มีความพยายาม
สร้างเรื่องเพื่อให้คนเสื้อแดง
มีปัญหากับชาวมุสลิม
ทั้งๆ ที่มีพี่น้องมุสลิมอยู่เยอะแยะในม็อบเสื้อแดง
หลายคนมาจากสงขลาก็มี
เพื่อโยงไปเล่นงานทักษิณ
มีการเร่งถอนพาสปอร์ตทั้งหมดทันที
มีการยืนหนังสือเพื่อให้ประเทศมุสลิม
ส่งตัวทักษิณกลับหรือไม่ให้ทักษิณอาศัยทันที
เรียกว่าอาศัยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ซอย 5 ซอย 7 แถวเพชรบุรี
โดยที่ยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ
แต่มีการเดินเกมอย่างเร่งรีบ
เพื่อโยงไปยังทักษิณทันที
กะอาศัยช่วงชุลมุน
จัดการทักษิณอีกครั้ง
กรณีที่ซอย 5 ซอย 7
ก็มีชาวมุสลิมที่เป็นอาสาสมัครหน่วยพยาบาล Fared
ก็ถูกทำร้ายแถวนั้น ก่อนมีเรื่องช่วงสงกรานต์
เพียงเพราะเขาเป็นเสื้อแดง
แบบนี้มันน่าจะเป็นเรื่องการเมืองมากกว่า
เป็นเรื่องของคนที่เชียร์คนละสี
ไม่น่าเกี่ยวกับศาสนา
ตามที่ 3 องค์กรอิสลามออกมากล่าวถึงในกรณีนี้
เรื่องนี้จะพยายามตามเรื่อยๆ ให้ถึงตอนจบ
ตอนนี้รวบรวมลำดับเหตุการณ์ฝากไว้แค่นี้ก่อน
โดย มาหาอะไร
------------------------------------------------
สำนักข่าวไทยฟรีนิวส์ กรุงเทพฯ (www.thaifreenews.com)
รายงานว่า - ขณะนี้ เกิดเหตุ รุมทำร้ายพยาบาลอาสาเสื้อแดง
อาการสาหัส เหตุเกิดบริเวณนางเลิ้ง ขณะพยาบาลอาสา(สงวนนาม)
เดินทางเพื่อมาผลัดเปลี่ยนเวรเพื่อดูแลผู้ที่มาร่วมชุมนุม ณ เต๊นท์พยาบาลอาสา
หน่วย FARED : First Aid Red Shirts บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล อาการเบื้องต้น
พบกระดูกแขนร้าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษา ล่าสุด หน่วยพยาบาลอาสา FARED
รับทราบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ความคืบหน้า จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะ
ประชา ไทสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากอาสาสมัคร FARED ที่ประจำเต็นท์อยู่ขณะนี้
ระบุว่าผู้ถูกรุมทำร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 25 ปี เป็นอาสาสมัครของฟาร์เรด
เป็นชาวมุสิม โดยเดินทางไปละหมาดที่มัสยิด บริวณ ถ. กิ่งเพชร ก่อนเดินทาง
มาปฏิบัติหน้าที่พยาบาลอาสา แต่เมื่อละหมาดเสร็จแล้ว มีกลุ่มคนเดินเข้ามาถามว่า
เป็นเสื้อแดงใช่หรือไม่ และกำลังจะไปชุมนุมกับคนเสื้อแดงใช่หรือไม่ เมื่อตอบว่าใช้
ก็ถูกลากไปรุมทำร้ายร่างกาย และชิงทรัพย์รวมทั้งโทรศัพท์มือถือด้วย
สำหรับอาการบาดเจ็บ ขณะนี้เข้าเฝือกแขน และเดินทางกลับบ้านแล้ว
------------------------------------------------
มุสลิมไทยจี้ปท.อิสลามเลิกให้ที่พักพิง"แม้ว"
Source - เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น (Th)
Tuesday, April 14, 2009 18:30
นายสมัย เจริญช่าง กรรมการอิสลามประจำกทม. เปิดเผยว่า
ทางกรรมการอิสลามเตรียมยื่นหนังสือต่อเอกอัคราชชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ประจำประเทศไทย เพื่อนำหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายเจ้าผู้ครองนครดูไบ
ขอความร่วมมือในการต่อต้านและงดการต้อนรับรวมถึงให้ที่พักพิง
แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ให้เข้าประเทศ ในเครือศาสนาอิสลาม
เนื่องจากทำตัวเป็นศัตรูกับพระเจ้า หลังจากสนับสนุนคนเสื้อแดง
ทำร้ายคนในชุมนุมเพชรบุรีซอย7 รวมถึงเผามัสยิดด้วย
