บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


26 กรกฎาคม 2552

<<< ฉลองครบรอบ 60 ปี ทักษิณที่วัดแก้วฟ้า >>>

ปกติเสาร์อาทิตย์ไม่ค่อยชอบตื่นสาย
มักจะตื่นเที่ยงหรือไม่ก็บ่ายเลย
แต่วันนี้พิเศษหน่อยต้องรีบตื่น
ว่าแล้วตื่นแปดโมงเช้า
ออกเดินทางไปวัด
ก็ราวๆ เกือบสามโมงเช้า
กะไปวัดแก้วฟ้า
ตอนแรกจะไปกับพี่อีกคน
แต่พี่คนนั้นเปลี่ยนใจไปอีกวัด
ไอ้เราก็อยากจะไปวัดนี้
ก็เลยชวนพี่ที่คอนโดไปแทน
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าวัดนี้อยู่ตรงไหนเหมือนกัน
วันไปยังมีหลงเกือบจะได้ขับวนไปมา
ดีแต่ว่ามีคนหลงทั้งรถตุ๊กๆ และ รถมอเตอร์ไซด์
ซึ่งก็จะไปงานเดียวกัน
เลยได้คนนำทางพาไปจนถึงปากซอยเข้าวัด
ซึ่งรถก็เริ่มติดเหมือนช่วงมีงานที่วัดสวนแก้ว
แถมรถเราก็เริ่มเกเร
ขับอยู่ดีๆ เกิดเบาดับซะยังงั้น
คันหลังขับตามมาเกือบชนเอา
ซึ่งทางก็ค่อนข้างแคบ
แค่สองเลนพอสวนกันได้
แต่ก็มีรถจอดข้างทางจำนวนมาก
ขากลับเห็นทั้งสองข้างทางเลย
ทำให้รถติดเพราะรถสวนกันไม่ได้เป็นช่วงๆ



















เราก็หาที่จอด
หลังพาเจ้ามดแดงรถยนต์คันโปรด
(ที่ซื้อมาแสนกว่าซ่อมไปสามแสนแล้วมั้ง
เรียกว่าซ่อมมาแล้วทุกระบบ
ซ่อมแล้วซ่อมอีกจนน่าเบื่อ)
คลานมาจนถึงทางเข้าหมู่บ้านเล็กๆ
ก็เลี้ยวจอดแล้วเดินเอาดีกว่าเร็วดี
แล้วก็เร็วจริงๆ ด้วย
เดินแซงรถทุกคัน
ที่เคยเห็นแซงเรามาได้หมด
แต่เดินหลายกิโลอยู่เหมือนกัน
เดินเรื่อยๆ ก็มาเจอรถสองแถว
ที่ไปส่งใกล้ๆ วัดฟรี
ขากลับเดินออกมาเพราะรอไม่ไหว
พบว่าไม่ไกลเท่าไหร่
เดินกินขนมออกมายังไม่ทันหมดก็ถึงแล้ว



















รถสองแถวมาส่งถึงหน้าวัด
ก็ผ่านจุดตรวจแบบนี้



















นี่คือโบส์ถเก่าแก่มากๆ
ตั้งแต่ยุคต้นๆ สมัยอยุธยาเลยทีเดียว
อยู่บริเวณปากทางหน้าวัด
























เดินไปเจอเขากำลังทำพิธีอะไรกันอยู่



















สินค้าใหม่พึ่งเห็น
หน้ากากเจ้าของวันเกิด
ประมาณอันละ 30 บาืท



















ด้านหน้าโบส์ถใหม่ที่ดูเหมือนยังสร้างไม่เสร็จ
























พิธีแก้กรรมให้ทักษิณ
























อดีตนายกสมชาย มาเป็นประธานในพิธี
พร้อมเจ้แดง เยาวภา
ศรีภรรยา น้องสาวทักษิณ



















ส่วนทักษิณก็อยู่ในจอทีวีแบบนี้



















บริเวณด้านหน้าเวทีช่วงแรกๆ



















ภาพ เก่ง สกายคิก
จอมกระโดดถีบ จากทุ่งดอนเมือง
ล่าสุดเห็นท้าเทพไทดวลตัวต่อตัว



















หันไปด้านหลังเจอลุงคนนี้
กำลังร่วมทำพิธีอย่างจริงจังทีเดียว
























ในผ้าคลุมสีดำเป็นอะไรน่ะ
ตอนแรกนึกว่าจะเป็นหุ่นขี้ผึ้งเสียอีก
เปิดออกมาเป็นรูปภาพทักษิณท่ายืน



















