถรรพ์ หรือไม่ก็อาจถูกอาวุธจากทางฝั่งพม่าโจมตี แต่อย่างไรก็ตาม ได้มีนายทหารระดับสูงออกมายืนยันแล้วว่า สาเหตุที่เครื่องบินตก เกิดจากสภาพอากาศที่เลวร้าย ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานด้วยว่า แบล็คฮอว์กมีเสียงระเบิดขึ้นก่อนสัญญาณจะขาดหาย แต่ทางโฆษกกองทัพบก ก็ได้ออกมายืนยันว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ออกปฏิบัติภารกิจดังกล่าว ยังเป็นลำใหม่ที่ใช้การได้ดี ไม่มีปัญหาแน่นอน

แต่ไม่ว่าสาเหตุจะเกิดขึ้นจากสภาพอากาศ อาถรรพ์ หรืออะไรก็ตามแต่ เชื่อว่า ณ วินาที ทุกหัวใจของชาวไทยทุกดวง จะร่วมกันส่งกำลังใจถึงเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่จะเดินเท้าลุยป่าเพื่อค้นหาผู้ รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว และขอให้การลำเลียงศพนายทหารทุกท่านกลับสู่มาตุภูมิได้อย่างราบรื่น เพื่อให้ทุกดวงวิญญาณไปสู่สุคติภพด้วยเทอญ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

-------------------------------------------------------

เปิดรายชื่อ 9 ชีวิต จนท.-นักข่าว โดยสารแบล็คฮอล์ก รับศพ5ทหารตกซ้ำฝั่งพม่า ยังไม่ทราบชะตากรรม

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14:25:37 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 19 กรกฎาคม ว่า เฮลิคอปเตอร์ แบบ UH-60L แบล็คฮอล์ก ซึ่งกำลังเดินทางไปรับศพ 5 นายทหารที่เฮลิคอปเตอร์ประสบอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ยังอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่ผ่านมา ได้ขาดการติดต่อหลังขึ้นบินไปเพียงไม่กี่นาที โดยคาดว่า น่าจะตกลงไปยังบริเวณป่าเขาที่ประเทศพม่า บริเวณใกล้เคียงกับ ฮ.ที่ตกวันที่ 16 ก.ค.

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ในแบล็คฮอล์ก ลำดังกล่าวซึ่งขึ้นบินตั้งแต่ช่วงเช้า มีผู้โดยสารและผู้ควบคุมเครื่องรวม 9 ราย ทั้งสื่อมวลชน และผบช.กองพลทหารราบ ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม

สำหรับรายชื่อผู้ที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์แบบแบลคฮอว์คดาวน์ ที่ขึ้นบินในภารกิจ ที่จะกู้ศพผู้เสียชีวิตจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด 9 คน ยืนยันชื่อเป็นทางการ ได้แก่

นักบินที่ 1 พันตรีประพันธ์ เจียมสูงเนิน
นักบินที่ 2 พันตรีชูพันธ์ พลวรรณ
ช่างเครื่อง จ่าสิบเอกสมคิด วงษ์ตาแสง,สิบเอกอร่าม พงษ์สิงห์

ผู้โดยสารร่วม

พลตรีตะวัน เรืองวงศ์
ร้อยเอกเจษ สุขใจ
ร้อยเอกจักรพันธ์ บำรุงพืช
สิบตรีอิทธิศักดิ์ หิณะสุทธิ์
สื่อมวลชน ที่ร่วมภารกิจ นายศรชัย คงตันนุกูล ช่างภาพจากช่อง 5

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1311055563&grpid=00&catid=&subcatid=

--------------------------------------------------------

บก.ข่าวช่อง5ทวิต"ลูกน้องผมอยู่ใน ฮ. ลำนั้น!!!"และ"มีเสียงระเบิด ก่อนแบล็กฮอว์คขาดการติดต่อ.."

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14:26:10 น.

ภายหลังจากเครื่องเฮลิคอปเตอร์แบบแบล็คฮอว์ค ซึ่งลำเลียงเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนไปรับศพเจ้าหน้าที่ ทหารทั้ง 5 นาย ที่ประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกไปก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขาดการติดต่อและคาดว่า น่าจะประสบอุบัติเหตุตกไปเมื่อช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 19 กรกฎาคม นั้น

นายสุรกิต ปิ่นชวนิจ บรรณาธิการข่าว ททบ.5 ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ในชื่อ @beaver_ch5 ตั้งแต่เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ด้วยข้อความว่า

" ลงจอดฉุกเฉิน " หรือ " ตก " _/\_

"มีเสียงระเบิด ก่อนแบล็กฮอว์คขาดการติดต่อ.."

"ลูกน้องผมอยู่ใน ฮ. ลำนั้น!!!"

"คุณพระคุณเจ้า มือไม้ ใจสั่นไปหมด....."

"ทหารลาดตระเวนพบกลุ่มควันจุดที่ได้ยินเสียงคล้ายระเบิด ห่างจากจุดตกเดิม 1.5 กม. รอภาพยืนยัน"

"ขอปาฏิหารย์......"

และ "เป็นห้วงเวลาที่หายใจลำบากที่สุด....."

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1311060384&grpid=03&catid=&subcatid=

------------------------------------------------------

ฮ.ตกซ้ำซากอีกแล้วคราวนี้สั​งเวยอีก3ศพรอด1(มีคลิป+ภาพช​ุด)

วันอาทิตย์ ที่ 24 กรกฎาคม 2554 เวลา 19:24 น

ร่วงลำที่ 3 ฮ.เบลล์ 212 ดิ่งพสุธากลางไร่ไฟลุกท่วมย​่างสดนักบินกับช่างเครื่องร​วม 3 ศพ ช่างเครื่องที่ 1 รอดตายหวุดหวิดเพราะหลุดกระ​เด็นออกมานอกเครื่อง คาดเครื่องขัดข้อง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ก.ค. ร.ต.ท.สมปอง คำทวี ร้อยเวร สภ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี รับแจ้งมีเหตุเฮลิคอปเตอร์ต​กกลางไร่ หมู่ 7 บ้านหนองเกต ต.แก่งกระจาน รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบว่าเป็นไร่ดงก​ระถินติดกับเชิงเขา ห่างจากจุดที่ ฮ.ฮิวอี้ตกครั้งแรกประมาณ 30 กม. พบ ฮ.ของกองทัพบกรุ่นเบลล์ 212 เพลิงกำลังลุกไหม้ซากแหลกไม​่เป็นชิ้นดี
ส่วนภายในเครื่องที่พังแหลก​ลาญมีร่างผู้เสียชีวิต 2 นายทราบชื่อต่อมา พ.ต.ธีรวัฒน์ แก้วกมล เป็นนักบินที่ 1 และ จ.ส.อ.วิเชียร จันทร์พัฒน์ ช่างเครื่องที่ 1 เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันดับเพ​ลิงที่ลุกไหม้ ห่างไปเล็กน้อยบนพื้นดินพบศ​พ ร.ท.บูรณา หวานใจ นักบินที่ 2 ตามร่างกายถูกไฟไหม้ผุพองจน​เห็นเนื้อแดง นอกจากนี้ยังมีคนเจ็บที่รอด​ชีวิตอีก 1 นายเจ้าหน้าที่นำตัวส่ง รพ.ไปก่อนหน้านี้คือ ส.อ.พัฒนพร ต้นจันทน์ เป็นช่างเครื่องที่ 2

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ฮ.ลำดังกล่าวได้บินไปเปลี่ย​นกำลังพลที่กรุงเทพ หลังจากเมื่อวานได้ขนศพ พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผบ.พล.ร.9. กับช่างภาพช่อง 5 ออกมาจากป่า จากนั้นขากลับขณะบินกลับมาท​ี่ค่ายฝึกการรบพิเศษแก่งกระ​จาน จู่ ๆ ฮ.เกิดขัดข้องร่วงตกกระแทกพ​ื้นพร้อมกับมีเสียงระเบิดดั​งกึกก้องสนั่นป่า จากนั้นมีเปลวไฟลุกไหม้ทั้ง​ลำ ส่วน ส.อ.พัฒนพรโชคดี ได้หลุดกระเด็นตกออกมานอกเค​รื่องจนได้รับบาดเจ็บดังกล่​าว เบื้องต้นคาดเครื่องอาจขัดข​้อง อย่างไรก็ตามสาเหตุที่แท้จร​ิงอยู่ระหว่างการสอบสวนของผ​ู้เชี่ยวชาญต่อไป.

สำหรับอาการของ ส.อ.พัฒนพรที่บาดเจ็บจาก ฮ.เบลล์ 212 โหม่งโลกนั้น น.พ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผ​ยว่า คนป่วยรู้สึกตัวดี ไม่มีบาดแผลตามร่างกาย แต่กระดูกสันหลังส่วนเอวหัก​ ทว่าไม่กระทบกระเทือนต่อระบ​บประสาท ขณะนี้เตรียมส่งตัวจาก รพ.แก่งกระจาน ไปรักษาตัวต่อที่กรุงเทพฯใน​ รพ.พระมงกุฎเกล้า

ด้านพลตรี พิทยา กระจ่างวงศ์ ผอ.ศูนย์การบินกองทัพบก กล่าวว่าสาเหตุ ฮ.เบลล์ 212 ดิ่งพื้นน่าเกิดจากการทำงาน​ของใบพัดผิดปกติ คือเกิดจากการหมุนของใบพัดใ​บใหญ่หมุนช้า ทำให้เครื่องช้าลงหรืออาจจะ​เกิดจากวัสดุบางจุดเสื่อมสภ​าพ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เกิดอ​ุบัติเหตุทางอากาศ .

http://www.dailynews.co.th​/newstartpage/index.cfm?pa​ge=content&categoryID=561&​contentID=152901

------------------------------------------------------------

4 ศพสุดท้ายแบล๊กฮอว์กตก ถูกลำเลียงถึงแก่งกระจาน กองทัพบกสั่งระงับใช้เบลล์ 212
วันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 เวลา 09:00:01 น.

กู้สำเร็จ 4 ศพสุดท้าย แบล๊กฮอว์ก ส่งถึงศูนย์ฝึกรบพิเศษแก่งกระจานแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 24 กรกฎาคม เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเฮลิคอปเตอร์ของกระทรสวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นำร่างผู้เสียชีวิตที่เหลือ 4 ศพสุดท้าย จากการประสบอุบัติเหตุเครื่องเฮลิคอปเตอร์แบบ แบล๊กฮอว์กตก มาถึงศูนย์ฝึกการรบพิเศษแก่งกระจานได้สำเร็จแล้ว ก่อนที่จะรอพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล และส่งไปทำพิธีบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป

ผบ.ศูนย์การบินกองทัพบกสั่งระงับใช้เฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 212 ทั้งหมด

พล.ต.พิทยา กระจ่างวงศ์ ผู้บัญชาการศูนย์การบินกองทัพบก กล่าววันที่ 24 กรกฎาคมว่า ขณะนี้จะให้หยุดภารกิจการใช้เฮลิคอร์ปเตอร์ 212 ที่มีอยู่จำนวน 20 ลำ เพื่อตรวจสภาพของเครื่อง หลังจากนั้นจะมีการจัดกิจกรรมสัมมนาเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจของนักบิน อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้เสียใจเพราะเสียกำลังพลไปอีก 3 นาย

ผบ.ทบ.ชี้เครื่องยนต์ขัดข้องสาเหตุเบลล์ 212 ตก วอนอย่าตำหนิทหารเกิดแล้วเกิดอีก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยวันที่ 24 กรกฎาคม กรณีเฮลิคอปเตอร์ตก 3 ครั้งติดต่อกันว่า โดยปกติการดำเนินการทางอากาศมีความเสี่ยงสูงกว่าบนพื้นดิน อุบัติเหตุครั้งแรกของเฮลิคอปเตอร์ ฮิวอี้ ตกนั้นเกิดจากสภาพอากาศเปลี่ยนกะทันหัน ครั้งที่สองเฮลิคอปเตอร์ แบล๊กฮอว์ก มีการตรวจสอบเป็นอย่างดีถึงสภาพอากาศ ได้รับแจ้งว่าอากาศเปิดจึงได้ขึ้นบิน แต่อากาศปิดกะทันหันทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งที่ 3 ล่าสุด วันที่ 24 กรกฎาคมนั้นเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากเครื่องยนต์ขัดข้อง

"เหตุการณ์ที่เกิดใกล้เคียงกันดูรุนแรงเสมอ แต่การดำเนินการทางอากาศจะมีความเสี่ยงเป็นสองเท่าและเสี่ยงมากขึ้นหลายเท่าถ้าต้องบินหลายๆ เที่ยวรวมทั้งมีเวลาจำกัด แต่ได้แจ้งให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม การทำงานนำศพที่เหลือจากแบล๊กฮอว์กตกจะไม่หยุด"

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับเฮลิคอปเตอร์ที่ใช้รวมทั้งนักบินถือเป็นชุดที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน ขอให้อย่าตำหนิทหารว่าเกิดแล้วเกิดอีก เนื่องจากการเดินเท้านำศพออกมาไม่สามารถดำเนินการได้เพราะระยะทางไกลและมีเวลาจำกัด