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นต้นเหตุในการสั่งการ
ให้มีการยิงถล่มมัสยิดกรือเซะ จนทำให้คนมุสลิมเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com
-------------------------------------------------
บัวแก้วสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางธรรมดาของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรีทุกเล่ม "นพดล"บอกทักษิณไม่สน
นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ
กล่าวว่ากระทรวงการต่างประเทศได้สั่งยกเลิกหนังสือเดินทางธรรมดา
ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แล้ว เมื่อวันที่ 12 เมษายน
ตามนโยบายรัฐบาล ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวอาศัยอำนาจตามระเบียบ
กระทรวงการต่างประเทศ ว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548
ในหมวด 8 ว่า ด้วยการยกเลิกหนังสือเดินทาง ข้อ 23(7) ซึ่งระบุว่า
สามารถยกเลิกและเรียกคืนหนังสือเดินทางได้
เมื่อปรากฎภายหลังว่า "พิจารณาเห็นว่า หากให้ผู้ถือหนังสือเดินทาง
ยังคงอยู่ในต่างประเทศต่อไปอาจก่อให้เกิดความ เสียหายแก่ประเทศไทย
หรือต่างประเทศได้"
อย่างไรก็ตาม การถอนหนังสือเดินทางนี้ไม่ได้กระทบกับความเป็นสัญชาติไทย
ของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่จะทำให้เดินทางไปประเทศที่สามต่อไปด้วยหนังสือเดินทาง
ไทยไม่ได้ โดยสามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้เท่านั้นด้วยการไปขอให้
สถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุลใหญ่ของไทยในประเทศนั้นๆ
ออกเอกสารเดินทางชั่วคราวที่เรียกว่าซีไอให้
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้รัฐบาลไทยได้ประสานให้รัฐบาลทั่วโลก
ทราบเรื่องดังกล่าวแล้วโดยการ ตัดสินใจยกเลิกหนังสือเดินทางครั้งนี้มีขึ้น
หลังกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงบุก เข้าไปยังโรงแรมรอยัลคลิฟบีช รีสอร์ท พัทยา
ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา จนเป็นเหตุ
ให้รัฐบาลต้องตัดสินใจยกเลิกการประชุม อย่างไรก็ดีหากพ.ต.ท.ทักษิณ
มีหนังสือเดินทางประเทศอื่นก็ทำให้เขาสามารถใช้ หนังสือเดินทางเหล่านั้น
เดินทางต่อไปได้
ด้านนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ว่า
กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการยึดพาสปอร์ตของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว
โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของกระทรวง
การต่างประเทศว่าด้วยการถอนพาสปอร์ตที่มี ระเบียบในปี 2548
ว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง ว่ารัฐบาลสามารถที่จะยกเลิกและถอนหนังสือ
เดินทางสำหรับบุคคลที่ทำความเสีย หายให้กับประเทศ
โดยเหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่พัทยา ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้รัฐบาล
ตัดสินใจถอนพาสปอร์ตพ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนรายละเอียดทางกระทรวง
การต่างประเทศจะเป็นผู้ชี้แจง
"นพดล"เผย"ทักษิณ"ไม่สนใจโดน กต.ถอนหนังสือเดินทาง
ขณะที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกระทรวงต่างประเทศได้ยกเลิกหนังสือ