สื่อมวลชนรุมล้อมถ่ายภาพ



















นักข่าวเยอะเข้าไม่ติด
อาศัยดูผ่านทีวีเแบบนี้



















ผู้คนที่มาร่วมพิธีในวันนี้
เยอะพอสมควร




















นี่มุมจากด้านหลัง ด้านหลังนี้ยังมีอีกเต้นท์



















อีกมุมหนึ่งจากด้านหลังของอีกฝั่ง



















ภาพผู้คนบริเวณข้างโบสถ์ใหม่ด้านหนึ่ง



















อีกด้านหนึ่งเป็นแบบนี้
























ภาพด้านหลังโบสถ์ใหม่ที่ยังสร้างไม่เสร็จ
หรือด้านหน้าของบริเวณทำพิธีในวันนี้
























สงสัยยังขาดทุนทรัพย์บางส่วน
ผู้มีจิตศรัทธาสามารถมาร่วมทำบุญต่อเติมให้เสร็จได้



















วันนี้เป็นวันสมานฉันท์สำหรับสีเหลืองกับสีแดงโดยแท้



















มุมจากบนเวทีด้านข้างๆ มองลงไปยังด้านหน้าเวที



















เจ๊แดง เยาวภา น้องสาวทักษิณ
กับอดีตนายก สมชาย (หันหลังให้)
ทักทายกับประชาชนที่เข้ามาพูดคุย
ขณะกำลังขึ้นมาทำพิธีบนเวที



















งานนี้มีพิธีแก้เคล็ดโดยเริ่มจากทำบาตรคว่ำแบบนี้
เสมือนว่ากำลังโดนใครทำการคว่ำบาตรทักษิณอยู่
























ก็มีการสวดแก้เคล็ด แล้วทำการหงายบาตรแบบนี้
























อดีตนายกสมชาย กำลังร่วมทำพิธีใส่บาตรหรือยังไงเนี้ยะ



















ถอยออกมาไกลๆ จะเห็นกองทัพนักข่าวมุงแบบนี้
ซึ่งก็มาถ่ายกันเยอะแยะ
แต่ไม่รู้ว่าไปรายงานข่าวบ้างรึเปล่า

มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งตอนเรามาช่วงแรกๆ
เห็นนักข่าวก็โวยวายเสียงดัง
ทำนองที่เราว่าไว้เมื่อกี้ว่า
มาถ่ายกันเยอะแยะไม่เห็นออกข่าวเลย
อะไรพวกนี้ และส่งเสียงดังลั่น

อยู่แถวๆ ด้านหลังประธานในพิธีอดีตนายกสมชาย
อยู่เยื้องๆ ไปหน่อย
หนึ่ง
พอดีเราเดินถ่ายรูปอยู่แถวนั้น
เลยช่วยห้าม และขอร้องว่า
วันนี้งานบุญ พี่ปล่อยๆ เขาไปเหอะ
อะไรประมาณนั้น

เพื่อให้แกหยุด
ดูๆ แล้วหลายคนยังแรงไม่หยุดจริงๆ

โดยเฉพาะผู้หญิงเจอมาหลายทีแล้วแรงดีจริงๆ
บางคนเห็นเรียบร้อยเงียบๆ ไม่ค่อยพูด
แต่ถ้าพูดออกมาทีทำเอาสะดุ้งเลยก็มี



















สาววัยรุ่นจากหน่วยพยาบาล Fared
กำลังเดินแจกยาดมอย่างแข็งขัน
ที่จริงมีหลายคนบางคนก็ไม่ชอบถ่ายรูป
เลยต้องขออนุญาติเป็นคนๆ ไป



