"ส.อ.พัฒนพร"ผู้รอดชีวิตหนึ่งเดียว เบลล์ 212 เผยบังคับฮ.ไม่ได้ก่อนร่วง

พ.อ.ธรรมนูญ วิถี ผอ.กองยุทธการกองทัพภาคที่1 ให้สัมภาษณ์ในรายการเกาะติดข่าวร้อน เนชั่นชาแนล เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ถึงสาเหตุการตกของเฮลิคอปเตอร์เบล 212 ว่า ระหว่างที่บินออกจากบางเขนมาสมทบที่แก่งกระจาน เบื้องต้นที่สอบถามจาก ส.อ.พัฒนพร ต้นจันทร์ นายทหารสังกัดกองบินปีกหมุนที่2 จ.ลพบุรี ช่างเครื่องที่ได้รับบาดเจ็บ และเป็นผู้รอดชีวิตรายเดียว ให้การว่า เครื่องมีอาการหมุนไปทางขวา ไม่สามารถบังคับให้บินไปในทางตรงได้ นักบินจึงพยายามลงจอดฉุกเฉินแต่ไม่สำเร็จจึงเกิดเหตุขึ้น ขณะที่สภาพอากาศท้องฟ้าโปร่ง ส่วนสาเหตุที่แท้จริงคงต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง

ส่วนภารกิจลำเลียงศพแบล็คฮอร์กนั้น ผอ.กองยุทธการกองทัพภาคที่1 กล่าวว่า คาดว่าจะสามารถลำเลียงศพที่เหลือทั้งหมดมาถึงเนิน860 ทั้งหมดได้ในเวลา 14.00น. โดยใช้ฮ.ของกระทรวงทรัพยากรฯและกระทรวงเกษตรฯสนับสนุนในการลำเลียงมาตลอด เบื้องต้นในการเคลื่อนย้ายจะใช้ฮ.ของกระทรวงเกษตรและกระทรวงทรัพย์ฯ

โฆษก ทบ.เผยเบลล์ 212 หมุนควบคุมเครื่องไม่ได้

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยวันที่ 24 กรกฎาคมว่า การคำบอกเล่าของ ส.อ.พัฒนพร ต้นจันทร์ นายทหารสังกัดกองบินปีกหมุนที่ 2 จ.ลพบุรี ช่างเครื่องผู้รอดชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 212 ช่วยลำเลียงศพตกที่ตำบลแก่งกระจาน เมื่อเฮลิคอปเตอร์เบลล์ 212 บินมาถึงจุดเกิดเหตุเครื่องได้หมุนไปทางขวาและนักบินพยายามบังคับเครื่อง แต่ไม่สามารถทำได้จึงได้ลงจอดฉุกเฉิน

เผยชาวบ้านใกล้เหตุการณ์เบลล์ 212 ตกเข้าไปช่วยเหลือรอดตาย 1 คน

ชาวบ้านตำบลแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เล่าเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 212 ช่วยลำเลียงศพตก ที่ตำบลแก่งกระจาน วันที่ 24 กรกฎาคมว่า เห็นเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวบินมาถึงจุดเกิดเหตุและมีอาการเสียการทรงตัวและตกลงมา โดยชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทันที อย่างไรก็ตามเนื่องจากไฟลุกไหม้เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวอย่างรวดเร็ว และสามารถช่วยเหลือทหารที่อยู่ในเฮลิคอปเตอร์เบลล์ 212 ได้เพียงรายเดียวเท่านั้น

เผยเบลล์ 212 ตกห่างจากอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานไม่ถึง 10 กิโลเมตร

นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมว่า บริเวณที่เฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 212 ตกอยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานไม่ถึง 10 กิโลเมตร เบื้องต้นทราบว่าเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวบินออกจากศูนย์การบินลพบุรีมุ่งหน้าค่ายทหารหน่วยรบพิเศษแก่งกระจานเพื่อสนับสนุนการลำเลียงศพผู้เสียชีวิตที่เหลือจากเฮลิคอปเตอร์ แบล๊กฮอว์ก ตกที่เนิน 860 อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ สำหรับการเคลื่อนย้ายศพที่เหลือจากการเกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ แบล๊กฮอว์ก ที่เนิน 860 วันที่ 19 กรกฎาคม คาดว่าจะแล้วเสร็จเวลา 16.00 น. วันที่ 24 กรกฎาคม

ฮ.เบลล์212ขนศพตกซ้ำลำ 3 ที่แก่งกระจาน ไฟไหม้ทั้งเครื่อง ทหารดับ3เจ็บ 1

มีรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.20 น. วันที่ 24 กรกฎาคม ได้เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพ เป็นเครื่องแบบ เบลล์ 212 จะมาสมทบในภารกิจลำเลียงอุปกรณ์ให้ความช่วยเหลือเคลื่อนย้ายศพเจ้าหน้าที่ทหาร ประสบอุบัติเหตุตกอีกลำหนึ่งแล้ว ในพื้นที่หมู่ 7 บ้านหนองเกด ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

ด้านชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกลำล่าสุดพบว่า ฮ.เสียการทรงตัวเกิดควันดำ และมีไฟลุกไหม้ ก่อนจะร่วงตกลงไป โดยก่อนเกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ชุดดังกล่าวบินมาด้วยกัน 3 ลำ ก่อนจะขาดการติดต่อ และตกไป 1 ลำดังกล่าว

ต่อมาเมื่อเวลา 10.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ 3 ราย จากอุบัติเหตุดังกล่าว ได้แก่ พ.ต.ธีรวัฒน์ แก้วกมล นักบินที่ 1 ร.ท.บูรณา หวานใจ นักบินที่ 2 รวมถึงนายทหารช่างเครื่อง จ.ส.อ. วิเชียร ช่างเครื่อง ส่วนผู้บาดเจ็บสาเหตุ มี 1 รายคือ ส.อ.พัฒนพร ต้นจันทร์ นายทหารสังกัดกองบินปีกหมุนที่2 จ.ลพบุรี ขณะนี้ถูกนำตัวไปรักษาตัวต่อที่ รพ.พระจอมเกล้าฯ ซึ่งได้รับบาดเจ็บบริเวณที่ใบหน้าและข้อมือ ส่วนไฟที่ไหม้ลุกเครื่องทั้งกล่าว เจ้าหน้าที่ระดมดับไฟเป็นที่เรียบร้อย ส่วนศพผู้เสียชีวิต 2 ราย ถูกนำเข้ามาพิสูจน์ศพที่ร.พ.แก่งกระจานแล้ว

ทั้งนี้ ฮ. ลำดังกล่าวนั้น เป็นฮ.ที่ปฏิบัติภารกิจลำเลียงศพ พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผบ.พล.ร.9 ผบ.กองกำลังสุรสีห์ และศพของนายศรชัย คงตันนุกูล ช่างภาพจากช่อง 5 เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยก่อนเกิดเหตุได้บินร่วมปฏิบัติภารกิจกับเฮลิคอปเตอร์หลายๆ ลำรวมถึง ฮ.ของช่อง 3 ด้วย โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สภาพอากาศค่อนข้างเปิด จึงคาดว่า ไม่น่าจะเป็นผลมาจากทัศนวิสัย และจุดที่เกิดเหตุก็ตกห่างจากที่แบล็กฮอล์กตกประมาณ 50 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากค่ายฝึกการรบพิเศษแก่งกระจานราว 5 กิโลเมตร

ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ะบุถึงสาเหตุที่ทำให้เครื่องตกว่า เกิดจากการสูญเสียการบังคับ และอาจจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบเหตุอุบัติเหตุที่เครื่องตก อย่างไรก็ตามทหารทุกนายรู้ดี ว่าก้าวขึ้นฮ.ความเสี่ยงต้องตามมา แต่ทหารทุกนายก็มีความพร้อมทำหน้าที่ไม่ย่อท้อ ส่วนแผนในการลำเลียงศพนายทหารทั้ง 7 ราย จากอุบัติเหตุแบล็กฮอล์กตกนั้น ก็ไม่ได้ปรับเปลี่ยน ยังคงใช้ฮ. ไปลำเลียงผู้เสียชีวิตออกมาเช่นเดิม

http://matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1311476323&grpid=00&catid=no&subcatid=0000

------------------------------------------------------------

ทบ. ปูนบำเหน็จ 3 นายทหาร ฮ.เบลล์ ตก



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3, ไทยโพสต์

กองทัพบก ปูนบำเหน็จนายทหารที่ ฮ.เบลล์ 212 ตก ทั้ง 3 นายแล้ว ส่วน ช่างเครื่องที่ได้รับบาดเจ็บจะรักษาเต็มที่และเงินบำรุงขวัญตามสิทธิ์

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปแบบเบลล์ 212 ของ กองบินปีกหมุนที่ 2 ซึ่งเดินทางไปปฏิบัติภารกิจเคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิตในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ แก่งกระจาน ได้ประสบอุบัติเหตุตก เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา บริเวณบ้านหนองใหญ่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ทำให้กำลังพลเสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วย พ.ต.ธีรวัตน์ แก้วกมล ผู้บังคับอากาศยาน, ร.ท.บูรณา หวานใจ นักบิน และ จ.ส.อ.วิเชียร จันทร์พัฒน์ ช่างประจำอากาศยาน และบาดเจ็บ 1 นาย คือ ส.อ.พัฒนพร ต้นจันทร์ ช่างประจำอากาศยาน ซึ่งขณะนี้พักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

รองโฆษกกองทัพบก กล่าวอีกว่า กองทัพบกได้ดำเนินการเกี่ยวกับสิทธิกำลังพล การมอบเงินช่วยเหลือตามสิทธิของทางราชการ ได้แก่ เงินค่าทดแทน, เงินบำเหน็จตกทอด, เงินสินไหมทดแทนประกันชีวิต, เงินบำรุงขวัญจากหน่วยงานต่างๆ และเงินสงเคราะห์ฌาปนกิจ เป็นต้น พร้อมปูนบำเหน็จพิเศษ 8 ขั้น ให้กับผู้เสียชีวิต ซึ่งจะได้รับพระราชทานยศสูงขึ้น โดย พ.ต.ฐิระรัตน์ ได้เลื่อนยศเป็น "พลโท", ร.ท.บูรณา ได้เลื่อนยศเป็น " พันโท." และ จ.ส.อ.วิเชียร ได้เลื่อนยศเป็น " พลตรี" ส่วนที่ จ.ส.อ.วิเชียรได้รับปูนบำเหน็จในชั้นยศที่สูง เนื่องจากรับราชการมานานและมีฐานเงินเดือนที่สูง ส่วน ส.อ.พัฒนพร จะได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่ รวมทั้งได้รับเงินบำรุงขวัญตามสิทธิ์



[25 กรกฎาคม] อาการ ส.อ.พัฒนพร ดีขึ้น แต่จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้

ความคืบหน้าล่าสุดสำหรับอาการของ ส.อ.พัฒนพร ต้นจันทน์ ทหารที่รอดชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์เบลล์ 212 ตก ที่อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

โดย ส.อ.พัฒนพร ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่ไปทำข่าวความคืบหน้าอาการบาดเจ็บ ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ว่า วันนี้ตนอาการดีขึ้นกว่าเมื่อวาน แต่จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก ความจำสุดท้าย จำได้เพียงว่า มีชาวบ้านมาดึงตัวช่วยชีวิตออกมาจากจุดเกิดเหตุเท่านั้น

ทางด้านนายแพทย์พีระพล ปกป้อง ผู้อำนวยการกองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เปิดเผยถึง ความคืบหน้าล่าสุด อาการบาดเจ็บของ สิบเอก พัฒนพร ต้นจันทร์ ช่างเครื่องที่ 2 ที่ประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ รุ่น เบลล์ 212 ขณะเข้าลำเลียงศพทหาร จากเหตุเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กตกว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ก็มีอาการปวดหลัง เนื่องจากอาการกระดูกสันหลังหัก และปวดระบม โดย ทีมแพทย์ได้ให้ยาระงับอาการปวด ก็มีอาการดีขึ้น และนอนหลับได้ดี โดยไม่มีอาการหวาดผวา หรือกังวลจากเหตุที่ประสบมา ซึ่งทีมแพทย์ได้มีการนำอุปกรณ์ ช่วยพยุงหลัง ช่วยในการยืดหยุ่น ช่วงกระดูกสันหลัง ทำให้ลดการเจ็บปวดลงได้บางส่วน

ส่วนอาการบาดเจ็บนั้น พบว่า ไม่มีจุดใดน่าเป็นห่วง รวมทั้งสมองด้วย ไม่มีการได้รับความกระทบเทือน ซึ่งหากทางเจ้าหน้าที่ จะสอบปากคำ ก็สามารถทำได้ และขอขืนยันว่า ผู้ป่วยไม่ได้มีอาการช็อก หรือ หมดสติ ขณะนำส่งโรงพยาบาล