เดินทางพ.ต.ท.ทักษิณ ทุกเล่มว่า ยังไม่ได้คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
แต่ท่านเคยพูดว่าถ้ารัฐบาลจะถอนหนังสือเดินทางทุกเล่มจริงก็ไม่กระทบต่อการ
เดินทาง เพราะยังมีหนังสือเดินทางประเทศอื่นที่ให้สิทธิพลเมือง
และมอบหนังสือเดินทาง อีกหลายประเทศ แต่ไม่ทราบว่าประเทศไหนบ้าง
ส่วนที่รัฐบาลประสานไปยังประเทศต่างๆเพื่อขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน หรือไม่
ให้อดีตนายกฯเข้าประเทศนั้นๆได้หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับ
กฎหมายประเทศนั้นๆ และต้องดูด้วยว่าประเทศเหล่านั้นจะดำเนินการ
ตามประเทศไทยหรือไม่ เพราะโดยหลักการถ้าเป็นคดีทางการเมือง
ประเทศนั้นๆมักจะไม่ดำเนินการให้
สมมุติหากรัฐบาลไทยรู้ว่าอดีตนายกฯอยู่ประเทศใดประเทศหนึ่งและส่งเจ้าหน้าที่
ไปจับกุมได้หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ไม่ได้ สมมุติหากรัฐบาลส่งสายลับไปจับ
จะถือว่าเป็นการลักพาตัว ต้องปล่อยให้ประเทศนั้นๆดำเนินการตามกฎหมาย
ระหว่างประเทศ สนธิสัญญาผู้ร้ายข้ามแดน หรือสนธิสัญญาทางการทูต
และต้องดูว่าประเทศดังกล่าวจะส่งตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ให้ประเทศไทยหรือไม่
-----------------------------------------------
สำนักข่าวมุสลิมไทย
www.muslimthai.com
มติชน - เมื่อเวลา 14.00 น.นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย
แถลงที่ที่ทำการพรรคเพื่อไทย อาคารบีบีดี บิ้วดิ้ง
ภายหลังการพบปะตัวแทนมุสลิมประมาณ 20 คน จากชุมชนมัสยิดบ้านครัว
ชุมชนมัสยิดกิ่งเพชร ชุมชนสวนหลวง ชุมชนมัสยิดมหานาคและชุมชนมัสยิดกิ่งเพชร
ซึ่งมีกระแสว่าถูกกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงขว้างปาและจะเผามัสยิดกิ่งเพชร
ซอยเพชรบุรี 7 ย่านถนนเพชรบุรี ระหว่างการชุมนุมปิดถนนเพชรบุรี
ของกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงว่า ตัวแทนมุสลิมได้เข้ามาพบ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย
เพราะไม่สบายใจที่มีข่าวว่าเป็นการกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดงระหว่างการชุมนุมใหญ่
และเห็นความไม่ชอบไม่ถูกต้อง เพราะมีประเด็นที่จะถูกโยงไปเป็นเรื่องการเมือง
นายสุขสันต์ เกษตรการา ตัวแทนชุมชนมุสลิม กล่าวว่า ตนได้อยู่ร่วมกับ
ระหว่างที่มีการชุมนุมเสื้อแดงบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง
เวลา 04.00 น.ได้มีกองกำลังทหารเข้ามาประชิดแล้วใช้อาวุธคือแก๊สน้ำตา
และยิงปืนขึ้นฟ้าไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงถึงจะมีรถของหน่วยพยาบาลเข้ามา
จากนั้นประชาชนได้ถอยร่นมายังถนนราชปรารภ ดินแดงและประตูน้ำ
มาจนถึงถนนเพชรบุรี ซึ่งส่วนนั้นมีการปลุกระดมประชาชนที่ไม่ชอบคนเสื้อแดง
ให้ออกมาปะทะกับการถอยร่นของคนเสื้อแดง
จนกระทั่งเวลา 15.00 น.จากนั้นก็มีการประโคมข่าวว่าจะมีการเผามัสยิด
ทั้งๆที่มีประชาชนคนเสื้อแดงที่เป็นมุสลิมได้ไปละมาดที่มัสยิดดังกล่าวบ่อยครั้ง
จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปทำอย่างนั้น ข่าวที่ออกมาจึงไม่เป็นความจริง
ซึ่งล่าสุดได้มีความพยายามอ้างองค์กรมุสลิม เพื่อทำหนังสือถึงเจ้าผู้ครองนครดูไบ
ให้ร่วมมือกันในการดำเนินการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ของนายสมัย เจริญช่าง ส.ส.กทม.
