บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


26 เมษายน 2552

<<< ฉลองยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน กันคึกคัก >>>

วันนี้ใจร้อนรุม
อยากไปดูงานฉลองยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน
จะมีคนไปกี่คน จะคึกคักไหมหนอ
ว่าแล้วชวนพี่ๆ ที่คอนโด
ไปด้วยกันอีก 3 คน
เพื่อเพิ่มความคึกคัก
ไปถึงคนยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่
พี่ๆ ที่ไปด้วย
สามารถไปนั่งแถวๆ หน้าเวทีได้
แดดร้อนมาก
ส่วนบริเวณเวทีเล็กแถวๆ หน้าธรรมศาสตร์
มีคนมุงเยอะเหมือนกัน
สักพักพอแดดเริ่มร่ม
ผู้คนก็เริ่มแน่นแบบนี้
















อีกมุม
















มุมด้านหลังเริ่มแน่นขึ้น
ยิ่งดึกยิ่งแน่น
















ขณะเดินรอบๆ งาน
เพื่อหามุมถ่ายรูปไปเรื่อยๆ
ก็ไปเจอชายคนนี้
เห็นท่าทางแปลกๆ
ก็เลยลองไปถามว่า
พี่กำลังทำอะไรครับ
คำตอบที่ได้รับทำเอาอึ้ง
"เรื่องของกู"
















เล่นตอบแบบนี้สวยสิเพ่
พอสังเกตุสิ่งที่กำลังทำ
ชัดเลยหมอนี่ตัวป่วนแน่นอน
ไม่ไปไหนแหละ
ตั้งหลักถ่ายทำหมอนี่โดยเฉพาะ
ว่าจะทำอะไรต่อไป
รูปนี้จะเห็นชัด
















พักสายตามาชมการยืนตรงเคารพธงชาติ
















กลับไปดูชายคนเมื่อกี้อีกที
สักพักเริ่มเปลี่ยนเสื้อเป็นสีแดง
เขาใส่เสื้อมาหลายชั้น
ถอดตัวแรกสีเทาออก
กลายเป็นคนเสื้อแดงแล้วตอนนี้
















สักพักถอดเสื้อแดงออกกลายเป็นคนเสื้อขาว
ดูเหมือนกำลังลอกคราบอยู่หรือยังไงไม่รู้
ร้อนเป็นบ้าสวมเสื้อมาตั้งหลายชั้นแถมมีหลายสี
ตัวป่วนฟันธง
















สักพักถอดเสื้อขาวออก
กลายเป็นเสื้อแดงอีกแล้ว
แถมแดงตัวนี้
เขียนหนังสือข้างหลังด้วยลายมือ
เขียนเยอะแยะ
และมีคำว่า ทักษิณ ชินวัตร ปรากฏอยู่
เล่นกันครบสูตรเลย
เสื้อแดงบวกเป็นคนรักทักษิณ
แล้วก็มาทำเรื่องหมิ่นเหม่
จะได้กล่าวหาทักษิณและคนเสื้อแดงพร้อมกัน
เดี๋ยวดูต่อไปว่าเขาจะทำอะไรต่อ
















คราวนี้ถอดเสื้อแดงตัวเมื่อกี้ออก
แล้วยังมีเสื้อขาวอีกตัว
รูปนี้ถอดเสื้อขาวตัวสุดท้ายออก
แล้วเขาก็สวมเสื้อแดงตัวที่มีลายมือ
เขียนอะไรข้างหลังตัวเมื่อกี้
แล้วเอาเสื้อแดงตัวแรกโพกศีรษะแทน
กลายเป็นเสื้อแดงฮาร์ดคอร์สมบูรณ์แบบ
พอดีเราคุยกับผู้หญิง 2 คน
ซึ่งตอนแรกเขาคงคิดว่าเราน่าสงสัย
เพราะเขายืนคุยแถวนั้น
พอคุยไปคุยมาเราเอารูปที่ชายคนนี้ทำ
และเปลี่ยนเสื้อแล้วบอกเขาว่า
เดี๋ยวดุซิมันต้องไปหน้าเวที
ให้ช่างภาพแถวนั้นจับภาพแน่นอน
แล้วก็จริงๆ
หลังแปลงร่างเป็นแดงเรียบร้อย
ก็เดินไปหน้าเวที
โดยมีเราและอีกสองสาวที่ไม่รู้จักกัน
เดินสะกดรอยตามไปเรื่อยๆ
ปรากฏว่าคนแน่นเข้าไม่ได้
เขาเดินไปนั่งหลังเวที
คราวนี้เราเลยบอกการ์ดแถวนั้นให้จับตา
ปรากฏว่าการ์ดไปคุยสักพัก
ประมาณโดนด่าว่าอย่ามายุ่งกะกู อะไรประมาณนั้น
ก็ถอยกับไปแล้วไปตามการ์ดมาอีกคน
ก็คุยอะไรกันไม่รู้
เพราะเรายืนคุยกับสองสาวที่ตามมาห่างๆ
แล้วปรากฏว่าการ์ดเอารูปในหลวงออก
เหลือแต่แผ่นป้ายใหญ่ๆ
ซึ่งเราเห็นเขาพยายามเอาป้ายแผ่นนั้น
ติดกับธงที่มีธงชาติติด
สงสัยจะไปยกสูงๆ หน้าเวที
หรือให้ช่างภาพที่ไหนถ่ายเพราะหลังเวที
ก็มีช่างภาพเข้าออกอยู่
















