บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


18 พฤษภาคม 2552

<<< ข้อเท็จจริงเรื่องพระที่ทะเลาะกับชาวบ้านตามข่าว >>>

รูปขยายหน้าชัดๆ พระรูปนี้
รู้สึกเคยเห็นหลังเวทีเสื้อแดงนานมาแล้ว
ถ้าจำไม่ผิดเคยคุยว่าเป็นอดีตทหารมีพรรคพวกในกองทัพมากมาย
และจะเอาพระสงฆ์มาช่วยม็อบเสื้อแดงหลายพันรูปหรืออะไรเนี้ยะ
แต่ตอนหลังเปลี่ยนไปไม่รู้เพราะอะไร



















รูปที่แสดงให้เห็นว่ามีรั้วกั้นแค่ 1 ชั้นเท่านั้นไม่ใช่ 3 ชั้น















พอดีอย่างที่บอกไม่ได้สนใจกรณีพระรูปนี้
มาถึงก็กำลังจบเรื่องแล้ว
ตอนสาดน้ำไม่เห็นแต่เป็นก่อนหน้าแป๊บเดียว
สังเกตุรั้วจะมีผ้าขาวคลุมและผูกกันไว้

ส่วนอีกรูปอยู่หลังเสาไฟหลังชายใส่สูท
จะเห็นว่ามีรั้วเดียวไม่ตรงกับเนื้อข่าว
















โดย มาหาอะไร


-------------------------------------------

ข่าว: เสื้อแดงปะทะ พระสงฆ์ แย่งที่ชุมนุมหน้าสภาฯ















หน้าสภาเดือด“แดง”ซด“จีวรเหลือง” หลวงพี่“ฮาร์ดคอร์” ถอดจีวร “ท้าชกนปช.” ฉุน แย่งที่ชุมนุม สาดน้ำร้อนใส่ เปิดเสียงบทสวดมนต์กลบปราศรัย ขณะที่ม็อบ โห่ไล่ให้นิ้วกลาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.00 น. การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ที่รวมตัวชุมนุมที่หน้ารัฐสภา ยังคงมีการกระทบกระทั่งกับพระสงฆ์ตัวแทนเครือข่ายพุทธรรมแห่งประเทศไทย ที่ปักหลักเรียกร้องให้บัญญัติศาสนาพุทธให้เป็นศาสนาประจำชาติ ที่หน้ารัฐสภามาเป็นเวลายาวนานแล้ว

โดยพระสงฆ์รูปดังกล่าว ซึ่งอายุราว 40 ปี แสดงความไม่พอใจที่กลุ่มนปช.มาชุมนุมบนพื้นที่เดียวกัน ขณะที่นปช. ก็ตะโกนด่าทอกลับไปว่าเป็นพระของพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นพระเพี้ยน มีผู้ชุมนุมบางคนชูนิ้วกลางให้ ทำให้พระสงฆ์รูปดังกล่าวซึ่งฉันอาหารอยู่ลุกไปเปิดเครื่องเสียงซึ่งเป็นบท สวดมนต์ด้วยเสียงอันดังกลบเสียงปราศรัยแกนนำนปช.

ทำให้ผู้ชุมนุมโห่ร้องด้วยความไม่พอใจ พระรูปดังกล่าวก็คว้าไมค์มาพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดทำนองว่าทำไมต้องมา รังแกแค่พระรูปเดียว มายืนชี้หน้าด่าพระมันถูกต้องหรือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตอบโต้ของพระทำให้บรรยากาศเริ่มดุเดือดขึ้นมวลชนเสื้อแดงเริ่มเข้ามาล้อม กรอบรอบเต็นท์ของพระ ซึ่งมีแนวรั้วเหล็กกั้นอยู่ถึง 3 ชั้น พร้อมทั้งตะโกนด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าไปเจรจากับพระสงฆ์ให้ปิดเครื่องเสียง

ซึ่งพระรูปดังกล่าวก็ยอมปฎิบัติตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงว่าพระยอมแล้วขอให้ผู้ชุมนุม ถอยห่างจากบริเวณที่พักของพระสงฆ์ แต่ปรากฎว่าการด่าทอก็ยังมีอยู่ประปราย จังหวะนั้นเองก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