พรรคประชาธิปัตย์นั้น
ขอให้ให้เกียรติ พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรีบ้าง เพราะในสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ
เป็นนายกฯ ได้แต่งตั้งมุสลิมเป็น รมว.มหาดไทย และรมว.คมนาคม รวมทั้งตั้งคนมุสลิม
เป็น ผบ.ทบ. คือ พล.อ.สนธิ บุญรัตนกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)
แม้จะมี ส.ส.พรรคไทยรักไทย เป็นมุสลิมอยู่เพียงคนเดียว ซึ่งในรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์นั้น
ไม่มีมุสลิมได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีแม้แต่คนเดียว โดยตนจะทำหนังสือชี้แจงถึงสถานการณ์
การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงไปยังเมืองดูไบเช่นกัน - สำนักข่าวมุสลิมไทย
-------------------------------------------------
3 องค์กรอิสลามตำหนิ นาย สมัย เจริญช่าง
ที่มาจากเวปประชาไทย
http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=796854
สำนักข่าวไทย รายงานว่า.-
คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย สภาองค์การมุสลิมแห่งประเทศไทย
และสมาคมสื่อมวลชนมุสลิม ปฏิเสธร่วมทำหนังสือถึงเจ้าผู้ครองรัฐดูไบให้ขับ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกจากดูไบ ตำหนิ “สมัย เจริญช่าง” ทำไม่ถูกต้อง
อ้างชื่อโดยไม่ชอบธรรม
นายสามารถ ทรัพย์พจน์
นายสามารถ ทรัพย์พจน์ ในนามของคณะผู้บริหารองค์กร สำนักงานเลขาธิการ
คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย
สภาองค์การมุสลิมแห่งประเทศไทย และสมาคมสื่อมวลชนมุสลิม ทำหนังสือ
ชี้แจงกรณีที่นายสมัย เจริญช่าง ส.ส.กรุงเทพฯ
พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า องค์กรสถาบันมุสลิมในประเทศไทยยื่นหนังสือ
ถึงสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อให้นำขึ้นทูลเกล้าฯ
เจ้าผู้ครองรัฐดูไบ ให้ใช้พระราชอำนาจขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรี ให้พ้นจากการพำนักอาศัยในราชอาณาจักรสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
หนังสือดังกล่าวระบุว่า คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย
สภาองค์การมุสลิมแห่งประเทศไทย และสมาคมสื่อมวลชนมุสลิม
ซึ่งมีชื่ออยู่ในองค์กรสถาบันมุสลิมในประเทศไทยที่นายสมัยอ้างถึง
ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยื่นหนังสือดังกล่าว และไม่ได้มีมติให้ความเห็นชอบ
ในการร่วมร้องเรียนเรื่องนี้แต่อย่างใด เพราะไม่ต้องการให้องค์กร
เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมือง
“องค์กรทั้ง 3 มีเป้าประสงค์ในการสร้างความเข้าใจเรื่องศาสนา สังคม
การสงเคราะห์ผู้ยากไร้ และส่งเสริมวิถีชีวิตมุสลิม การที่นายสมัยเอาชื่อของทั้ง 3 องค์กร
เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จึงไม่ถูกต้อง เป็นการอ้างชื่อโดยไม่ชอบธรรม และการกระทำ
ดังกล่าวถือว่าเป็นการสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในองค์กร และสังคมมุสลิมอีกส่วนหนึ่งด้วย”
หนังสือดังกล่าวระบุด้วยว่า การที่มีกลุ่มคนยิงปืนเข้ามัสยิดดารุ้ลอะมาน