ล่าสุด ผู้อำนวยการกองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน เปิดเผยว่า ขณะนี้ อาการดีขึ้น รู้สึกตัวดี มีอาการปวดหลัง เนื่องจาก ผลตรวจร่างกายพบว่า กระดูกสันหลังหักละเอียด 1 ถึง 3 ข้อ คาดว่า ภายใน 2 ถึง 3 วัน จึงจะให้อออกจากห้อง ไอซียู ได้ โดยจะมีการจัดชุดประคองหลัง และให้นอนนิ่งในห้องพักฟื้นพิเศษ คาดว่า 2 ถึง 3 สัปดาห์ จะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ รวมทั้ง จะมีการส่งทีมจิตแพทย์ เข้าไปดูแลจิตใจเนื่องจาก คนไข้รอดชีวิตอย่างปาฎิหาริย์ และการสูญเสียทั้งผู้บังคับบัญชา รวมถึงเพื่อนร่วมงาน ส่วนครอบครัวของเจ้าหน้าที่ทั้ง 17 นาย ที่เสียชีวิต หากกรมแพทย์ทหารบก ต้องการให้ทีมจิตแพทย์เข้าไปดูแลจิตใจ ทางโรงพยาบาล มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตาม ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก จะร่วมทำพิธีรดน้ำศพ นายทหารทั้ง 7 นาย ที่ประสบอุบัติเหตุแบล็กฮอว์กตก ที่ วัดทุ่งลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี ในเวลาประมาณ 09.00 น. วันนี้ (25 กรกฎาคม)



พระราชทานน้ำหลวงอาบศพทหาร ฮ.เบลล์ ตก

พระราชทานเพลิงศพ ทหาร ฮ.ฮิวอี้ ตก และพิธีน้ำหลวงอาบศพ 3 ทหาร ฮ.เบลล์ ที่วัดดงสวอง อ.เมือง จ.ลพบุรี บ่ายวันนี้ (25 กรกฎาคม)

สำหรับ บรรยากาศที่ วัดดงสวอง ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมือง จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพของทหาร 4 นาย ที่เสียชีวิตจาก ฮ. ฮิวอี้ ตก อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี โดยตั้งแต่เช้ามีเจ้าหน้าที่ทหาร เข้ามาจัดเตรียมสถานที่ นำศพทหาร ทั้ง4 นาย มาทำพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในช่วงบ่ายของวันนี้

ก่อนที่จะมีการตั้งกองเกียรติยศ ในการเคลื่อนศพของ พ.ต.ธีรวัฒน์แก้วกมล ร.ท.บูรณา หวานใจ นักบินที่ 1 และ 2 รวมถึง จ.ส.อ.วิเชียร จันทร์พัฒน์ ช่างเครื่อง นายทหารของศูนย์การบินทหารบกจังหวัดลพบุรี ออกจากโรงพยาบาลอานันทมหิดล เพื่อเคลื่อนย้ายศพมาที่ วัดดงสวอง เพื่อทำพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และบำเพ็ญกุศลต่อไป


โหรชี้ เหตุการณ์ ฮ.ตกซ้ำ 3 ลำ เป็นช่วงวิกลคติ

โหรชี้ เหตุการณ์ ฮ.ตก เป็นช่วง วิกลคติ เตือนระวัง 26 ก.ค.เป็นต้นไป จะเกิดอาเพศใหญ่ เหตุภัยพิบัติทั้งทางอากาศและทางน้ำ

จากเหตุการณ์เศร้าสลดและสะเทือนใจคนไทยทั้งประเทศเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ ของกองทัพบกประสบอุบัติเหตุบริเวณกลางป่า ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ. เพชรบุรี

โดยเฮลิคอปเตอร์ลำแรกเป็นเฮลิคอปเตอร์ รุ่นฮิวอี้ 8 ประสบอุบัติเหตุตกจนเครื่องระเบิด ส่งผลให้ทหารเสียชีวิต 5 นาย ต่อมาเฮลิคอปเตอร์รุ่นแบล็คฮอว์ก ประสบอุบัติเหตุตกซ้้ำในบริเวณใกล้เคียง หลังจากที่กำลังเดินทางไปกู้ศพนายทหาร 5 นายข้างต้น เป็นเหตุให้ นายทหาร 8 นาย และนักข่าวของทางททบ.อีก 1 คน เสียชีวิต และล่าสุดช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ (24 กรกฎาคม) เฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 212 ซึ่งเป็นเครื่องสมทบในภารกิจลำเลียงศพนายทหาร ก็เกิดอุบัติเหตุซ้ำอีก เป็นลำที่ 3 สภาพเครื่องลุกไหม้ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิตอีก 3 นาย และบาดเจ็บ 1 นายตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น เกี่ยว กับเรื่องดังกล่าวทำให้ประชาชนหลายคนสงสัยว่า จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นซ้ำในพื้นที่ใกล้เคียงกัน อาจจะไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องสภาพอากาศ หรือเครื่องขัดข้องอย่างเดียว ทั้งนี้อาจจะเป็นเรื่องพื้นที่อาถรรพ์ หรือเหตุการณ์เหนือธรรมชาติก็ได้

ทางด้าน อาจารย์กรหริศ บัวสรวง โหรชื่อดัง ได้วิเคราะห์ว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นถ้ามองในแง่ของโหราศาสตร์ จะเป็นเรื่องของการโคจรของดวงดาว ทั้งนี้ในช่วงเวลาดงกล่าว เป็นช่วงวิกลคติ หรือชาวบ้านเรียกว่า วิปริต อาเพศ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม ที่ เป็นวันเกิดเหตุ ดาวจันทร์กับดาวเกตุ ตัวแทนถึงสภาพอากาศการคมนาคมอากาศทับกันอยู่ และเมื่อมีคนเสียชีวิต ที่เป็นเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งเป็นตัวแทนของดวงอาทิตย์ เข้ามาโคจรอยู่ในมุมขัดแย้ง กับดวงเมือง รวมไปถึงยังถูกดาวเสาร์โยกหลัก ส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ และจะเป็นต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าดาวอาทิตย์จะย้ายไปราศีใหม่ อีกทั้ง ดาวศุกร์ กับดาวพุธ อยู่ในราศีธาตุน้ำอีก จะส่งผลให้เกิดภัยทางอากาศ สภาพอากาศแปรปรวน น้ำจะท่วม มีพายุ ดินถล่ม และจะเป็นอย่างนี้ไปจนถึงวันที่ 17-18 สิงหาคม

อาจารย์กรหริศ กล่าวว่า ตนอยากให้เตรียมตัวกันไว้ให้ดี ๆ เพราะตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป พวกเครื่องบินลำเล็ก และเฮลิคอปเตอร์ จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำซ้อน ประสบเหตุตกอีก อย่าเสี่ยงที่จะบินขึ้นไป เนื่องจากสภาพอากาศช่วงนี้ไม่ดี และอยากจะเตือนไปยังจังหวัดที่อยู่ทางภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก รวมไปถึงภาคใต้ให้ระวังเรื่องฟ้าฝนให้ดี อาจจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้นได้



มทภ.1 เตรียมแจงเหตุ ฮ.3 ลำตก ขอสอบก่อน


แม่ ทัพภาคที่ 1 เผย ไม่จำเป็นต้องส่ง ฮ. บินรับเจ้าหน้าที่เดินเท้ากู้ซาก คาด เดินเท้าถึงเขาพะเนินทุ่ง 3 วัน เตรียมแจงเหตุ ฮ. 3 ลำ ตก หลังตรวจสอบ

พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุด หลัง เกิดเหตุโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของกองทัพบก จากกรณีเฮลิคอร์ปเตอร์ ตก 3 ลำ ส่งผลให้มีนายทหาร เสียชีวิตทั้งหมด รวม 16 นาย และพลเรือนอีก 1 ราย โดยยืนยันว่า สำหรับหน่วยเฉพาะกิจที่เดินเท้าเข้าไปช่วยกู้ซาก แบล็กฮอว์ก และ ฮิวอี้ ที่ยังเดินทางกลับออกมาไม่หมดนั้น คาดว่า น่าจะใช้เวลาเดินทาง ราว 3 วัน จึงจะมาถึงที่เขาพะเนินทุ่ง ซึ่งทางกองทัพเห็นว่าไม่จำเป็นต้องนำ ฮ. ไปรับ เนื่องจากต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ อีกทั้ง สภาพอากาศที่เป็นไปค่อนข้างลำบาก จึงเห็นว่า ไม่จำเป็นต้องใช้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับทุกคนมากที่สุด และอยากให้ทุกคนเดินทางกลับแบบสบายและไม่กังวลใจด้วย

อย่างไรก็ตาม แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวยืนยันว่า ฮ. ทุกลำ ที่ตกนั้น ทางกองทัพ จะมีการชี้แจงและแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยเฉพาะ เบลล์ 212 ที่ตกล่าสุด คาดว่า น่าจะเกิดจากระบบของตัวเครื่องมีปัญหา ส่วน ฮ.ฮิวอี้ และ แบล็กฮอว์ก นั้น มั่นใจว่าเกิดจากสภาพอากาศไม่ดี พร้อมกันนี้ ยังชี้แจงด้วยว่า สำหรับ แบล็กฮอว์ก นั้น ไม่มีกล่องดำ หรือ เครื่องบันทึกเหตุการณ์อย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกัน ซึ่งจะเห็นในเครื่องบินโดยสารเท่านั้น แต่ แบล็กฮอว์ก จะมีเครื่องส่งสัญญาณ หรือ ELT ที่จะส่งไปที่ตัวเครื่องควบคุมให้ทราบกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อบอกพิกัด หรือ จุดตก ที่สามารถตรวจสอบได้อย่างแม่นยำ














[24 กรกฎาคม] ฮ.ตก ลำที่ 3 แก่งกระจาน เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 1 ปลอดภัยแล้ว

สลด!! ฮ.กองทับบก เบลล์ 212 ตก เป็นลำที่ 3 ขณะปฏิบัติภาระกิจกู้ศพ จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณฟาร์มนกกระจอกเทศ อ.แก่งกระจาน ไฟลุกท่วม ทหารตาย 3 บาดเจ็บ1
หลัง จากประเทศไทยต้องสูญเสียทหารและช่างภาพช่อง 5 จากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก 2 ลำ ล่าสุดมีรายงานข่าวด่วนแจ้งมาว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันนี้ (24 กรกฎาคม) เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกอีกลำ ในพื้นที่หมู่ 7 บ้านหนองเกด ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว คาดว่า น่าจะไปปฏิบัติภารกิจ ในการรับศพทหารที่เสียชีวิต จากเฮลิคอปเตอร์ที่ตกก่อนหน้านี้ โดยจากการตรวจสอบมีรายงานแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิต 3 ราย มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย
แพทย์พระมงกุฎฯ เผยช่างเครื่องฮ.เบลล์ 212 ใช้เวลา 6 เดือนฟื้นฟูร่างกาย

ผอ.กองอุบัติเหตุ ร.พ.พระมงกุฎฯ เผย อาการช่างเครื่องฮ.ตกปลอดภัย คาด 6 เดือนกลับมาเป็นปกติ
พ.อ.นพ. พีระพล ปกป้อง ผู้อำนวยการกองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน รพ.พระมงกุฎเกล้า เปิดเผยภายหลังตรวจอาการของ ส.อ.พัฒนพร ต้นจันทร์ ช่างเครื่องประจำ ฮ.เบลล์ 212 ที่ประสบอุบัติเหตุตกในเบื้องต้นว่า อาการบาดเจ็บในภาพรวมปลอดภัยดี ไม่น่าเป็นห่วง มีเพียงอาการกระดูกสันหลังหักเท่านั้น เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการรักษาในส่วนนี้อย่างเต็มที่ คาดว่าจะใช้เวลาในการรักษาประมาณ 6 เดือน ก็จะกลับมาเป็นปกติ นับว่าโชคดีที่อาการบาดเจ็บของเขาบาดเจ็บไม่มาก ไม่มีอาการแขนขาอ่อนแรง ไม่มีผลกระทบต่อเส้นประสาทและระบบประสาท มีการตอบสนองรับรู้ได้ดี มีเพียงอาการปวดต้นคอและปวดหลังเท่านั้น
เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทางมารดาและญาติของ ส.อ.พัฒนพร มีความเป็นห่วงลูกมาก ทางโรงพยาบาลจึงได้จัดเตรียมห้องพักไว้ให้สำหรับมารดาและญาติ ได้ดูแลผู้บาดเจ็บอย่างใกล้ชิด โดยคณะแพทย์ได้แสดงความเชื่อมั่นในการรักษา และยืนยันกับมารดาของส.อ.พัฒนพร แล้วว่า ลูกชายจะกลับมาปกติเหมือนเดิม และทำงานได้ตามปกติในไม่ช้านี้



ลำเลียงศพทหารไปพล.ร.9 คาดใช้เวลา 4 ชั่วโมง
ทหารกองเกียรติยศ รับศพทหารทั้ง 7 นาย ที่เหลือ ใช้เวลาเดินทางโดยรถยูนิม็อก 4 ช.ม. ถึง พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี

เจ้าหน้าที่ทหารกองทัพบก พร้อมรถลำเลียงยูนิม็อก จำนวน 3 คัน ได้ลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กตกแล้ว โดยทุกร่างมีธงชาติไทยคลุมศพอย่างสมเกียรติ พร้อมกันนี้ มีทหารกองเกียรติยศเป่าแตรทำความเคารพจากการสละชีพเพื่อชาติ ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นไปอย่างโศกเศร้า โดยระยะทางระหว่างกองบังคับการค่ายฝึกการรบพิเศษแก่งกระจานไปยังกองพลทหาร ราบที่ 9 จ.กาญจนบุรี นั้น คาดว่าจะใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้นประมาณ 4 ชั่วโมง

ขณะที่ร่างของ 3 ผู้ประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์รุ่นเบลล์ 212 กองทัพบก ตกเมื่อเช้า เวลาประมาณ 09.00 น. ของวันนี้ จะลำเลียงไปยังศูนย์กองการบินทหารบก จ.ลพบุรี ซึ่งเฮลิคอปเตอร์ทั้งหมด ยังอยู่ระหว่างการใช้งานของกองทัพบกครบทุกรุ่น








สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ คือ

รายชื่อผู้เสียชีวิต 3 คน
- พต.ธีรวัฒน์ แก้วกมล นักบินที่่ 1
- รท.บูรณา หวานใจ นักบินที่ 2
- จสอ.วิเชียร จันทร์พัณน์ ช่างเครื่อง

รายชื่อผู้บาดเจ็บ 1 คน
- ส.อ.พัฒนพร ต้นจันทร์ สังกัดกองบินปีกหมุน ลพบุรี

สำหรับ เฮลิคอปเตอร์ ลำดังกล่าวนั้น เป็นลำเดียวกับที่ ลำเลียง พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผบ.พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ฉก. ทัพพระยาเสือ จ.กาญจนบุรี และ นายศรวิชัย คงตันนิกูล ช่างภาพช่อง 5 ที่เสียชีวิต จากเหตุแบล็กฮอว์กตก จากพื้นที่แก่งกระจาน ไปส่งที่ กองพลทหารราบที่ 9 และขณะเกิดเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 4 นาย อยู่ระหว่างเสร็จสิ้นภารกิจ และกำลังเดินทางกลับไปพักผ่อน ที่ค่ายทหาร เพื่อให้อีกทีม มาสับเปลี่ยนการปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็มาประสบอุบัติเหตุดังกล่าวก่อน
ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เบื้องต้นได้มีโอกาสสอบถามจาก ส.อ.พัฒนพร ต้นจันทร์ ช่างเครื่อง ที่รอดชีวิตจากเหตุดังกล่าว ทราบว่า ขณะ บินอยู่เหนือพื้นที่เกิดเหตุ อีกประมาณ 10 กิโลเมตร จะถึงค่ายฝึกรบพิเศษ จ.เพชรบุรี ระหว่างนั้น ตัวเครื่องหมุนไปทางด้านขวา นักบินพยายามจะนำเครื่องลงจอดฉุกเฉิน แต่เครื่องก็ตกกระแทกพื้นอย่างแรง จนทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ และนักบิน ที่ 1 และที่ 2 กับช่างเครื่องอีก 1 นาย เสียชีวิต
สำหรับ ส.อ.พัฒนพร ล่าสุด ถูกนำตัว ส่งรักษาต่อที่ ร.พ.พระจอมเกล้าฯ จ.เพชรบุรี แล้ว มีอาการไฟไหม้ที่ขา มีร่องรอยฟกช้ำ ล่าสุด อาการปลอดภัยแล้ว



ผบ.ศูนย์การบิน งดเบลล์ 212 ทุกลำ

ผู้บัญชาการศูนย์การบินทหารบก เผย สั่งระงับ ฮ. รุ่น เบลล์ 212 ทุกลำแล้ว หลังประสบเหตุตก เพื่อตรวจสอบสมรรถภาพของเครื่อง
พลตรี พิทยา กระจ่างวงษ์ ผู้บัญชาการศูนย์การบินทหารบก กล่าวถึง เหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบก ตก 3 ลำ ว่า เป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของกองทัพบก ทั้งนี้ ได้สั่งงดใช้เฮลิคอปเตอร์ รุ่น เบลล์ 212 แล้ว เพื่อตรวจสอบสมรรถภาพของเครื่อง และสาเหตุการตกที่แน่ชัด ซึ่งหลังจากนี้ จะจัดกิจกรรมเรียกขวัญและกำลังใจ ให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ส่วนเฮลิคอปเตอร์รุ่นเบลล์ 212 ที่ตก มีอายุการใช้งานประมาณ 20 ปี แล้ว และมีการตรวจสอบสภาพทุก 25 ชั่วโมง การบิน
อาการทหารที่รอดชีวิตปลอดภัยแล้ว

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย อาการทหารที่รอดชีวิต จากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ที่ จ.เพชรบุรี ปลอดภัยแล้ว เตรียมส่งรักษาตัวที่ ร.พ.พระมงกุฎเกล้า บ่ายนี้
น.พ.ไพ จิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือ ส.อ.พัฒนพร ต้นจันทร์ นายทหารที่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุเฮลิคอปเตอร์รุ่น เบลล์ 212 ตก เป็นลำที่ 3 ที่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ว่า ทีมแพทย์ของ ร.พ.แก่งกระจาน ได้ให้การดูแลอย่างเต็มที่ และได้ส่งตัวรักษาต่อที่ ร.พ.พระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี
โดย ผลการตรวจของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ขณะนี้อาการโดยรวมปลอดภัย ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี พูดคุยได้ แขน ขาไม่อ่อนแรง ไม่มีบาดแผลภายนอก ผู้ป่วยมีอาการปวดท้อง ปวดต้นคอ ปวดหลัง โดยทีมแพทย์ได้ทำการเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ พบว่า กระดูกสันหลังส่วนเอวหัก แต่ไม่มีผลกระทบต่อระบบประสาท ส่วนในช่องท้องไม่มีปัญหาเลือดออก กระดูกต้นคอปกติ เจ้าหน้าที่เตรียมส่งรักษาตัวที่ ร.พ.พระมงกุฎเกล้า กรุงเทพมหานคร โดยทางรถยนต์ ในช่วงบ่ายวันนี้
ผบ.ทบ. สายตรงถึง มทภ.1 เสียใจ ฮ.ตก ซ้ำ
พล.ท.อุดม เดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้โทรศัพท์ติดต่อเข้ามา และ แสดงความเสียใจ ต่อเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบก ประสบอุบัติเหตุตก พร้อมกำชับการทำงานให้มีความรัดกุมมากขึ้น

ผบ.ทบ. คาด ฮ.เบลล์ 212ตก เครื่องขัดข้อง

ผู้บัญชาการทหารบก เสียใจ ฮ. ตกซ้ำลำที่ 3 สันนิษฐานเบื้องต้น เหตุเครื่องขัดแย้ง ยันไม่เกี่ยวสภาพอากาศ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึง เหตุการณ์เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบลล์ 212 ของกองทัพบกตกเป็นลำที่ 3 ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางกลับจากปฏิบัติภารกิจ ในการเคลื่อนย้ายศพ ของ ผบ.พล.ร.9 และช่างภาพ ไปที่ พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี ว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานว่า มาจากเครื่องบินขัดข้อง ไม่ได้เกี่วข้องกับสภาพอากาศแต่อย่างใด เพราะในวันนี้ สภาพอากาศเปิด

ขณะที่ก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่อยากให้สังคมตำหนิการทำงานของทหาร เพราะการปฏิบัติการทางอากาศยานนั้นมีความเสี่ยงสูงอยู่แล้ว พร้อมย้ำว่า ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างระมัดระวังแล้ว หากเครื่องบินไม่พร้อม นักบินไม่พร้อม รวมถึงสภาพอากาศ ไม่เอื้ออำนวย ก็จะไม่ปฏิบัติงานอย่างเด็ดงาน และมีการตรวจเช็กบำรุงโดยตลอดอยู่แล้ว

ทั้งนี้ เฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบลล์ 212 ใช้ปฏิบัติงานตั้งแต่ พ.ศ. 2535 เป็นเครื่องบินขนาดเล็ก ส่วนสาเหตุที่ใช้เครื่องบินรุ่นนี้ลำเลียงศพผู้ประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ ตกครั้งที่ 2 เนื่องจาก ขนาดเล็กและง่ายต่อการเข้าถึงพื้นที่

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

, @por_springnews
http://hilight.kapook.com/view/61110

------------------------------------------------------------

ส.ว.สายทหารหนุนเพิ่มงบกองทัพ ซื้อยุทโธปกรณ์เกรดสูง
25 กค. 2554 15:21 น.

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวนักบินและช่างเครื่องที่เสียชีวิตจากกรณีที่เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบกตก พร้อมเรียกร้องไปยังหน่วยงานของกองทัพให้ดูแลภรรยาและบุตรของผู้ที่เสียชีวิตอย่างดีและต่อเนื่อง อย่าทำแค่การดูแลเฉพาะหน้าในช่วงนี้เท่านั้น นอกจากนั้นขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าไปบำรุงขวัญและจิตใจของนักบินและช่างเครื่องที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ เพราะเชื่อว่าเมื่อเจอกับเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกและเพื่อนร่วมงานได้เสียชีวิต ย่อมมีความหวาดวิตกกับการขึ้นบินอย่างแน่นอน

พล.อ.สมเจตน์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนได้หารือกับพล.ต.กลชัย สุวรรณบูรณ์ ส.ว.ชุมพร ฐานะประธานคณะกรรมาธิการทหาร วุฒิสภา หลังจากทราบเรื่องเฮลิคอปเตอร์แบบฮิวอี้ตก ถึงความเป็นไปได้ที่จะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์มาให้ข้อมูลกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อหาข้อเท็จจริงและเสนอแนะเป็นแนวทางแก้ไขต่อไป

“ผมเคยเป็นผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กระทรวงกลาโหม สมัยนั้นอยากเชิญคนที่เห็นค้านต่อการพิจารณางบประมาณทางทหาร ไปขึ้นฮ.ฮิวอี้ ที่ตก เพื่อดูสภาพที่แท้จริงว่า ยามที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายนั้นเป็นอย่างไร หากลูกของเขาเป็นนักบินจะรู้สึกอย่างไร การต่อต้านคัดค้านงบประมาณของกองทัพ โดยอ้างว่าไม่คุ้มค่าเศรษฐกิจ เพราะสมัยนี้ไม่มีใครรบกันแล้ว กังวลว่าผู้นำเหล่าทัพจะคอรัปชั่นนั้น ผมอยากให้มองถึงการรักษาชีวิตมากกว่า หากกลัวว่าจะมีการคอรัปชั่นทำไมถึงไม่หาวิธีการควบคุมมากกว่าที่หวงของกว่าหวงชีวิต” พล.อ.สมเจตน์ กล่าว

ด้านพล.อ.เกษมศักดิ์ ปลูกสวัสดิ์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนเป็นห่วง และเห็นใจที่ทหารต้องทำงานมาก และตนมองว่าถึงเวลาที่ต้องปรับปรุงในส่วนของงบประมาณที่จัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพ เพื่อให้ได้ยุทโธปกรณ์ที่มีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ครบ และเพิ่มความปลอดภัยให้กับนักบินและผู้โดยสาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้กรรมาธิการการทหาร วุฒิสภา อยู่ระหว่างการไปศึกษาดูงานที่ประเทศจีน เบื้องต้นจะเดินทางกลับประเทศไทยในปลายสัปดาห์นี้ และอาจนำกรณีเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพตกนั้น เป็นประเด็นหารือในที่ประชุมกรรมาธิการประมาณต้นเดือนสิงหาคม

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=521407

-----------------------------------------------------------

ประยุทธ์ฝากรัฐบาลใหม่จัดสรรงบฯเปลี่ยน"เฮลิคอปเตอร์"ใหม่
วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14:52:06 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม กับเยาวชนระหว่างเป็นประธานการประกวดดนตรีสากลร่วมสมัยระดับมัธยมศึกษาโครงการบทเพลงรักแห่งแผ่นดินว่า ถ้าใครอยากรับราชการทหาร คงต้องเรียนหนังสือเก่งๆ และไปสอบคัดเลือกให้ได้ ตนก็อยากได้นายทหารที่เก่งๆ มาทำงานในโอกาสข้างหน้า พร้อมกับขอให้เยาวชนยกมือขึ้น หากใครอยากเป็นทหาร หรือไม่มี หรือกลัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เรื่องเฮลิคอปเตอร์ตกถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะการปฏิบัติงานของทหารทุกนายย่อมมีความเสี่ยง ซึ่งกองทัพบกได้ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตลอด

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันประเทศไทยยังมีงบประมาณไม่พอที่จะพัฒนายุทโธปกรณ์ให้เท่าเทียมกับประเทศมหาอำนาจ ซึ่งก่อนหน้านี้กองทัพได้ของบประมาณจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์อีกประมาณ 30 ลำ เพื่อนำมาปฏิบัติงานแทนเฮลิคอปเตอร์ ฮท.1 หรือฮิวอี้ แต่ไม่ได้รับการสนับสนุน อย่างไรก็ตาม จะเสนอโครงการไปยังรัฐบาลชุดใหม่ ในการพิจารณางบประมาณในปี 2555 ต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า กรณีบางครั้งตนได้แสดงความดุดันผ่านสื่อ เป็นเพราะต้องแสดงภาวะความเป็นผู้นำ และต้องรักษาชื่อเสียงของกองทัพบก จึงขอให้ประชาชนเข้าใจและให้กำลังใจทหารด้วย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์แบบ ฮท.1 (ฮิวอี้) ว่า ขณะนี้กำลังเสนอโครงการให้รัฐบาลซึ่งคาดว่าในปี 2555 เพราะที่ผ่านมายังไม่ได้รับการอนุมัติ

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1311666755&grpid=03&catid=&subcatid=

------------------------------------------------------------

แฉเบลล์ 212 ใช้งบฯซ่อมบำรุงกว่า9ร้อยล้าน ในช่วง10ปี โยงคู่ค้าผ่านนายหน้ายศพลเอก
วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 เวลา 12:00:00 น.

