หมอพรทิพย์ฟันธงยิงแก๊สน้ำตาฆ่าน้องโบว์ซัด2รองนายกฯบีบตร.สลายม็อบ
หมอ พรทิพย์ ซัดระดับรองนายกฯ 2 คน ออกไปแล้ว 1 สวมบท มาสเตอร์มายด์ บีบ ตร.ใหญ่ลุยม็อบ พร้อมแฉ แก๊สน้ำตาจีนมีสารระเบิด อาร์ดีเอ็กซ์ ตร.รับของจีนมีปัญหาจริง-เตรียมทำลาย เด็กจิ๋ว โต้ นายแค่มอบนโยบาย ไม่ได้สั่ง
การสืบสวนสอบสวนเพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบในเหตุการณ์ สลายการชุมนุมเมื่อวันที่7 ตุลาคม ที่ผ่านมา เดินหน้าไปอีกขั้น หลังจาก พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระบุว่า มีนักการเมืองบีบให้ตำรวจสลายการชุมนุมด้วยวิธีการรุนแรง
พญ.คุณ หญิงพรทิพย์ให้สัมภาษณ์ในรายการ "เจาะลึกทั่วไทย" เอฟเอ็ม 98 เมกะเฮิรตซ์ โดยระบุว่า ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการสลายการชุมนุมในวันนั้นว่าตำรวจชั้นผู้ใหญ่สรุปว่าจะ ไม่ลุย แต่ก็โดนฝ่ายการเมืองบีบมาอีกที และยังทราบว่าผู้บังคับบัญชาสั่งการลูกน้องในพื้นที่ไม่ได้ และตั้งแต่วันนั้นที่ ผบ.ทบ. (พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา) ขอให้ไปช่วยทำงานมันก็ล่าช้า จน ผบ.ทบ.ถามว่าทำไมไม่ทำงานเสียที ก็ตอบไปว่า บช.น.ไม่ตอบสนองเลยในตอนนั้น จากนั้น ผบ.ตร.จึงแต่งตั้งคณะกรรมการชุดที่มีหมออยู่ด้วยขึ้นมา และทราบว่าตำรวจชั้นผู้ใหญ่สั่งลูกน้องไม่ได้ เพราะมีมาสเตอร์มายด์ โดนฝ่ายการเมืองบีบให้ลุยตั้งแต่ตอนตีสอง แต่ ผบ.ตร.ต่อรองว่า ควรดำเนินการในช่วงหกโมงเช้า
ผู้ดำเนินรายการถามว่าผู้สั่งการใน วันนั้นคือ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี (ในขณะนั้น) และ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ใช่หรือไม่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าวว่า ไม่ขอพูด เพราะเป็นข้อมูลจากการรายงานในที่ประชุม อาจมีคนสั่งการมากกว่าสองคน และขอให้ไปสอบถาม ผบ.ตร.ดีกว่า
"ข้อมูลข้างต้นนั้นเป็นการพูดคุย กันนอกรอบการประชุม และหมอไม่ทราบว่าใครสั่งใคร แต่เท่าที่ทราบผู้บัญชาการเหตุการณ์ในวันนั้นมีหลายคน" พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าว
พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าวอีกว่าฉะนั้นสิ่ง ที่ตนสรุปได้จากผลการประชุมในวันนั้น คือ 1.วันนั้นทำไมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายชุด และหลายเครื่องแบบ โดยหนึ่งในนั้นคือ ตำรวจตระเวนชายแดน 2.อาวุธและแก๊สน้ำตาเบิกมาจากหน่วยใด 3.ผู้ปฏิบัติการในวันนั้นเคยผ่านการฝึกหรือไม่ 4.ผู้ใหญ่บางคนในที่ประชุมวันนั้น (7 ต.ค.) ตั้งข้อสังเกตว่าวันนั้นยิงเพียง 3 นัดก็พอ แต่ทำไมยิงเป็นร้อยนัดแบบนั้น 5.คำสั่งในวันนั้นใครสั่ง และ 6.เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการในวันนั้นทำไมประเมินว่าสลายการชุมนุมช่วงเช้าแล้ว ทำไมต้องสลายต่อในช่วงเย็นด้วย ซึ่งเรื่องเหล่านี้หลายคนอีหลักอีเหลื่อที่จะพูด แต่ข้าราชการควรพูดความจริงกันได้แล้วว่าใครสั่ง
พญ.คุณหญิงพร ทิพย์กล่าวว่าขอเรียนว่า นิติวิทยาศาสตร์ทำงานเพื่อพิสูจน์และแสวงหาความจริง ไม่ได้ทำงานเพื่อใคร วันนี้ขอถามสังคมไทยว่า ใช้ตนพอหรือยัง ทำไมไม่ตั้งโจทย์ว่า ทำไมไม่ทำงานโดยใช้ระบบ ไม่ใช่อะไรๆ ก็ตน
"เสร็จงานนี้หมอจะได้ กลับลงไปทำงานในภาคใต้ เพราะหมอโดนพันธมิตรบริภาษอย่างมากว่าหาประโยชน์จากเหตุการณ์ และพาดพิงว่าหมอใกล้ชิดกับรัฐบาลนี้ หากพันธมิตรยังพูดกันแบบนี้หมอจะทำงานได้ยาก" พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าว