ซ.เพชรบุรี 7 ถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะมัสยิดเป็นศาสนสถานที่สำคัญ
ของชาวไทยมุสลิม แต่เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ดังนั้น ขอให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อความถูกต้องและผลประโยชน์
สูงสุดของบ้านเมือง โดยไม่สร้างความขัดแย้งในองค์กร อันเป็นพื้นฐานแรกของการ
สร้างความสามัคคี
“ผู้บริหารทั้ง 3 องค์กร ยังเชื่อมั่นว่าสันติภาพบนพื้นฐานแห่งความถูกต้อง และความเข้าใจ
ที่ดีต่อกันของทุกฝ่าย ยังพร้อมที่จะเกิดขึ้นในแผ่นดินไทย และนั่นคือความต้องการ
ของพี่น้องคนไทยทุกคน” .- สำนักข่าวมุสลิมไทย
ดร.บูฆอรี ยีหมะ ประธานคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา
กล่าวกับสำนักข่าวมุสลิมไทยว่า... “ผมไม่อยากให้นักการเมือง นำเอาศาสนาอิสลาม
อันบริสุทธิ์ ไปเชื่อมโยงกับการต่อสู้ทางการเมือง ศาสนานี่ควรจะเป็นเครื่องมือ
สร้างความสมานฉันท์ให้กับคนในสังคม
โดยเฉพาะในพื้นที่แถวมัสยิดพญาไทนั้น หลายคนที่เคยอยู่บริเวณนั้นก็คงจะรู้ว่า
พื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ของนางนาตยา เบญจศิริวรรณ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์
ญาติๆ ของคุณนาตยาก็อยู่แถวนั้น เพราะฉะนั้น ผมจึงเห็นว่าการเอามวลชนของตนเอง
มาใช้ทำลายฝ่ายตรงข้าม โดยใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือนี่เป็นเรื่องที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง ”
และว่า“ถ้าใครได้ติดตามสถานการณ์ หรือข่าวก่อนหน้านี้ก็จะเห็นว่ากลุ่มเสื้อแดงนี่
ก็มีมุสลิมมาร่วมชุมนุมจำนวนไม่น้อย ขนาดที่ว่ามีการหุ้งข้าวมีการทำโรงอาหารฮาลาล
แยกต่างหาก แยกครัวที่ชัดเจนเพื่อรองรับพี่น้องมุสลิมที่มาร่วมชุมนุม และบางครั้งมุสลิม
หลายคนก็ได้มาอาศัยมัสยิดดังกล่าว(ดารุ้ลอามาน) เป็นที่ละหมาด ในเวลาที่พวกเขา
ออกมาจากที่ชุมนุมฯ แต่บังเอิญพี่น้องมุสลิมที่มาจากต่างจังหวัด ไม่รู้ว่ามัสยิด
และกิ่งเพชรแห่งนี้เป็นอิทธิพลของพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มพันธมิตรฯ
หรือกลุ่มเสื้อเหลือง จึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา”
ดร.บูฆอรี กล่าวต่อว่า... “ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ในช่วงก่อนสงกรานต์นี่
ก็มีมุสลิมที่เป็นเสื้อแดงหลายคนไปละหมาดที่นั่น แต่มีมุสลิมเสื้อแดงคนหนึ่ง
หลังจากออกมาจากมัสยิด ก็ถูกตีหัวและโดนทุบที่แขนหลังจากออกมาจากมัสยิด
เราจะสังเกตเห็นได้ว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ ก็ไม่เห็นมีอิหม่ามหรือคนในชุมชน
จะเป็นทุกข์เป็นร้อนที่มุสลิมคนหนึ่งโดนตีหัวเมื่อเขาออกมาจากมัสยิด
หรือว่าเป็นเพราะเขาสวมเสื้อแดง เป็นพวกที่เห็นด้วยกับการชุมนุมของ นปช.
เขาจึงต้องถูกตีหัวฟรี หลังจากที่เขาได้ไปกราบไหว้พระผู้เป็นเจ้าในบ้านของพระองค์
เมื่อเขาออกมาเข้าก็ถูกทำร้าย แค่เพียงเขามีแนวคิดทางการเมืองที่ไม่เหมือนกับ
คนในซอย ทำให้เขาถูกทำร้าย ทำไมมุสลิมจึงปฏิบัติต่อกันอย่างสองมาตรฐานเช่นนี้”
ดร.บูฆอรี กล่าวว่า
ดร.บูฆอรี กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า... “ในสถานการณ์ที่มีผู้คนในสังคมแบ่งแยกกัน