นี่เป็นต้นระกำที่เอามาประกอบพิธี
เราเองก็ไม่เคยเห็นของจริง
เคยเห็นในรูปและรู้ว่าทำไมถึงชื่อระกำ
เราว่าคงเป็นเพราะว่า
ทั้งคนปลูก คนขาย และคนซื้อ
ล้วนแล้วแต่มีสิทธิทนทุกข์ระกำ
จากหนามของต้นหรือผลของมันตำ
ด้วยกันถ้วนหน้าไม่มากก็น้อย
คาดว่าคงมีการเปลี่ยนชื่อเป็นชื่ออื่นเร็วๆ นี้
เหมือนกรณี แห้ว ก็เปลี่ยนเป็น สมหวัง
ต้นลั่นทม ก็เปลี่ยนเป็น ต้นลีลาวดี
ล่าสุดนี้ ตัวเหี้ย ก็เปลี่ยนเป็น วรนุช
กลยุทธ์เปลี่ยนชื่อนี้
ได้ยินครั้งแรกก็คงสมัยเสนาะ
เปลี่ยนชื่อ ยาม้า มาเป็น ยาบ้า เหมือนทุกวันนี้
ทำให้ไม่มียาม้าในประเทศไทยอีกเลย
นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา

ส่วนยาบ้าก็กำลังกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง
หลังทักษิณโดนปล้นตำแหน่งนายกไป



















ผ้าปิดจมูกรุ่นใหม่ของคนเสื้อแดง
แจกฟรี

แต่มาไม่ทันได้รับแจก
หรือไม่รู้ว่าแจกกันตรงไหน
























เห็นแววนักรบประชาธิปไตยในอนาคตตั้งแต่ยังเด็ก
แต่ไม่อยากให้เด็กรุ่นนี้ต้องมาลำบาก
ในการออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยอีกเลย
อยากให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงเสียที
ตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่นี่แหล่ะ
























กำลังมีการถ่ายทอดสดทางแคมฟรอก
ด้วยทีมงานหมุ่นสาวไฟแรงของราชดำเนินห้องกบ



















พระกำลังรดน้ำมนต์



















เห็นมีการเคลื่อนไหวของนักข่าวและผู้คนไกลๆ
เขากำลังไปทำอะไรกันเดี๋ยวตามไปดูก่อน



















มีการปล่อยโคและให้กินหญ้าด้วย
แต่เจ้าโคตัวที่เห็นรู้สึกมันตื่นคน
ตอนแรกชาวบ้านแถวนั้นบอกตัวนี้มันดูตื่นๆ ให้ระวัง
ไอ้เราก็ไม่เคยเห็นวัวตื่นคนมันเป็นยังไง



















งานนี้เลยได้เห็นเลย
มีหลายตัวแต่ตัวนี้ออกอาการตื่นมากที่สุด
พยายามวิ่งหนีหาทางออก
แต่วิ่งไปวิ่งมาเจอแต่คนเสื้อแดง
ก็เลยวิ่งหาทางออกวุ่นไปหมด
แล้วมีฝรั่งที่เป็นนักข่าวอยู่ใกล้ๆ
สงสัยไม่คุ้นหน้า
เพราะว่าหน้าไม่เหมือนคนไทย
พี่แกวิ่งไล่ฝรั่งคนนี้
จนหนีแบบไม่คิดชีวิต
พอดียืนลุ้นอยู่ใกล้ๆ
เลยลืมเก็บภาพตอนนั้นไว้
ที่ลุ้นนี่ ลุ้นว่าจะโดนมันขวิดด้วยเปล่า
เพราะเราก็ยืนใกล้ฝรั่งคนนั้นระยะ 3-4 ก้าว
แต่เห็นตัวมันไม่ใหญ่
และเขามันไม่แหลมก็คงไม่อันตรายเท่าไหร่
ถ้าเขามันแหลมและคึกแบบนี้
คงวิ่งเผ่นแนบเป็นคนแรกๆ แล้วเหมือนกัน
แล้วมันก็วิ่งไปยังบริเวณพิธีที่มีคนอยู่เยอะๆ
โชคดีที่พวกเรามีคนจับวัวเป็น
สักพักพี่คนหนึ่งก็ไปจับมันออกมาได้
ก่อนที่มันจะวิ่งเข้าไปทั่วงาน
ซึ่งต้องคนจับเป็นด้วยถึงจะจับได้ง่ายๆ แบบนั้น
งานนี้เกือบจะเป็นข่าวเซอร์ไพรส์หน้าหนึ่งซะแล้ว
ตอนหลังเราเข้าไปบอกผรั่งคนนั้น
และพยายามอธิบายทำนองว่า It 's exciting.
มันกำลังตื่นคน ไม่รู้ถูกเปล่า
ปรากฏว่าแกตอบกลับมาเป็นภาษาไทยคล่องเชียว
แต่น้ำเสียงกำลังตกใจตื่นเต้นสุดขีด
เหมือนกำลังกลัวมากๆ
เพราะเราเห็นพี่แกพยายามโดดข้ามเก้าอี้
เพื่อหลบเจ้าวัวตัวนี้ที่กำลังวิ่งเข้าหาแก
และเราก็ยืนอยู่ตรงหน้าแกพอดี
โชคดีว่าวัวมันหันหน้าเปลี่ยนทิศไปก่อน
เกือบได้ทำข่าวตัวเองซะแล้ว อิอิ



