เมื่อพระสงฆ์รูปนั้นได้ไปถอดปลั๊กกระติกน้ำร้อนแล้วนำมาสาดใส่ผู้ชุมนุม ด้วยอารมณ์ที่โกรธแค้น ทำให้วงล้อมแตกผู้ชุมนุมหนีกันวุ่นวาย แต่โชคดีที่น้ำร้อนไม่ได้ถูกผู้ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง จากนั้นพระสงฆ์รูปเดิมก็ถอดจีวรออกเหลือเพียงอักษะพันร่างผืนเดียวแล้วชี้ หน้ากราดออกไปที่กลุ่มผู้ชุมนุมพร้อมกับตะโกนท้าทายให้เข้ามาชกต่อยกัน

โดยเริ่มใช้ถ้อยคำรุนแรงขึ้นอาทิ “มึงเข้ามาชกกับกูเลย กูพร้อมจะพลีร่างให้กับพระพุทธศาสนา” แต่มวลชนเสื้อแดงได้ช่วยกันห้ามปรามพวกตัวเองไม่ให้เข้าไปปะทะกับพระ เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้ภาพลักษณ์ของชาวเสื้อแดงเสียหาย

หลังจาก ที่ความชุลมุนวุ่นวายจบลงเพียงไม่กี่นาที พระสงฆ์รูปดังกล่าวก็กล่าวผ่านไมค์โครโฟนไปยังเวทีปราศรัยของนปช.ว่าขณะนี้ พระยอมทุกอย่างแล้ว แต่ทำไมยังปล่อยให้คนเสื้อแดงมาชี้หน้าด่าพระอยู่อีก ทำไมแกนนำควบคุมคนตัวเองไม่ได้

ทำให้นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำนปช.รุ่น 2 ที่ปราศรัยอยู่ขณะนั้นต้องประกาศให้ผู้ชุมนุมถอยห่างออกจากเต็นท์พระสงฆ์ ขณะเดียวกันก็ได้ประกาศบอกพระสงฆ์ว่าให้ช่วยอยู่ในอาการสำรวมด้วย เหตุการณ์จึงกลับเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง
ขณะที่ การ ประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษวันนี้ เวลา 09.30 น. มีวาระการประชุมที่น่าสนใจ คือ วาระเรื่องด่วน พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ.2509 ฉบับที่ 2 พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 ฉบับที่ 5

และ ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ขณะนี้ยังรอความชัดเจนจากนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เบื้องต้นจะขอตรวจสอบรายชื่อ

และถ้อยคำทั้งหมด ที่ฝ่ายค้านส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 วงเงิน 400,000 ล้านบาท ออกชอบตามมาตรา 184 ที่ว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนหรือไม่ ซึ่งจะแจ้งให้ที่ประชุมทราบต่อไป

ด้านหน้าอาคารรัฐสภา ขณะนี้มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 8 กองร้อย เนื่องจากมีกลุ่มนปช. เริ่มทยอยเดินทางมาชุมนุมหน้ารัฐสภา เพื่อรอสมทบกับแนวร่วมคนอื่นๆ ที่จะเดินทางมายื่นหนังสือขอให้นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับ คปพร. เข้าสู่การพิจารณา ในเวลา 10.00 น.วันนี้

ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ได้มีการนำแผงเหล็กมากั้นโดยรอบบริเวณรัฐสภา พร้อมทั้งตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ส่วนบริเวณด้านในรัฐสภาจะเป็นการตรึงกำลังของหน่วยอรินทราช และนำรถน้ำมาจอดเตรียมพร้อมอยู่บริเวณด้านในด้วย

ทั้งนี้ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมากำกับการรักษาความปลอดภัยด้วยตนเอง ก่อนหน้านี้ได้เกิดเหตุวิวาทระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเครือข่ายพุทธธรรม ที่ปักหลักอยู่บริเวณด้านหน้ารัฐสภามาก่อน เนื่องจากเครือข่ายพุทธธรรมไม่ต้องการให้กลุ่มผู้ชุมนุมแย่งพื้นที่ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าเคลียร์สถานการณ์จนกลับสู่ความเรียบร้อยแล้ว

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก คมชัดลึก

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ

http://news.mthai.com/headline-news/31021.html

------------------------------------------------------