เป็นฝักเป็นฝ่ายนี่ การนำเอาศาสนามาเชื่อโยงกับการเมืองนี่ ผมเห็นว่าเป็นผลลบ
ต่อศาสนามากกว่าที่จะเป็นผลบวก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนี่ มันจะทำให้คนมุสลิม
ที่เป็นเสื้อแดงนี่และคนทั่วไปจะเกิดความเข้าใจผิดต่ออิสลาม อีกอย่างหนึ่ง
ผมอยากจะเรียกร้องให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในสังคมมุสลิมนี่ ช่วยออกมาพิสูจน์
ความจริงให้กระจ่างว่า ต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดมันมีที่มาอย่างไร
เป็นไปไม่ได้ที่อยู่ๆ กลุ่มมุสลิมสีแดงจะไปยิงมัสยิดหรือทำลายป้ายมัสยิด
เพราะการปล่อยให้เหตุการณ์บานปลายเช่นนี้ เพราะมุสลิมไม่ได้มีอยู่แค่ในกรุงเทพฯ
หรือใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น ที่เชียงใหม่ เชียงราย ที่อุบล อุดร หนองคาย
ขอนแก่น สุรินทร์ ศรีสะเกษก็มีมุสลิม เพราะฉะนั้นเราไม่ควรสร้างสถานการณ์
ที่จะนำมาซึ่งความแตกแยกในสังคมโดยใช้อิสลามมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง
เพื่อรับใช้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมือง”
ดร.บูฆอรี กล่าวทิ้งท้าย
นายมุข สุไลมาน กรรมาธิการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐสภา
สมาชิกพรรคมาตุภูมิ (ราษฎร์) อดีต ส.ส.ปัตตานี หลายสมัย
ได้เปิดเผยกับสำนักข่าวมุสลิมไทยว่า... “ผมว่าเรื่องนี้มันมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง
เพราะเท่าที่รู้มาก็คือมุสลิมที่ใส่เสื้อสีแดงโดนตีหัวก่อน แล้วก็ไปเอาพวกมา
มันก็เลยเกิดการรุมสะกรัมกัน แล้วมาลากให้เป็นเรื่องของศาสนา
ผมว่าในระยะยาว มุสลิมเรานี่แหละจะเดือดร้อน ถ้าต่อไปเกิดมือที่สาม
ไปสร้างสถานการณ์อย่างนี้กับวัดที่ไหนสักแห่ง แล้วเกิดเป็นกรณีระหว่างพุทธกับมุสลิม
ถามว่าใครจะเดือดร้อน มุสลิมเรานี่แหละจะเดือดร้อน เราเป็นชนกลุ่มน้อยเราจะทำกันยังไง
วันนี้ยังต้องหลบๆ หลีกๆ เพราะคนที่ไม่ใช่มุสลิมเขาก็มองมุสลิมไม่ดีอยู่แล้ว
กับเหตุการณ์ในจังหวัดชายแดนปักษ์ใต้ เพราะฉะนั้นเมื่อมุสลิมกรุงเทพฯ
ไปลากเอาสถานการณ์ทางการเมืองมาเชื่อมโยงกับศาสนาเพิ่มไปอีกนี่ ในที่สุด
เรามุสลิมเองนี่แหละจะเดือดร้อน ผมไม่สบายใจเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้” และว่า
“แล้วก็ ที่ว่าคุณสมัย เจริญช่างก็ดี คุณนาตยาก็ดี ฝ่ายประชาธิปัตย์ไปนั่งประชุมกัน
ทำหนังสือไปถึงสถานทูตอาหรับเอมิเรตต์ทำนองนี้ แล้วไปกล่าวหาอย่างนั้น
ผมว่ามันน่าจะเป็นลักษณะที่ว่า สร้างเงื่อนไขอะไร เพื่อที่จะให้โลกอาหรับอื่น
ต่อต้านทักษิณนี่ ผมดูแล้วมันไม่เข้าท่า ถ้าจริงก็ว่ากันไปถ้าไม่จริงนี่เป็นฟิตนะห์
หรือว่าใส่ร้ายนี่ ในความเป็นมุสลิมนี่ผมว่ามันไม่ควรทำอย่างนั้น ก็เพราะทำอย่างนี้สิ
สังคมมันถึงได้มีปัญหา เพราะคนเราชอบใส่ร้ายใส่ความกัน ซึ่งมันไม่ถูกต้อง
โดยส่วนตัวผมไม่ชอบไอ้การกระทำอย่างนี้ พอผมรู้ตื้นลึกหนา
บางในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี่ผมรู้สึกไม่พอใจ ไม่สบายใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มาก”
นายมุข กล่าว