ชายคนนั้นตอนที่ผมไปเจอไม่มีใครสนใจเขาเลย
แล้วมีผู้หญิงเสื้อดำนั่งอยู่ข้างๆ
สอบถามภายหลังที่ผู้หญิงเสื้อดำคนนั้นลุกหนี
ก็พบว่า
เขาพูดจาดีกับเธอ
แต่พอผมไปถามว่ากำลังทำอะไรครับ
เขาก็ตอบแบบไม่ดี
ทำให้ผู้หญิงเสื้อดำคนนั้นกลัวลุกขึ้นหนี
จังหวะนี้ยังไม่มีใครสนใจหมอนี่เลย
แต่สิ่งที่เราเห็นมันทำมาป่วนแน่นอน
ส่วนใหญ่ที่เราเจอมาหลายครั้งแล้ว
เอารูปมาลงให้ดู
ก็เป็นลักษณะนี้
เอาคนที่ทำตัวเหมือนคนบ้ามาทำงาน
ส่วนชายเสื้อดำและคนที่ไปมุง
เพราะเราเริ่มไปกระซิบและบอกแถวนั้นว่า
มันมาป่วนแน่ๆ
ดูสิ่งที่กำลังทำ
แต่หลายคนก็มุงแป๊บแล้วก็ไป
สังเกตุตอนถอดเสื้อแต่ละตัว
ไม่มีคนสนใจสักคน
พอดีมันตอบไม่ดี
ผมเลยไม่ไปไหนยืนอยู่ด้านหลัง
แล้วก็มีผู้หญิงเสื้อดำมาสมทบ
ไม่รู้จักกันแต่เขาเห็นเราไม่ไปไหนถ่ายรูปตาคนนี้
เขาก็มาถามๆ
เราบอกว่าเราสงสัย
เหมือนกรณีที่เป็นข่าวตามหน้านสพ.
และตามเน็ตนี่อยู่พักหนึ่ง
ก็คือเอารูปชายที่ชูภาพในหลวง
และมีข้อความหรืออะไร
แล้วมาเถียงกันเรื่องตัดต่อนั่นแหละ
ถ้ายังจำเหตุการณ์นั้นได้อยู่
ส่วนชายคนนี้สวมเสื้อมาหลายสีหลายตัว
ตอนที่นั่งอยู่ไม่รู้
พอถอดตัวแรกถึงรู้
และกลับมาดูรูปที่ขยายภาพแรก
ก็เห็นเสื้อหลายตัวอยู่ข้างใน
เขาพยายามบอกว่าเป็นคนบ้า
แต่เจตนากำลังทำการหมิ่นเหม่
แถมทีกับผู้หญิงเสื้อดำในรูปแรกพูดดี
พอผู้ชายไปถามกับทำเหมือนคนบ้าขึ้นมา
และไม่มีใครติดตามชายคนนี้เลย
ยกเว้นเรากับผู้หญิงอีกสองคนที่ยืนคุยกับเราตรงนั้น
ถ้าซูมเข้าไปใกล้ๆ
จะเห็นข้อมือที่สวมริสแบรนด์สีเหลือง
อีกข้างทำผูกผ้าแดง
และในถุงดำ
เข็มขัดเหมือนที่ใส่เงินแม่ค้า
คาดที่เอวไม่มีใครไปตรวจว่าพกอะไรมาด้วย
และยังเห็นเอาแผ่น CD ไปปิดที่ภาพด้วย
คงกะว่าถ้าดึกๆ จะลงมือไปชูป้าย
CD จะสะท้อนเรียกร้องความสนใจ
พอดีการ์ดไปจัดการเอารูปออกมาก่อน
ไม่งั้นได้เห็นว่ามาทำอะไร
คนบ้าจริงๆ
จะมีสติตั้งใจเตรียมการมาขนาดนี้เลยหรือ