วันที่26ก.ค. จากเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบกทั้ง 3 ลำ ตกในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน โดยเริ่มจาก เฮลิคอปเตอร์แบบฮิวอี้ ต่อด้วยเฮลิคอปเตอร์แบบแบล๊คฮอว์ค ก่อนลำที่ 3 จะมาตกซ้ำ ในวันที่ 24 ก.ค. ซึ่งเป็นเฮลิคอปเตอร์แบบ เบลล์ 212 เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้กองทัพสูญเสียกำลังพลไปถึง 17 นาย เป็นพลเรือน 1 นาย

จากศูนย์ข้อมูล&ข่าวสืบสวนฯ (TCIJ) ตรวจสอบพบว่า นับตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมาจนถึงสิ้นเดือนก.พ. 2554 กองทัพบก (กรมการขนส่งทหารบก) ใช้งบประมาณในการจัดซื้อจัดหาอะไหล่ ซ่อมบำรุงเฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 212 ไปแล้ว 918.5 ล้านบาท ผ่าน 3 บริษัท ได้แก่ 1.บริษัท เบลล์ เฮลิคอปเตอร์ เอเซีย (พีทีอี) จำกัด จากประเทสสิงคโปร์ จำนวน 24 ครั้ง วงเงิน 715.4 ล้านบาท (ไม่รวมจัดซื้อจัดจ้างแบบ 206 จำนวน 4 ครั้ง 16.7 ล้านบาท) 2.บริษัท โรยัลสกาย จำกัด 1 ครั้ง วงเงิน 26.2 ล้านบาท และ 3.บริษัท ริชมอนด์ จำกัด จำนวน 2 ครั้ง วงเงิน 160.2 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 3 บริษัทเป็นผู้ค้าอาวุธรายใหญ่และเป็นคู่ค้ากับกองทัพมานาน โดย 1 ใน 3 รายมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับอดีตนายทหารระดับสูงของกองทัพยศพลเอกคนหนึ่ง

ในส่วนของ บริษัท เบลล์ เฮลิคอปเตอร์ เอเซีย (พีทีอี) จำกัด การจัดซื้อจัดจ้างชิ้นส่วน เฮลิคอปเตอร์ครั้งใหญ่ จำนวน 791 รายการ มีขึ้นในวันที่ 30 ก.ย. 2552 วงเงิน 369.9 บาท ผ่าน บริษัท โรยัลสกาย จำกัด1 ครั้ง 1รายการ 26.2 ล้านบาท เเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2552 และผ่าน บริษัท ริชมอนด์ จำกัด 2 ครั้ง ครั้งแรก จำนวน 9 รายการ วงเงิน 37.9 ล้านบาท ในวันที่ 18 ธ.ค. 2551 ครั้งที่ 2 จำนวน 7 รายการ วงเงิน 122.36 ล้านบาท ในวันที่ 16 พ.ย. 2552 รวม 3 บริษัท 918.5 ล้านบาท

ที่มา: ศูนย์ข้อมูล&ข่าวสืบสวนฯ (TCIJ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1311656216&grpid=03&catid=&subcatid=

---------------------------------------------------

นักบินยัน แก่งกระจานต้องใช้ ฮ.ตัวเล็ก กะเหรี่ยงผวา "หุบผาลมดูด" หรือ "หุบเขาอาถรรพณ์"

นักบินก.ทรัพยากรธรรมชาติ และนักบินก.เกษตรฯ ระบุ รู้จักผืนป่าแก่งกระจานดี อากาศคือ
ปัญหาหลักของการบิน ฮ.ตัวเล็กเหมาะกับการบินในท้องฟ้าเหนือป่าแก่งกระจาน เพราะหลบ
หลีกกลุ่มเมฆและกลับตัวได้เร็ว จนท.พิทักษ์ป่าแก่งกระจาน เผย เข้าป่าทุกครั้งต้องไหว้เจ้า
ป่าเจ้าเขา โดยเฉพาะต้นน้ำเพชร ใกล้จุดฮ.ตก มีศาลเจ้าพ่อเขาพระพวง และเนิน
1,400 เมตร เป็นหุบเขาและเหวลึก กระแสลมแรงมาก นักเดินป่าเรียก “หุบผาลมดูด”
หรือ “หุบเขาอาถรรพณ์” ชาวกะหร่างกับกะเหรี่ยงหวาดผวามาก เพราะเชื่อว่าหุบเขาแห่ง
นี้มีอาถรรพณ์ และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายสถิตอยู่...

ทีมข่าวเฉพาะกิจภูมิภาค “ไทยรัฐ” ที่ยังปักหลักในพื้นที่รายงานบรรยากาศจากศูนย์บริการนักท่อง
เที่ยวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งถูกปรับใช้เป็นศูนย์บัญชาการกู้ภัยผู้ประสบเหตุจาก
เฮลิคอปเตอร์มาตั้งแต่วันเกิดเหตุ ฮ.ลำแรกร่วงว่า ตั้งแต่เช้าวันที่ 25 ก.ค. บรรยากาศเริ่มเงียบ
เหงา ต่อมาทหารค่ายสุรสีห์จาก พล.ร. 9 จ.กาญจนบุรี และค่ายฝึกการรบพิเศษแก่งกระจาน
จ.เพชรบุรี รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจพิสูจน์ 30 นาย นำรถไถพร้อมเครื่องมือสำหรับตัดเหล็ก
และรถบรรทุกเข้าไปกู้ซากเครื่อง ฮ.เบลล์ 212 ที่ตกในจุดเกิดเหตุ ภารกิจกู้ซาก ฮ.เป็นไปอย่าง
ราบรื่นไร้อุปสรรค เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ราบ การกู้ซาก ฮ. เบลล์ 212 ใช้เวลาเพียง
1 ชั่วโมงเศษ

นอกจากนี้ บริเวณลานจอดของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงเกษตรฯ
บริเวณที่ทำการของอุทยานฯแก่งกระจาน ปรากฏว่ายังมีธูปปักรอบบริเวณที่ ฮ.ทั้ง 2 ลำจอดอยู่ โดย
ธูปเหล่านี้เกิดจากการจุดธูปบอกกล่าวของทั้งนักบินและทีมปฏิบัติการ ซึ่งจุดธูปบอกกล่าวทุกครั้งที่จะ
ออกปฏิบัติการตามความเชื่อ และเป็นประเพณีของคนทำงานในพื้นที่ป่า ที่ยึดถือปฏิบัติกันมาตลอดอย่าง
เคร่งครัด รวมทั้งเครื่องเซ่นไหว้วันก่อน ที่นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ นำ
มาเซ่นไหว้ ยังวางไว้จุดเดิม โดยจะมีการเปลี่ยนเครื่องไหว้ดังกล่าวทุกวัน จนกว่าการปฏิบัติภารกิจ
ทุกด้านจะจบลง 100 เปอร์เซ็นต์

ขณะที่ทีมนักบินประกอบด้วย ร.อ.สมเกียรติ ศุภวงศ์ กับ น.ท.วีระพันธุ์ หอมไกรลาศ นักบิน
ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯหมายเลข 1114 และ พ.ต.พนม พงษ์ เพชร กับ ร.อ.บุญญรัตน์
จันสุริวงษ์ นักบินของกระทรวงเกษตรฯ หมายเลข 301 ร่วมกันเผยถึงวิธีการบินเข้าปฏิบัติกญารจน
ประสบความสำเร็จว่า พวกตนชำนาญพื้นที่พอสมควร เพราะตลอดทั้งปีมีการออกบินตรวจป่าอย่างต่อ
เนื่อง จนทราบว่าสภาพของผืนป่าแก่งกระจานจุดไหนมีลักษณะอย่างไร อากาศที่เป็นตัวปัญหาหลักของ
การบินเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการบินที่พวกตนบินอยู่เป็นฮ.ตัวเล็ก แต่การที่เป็นฮ.ตัวเล็กกลับเป็น
ผลดีต่อการบินในพื้นที่ลักษณะของท้องฟ้าเหนือป่าแก่งกระจาน เพราะสามารถหลบหลีกกลุ่มเมฆและ
กลับตัวได้รวดเร็วคล่องตัว

ทีมนักบินฝีมือดีเผยต่ออีกว่า สำหรับการบินเข้า ไปปฏิบัติการนำศพของผู้ประสบเหตุลงมาจนสำเร็จ
ครบทุกศพนั้น ไม่ใช่ว่าการบินเขาไปยังฐานเนิน 800 หรือ ฐานเนิน 860 จะราบรื่นไปทุกครั้ง เจอ
ปัญหาตลอด มีหลายครั้งที่กำลังจะลงจอดเหลือเพียงแค่ฟุตเศษ ยังต้องใช้เวลาลงแตะพื้น เพราะเจอ
แรงลมปะทะ บางครั้งต้องชะลอการลงนานถึง 10 นาที หลายครั้งที่ต้องยกตัวขึ้นหนีตอไม้ ขยับจุดลง
จอดใหม่ และการบินเข้าไปส่งเสบียงหรือรับศพหรือสับเปลี่ยนกำลัง เมื่อลงจอดต้องรีบเร่งภายใน
เวลาไม่กี่นาที เครื่องต้องยกตัวขึ้นทันทีเพื่อหนีกระแสลมและเมฆหมอกที่เกิดขึ้นได้ทุกนาทีในเวลาอัน
รวดเร็ว รวมทั้งการบินเข้าออก ก็ไม่ได้ใช้เส้นทางแนวตรงตลอด เกือบทุกครั้งต้องบินอ้อมหนีเมฆหนี
ลม โดยเฉพาะเวลาจะลงจอดบนฐาน ต้องประสานงานกับเจ้าหน้าที่ประจำฐาน ให้รายงานความ
เร็วของลมทุกนาทีด้วย

ด้านนายจรัญ ขาวนุ่น อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าแก่งกระจาน กล่าวว่า ชาวบ้านสามารถคิดไป
ได้ทุกทาง และสามารถเป็นไปได้ทุกทางด้วย ทุกครั้งที่เข้าป่าตนไม่เคยละเลยที่จะสักการะเจ้าป่า
เจ้าเขา ทุกจุดที่มีการตั้งศาลไว้ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ต้นน้ำเพชร ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ มีศาลเจ้า
พ่อเขาพระพวง รวมทั้งเนินระดับ 1,400 เมตร บริเวณนั้นตามธรรมชาติ เป็นทั้งหุบเขาและเหวลึก
เป็นจุดที่มีกระแสลมแรงมาก นักเดินป่าเรียกกันว่า “หุบผาลมดูด” หรือ “หุบเขาอาถรรพณ์” ที่ชาว
กะหร่างกับกะเหรี่ยงหวาดผวามาก เพราะเชื่อว่าหุบเขาแห่งนี้มีอาถรรพณ์ และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย
สถิตอยู่

http://www.horoworld.com/data/26654_กะเหรี่ยงผวา_"หุบผาลมดูด"_หรือ_"หุบเขาอา.html

-----------------------------------------------------

























http://pantip.com/cafe/wahkor/topic/X10861772/X10861772.html

-----------------------------------------------------


วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7567 ข่าวสดรายวัน

ร้อง"แก่งกระจาน" ขับไล่โหด เผาบ้านกะเหรี่ยง


เผยส่งทีมจนท.อุทยาน บุกพัง"ยุ้งข้าว"จนราบ! ทั้งที่มีทะเบียนชาวเขา สภาทนายชี้ทำผิดรธน. เหตุเกิดช่วงฮ.ตก3ลำ