นายมุข ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า... “เรื่องนี้ผมจะอยู่เฉยๆ ไม่ได้ เพราะได้มีการ
ลากเอาศาสนามาเชื่อมโยงกับการเมือง ผมไปกรุงเทพฯก็ต้องไปชี้แจง
กับสถานทูตมุสลิมต่างๆ ไม่รู้ว่าท่านวันนอร์จะเห็นด้วยหรือไม่ แต่ผมคิดว่า
ผมต้องทำครับ ขณะนี้ผมกำลังกำลังเดินทางไปปัตตานี กลับไปกรุงเทพฯ
เมื่อไหร่คงต้องไปดำเนินการเรื่องนี้ครับ ปล่อยไว้ไม่ได้ ขืนปล่อยไว้สังคมมุสลิม
ต้องแตกแยกแน่ครับ” นายมุขกล่าว
นายศิริศักดิ์ บินตรี สัปบุรุษ มัสยิดบ้านครัวเหนือ กรุงเทพฯ
ได้แสดงความเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า... “คุณสมัย เจริญช่าง
และคุณนาตยา เบญจศิริกุล ตลอดจนคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพฯ
ด่วนสรุปเกินไปไหม...กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุการณ์เกิดขึ้นแค่เพียงไม่กี่ชั่วโมง
ก็สามารถร่างคำแถลงการณ์เป็นภาษาอาหรับ แปลเป็นภาษาไทย และมีการจัดแจก
การแถลงข่าว กล่าวหา...พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลัง ประณามว่า
เป็นหัวหน้าขบวนการก่อการร้าย และทำลายศาสนาอิสลาม ไม่ทราบว่า
ในการกระทำนี้มีวาระอะไรซ่อนเร้นบ้างหรือเปล่า ตอนนี้มีคนหลายคน
กำลังท้าทายนายสมัย ว่ากล้าเอาอัล-กุรอ่านมาสาบานไหมว่าทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ไม่ได้หวังผลทางการเมือง”และว่า
“ผมไม่สบายใจเลยหลังจากที่มีการแถลงข่าวลากเอาศาสนามาเชื่อมโยงกับการเมือง
ตอนนี้สังคมมุสลิมกำลังแตกแยกกันแล้วเพราะมีการกล่าวหาว่ากลุ่มเสื้อแดง
ไปทำลายบ้านของพระผู้เป็นเจ้า ทั้งที่เรื่องจริง ซอยกิ่งเพชรนี่ เราที่ทำงานชุมชน
เราก็รู้ดีว่าเป็นซอยของกลุ่มเสื้อเหลืองกลุ่มพันธมิตร เป็นเขตอิทธิพลของ
ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ของนางนาตยา เบญจศิริวรรณ ทีนี้พอเสื้อแดง
ไปละหมาดที่นั่นก็โดนพวกเสื้อเหลืองในซอยตีหัว มันเป็นเรื่องของการทะเลาะระหว่างสี
ระหว่างกลุ่มมุสลิมสีแดง กับกลุ่มมุสลิมสีเหลือง แล้วทำไมต้องเอาศาสนามาเกี่ยวข้องด้วย
การที่พวกคุณตีหัวพี่น้องมุสลิมสีแดงที่ไปละหมาดที่สุเหร่า ทำไมคุณไม่พูดถึง อิสลามนี่
มันมี 2 มาตรฐานด้วยหรือ” นายศิริศักดิ์ กล่าว
นายศิริศักดิ์ กล่าวต่อ...“อยากจะถามนายสมัย เจริญช่าง ว่าคุณรู้ตัวหรือเปล่าว่า
กำลังทำอะไร คุณกำลังสร้างความเสียหายบนหน้าแผ่นดิน คุณได้สร้างการเผชิญหน้า
ระหว่างมุสลิมกับมุสลิม คุณกล้าสาบานโดยยกเอาอัล-กุรอานมาทูนขึ้นบนหัวเปล่า
ว่าสิ่งที่คุณทำนี่ มันทำขึ้นมาโดยความบริสุทธิ์ใจ
คุณจะเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ชอบประชาธิปัตย์ หลงใหลพรรคประชาธิปัตย์
มันก็เป็นสิทธิของคุณ แต่ขอเพียงอย่างเดียวอย่าได้ลากเอามวลมุสลิมและศาสนาอิสลาม
ไปเป็นเครื่องมือของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะมันจะสร้างความแตกแยกให้กับสังคมมุสลิม
ตอนนี้สังคมมุสลิมกำลังแตกแยกแบ่งเป็นสองฝ่ายแล้ว คุณจะรับผิดชอบอย่างไร
ในสิ่งที่คุณกระทำลงไป นายศิริศักดิ์ กล่าว - สำนักข่าวมุสลิมไทย
-----------------------------------------------
บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.