บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


17 กันยายน 2553

<<< ประชาธิปไตยที่แท้จริงและสมบูรณ์มากๆ ถ้าหากแตกตัวจนเหลือ 1 คน ต่อ 1 กลุ่ม >>>

โดยธรรมชาติของนักประชาธิปไตย
จะแตกตัวจนกลายเป็นสารพัดกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย
ทำงานเฉพาะกลุ่มคนที่เข้ากันได้
แต่ที่จริงถ้าจะให้สมบูรณ์ที่สุดคือ
กลุ่มละ 1 คน
แตกตัวได้แบบนี้เมื่อไหร่
คุมกันยากมากๆ
และนี่แหล่ะคือสิ่งที่ดี
เพราะคุมกันง่ายๆ
พวกที่ชอบสั่งซ้ายหันขวาหัน จะชอบใจ
พวกที่ถูกสั่งสอนอบรมมา
ในระบบประเพณีเก่าๆ อาจจะชอบ
แต่ไม่มีประโยชน์ในระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
สมบูรณ์สุดขีดคือ กลุ่มละ 1 คน
คือมีแค่คนเดียว ทำงานได้
สั่งการตนเองไปร่วมงานนั้นงานนี้ได้
โดยไม่ต้องมีกลุ่มตายตัวมาบังคับ
ถ้ามีกลุ่มตายตัวมาบังคับ
เช่น คุณสังกัดกลุ่ม A
พอพวกกลุ่ม B จัดงาน
ก็ไม่คิดจะไปเพราะถือว่าคนละกลุ่ม
ทั้งๆ ที่ งานที่กลุ่ม B จัด
มีเป้าหมายแนวทางคล้ายกันเลย
ซึ่งถ้าคนที่มีกลุ่มแค่คนเดียวหรือตนเอง
สามารถไปงานนั้นงานนี้
โดยไม่ต้องสนใจว่าใครจะจัด
สนใจแต่ว่า งานนั้นมีเป้าหมายเดียวกันไหม
ดีกว่าเป็นแฟนคลับกลุ่มนี้
พวกอื่นจัดฉันไม่ไป หรือคนในกลุ่มบอกไม่ไป
ก็ไม่ไป ทั้งๆ ที่ใจต้องการจะไป
การจะเป็นเสรีชนได้
อย่าไปยึดพรรคยึดพวกมาก
แต่ไม่ใช่ไม่ให้ยึด
ยึดได้แต่อย่าแน่น
จนไม่ไปสังสรรกับกลุ่มอื่นๆ หรืองานกลุ่มอื่น
เพราะมันไม่ใช่แนวทางเสรีชนคนทำอะไรได้อิสระ
เพราะยังต้องรอคำสั่ง ยังต้องรอมติ ยังต้องรอนั่นนี่

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพหน่อย
สมมุติฝ่ายรัฐบาลส่งคนมาร่วมกลุ่มมากกว่าพวกอื่น
หรือระดับแกนนำเป็นคนของรัฐบาลส่งมาควบคุมมวลชน
เขาลงมติไม่ไปร่วมงานที่จะไล่รัฐบาล
ทุกคนก็ทำตามเพราะสังกัดกลุ่ม
ทั้งๆ ที่ใจอยากไปร่วมไล่ใจจะขาด
กับอีกแบบคือไปร่วมกลุ่มนี้ด้วยเหมือนกัน
แต่กลุ่มนี้เขาบอกไม่ไป แต่เราวิเคราะห์แล้ว
หรือว่าใจมันบอกว่า
ทนไม่ไหวต้องไปร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มนั้น
เราก็ตัดสินใจได้เลยเพราะเรามีแค่คนเดียว
วิเคราะห์ได้เอง ใช้ใจตัดสินใจเดินทางไปเอง
ไม่จำเป็นต้องรอให้คนนั้นคนนี้สั่งให้ไปถึงไปกันได้