เผาบ้าน - ภาพเจ้าหน้าที่จุดไฟเผากระท่อมชาวกะเหรี่ยง ที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนป่าแก่งกระจาน จ.เพชร บุรี ซึ่งเกิดขึ้นก่อนเหตุ ฮ.ฮิวอี้ตกไม่กี่วัน โดยสภาทนายความชี้เป็น การละเมิดสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ตามข่าว
ปธ.อนุกรรมการสิทธิ มนุษยชน ด้านชนชาติฯ สภาทนายความ ลุยตรวจสอบพยานหลักฐาน เอาผิด ′อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน′ กระทำผิดกฎหมายอาญาและขัดรัฐธรรมนูญ ส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นฮ. เดินหน้าปฏิบัติการเผาบ้าน-เผายุ้งฉางเพื่อขับไล่ ′ชาวกะเหรี่ยงดั้งเดิม′ ออกจากพื้นที่ป่าแก่งกระจานมาตั้งแต่ปี 2553 จนถึงก.ค. 2554 ทั้งๆ ที่กะเหรี่ยงกลุ่มนี้เป็นชนพื้นเมืองอาศัยอยู่ในพื้นที่มานับร้อยปี ไม่ได้บุกรุกทำลายป่าเพราะทำไร่หมุนเวียน อีกทั้งทางการไทยยังออกทะเบียนราษฎรชาวเขาให้ด้วย เผยในช่วงจนท.อุทยานฯ ลงมือขับไล่ชาวกะเหรี่ยงนั้นเกิดขึ้นในห้วงเวลาใกล้เคียงกับที่เกิดโศก นาฏกรรม ฮ.ทหาร ตก 3 ลำซ้อนในเขตแก่งกระจาน ติดชายแดนพม่าพอดี

เมื่อ วันที่ 17 ส.ค. นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปีพ.ศ.2553 อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี มีนโยบายขับไล่และจับกุมชนกลุ่มน้อยชาวกะเหรี่ยงดั้งเดิมในพื้นที่ป่า แก่งกระจาน ฝั่งติดชายแดนพม่า โดยใช้วิธีเผาบ้าน เผายุ้งข้าว และสิ่งปลูกสร้างของชาวกะเหรี่ยง มาตามลำดับ กระทั่งช่วงวันที่ 5-9 พ.ค. 2554 มียุ้งข้าวของชาวกะเหรี่ยงถูกทำลาย 98 หลัง และวันที่ 23-26 มิ.ย. เผาเพิ่มเติมอีก 21 หลัง ใน 14 จุด ทั้งยังยึดทรัพย์สินต่างๆ ด้วย อาทิ มีด แห เคียว เกลือ ขวานเงิน สร้อยลูกปัด กำไลข้อมือ และเครื่องดนตรีของชาวกะเหรี่ยง จนถึงปฏิบัติการครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 11-14 ก.ค. ที่ผ่านมา

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ปฏิบัติการดังกล่าวของทางอุทยานแก่งกระจานเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายอาญาและขัด ต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยว่าด้วยสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอของบุคคล เพราะมีการเผาทำลายที่พักและผลักดันชาวกะเหรี่ยงออกนอกพื้นที่อยู่อาศัย ทั้งๆ ที่มีหลักฐานว่า ชาวกะเหรี่ยงแถบป่าแก่งกระจานเป็นชนพื้นเมืองอาศัยอยู่บริเวณนี้มาหลายร้อย ปี และเกือบทั้งหมดมีทะเบียนสำรวจบัญชีบุคคลในบ้าน หรือทะเบียนราษฎรชาวเขา ไม่ได้อพยพมาจากประเทศอื่น โดยชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่ซึ่งมีอายุมากที่สุด คือ นายโคอิ หรือ คออี้ เกิดที่แก่งกระจาน เมื่อปีพ.ศ.2454 ปัจจุบันอายุ 100 ปี

นายสุรพงษ์ ระบุต่อไปว่า ปฏิบัติการทั้งหมดเป็นโครงการของอุทยานแก่งกระจานเพื่อไล่คนกะเหรี่ยงออกจาก พื้นที่ ทั้งที่อยู่มาหลายร้อยปี มีหลักฐานจากกรณีมีชาวตะวันตกเข้ามาสำรวจที่นี่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินีนาถเคยเสด็จฯ มาบริเวณนี้ในปี 2502 นอกจากนั้น ยังมีการสำรวจชาวเขาครั้งแรกในปี 2512-2513 และคนเหล่านี้ได้รับเหรียญชาวเขา ต่อมาปี 2528 ศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา จ.กาญจนบุรี เดินเท้าสำรวจพบชาวกะเหรี่ยงอยู่ในป่าแก่งกระจานเช่นกัน แต่ทัศนะผิดพลาดของอุทยานฯ กลับไปกล่าวหาว่าเป็นกองกำลังชนกลุ่มน้อยและบุกรุกทำลายป่า ทั้งๆ ที่คนกลุ่มนี้ทำไร่หมุนเวียน ไม่ใช่ไร่เลื่อนลอย ภาพถ่ายทางอากาศแสดงให้เห็นว่าป่าบริเวณนี้สมบูรณ์มาก และยังกล่าวหาว่าในพื้นที่มีกลุ่มค้ายาเสพติดและกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ซึ่งไม่เคยมีอยู่จริง

"ความเข้าใจผิดนี้ทำให้มีความพยายามไล่รื้อคน กะเหรี่ยงออกจากพื้นที่ ซึ่งตามหลักแล้ว ถ้าทำมาตรฐานเดียวกับ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนคร ราชสีมา หรือ อำเภอทับลาน จังหวัดปราจีนบุรี จะต้องติดป้ายประกาศเตือนก่อน และเปิดโอกาสให้โต้แย้ง ส่วนการค้นบ้านต้องมีหมายศาล แต่ที่คนกะเหรี่ยงบริเวณนี้เจอคือส่งเฮลิคอปเตอร์เข้าไปเผาบ้าน เผายุ้งฉางจนต้องหนีกระจัดกระจาย บางส่วนหนีไปอยู่กับญาติที่บ้านโป่งลึกและบางกลอยล่าง ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน ถือเป็นการกระทำรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ สร้างความโกรธแค้นให้ชาวกะเหรี่ยงอย่างมาก" นายสุรพงษ์ กล่าว

นายสุรพงษ์ เปิดเผยอีกว่า ขณะนี้ตัวแทนชาวกะเหรี่ยงในป่าแก่งกระจานร้องเรียนมายังสภาทนายความ ให้ฟ้องร้องปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นเห็นว่า การที่เจ้าหน้าที่อุทยานแก่งกระจาน ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยอื่นเผาทำลายที่พักและผลักดันชาวกะเหรี่ยงออกนอก พื้นที่อยู่อาศัย อาจเข้าข่ายกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานบุกรุกเข้าไปในเคหสถานและทำลายเครื่องหมายแห่งเขตในอสังหาริมทรัพย์ของ ผู้อื่น มาตรา 362 และ 363 วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น มาตรา 217 ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สินของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของร่วมอยู่ด้วย มาตรา 358 ร่วมกันชิงทรัพย์ตั้งแต่สามคนขึ้นไปโดยมีอาวุธ ถือเป็นการปล้นทรัพย์ มาตรา 340 ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่น ทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย มาตรา 310 ใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง มาตรา 326

นอกจากนี้ ยังขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 อีกหลายมาตรา อาทิ มาตรา 4 ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลย่อมได้รับความคุ้มครอง มาตรา 28 บุคคลย่อมใช้สิทธิทางศาลเพื่อบังคับให้รัฐต้องปฏิบัติ รวมทั้งบุคคลยอมมีสิทธิได้รับการส่งเสริม สนับสนุน และช่วยเหลือรัฐ มาตรา 30 บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกันโดยไม่ เลือกปฏิบัติ มาตรา 32 บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย มาตรา 33 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในเคหสถาน และมาตรา 34 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการเดินทางและมีเสรีภาพในการเลือกถิ่นที่อยู่ภายในราช อาณาจักร ล่าสุด สภาทนายความกำลังตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนดำเนินการทางกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ผู้กระทำผิด ต่อไป

ประธาน อนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชน ชาติฯ สภาทนายความ ระบุด้วยว่า ปฏิบัติการขับไล่ชาวกะเหรี่ยงของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นต่อเนื่องจนถึงช่วงเกิดโศกนาฎกรรมเฮลิคอปเตอร์ทหารตก 3 ลำ มีผู้เสียชีวิต 17 ราย ในเดือนก.ค. 2554

วันเดียวกัน น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดเพชรบุรี เดินทางเป็นประธานในพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ 17 ผู้เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ทหารตกในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมด้วยนายธีรภัทร์ ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช, นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หน.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน, พล.ต.ศุภวัฒน์ เชิดธรรม เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1, ร.ต.มนัส ทองโครต ผบ. หมวด 3 ค่ายทัพพระยาเสือ, น.ท.มณีพันธ์ รบชนะชัย นักบินหัวหน้าชุดฝนหลวง อ.หัวหิน จ.ประจวบ คีรีขันธ์, นายสุทธิพงษ์ ตันบุญยศิริเดช นายอำเภอแก่งกระจาน และข้าราชการ พนักงานหน่วยงานราชการใกล้เคียง ญาติผู้เสียชีวิต สื่อ มวลชน และราษฎรในชุมชนรอบอุทยานฯ เข้าร่วมพิธีจำนวนมาก


หน้า 1

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNVEU0TURnMU5BPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1TMHdPQzB4T0E9PQ==
-----------------------------------------------------
วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554 เวลา 21:38 น. ข่าวสดออนไลน์

ยิงดับ "ทัศน์กมล โอบอ้อม" นักการเมืองพท.-แกนนำแฉเผาไล่กะเหรี่ยงแก่งกระจาน

เวลา 18.00 น. วันที่ 10 ก.ย. พ.ต.ท.บุญช่วย สมใจ สวส.สภ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตบริเวณริม ถ.เพชรเกษมขาล่อง หมู่ 6 ต.ถ้ำลงค์ อ.บ้านลาด จึงนำกำลังรุดตรวจสอบ




ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ยี่ห้อ จิ๊ปเชอโรกี สีบรอนซ์-ทอง ทะเบียน ภย 4754 กทม. พุ่งชนต้นไม้ข้างทาง ตัวรถบริเวณด้านขวาพบรอยกระสุนปืนไม่ทราบขนาดยิงพรุนทั้งคันกว่า 10 แห่ง กระจกประตูหน้าข้างคนขับแตกละเอียด ภายในรถพบศพนายทัศน์กมล โอบอ้อม อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 362 หมู่ 1 ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย จ.เพชรบุรี และเป็นแกนนำการเรียกร้องให้ตรวจสอบกรณีเผาไล่ที่ชาวกระเหรี่ยงแก่งกระจาน สภาพศพสวมเสื้อยืดคอปก สีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา ถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะและหัวไหล่ข้างขวาหลายนัด นอนเสียชีวิตคาพวงมาลัยรถ ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ไกลพบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่จำนวน 1 นัด และห่างออกไปประมาณ 400 เมตร พบรอยต้นไม้ถูกรถครูดยาวเป็นทางจนถึงที่เกิดเหตุ

เบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายกำลังเดินทางเข้าตัวจังหวัดเพชรบุรี เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีรถยนต์ไม่ทราบรุ่น สี และทะเบียน ขับประกบก่อนกระหน่ำยิงจนเสียชีวิตดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทัศน์กมล เคยดำรงตำแหน่งนายกเทศบาลตำบลหนองจอก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี และเคยสมัครลงสมัครรับเลือกตั้งชิงเก้าอี้ส.ส.เพชรบุรี เขต 3 พรรคเพื่อไทยเมื่อครั้งที่ผ่านมา แต่สอบตก นอกจากนั้น ยังมีบทบาทในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายชาวกะเหรี่ยงตามแนวไทย-พม่า โดยภายหลังจากมีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ปฏิบัติการเผาบ้านขับไล่กะเหรี่ยงแก่งกระจานออกจากพื้นที่บ้านบางกลอยบน เป็นเหตุให้มีตัวแทนกะเหรี่ยงกลุ่มดังกล่าวเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจาก นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ นายทัศน์กมลได้มีบทบาทพยายามเข้าไปสำรวจพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อมูลช่วยเหลือ ชาวกะเหรี่ยง กระทั่งเป็นเหตุให้ทางผู้บริหารอุทยานแก่งกระจาน อาศัยอำนาจตามพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติและระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ออกประกาศห้ามนายทัศน์กมลเข้าเขตอุทยานแก่งกระจานฐานสร้างความปั่นป่วนและ อุปสรรคในการพัฒนาชนกลุ่มน้อย

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNeE5UWTJOVFkxTVE9PQ%3D%3D&utm_source=KhaosodOnline&utm_medium=KhaosodOnline
-----------------------------------------------------


วันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7592 ข่าวสดรายวัน

ตร.ล่า-ยิงคนพท. เก๋งขาว ปมช่วยกะเหรี่ยง


ร้องเรียนป่าไม้ ตร.ชี้ชนวนตาย ได้ภาพวงจรปิด ขับตาม"เชโรกี" หน.อุทยานฯโต้


เก็บหลักฐาน - ตร.เก็บหลักฐานคนร้ายยิงนายทัศน์กมล โอบอ้อม อดีตผู้สมัครส.ส.เพื่อไทย แกนนำช่วยเหลือกะเหรี่ยงป่าแก่งกระจาน เสียชีวิตคารถเชโรกี ที่ริมถ.เพชรเกษม อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ล่าสุดพบรถเก๋งต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิด
วงจรปิดจับภาพเก๋งสีขาวขับตามรถอดีตผู้สมัครส.ส.เพื่อไทย เพชรบุรี เร่งตรวจสอบเป็นพาหนะคนร้ายใช้ก่อเหตุหรือไม่ ผบช. ภาค7 นำกำลังตรวจที่เกิดเหตุอีกรอบพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 ม.ม.ตกอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ตร.เทน้ำหนักให้ประเด็นออกมาแฉป่าไม้เผาบ้านไล่ที่กะเหรี่ยงในแก่งกระจาน อาจทำให้มีคนไม่พอใจส่งมือปืนมาเช็กบิล พบมือปืนอาชีพยิงกระสุนเกาะกลุ่มอย่างแม่นยำ ส่วนเรื่องการเมืองตัดทิ้งไปแล้วเพราะแข่งไม่รุนแรงและไม่มีปัญหาใดๆ

