ถ้าเป็นหลักสูตรปกติ
เมื่อสอบผ่านชั้น ป.1 แล้ว
ก็จะได้ไปเรียนชั้น ป.2 โดยอัตโนมัติ
แต่ถ้าเรียนด้วยตนเอง
วิธีการจะรู้ว่าสอบผ่านชั้น ป.1 หรือยัง
ก็ต้องดูว่าตนเองเริ่มเบื่อที่จะเรียนชั้น ป.1 หรือยัง
เพราะว่าไม่มีอะไรจะเรียนอีกแล้วสำหรับ ป.1
ก็ควรยกระดับตนเองไปเรียน ป. 2 ต่อไป
ไม่งั้นเรียนซ้ำชั้นบ่อยๆ ซ้ำๆ ซากๆ
จะเกิดความเบื่อหน่ายและเซ็งได้
ส่วนครูผู้สอน ป.1
ก็ควรรับเด็กใหม่หรือหาเด็กใหม่มาสอนความรู้ ป.1 ต่อไป
ไม่ควรกั๊กเด็กไว้ โดยไม่ยอมให้ไปต่อชั้น ป.2
หรือไม่ส่งเสริมหรือไม่สนับสนุนให้เด็กไปเรียนต่อชั้นสูงขึ้นไป
เพราะกลัวว่าจะไม่มีเด็กนั่งเรียนในชั้น
อันที่จริงถ้ามีกิจกรรมอะไร
เด็กทุกชั้นก็ไปร่วมด้วยช่วยกันอยู่แล้ว
ไม่น่าจะต้องกังวลอะไร
แต่ความรู้ที่ลึกขึ้นไป
เป็นสิ่งจำเป็นที่จะให้เขารู้
การที่ครู ป.1 ไปหาเด็กมาเรียน ป.1 มากๆ
แล้วเมื่อผ่านหลักสูตรส่งต่อไปเรียน ป.2 เรื่อยๆ
ก็จะมีเด็กที่เรียนสูงขึ้นเรื่อยๆ มากขึ้น
อาจมีหลักสูตร ป.3 และ ป.สูงๆ ขึ้นไปได้
โดยครูก็สามารถสอนเด็กป.1 ก็ได้
มาช่วยสอนเด็ก ป.2 ก็ได้
หรือไปเปิดหลักสูตร ป.3 ก็ได้
ช่วงนี้เป็นช่วงขยายการศึกษา
เพื่อให้มีเด็กมาเรียนเพิ่มมากขึ้น
ไม่ควรให้เด็ก ป.1 ไปลุยอะไรก่อน
เพราะจะทำให้มีเด็กน้อยลง
หรือต้องมาเริ่มต้นสร้างความน่าเชื่อถือของโรงเรียน
กับผู้ปกครองใหม่อีก
เพราะเล่นพาลูกเขาไปลุยโดยที่ยังไม่พร้อม
ต่อไปก็ไม่มีใครกล้าส่งลูกมาเรียนอีก
หรือกล้าส่งมาแต่มีไม่เยอะมากขึ้นเท่าไหร่
เพราะทำชื่อเสียงไว้ไม่ดี
แถมจะไม่มีเด็กที่จะต้องไปเรียนต่อสูงๆ อีก
การเรียนต่อสูงๆ จะทำให้คนมีคุณภาพมากขึ้น
และรู้อะไรมากขึ้นด้วย
เหมือนต้นไม้ที่พึ่งปลูกยังไม่โต
อยากให้โตไวไวแทนที่จะรดน้ำใส่ปุ๋ยไปเรื่อยๆ
กับไปดึงมันเพื่อหวังให้มันยืดตัว จะได้โตไวๆ
แต่ดูแล้วจะล้มตายกันหมดก่อนที่จะโต
โดย มาหาอะไร
บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.