หรือเมื่อถึงวันที่ได้ประชาธิปไตยเต็มใบ
รัฐบาลที่เราเลือกที่เราเชียร์
อาจออกนโยบายที่เราเห็นว่าไม่ดี
เราสามารถคัดค้านได้ถ้าเราเป็นเสรีชน
แต่ถ้าเรายึดหลักเล่นพรรคเล่นพวก
เราก็จะแกล้งทำเป็นไม่เห็น
หรือออกมาช่วยแถหน้าเป็นไปเลยก็ได้
มันไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริงสมบูรณ์เท่าไหร่
ประชาธิปไตยที่แท้จริงสมบูรณ์ได้จริงๆ
ภาคประชาชนต้องแข็งแรงสุดๆ
เพื่อคอยควบคุมรัฐบาลให้อยู่ในร่องในรอย
โดยแต่ละคนจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจทางการเมือง
และตัดสินใจออกมาร่วมเคลื่อนไหวได้ทันที
ถ้าเห็นว่าทนไม่ไหว เรื่องนั้นเรื่องนี้ไร้ความเป็นธรรม
หรือประชาธิปไตยถูกปล้นไป
ออกมาได้เลยไม่ต้องรอให้ใครสั่ง
เหมือนครั้งแรกที่ผมไปสนามหลวง วันที่ 10 ธันวาคม 2549
ถือเป็นวันที่วุ่นวายที่สุด แต่ผมชอบที่สุด

ในวันนั้นที่ผมไปร่วมม็อบต่อต้านรัฐบาลครั้งแรก
เป็นรัฐบาลของพวก คมช. เสียด้วย
พบว่ามีผู้คนเดินทางมาที่สนามหลวง
ต่างมากันเอง คนเดียวบ้าง สองสามคนบ้าง
มากันทั้งครอบครัวบ้าง
ไปถึงเห็นเวทีตั้งอยู่รอบสนามหลวง
เป็นเวทีเล็กๆ เครื่องเสียงพอฟังได้
ยกเว้นฝั่งที่พวก คมช. จัดมา
เครื่องเสียง เวที เหมือนยกมาจากเวทีพันธมิตรยังไงยังงั้น
มาเรียกร้องเรื่องของนักศึกษาแต่หน้าตาแต่ละคนเกิน 30
แถมปราศรัยด่าพวกที่มาร่วมกันต่อต้าน คมช.
และยกหาง คมช. แต่มีหน้าม้ามาฟังไม่กี่สิบคน
แต่เครื่องเสียงดังสุดกระหึ่มไปทั่วสนามหลวง
นอกนั้นอีก 3-4 กลุ่มย่อย
ผู้คนก็เดินไปฟังกลุ่มนั้นทีกลุ่มนี้ที
สุดท้ายสู้ๆ กันไปหลายๆ ครั้ง
ก็ยุบรวมกันที่ละกลุ่มสองกลุ่ม
จนสุดท้ายกลายมาเป็นเสื้อแดงกันหมดในวันนี้
แต่ในเสื้อแดงก็มีสารพัดกลุ่มย่อยเหมือนเดิม
เรียกว่าการแยกตัวแตกตัวไม่ใช่เรื่องใหญ่
ถ้ายังถือฝ่ายประชาธิปไตยอยู่
ยกเว้นพวกฝ่ายเผด็จการแล้วมาอาศัยมั่วว่า
เป็นพวกประชาธิปไตย
แบบนี้แตกตัวไปก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี
ดีกว่ามารวมกันจนทำให้กลุ่มอื่นเพี้ยนตามไปด้วย

สิ่งที่ชอบผู้คนที่ไปวันที่ 10 ธันวาคม ปีนั้น
เพราะยังไม่มีแกนนำที่แท้จริงเลย
มีแต่กลุ่มเล็กกลุ่มน้อย
การประชาสัมพันธ์ที่ถูกปิดกั้นยิ่งกว่านี้
เขายังพาใจเสี่ยงตายไปกัน
โดยไม่จำเป็นต้องรอว่า
มีใครเป็นแกนนำ ดังไหม น่าสนใจไหม ถึงจะไปได้
นี่คือเสรีชนแล้วหล่ะ
และอยากให้มีแบบนี้มากๆ
ไม่อยากให้ยึดแบบเล่นพรรคเล่นพวกกันให้มาก
ยึดพอหลวมๆ แต่พร้อมร่วมกับทุกกลุ่ม
ที่ดำเนินการตามที่เราเห็นชอบและอนุมัติไม่ต้องรอใครอนุมัติ
ถ้าเป็นเสรีชนกันเยอะแยะแบบนี้สักหลายหมื่นหลายแสนคน
คุณลองคิดดูว่าใครจะกล้ามาทำรัฐปะรหาร
ใครจะกล้ามาเป็นรัฐบาลทำตัวไม่เห็นหัวคนแบบนี้
และจะหาเรื่องจัดการยังไงแกนนำก็ไม่รู้ใคร
ไม่มีแกนนำมันก็ไปกันเองได้
จะทำให้แตกแยกยังไง
ในเมื่อมันแตกจนเป็น 1 ต่อ 1 แล้ว
ละเอียดย่อยเล็กสุดๆ แล้ว
แตกไม่ได้อีกแล้ว จะใช้แผนทำให้แตกแยกทำไม่ได้
ยกเว้นปั่นหัวเล่น
แต่ถ้าคนเป็นเสรีชนจริง มีอุดมการณ์จริง
ถูกฝึกมาให้คิดและวิเคราะห์ได้เอง
ไม่จำเป็นต้องรอให้ใครมาวิเคราะห์ให้ฟัง
ช่วงแรกๆ อาจต้องมีบ้างที่ต้องฝึกฟังฝึกอ่านการวิเคราะห์
โดยตั้งใจว่าเราจะวิเคราะห์เองได้สักวันหนึ่ง
เขาจะเลือกข้างถูกเสมอ ไม่ว่าใครจะมาปั่นหัวยังไง
สุดท้ายเขาจะเลือกข้างฝ่ายประชาธิปไตยแน่นอน