จากคดีมือปืนประกบยิงสังหารนายทัศน์กมล โอบอ้อม อายุ 55 ปี อดีตผู้สมัครส.ส. พรรคเพื่อไทย จ.เพชรบุรี และเป็นแกนนำเรียกร้องความเป็นธรรมให้ชาวกะเหรี่ยง- กะหร่าง รวมทั้งออกมาแฉปัญหาเจ้าหน้าที่อุทยานแก่งกระจาน เผาไล่ที่ชาวกะเหรี่ยง จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวอยู่ในขณะนี้ เสียชีวิตคารถจี๊ปเชโรกี สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ภย 4754 กรุงเทพฯ เหตุเกิดริมถนนเพชรเกษม อ.บ้าน ลาด จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นตำรวจตั้งปมเรียกร้องให้ชาวกะเหรี่ยงจนมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ อุทยานฯ ถึงขั้นหัวหน้าอุทยานฯ ใช้อำนาจออกคำสั่งห้ามเข้าพื้นที่ ที่เหลือเป็นปมปัญหาส่วนตัว และการเมืองนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 11 ก.ย. พล.ต.ท. พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช. ภาค7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผบช.ภาค7 นำกำลังพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่เกิดเหตุ ใช้เครื่องสแกนวัตถุตรวจหาปลอกกระสุนปืนบริเวณที่คนร้ายประกบยิง ห่างจากจุดที่รถยนต์ของผู้ตายเสียหายพุ่งไปชนต้นไม้ 200 เมตรพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 ม.ม.ตกอยู่ในพงหญ้าริมถนน 1 ปลอก จากการตรวจสอบภายในรถยนต์ผู้ตาย พบหัวกระสุนขนาด 11 ม.ม.ติดอยู่บริเวณประตูรถด้านซ้ายจำนวน 2 หัว และยังพบชิ้นส่วนอาวุธปืนอีก 6 ชิ้น นอกจากนั้นยังได้ตรวจวิถีกระสุนที่คนร้ายยิงใส่รถยนต์ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด โดยเจ้าหน้าที่จะส่งชิ้นส่วนอาวุธปืนที่พบไปตรวจสอบว่าเป็นอาวุธปืนอะไรบ้าง

พล.ต.ท.พงษ์สันต์ กล่าวว่านอกจากพยานหลักฐานที่จะใช้ในการติดตามสืบสวนหาตัวมือปืน ที่เป็นหัวกระสุน ปลอกกระสุนและชิ้นส่วนกระสุนปืน ที่พบในที่เกิดเหตุแล้ว ยังใช้ภาพจากกล้องวงจรปิดตรวจสอบหารถต้องสงสัยที่วิ่งติดตามรถยนต์คันที่ผู้ ตายขับมาก่อนถูกยิงบ้าง ซึ่งก็ได้ข้อมูลพอที่จะใช้เป็นแนว ทางในการสืบสวนเช่นกัน ส่วนประเด็นการสังหารเป็นไปตามที่สื่อได้นำเสนอ แต่จะให้น้ำหนักมากที่สุดคือประเด็นที่ผู้ตายเป็นแกนนำเรียกร้องความเป็น ธรรมให้กับชนกลุ่มน้อยในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

"ส่วนประเด็นที่เป็นผู้นำครอบครัวนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคเพชรบุรี เข้าร้องเรียน ต่อผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการนั้น เป็นประเด็นรองและก็ไม่น่าจะเป็นชนวนเหตุให้ถึงกับต้องมาเข่นฆ่ากัน ส่วนในเรื่องของการเมืองที่ทุกคนสงสัย ตำรวจได้ตัดออกเนื่องจากทราบว่าช่วงเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา ผู้ตายได้คะแนนไม่มาก หลังเลือกตั้งไม่มีการร้องเรียนใดๆ และมูลเหตุที่ทำให้คู่แข่งเกิดความขัดแย้งก็ไม่มี สำหรับอาวุธปืนที่คนร้ายใช้เบื้องต้นพบว่าเป็นปืนขนาด 11 ม.ม. ซึ่งต้องตรวจสอบเศษชิ้นส่วนที่พบว่านอกจากปืนขนาด 11 ม.ม.แล้ว ยังมีปืนขนาดใดอีกบ้าง สำหรับคนร้ายคาดว่าคงมีความชำนาญในการใช้ปืนพอสมควรที่ดูจากลักษณะการยิงที่ ออกเป็นกลุ่มไม่กระจาย ซึ่งเป็นการยิงอยู่ในรถยนต์ที่วิ่งประกบ" ผบช.ภาค7 กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่านอกจากพยานหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุแล้ว ตำรวจยังได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของ สภ.ท่ายาง ที่อยู่บริเวณ 3 แยกท่ายาง สามารถจับภาพรถยนต์ของผู้ตายแล่นออกไปก่อนเกิดเหตุ และมีรถเก๋งสีขาว มองไม่แน่ชัดว่าเป็นรุ่นหรือยี่ห้อใด วิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว และมีความน่าสงสัยมากกว่ารถคันอื่น อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลของรถคันดังกล่าว

ส่วนบรรยากาศในพิธีรดน้ำศพนายทัศน์กมล ที่วัดท่าคอย ต.ท่าคอย อ.ท่ายาง มีญาติพี่น้องและประชาชนที่ให้ความเคารพนับถือเดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า มีนางธนันกาน โอบอ้อม อายุ 40 ปี ภรรยาผู้ตาย ยืนไหว้ขอบคุณผู้ที่มารดน้ำศพ มีพระครูวิสิฐวีรคุณ รองเจ้าคณะจังหวัดเพชรบุรี เจ้าอาวาสวัดหนองจอก เป็นประธาน ซึ่งจะสวดพระอภิธรรมศพจนถึงวันที่ 17 ก.ย. และฌาปนกิจศพในวันที่ 18 ก.ย.นี้

นางธนันกาน กล่าวว่า สามีไม่เคยบอกกล่าวปัญหาหรือความขัดแย้งใดๆ ให้ฟัง บอกแค่ว่าไม่มีอะไรไม่ต้องเป็นห่วง เป็นการทำตามหน้าที่ สำหรับความผูกพันกับพี่น้องชาวกะเหรี่ยง และกะหร่างนั้น สามีใช้ชีวิตช่วยเหลือพี่น้องชนกลุ่มน้อยมาก่อนแต่งงานกัน กว่า 20 ปี หลังแต่งงานแม่ของสามีมักจะเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างสามีกับกะหร่างให้ฟัง เสมอ สามีเป็นคนมีน้ำใจจะคอยให้การช่วยเหลือชนกลุ่มน้อยตลอด เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยอะไรก็จะพามารักษาดูแลจนหาย ทำให้ พี่น้องชาวกะหร่างมีความผูกพันกับสามีมาก ส่วนสาเหตุคนในสังคมต่างก็รับรู้เนื่องจากมีข่าวออกมาอย่างชัดเจน ว่าตอนนี้สามีกำลังออกมาช่วยเหลือชาวกะหร่างและกะเหรี่ยง

ด้านนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวว่าพอทราบ ข่าวว่านายทัศน์กมล ถูกยิงเสียชีวิตก็ตกใจ ซึ่งหลายฝ่ายมุ่งเป้าไปที่ความขัดแย้งระหว่าง ผู้ตายกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยเฉพาะตนเนื่องจากเปิดประเด็นไม่ให้ผู้ตายเข้าในเขตอุทยานแห่งชาติฯ

"ขอชี้แจงว่าผมเป็นคนเปิดเผยเป็นลูกผู้ชายพอ ถ้าเปิดหน้าชกกับใครก็ชกกันแบบแฟร์ๆ ถ้าขึ้นเวทีมวยก็ใส่นวมมาชกกัน แต่จะมาชกใต้เข็มขัดมันไม่ถูก ถามว่าถ้าผมคิดจะทำแล้วผมจะประกาศห้ามผู้ตายเข้าเขตอุทยานฯ ทำไม เรื่องของปัญหาพี่น้องชนกลุ่มน้อยในเขตอุทยานฯ เปิดหน้าชกกับผู้ตายทั้งเหตุผลและข้อมูลที่แต่ละฝ่ายมีอยู่ ผิดถูกว่ากันไปตามพยานหลักฐานและสังคมจะเป็นผู้ตัดสิน" นายชัยวัฒน์ กล่าวและว่าหากจะทำร้ายคงทำไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ไม่จำเป็นต้องมาประ กาศห้ามเข้าอุทยานฯ และเกิดปัญหาความขัดแย้งขึ้น


หน้า 1

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNVEV5TURrMU5BPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1TMHdPUzB4TWc9PQ==

-----------------------------------------------------

วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7620 ข่าวสดรายวัน

ตร.ควานตัว คนขับรถหน.อุทยาน
กุญแจสำคัญมัดตัวการ แจ้งอีกข้อหาชัยวัฒน์ สะสมกระสุนปืนเอ็ม-16 เมียอ.ป๊อดชื่นชมทีมจับ


โดนอีกคดีหัวหน้าอุทยานแก่งกระ จาน'ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร" เผยตำรวจสภ.แก่งกระจานแจ้งดำเนินคดีมีกระสุนเอ็ม16 ไว้ในครอบครอง ขณะที่ทีมสืบพลิกแผ่นดินเมืองเพชรล่า 2 ผู้ต้องหาถูกออกหมายจับที่เหลืออีก 2 คน ด้านเมียอาจารย์ป๊อดชื่นชมตำรวจคลี่คดีได้ เชื่อว่าจะลากคอขบวนการสังหารมาลงโทษได้

คดีสังหาร"อาจารย์ป๊อด"นายทัศน์กมล โอบอ้อม อดีตผู้สมัครส.ส.เพชรบุรี พรรคเพื่อไทย และแกนนำที่ออกมาแฉขบวนการเผาไล่ที่กะเหรี่ยงแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องหลายคน หนึ่งในจำนวนนั้น ได้แก่ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และศาลอนุญาตให้ประกันตัวไป โดยมีเงื่อนไขห้ามไม่ให้เข้าไปก่อความยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานในคดีดังกล่าว ตามที่เสนอไปโดยลำดับนั้น

ความคืบหน้าของคดีนี้ เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีทั้งส่วนกลางและในจังหวัดเพชรบุรี ยังระดมกำลังค้นหาแหล่งกบดาน 2 ผู้ต้องหาตามหมายจับ คือ นายธวัชชัย ทองสุข กับนายศักดิ์ พลับงาม ท่ามกลางกระแสข่าวการติดต่อเข้ามอบตัวของผู้ต้องหาทั้ง 2 เป็นระยะๆ ส่วนนายชัยวัฒน์นั้นหลังถูกออกหมายจับและได้เข้ามอบตัวสู้คดีและศาลได้อนุญาตให้ประกันตัว จากหลักฐานที่พบระหว่างเข้าตรวจค้นที่บ้านใน ต.สองพี่น้อง อ.แก่งกระจาน ที่ตำรวจพบกระสุนปืนเอ็ม 16 กว่า 100 นัด ตำรวจได้แจ้งเพิ่มข้อหานายชัยวัฒน์อีก 1 ข้อหา คือมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยได้แจ้งดำเนินคดีไว้ที่ สภ.แก่งกระจาน

นางธนันกาน โอบอ้อม ภรรยานายทัศน์กมลเปิดเผยว่า ขอชื่นชมการทำงานของตำรวจที่คลี่คลายคดีได้ ส่วนที่ลูกชายคือ จ่าโทบดินทร์ โอบอ้อม ได้คัดค้านการประกันตัวนายชัยวัฒน์ต่อศาลจังหวัดเพชรบุรีนั้น เป็นการทำหน้าที่ลูกชายผู้ตายและในฐานะผู้เสียหาย เพราะกลัวว่าผู้ต้องหาไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานต่างๆ และที่ผ่านมาได้ติดตามดูการทำงานของตำรวจอยู่ตลอด ขอให้ตำรวจเร่งดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทั้งหมดให้ได้ เนื่องจากเป็นคดีอุกอาจสะเทือนขวัญ อยู่ในความสนใจและเฝ้าติดตามของคนในสังคมตลอด

รายงานข่าวแจ้งว่าหลังจากพล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.ไปตรวจสอบคดี ก็ให้เร่งติดตามตัวนายดวง ซึ่งพยานระบุว่าน่าจะเป็นคนขับรถปิกอัพให้ทีมสังหาร โดยได้เร่งติดต่อญาติพี่น้องให้นายดวงรีบมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็ว หลังจากจับกุมคนร้ายในคดีนี้แล้วนายดวงได้หลบหนีไป ทั้งนี้ หากได้ตัวนายดวงมาก็จะเป็นกุญแจสำคัญ เนื่องจากพบว่านายดวงก็เคยเป็นคนขับรถให้นายชัยวัฒน์