ฝากหน้าชัดๆ ตัวป่วน 2 ภาพ
เผื่อไปเจอที่ไหนอีก
ภาพแรก
















ภาพที่สอง
พอดีเราต้องแอบถ่าย
เพื่อไม่ให้เขารู้ตัว
จะไปตั้งหน้าตั้งตาถ่ายตรงๆ
ก็ยังไงอยู่
แถมเขาก็ก้มอยู่ตลอด
พอเห็นโครงร่างหน้าตาบ้างพอสมควร



















ส่วนใหญ่ตัวป่วน
เขาก็ใช้คนบ้ามาทำงาน
หรือไม่ก็พวกกล้าเกินขอบเขต
สิ่งที่เขาทำ
มีผลเสียกับคนที่ชุมนุมโดยรวม
เราเหมาเรียกชื่อว่าตัวป่วนหมดแหละ

พอดีลืมเตี้ยมกับการ์ดว่า
ปล่อยให้เขาทำจนเสร็จงานที่รับมาก่อน
ค่อยพาออกไป
เพราะอยากรู้ว่าจะทำอะไรต่อ
และอยากรู้ว่าสื่อไหนจะเอามาเล่น
ที่จริงอยากดูทั้งขบวนการ
พอการ์ดไปเอารูปในหลวงมาจากชายคนนี้
เขาก็หมดมุกที่จะป่วน
เพราะไปชูรูปอะไรอย่างอื่น
ก็ไม่สะดุดตาและไม่มีปัญหาอะไร
เราก็เลยบอกสองสาวที่ยืนคุยด้วยกันว่า
ขอตัวไปเดินรอบๆ ต่อ
เผื่อเจอตัวป่วนอีก
ปกติไปม็อบใหญ่ทีไร
เราเหมือนมีหน้าที่ตามตัวป่วน
เรียกว่าตัวป่วนแถวนั้นเห็นหน้าก็จำได้หมด
แต่บางทีเขาไม่ลงมือเราก็เฉยๆ
แต่วันนั้นเอารูปตัวป่วนที่เป็นหญิงสาว
ไปป่วนแถวศาลอาญา
ให้คนแถวนั้นดู
ปรากฏว่าอยู่ๆ มีคนมาทัก
บอกว่าวันนั้นที่เอารูปตัวป่วนคนนั้นให้ดู
เมื่อกี้เจอเป็นแม่ค้าขายเสื้อสีฟ้า
แต่เขาไล่ออกไปจากแถวนี้แล้ว

มาชมภาพยามดึกๆ
ยิ่งดึกคนยิ่งแน่น
แต่ถ่ายรูปไม่ได้เรื่อง
เพราะมือไม่นิ่งพอ
จะเบลอหมด
















นี่อีกมุมแน่นมากๆ
ขนาดแบตหมดจะเข้าไปบอกพี่ๆ ที่มาด้วย
เพื่อนัดเวลากลับ
เพราะตอนแรกบอกเขาว่า
ถ้าอยากกลับให้โทรมา
แต่โทรศัพท์เราแบตหมดแล้ว
ปรากฏว่าเห็นคนแล้ว
เดินเข้าไม่ได้เลย
แน่นมาก
ระดับชิดกันมากๆ
















บริเวณทางเดิน
คนเดินขวักไขว่
แน่มากๆ
บางคนบอกเข้าไม่ได้เลย
ช่วงสองทุ่มแน่นมากๆ
และมาไม่ขาดสาย
















ถ่ายจากทางเดินที่แม่ค้าขายของ
เข้าไปยังหน้าเวที
ค่อนข้างแน่น































พอดีไปเจอร้านรับจ้างชาร์ตแบต
ดีจังเลยได้ใช้บริการ
ชาร์ตไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
ยังไม่ถึงครึ่งของแบต
แต่พอโทรติดต่อกันได้
รอไม่ไหวใจร้อน
เพราะโทรหาพี่อีกคนก็สายตัดไปพอดี
















ระหว่างรอชาร์ตแบต
ก็เอารูปตัวป่วนไปบอกคนแถวนั้น
พี่คนหนึ่งบอกว่า
น่าจะไปบอกแกนนำบางคนหลังเวที
เขาก็พากเราเดินไปหลังเวทีอีกที
คราวนี้เห็นภาพคนมาจากที่ไหนไม่รู้
ถ้าไม่บอกนึกว่าอยู่แถวหน้าเวที
แบบว่าคนเยอะมาก
ขนาดด้านหลังเวทีน่ะ
