วัน เดียวกันที่สถานีวิทยุจุฬาฯ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ตอบคำถามผู้ดำเนินรายการที่ถามว่าใครเป็นผู้สั่งการในวัน ดังกล่าวอีกว่า ตัวเขาเองก็พูดในสื่อก็ลาไปแล้ว ออกไปแล้ว คนที่ไม่ได้ลาออกก็มี
ผู้ดำเนินรายการถามย้ำว่าคนสั่งคือคนที่ลาออกไปแล้วใช่หรือไม่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ระบุว่า "หนึ่งคน และอีกคนเป็นรองนายกฯ อยู่"
เมื่อถามอีกว่าเรื่องนี้จะถึงนายกรัฐมนตรีไหม พญ.คุณหญิงพรทิพย์ตอบว่า "ก็น่าต้องถึง เพราะว่านายกฯ จะมาแถลงการณ์ จะมาแถลงนโยบาย"
พญ. คุณหญิงพรทิพย์กล่าวถึงประเด็นอานุภาพของแก๊สน้ำตาจีนผ่านรายการ"คม ชัด ลึก" ทางสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี ว่า เท่าที่แพทย์ชันสูตรพบว่า บาดแผลฉีกขาดรุนแรง แต่ไม่มีสะเก็ดระเบิด และมีสารระเบิด คืออาร์ดีเอ็กซ์ ซึ่งปกติในแก๊สน้ำตาจะไม่มีสารระเบิด นอกจากนี้ยังไปเก็บข้อมูลทั้งของพันธมิตร เท่าที่ได้ข้อมูลทราบว่าทางทหารมีแก๊สเฉพาะของอเมริกันเท่านั้น ส่วนของตำรวจมีแก๊สน้ำตา 6 ชนิด กระสุนยิง 4 ลูก ขว้าง 2 ลูก ส่วนมากเป็นของจีน เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม มีการทดลอง พบว่ากระสุนบางตัวมีสารระเบิดติดมาด้วย
"ที่มากคือ ลูกของจีน ทั้งชนิดลูกยิงและลูกขว้าง เป็นสารระเบิดอาร์ดีเอ็กซ์ในการจุดชนวน ชนิดเดียวกันกับที่พบในเกิดเหตุ ส่วนประเด็นระเบิดยังไม่ตัด เพราะพันธมิตรยังมีการพบระเบิดชนิดทำเอง แต่หน้าที่ของเราคือ ทำภารกิจนี้จบแล้วและจะเอาสิ่งที่ทดสอบนี้เข้าห้องวิทยาศาสตร์ต่อไป ส่วนที่เหลือจะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสิทธิฯ ในการจะเป็นคนสรุปต่อไป" พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าว
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ยังกล่าวถึงท่าทางการยิง แก๊สน้ำตาของตำรวจว่าที่ว่าตำรวจยิงเข้าไปในระดับคน ก็อยากตั้งข้อสังเกตว่า คนที่ยิงเขารู้หรือไม่ว่าเขาใช้สิ่งไม่ดี แต่จะมีใครไปสาวหรือไม่ว่าใครเป็นคนสั่งซื้อมา
"แก๊สน้ำตาที่มีสารระเบิดประเทศอื่นเขาไม่ใช้ เพราะถือเป็นอาวุธ ไม่ใช่เครื่องมือสลายม็อบ" พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าว
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก คมชัดลึก
------------------------------------------
พอดีต้องการพิสูจน์การยิงกระสุนหัวกระดาษแนวราบ
กับยิงกระสุนยิงแนวตั้งว่าผลจะเป็นยังไง
เพื่อจะได้ยืนยันว่าไม่มีคนตายแน่
ยิงแบบนี้ปลอดภัย
และเป็นไปตามหลักการสลายม็อบสากล
ตามกระทู้นี้
<<< ต้องการพิสูจน์ ยิงปืนหัวกระสุนกระดาษใส่ทหารกล้า ว่าอันตรายไหม >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2009/04/blog-post_17.html
เลยคิดถึงหมอพรทิพย์ขึ้นมาจับใจ
เห็นงวดก่อนเสื้อเหลืองโดนแก๊สน้ำตา
ยังออกมาแข็งขัน
จนได้มีการพิสูจน์เรื่องการยิงแก๊สน้ำตา
ตอนนี้อยากเชิญคุณหมอมาร่วมด้วยช่วยกัน
เป็นคณะทำงานพิสูจน์ให้หน่อย
ใครพบคุณหมอที่ไหน
แจ้งด่วน
"ทั้ง นี้ สภากาชาดได้เตรียมโลหิตสำรองไว้แล้ว ในกรณีถ้าเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยเตรียมไว้ถึง 1,200 ยูนิต สำหรับการชุมนุมที่เกิดขึ้น ในกรณีที่หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด หรือว่าเหตุการณ์ที่ต้องการให้ทางหน่วยแพทย์เข้าไปรักษาผู้ชุมนุมจากการบาด เจ็บ"
- สภากาชาดด้วย
คิดถึงมากเห็นตอนม็อบเสื้อเหลืองแข็งขันมาก
มีใครได้ข่าวคราวเกี่ยวกับสภากาชาด
ในกรณีม็อบเสื้อแดงบ้าง
วานบอกด้วย
โดย มาหาอะไร