หน้า 1

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNakV3TVRBMU5BPT0%3D&sectionid=TURNd01RPT0%3D&day=TWpBeE1TMHhNQzB4TUE9PQ%3D%3D

------------------------------------------------------------

หัวหน้าอุทยานฯ มอบตัวหลังถูกซัดทอดคดีสังหารผู้เปิดโปงกรณีรื้อเผาบ้านกะเหรี่ยงแก่งกระจาน


หัวหน้าอุทยานแก่งกระจานเข้ามอบตัว หลังถูกออกหมายจับคดีจ้างวานฆ่า อ.ป๊อด แกนนำเรียกร้องความเป็นธรรมให้กะเหรี่ยงแก่งกระจาน ตร.ค้นบ้านพบเฟอร์นิเจอร์ไม้หายาก และกระสุนเอ็ม 16 นับร้อยนัด ก่อนศาลให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 1 ล้านบาท จนท.ค้นบ้านพบไม้หายากทั้งหลัง





วานนี้ (7 ต.ค.) เวลา 15.40 น. นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุขแสวง รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี หลังถูกออกหมายจับในข้อหา เป็นผู้ก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ในคดีลอบสังหารนายทัศน์กมล โอบอ้อม หรือ อาจารย์ป๊อด นักต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมของชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจาน ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตขณะขับรถยนต์บนถนนเพชรเกษม อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา

การออกหมายจับนายชัยวัฒน์ดังกล่าว เป็นผลจากการซัดทอดของนายชาญ ทองเกิด คนชี้เป้า ซึ่งให้การที่เป็นประโยชน์จนนำไปสู่การออกหมายจับนายศักดิ์ พลับงาม มือปืน และนายธวัชชัย ทองสุข สมาชิกเทศบาลหนองจอก ผู้รับงาน ซึ่งเป็นคนสนิทข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ใน จ.เพชรบุรี และนายดวง ไม่ทราบนามสกุล ทำหน้าที่ขับรถกระบะมิตซูบิชิ สตราด้า 4 ประตู สีบรอนซ์ทอง พาหนะของทีมมือปืน

ส่วนสาเหตุการลอบสังหาร คาดว่าจะมาจากการที่นายทัศน์กมลเคยมีความขัดแย้งกับนักการเมืองท้องถิ่น และก่อนถูกลอบยิงเสียชีวิต ได้เคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจานที่ถูกเผา ขับไล่ออกจากป่า จนถูกสั่งห้ามเข้าพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจค้นบ้านพัก เลขที่ 144 หมู่ 6 ต.หนองจอก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นของนายชัยวัฒน์ การตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ขณะเดียวกันตำรวจอีกชุดกว่า 100 นาย เข้าตรวจค้น "ไร่ราชพฤกษ์"ของนายชัยวัฒน์อีกแห่ง บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ภายในบริเวณมีบ้านพักขนาดใหญ่สูง 2 ชั้น ด้านนอกสร้างด้วยอิฐแต่ด้านในสร้างและตกแต่งด้วยไม้หายากแทบทั้งหลัง ส่วนใหญ่เป็นไม้มะค่าหลากหลายขนาด เฟอร์นิเจอร์ในบ้านทุกชิ้นเป็นไม้ราคาแพง ภายในบริเวณยังมีสระน้ำขนาดใหญ่ น้ำตกเทียม และบ้านพักอีกหลายหลัง เจ้าหน้าที่ยังพบกระสุนปืนเอ็ม 16 กว่า 100 นัด จึงยึดไว้ตรวจสอบ ส่วนไม้ที่นำมาสร้างและตกแต่งบ้าน เจ้าหน้าที่ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำไปตรวจสอบว่าได้มาถูกต้องตามกฎหมาย หรือไม่

เวลา 10.50 น. วันนี้ (8 ต.ค.) ที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี พ.ต.ท.บุญช่วย สมใจ สว.สภ.บ้านลาด และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี นำตัวนายชัยวัฒน์ ยื่นขอฝากขังชั่วคราวและคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว ก่อนที่ศาลจะพิจารณาให้ประกันตัวไปด้วยหลักทรัพย์จำนวน 1 ล้าน 1 แสนบาท โดยเห็นว่าไม่เห็นมีการกระทำเป็นรูปธรรม จึงเป็นเพียงการคาดคะเน ประกอบกับนายชัยวัฒน์เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ มีหลักทรัพย์น่าเชื่อถือ ไม่น่าเชื่อว่าจะหลบหนี จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยมีเงื่อนไขห้ามใช้อำนาจหน้าที่นำผู้ใต้บังคับบัญชาซึ่งมีอาวุธดำเนินการ เกี่ยวข้องกับครอบครัวของผู้คัดค้านหลังปล่อยตัวชั่วคราว

หลังออกจากห้องพิจารณาคดี นายชัยวัฒน์รีบเดินทางกลับทันทีโดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด
http://www.prachatai.com/journal/2011/10/37306
-----------------------------------------------------

วันที่ 09 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 34 ฉบับที่ 12265 มติชนรายวัน

ประกัน1ล.'หน.แก่งกระจาน' ศาลสั่งห้ามป่วนพยานอ.ป๊อด

ศาลจังหวัดเพชรบุรีปล่อยตัวชั่วคราว'หน.แก่งกระจาน' ฐานร่วมกันฆ่าอดีตผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย พี่ชายวางเงิน 1.1 ล้านบาทเป็นหลักทรัพย์ ศาลกำชับห้ามป่วนพยาน ฝ่าฝืนคำสั่ง หากโดนร้องถอนประกันทันที

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ศาลจังหวัดเพชรบุรี มีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราว นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี หลังตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันฆ่านายทัศน์กมล โอบอ้อม หรืออาจารย์ป๊อด อดีตผู้สมัคร ส.ส.เพชรบุรี เขต 3 พรรคเพื่อไทย เหตุเกิดในพื้นที่หมู่ 6 ต.ถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี เมื่อคืนวันที่ 12 กันยายน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลจังหวัดเพชรบุรีอนุมัติออกหมายจับนายชัยวัฒน์ ข้อหาขอให้ผู้อื่นกระทำผิด ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ในวันเดียวกัน นายชัยวัฒน์เข้ามอบตัวที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (บก.ภ.จว.) เพชรบุรี ทาง พ.ต.อ.ไตรวิช น้ำทองไทย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) เพชรบุรี ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดี ได้สอบปากนายชัยวัฒน์ โดย พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนเข้าร่วมสอบปากคำด้วย จนถึงเวลา 02.30 น. วันที่ 8 ตุลาคม จากนั้นตำรวจนำนายชัยวัฒน์ไปควบคุมที่ สภ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี

ต่อมาเวลา 09.45 น. วันเดียวกัน ตำรวจ สภ.บ้านลาด นำนายชัยวัฒน์ไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี นายชัยวัฒน์มีความประสงค์ให้ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว ใช้หลักทรัพย์เงินสด 1,100,000 บาท ของนายสุรสีห์ ลิ้มลิขิตอักษร นายกเทศมนตรีตำบลหนองจอก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พี่ชาย เป็นหลักทรัพย์ประกันตัว

โดยนายมุขเมธิน กลั่นนุรักษ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลจังหวัดเพชรบุรี ออกบัลลังก์ไต่สวนการขอปล่อยตัวชั่วคราว มี พ.ต.ท.บุญช่วย สมใจ สารวัตรเวร สภ.บ้านลาด เจ้าของคดีคัดค้านการปล่อยตัว โดยอ้างว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เกรงว่าหากปล่อยตัวผู้ต้องหาอาจจะยุ่งเกี่ยวพยานและข่มขู่พยานให้หวาดกลัว

ขณะที่จ่าโท บดินทร์เดช โอบอ้อม ทหารเรือสังกัดกองทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี บุตรชายนายทัศน์กมล ร่วมคัดค้านการปล่อยตัว ให้เหตุผลว่า นายชัยวัฒน์มีกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานฯและเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอยู่ภายใต้บังคับบัญชา หากปล่อยตัวไปเกรงจะเกิดอันตรายต่อตนเองและครอบครัว

ด้านนายชัยวัฒน์แถลงต่อศาลว่า ตนมีภารกิจมากมายในฐานะหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มีโครงการต่างๆ ที่ต้องรับผิดชอบ โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวกับแนวพระราชดำริ และการรักษาทรัพยากรป่าไม้ที่มีการบุกรุกทำลาย จำเป็นต้องทำหน้าที่ประสานกับหน่วยงานต่างๆ หากไม่ได้รับการปล่อยตัวจะทำให้โครงการต่างๆ หยุดชะงักและไม่เดินหน้าในการพัฒนาได้ ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าจะไม่ไปเกี่ยวข้องกับพยานบุคคลและพยานหลักฐานใดๆ และไม่มีเหตุผลจะสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปยุ่งเกี่ยวหรือข่มขู่พยาน

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าคำคัดค้านของผู้คัดค้านยังไม่มีเหตุเกิดขึ้นจริง แต่ขอกำชับว่าหากอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว นายชัยวัฒน์จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพยานและฝ่าฝืนคำสั่งศาล ไม่เช่นนั้นหากมีการร้องขอก็อาจเปลี่ยนแปลงคำสั่งได้ อนุญาตให้นายชัยวัฒน์ได้รับการประกันตัว

วันเดียวกันที่ บก.ภ.จว.เพชรบุรี พล.ต.ต.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวหลังหารือกับพนักงานสอบสวนถึงการออกหมายจับนายชัยวัฒน์ว่า ขอยืนยันว่าเป็นการออกหมายจับตามพยานหลักฐาน ไม่ได้ทำตามกระแสสังคมแต่อย่างใด ขณะนี้ได้สั่งให้ชุดสืบสวนเร่งดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่กำลังหลบหนี และขยายผลการสืบสวน หากพบว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องอีกจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด

ด้านนายชัยวัฒน์กล่าวว่า ก่อนถูกออกหมายจับ พนักงานสอบสวน สภ.บ้านลาด เคยเชิญไปสอบปากคำมาครั้งหนึ่งแล้ว ตนได้ยืนยันว่าขณะเกิดเหตุได้โทรศัพท์คุยกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ที่ทำงานตามโครงการพระราชดำริเกี่ยวกับการอนุรักษ์ป่า ส่วนประเด็นความขัดแย้งกับนายทัศน์กมลขอชี้แจงว่าตนเป็นเพื่อนกับนายทัศน์กมลมานาน โดยเมื่อประมาณกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ตนไม่ชอบพฤติกรรมของนายทัศน์กมลบางอย่าง จึงไม่พูดคุยกัน แต่มิได้ผูกใจเจ็บถึงขนาดต้องทำร้ายกัน

นายชัยวัฒน์กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ต้องหาที่ตำรวจจับได้คนแรก ชื่อนายชาญ (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งถูกระบุว่าเป็นคนดูต้นทางและชี้เป้า กับนายศักดิ์ พลับงาม ถูกระบุว่าเป็นมือปืน ตนไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว ทราบเพียงว่าทั้งสองเป็นเพื่อนนายธวัชชัย หรือต่อ ทองสุข หรือ ส.ท.ต่อ ที่ตำรวจออกหมายจับ ส่วนนายดวง (ไม่ทราบนามสกุล) ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนขับรถนำมือปืนไปยิงนายทัศน์กมลในคืนวันเกิดเหตุ ถูกนำตัวไปสอบสวน ตนยอมรับว่ารู้จักเพราะเคยใช้งานให้ไปปลูกป่าอยู่บ่อยครั้ง

ส่วนบ้านหลังใหญ่ที่ถูกระบุว่าเป็นบ้านของนายชัยวัฒน์และขอให้มีการตรวจสอบนั้น นายชัยวัฒน์ชี้แจงว่า เป็นเรื่องเก่าที่ถูกกล่าวหามานานแล้ว ที่ดินและบ้านดังกล่าวเป็นของนายหงี ลิ้มลิขิตอักษร พี่ชายคนรองซึ่งได้รับมอบมาจากพ่อตาแม่ยายประมาณ 40 ไร่เศษ เมื่อปี 2535 พี่น้องตนได้ลงขันกันปลูกบ้านเพื่อต้องการให้เป็นที่พักของบิดามารดาที่ชราภาพ ขณะเดียวกันตนได้ซื้อที่ดินเพิ่มเติมเพื่อขยายอาณาเขตบ้าน ปัจจุบันที่ดินแปลงดังกล่าวมีประมาณ 100 ไร่ บ้านที่ปลูกสร้างเป็นบ้านพักมิใช่รีสอร์ต ไม้ที่ใช้ปลูกสร้างก็เป็นไม้ถูกต้อง

หน้า 1

http://www.matichon.co.th/daily/view_news.php?newsid=01p0112091054&sectionid=0101&selday=2011-10-09

-------------------------------------------------------------

FfF