พอมายังจุดที่ชายคนนั้นอยุ่
ก็ไม่เห็นตัวแล้ว
ก็เลยหามุมถ่ายหน้าเวทีเล่น
















เสียดายไม่ได้เอาขาตั้งกล้องไป
ถ่ายออกมาเบลอหมด
พยายามเกร็งมือให้นิ่งๆ
ได้เท่านี้
















อีกมุม
















เขามีการปล่อยลูกโป่งด้วย
แต่ถ่ายออกมาได้แบบนี้
ไม่รู้ต้องปรับค่าอะไร
แต่ไม่ชอบนั่งปรับตั้งค่าอะไร
อยากถ่ายอะไร
แล้วออกมาเหมือนที่ตาเห็นทันที
ไม่ต้องสวยเกินจริง
สีที่เห็นเป็นยังไง
ให้ออกมาแบบนั้นเลย
แล้วไม่เบลอด้วย
ไว้วันไหนมีกล้องแบบนี้
จะเก็บเงินซื้อสักตัว
















มุมด้านหลังอีกมุม
















รูปสุดท้าย
เริ่มง่วงแล้วเหมือนกัน
ไว้มารายงานอีกงวดหน้า
















จากที่ไปสัมผัสบรรยากาศ
ผู้คนไม่ได้ลดลง
ที่มาไม่ได้ ไม่ได้มามีอีกจำนวนมาก
แต่ความโกรธแค้นเจ็บแค้น
สำหรับหลายๆ คนมีมากขึ้น
โดยเฉพาะผู้หญิงจะออกอาการมากหน่อย
และยังมีให้เห็นที่มาด้วยตาแดงๆ เหมือนจะร้องไห้
แต่มาวันนี้แล้วเขาคงสบายใจ
ว่าไม่มีใครถอย
และจะร่วมสู้กันต่อไป
แม้จะนานเพียงใด
เพื่อนๆ ที่ไม่ได้ไป
ก็คงเห็นภาพบรรยากาศที่นำมาลงไว้
และคงรู้แล้วว่า
คุณไม่ได้โดดเดี่ยว
มีเพื่อนๆ คอเดียวกันมากมาย
ที่พร้อมสู้อยู่เสมอ
และรอคอยพวกพี่ป้าน้าอา
ร่วมสู้ด้วยกันในโอกาสต่อไป

โดย มาหาอะไร

ปล. แถมข่าวตัวป่วนอีกรายในวันนั้น

-----------------------------------------------------------

นปช.จับเสื้อน้ำเงิน พกปืนที่ชุมนุม รวมตัวใหม่17พ.ค.

เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 25 เม.ย. เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งออกลาดตระเวน เข้าควบคุมตัวชายวัยรุ่นผมเกรียนรายหนึ่งได้กลางพื้นที่ชุมนุม โดย

ชายดังกล่าวสวมเสื้อสัญลักษณ์ของกลุ่มคนเสื้อน้ำเงิน มีข้อความว่า ป้องสถาบันที่หน้าอก เมื่อตรวจค้นก็พบปืนลูกซองสั้นพร้อมกระสุน การ์ดของคนเสื้อแดงจึงคุมตัวมาหลังเวที ให้

นายสมชาย ไพบูลย์ หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง เป็นผู้สอบสวน ทราบภายหลัง ชื่อ พลทหารอนุชล เกรี้ยงมลทิน อายุ 22 ปี เดินทางมาจาก อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์? อย่างไรก็

ตาม ชายรายนี้อ้างว่าเดินทางมาเที่ยว ส่วนเสื้อสัญลักษณ์คนเสื้อน้ำเงินที่สวมมานั้นอ้างว่าเป็นเสื้อของพ่อ การ์ดคนเสื้อแดงจึงส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม รับไป

ดำเนินคดี ระหว่างนั้นหวิดถูกผู้ชุมนุมรุมประชาทัณฑ์

จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 24.00 น. นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำ นปช. รุ่น 2 ได้กล่าวขอบคุณผู้ร่วมชุมนุมทุกคน ที่ได้เดินทางมาร่วมแสดงพลังประชาธิปไตย จากนั้นจึง

ประกาศปิดเวทีปราศรัย ที่ท้องสนามหลวง และยุติการชุมนุม อย่างไรก็ตาม นายสมยศได้นัดชุมนุมใหญ่อีกครั้ง ในวันที่ 17 พ.ค. ที่ท้องสนามหลวง

http://www.thairath.co.th/content/pol/1936