มันทำท่าจะมาอีกแล้ว ฝน
แต่แปลกไม่ยักตก
หรือตกหลังเรากลับแล้วก็ไม่รู้



















หลังพิธีทางสงฆ์เสร็จ
คราวนี้เป็นพิธีทางฆราวาสบ้าง
เริ่มมีไฮปาร์ก
และมีการทักทายปราศรัยเล็กๆ น้อยๆ
ทั้งอดีตนายกสมชาย และเจ๊แดง เยาวภา



















สักพักเจ้าของวันเกิดก็มาปรากฏตัวอีกครั้ง



















ผู้คนเริ่มส่งเสียงและตั้งใจฟัง



















อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเพลง
ที่ทราบชื่อภายหลังว่า ฉันจะกลับมา
ตอนแรกๆ ยังนึกว่า
มีการเปิดเพลงระหว่างรอทักษิณพูด

ฟังไปฟังมา เสียงไม่ใช่นักร้องอาชีพร้องนี่หว่า
ถึงบางอ้อว่าทักษิณร้องเพลงให้ฟังแน่ๆ
แต่ก็ปาเข้าไปกลางๆ เพลงแล้ว
เนื้อเพลงก็มีประมาณนี้
























นี่อีกเพลงยังไม่ได้ฟังรีบกลับก่อน
เพราะฝนตั้งเค้า
และกลัวรถติดเวลาคนออกพร้อมกัน

เดี๋ยวจะกลับมาเตรียมตัวไม่ทันไปอีกงาน
แถมพี่ที่มาด้วย
ไปรอที่รถนานแล้วตั้งแต่พระสวดเสร็จ
เพราะไม่รู้ว่ากำหนดการเป็นยังไง
หลายคนกลับไปช่วงนั้น
ที่จริงทุกงาน
พิธีกรควรบอกกำหนดการคร่าวๆ
ให้ผู้มาร่วมงานฟังสักครั้งสองครั้ง
ไม่เช่นนั้นเขาจะนึกว่า
งานจบแล้วไม่มีรายการอะไรอีกแล้ว
























เพลงฉันจะกลับมา
เนื้อร้องและน้ำเสียงของคนร้อง

พูดกันตรงๆ เราว่า ไม่เท่าไหร่
แต่เพราะว่าคนร้อง
ร้องจากใจ ผสมอารมณ์เข้าไป

ทำให้น้ำเสียงสั่นเครือบางช่วง
เล่นเอาคนฟังน้ำตาเริ่มคลอเป้ากันหมด
ไม่ว่าหญิงหรือชาย ไม่เว้นแม้แต่เรา
นี่ถ้าร้องกันจบทั้ง 3-4 เพลงรวด
บรรยากาศคงสะเทือนอารมณ์มากกว่านี้
เพราะกำลังอินกันเลยทีเดียว
พอดีหยุดเพลงแรกนาน
และมีการพูดปราศรัยขัดจังหวะ
ทำให้อารมณ์ไม่ต่อเนื่อง
ไม่งั้นน้ำตานองวัดแน่ๆ
อันที่จริงไม่จำเป็นต้องให้ผู้ฟังหัดร้อง
เพราะว่ามันจะไม่ได้อารมณ์
เหมือนที่ผู้โดนกระทำร้องออกมาจากใจเอง



















เราพยายามหามุมถ่าย
แต่กล้องเราซูมไม่ได้ดีเหมือนกล้องมืออาชีพ
ก็เลยจับภาพได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ต้องไปถ่ายใกล้ๆ ในจังหวะที่เขาไม่รู้ตัว
ถ้ารู้ตัวก็ไม่ได้อารมณ์ธรรมชาติ
ก็พยายามแอบถ่ายมา
เลยไม่ค่อยเห็นด้านหน้าตรงๆ



















รูปสุดท้ายนี้คงบอกอารมณ์ได้ดีที่สุด
และหวังว่าคนที่เขารอคอย
จะได้มีโอกาสกลับมา อีกครั้ง



















โดย มาหาอะไร