ยกเว้นพวกฝ่ายตรงข้ามแฝงตัวมา
ถึงจะไปเลือกเข้าทางฝ่ายตรงข้าม
กับไม่เท่าทันเกมการเมือง
พวกหลังนี่แยกออกจากพวกแรกง่าย
ดูจากการอธิบายเหตุผลแย้ง
ถ้าเขารู้ทันเกมแล้ว
เขาจะตัดสินใจเลือกข้างถูก
ไม่เหมือนพวกแรก
ยังไง
กูก็จะหาเรื่องทำให้เข้าทางฝ่ายเผด็จการ


แถมอีกเรื่องหนึ่งคือ
ในฝ่ายประชาธิปไตย อาจมีบางคน
ชอบแนวนโยบายประชานิยม สังคมนิยม เสรีนิยมอะไร
ก็เป็นเรื่องปกติ ให้ประชาชนส่วนใหญ่ตัดสิน
ณ สถานการณ์หนึ่งๆ เขาอาจเลือกพรรคที่มีนโยบายทุนนิยม
ณ สถานการณ์หนึ่งเขาอาจเลือกนโยบายพวกสังคมนิยม
ถือเป็นอำนาจตัดสินใจของประชาชนส่วนใหญ่ ณ ช่วงเวลานั้นๆ
แต่ประเภทต้องทุนนิยมเท่านั้น สังคมนิยมเท่านั้นประเทศนี้
ห้ามเลือกพวกอื่นอะไรแบบนี้มันไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง
จะเห็นได้ว่าประชาธิปไตยที่แท้จริงคุมทุกกลุ่มแนวคิดทางการเมือง
เปิดกว้างเสรีขึ้นอยู่กับความสามารถในการไปหาเสียง
หาความนิยมกับประชาชน ของแต่ละพรรคแต่ละกลุ่มเอง

ดังนั้นแนวทางที่จะต่อสู้กับการปั่นหัว
ควบคุมแกนนำอะไรพวกนี้
คือทำให้ทุกคนเป็นเสรีชนโดยสมบูรณ์
สามารถรู้ทันเกม วิเคราะห์เองเป็น
และไม่ยึดติดพรรคพวกตายตัว
พร้อมเคลื่อนไหวได้ด้วยตนเองแม้คนเดียวก็ตาม
ทำให้มีคนแบบนี้เยอะๆ
ใครรู้อะไรก็มาให้ความรู้แชร์กัน
เพื่อให้เขาหัดวิเคราะห์ได้เอง และรู้ทันเกมต่างๆ มากขึ้น
นี่แหล่ะ คือวิธีการต่อต้านการควบคุมแกนนำ
หรือปั่นหัวมวลชนได้สำเร็จ
โดยเฉพาะอุดมการณ์ประชาธิปไตยต้องทำให้เขายึดไว้ให้ได้
เพราะถ้าเขามีหลักยึดเรื่องประชาธิปไตย
วันที่เขาต้องเลือกข้างไม่ว่าเหตุการณ์อะไร
เขาจะเลือกข้างถูก เขาจะเลือกข้างประชาธิปไตย ไปในแนวเดียวกัน

ประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องการกลัวแตกแยก กลัวการทะเลาะโต้เถียงกัน
เพราะสิ่งที่กลัวมันคือรากฐานสำคัญของระบอบประชาธิปไตย
ที่ต้องมีการอภิปรายโต้เถียงกันเพื่อให้ได้แนวคิดที่ดี
ไม่ใช่ทุบโต๊ะชี้นิ้วสั่งไปทุกเรื่อง
และการแตกแยกทางความคิดก็เป็นเรื่องปกติ
ทำให้คนรู้จักคิดรู้จักแย้ง
ไม่ใช่ต้องการทำให้คนเป็นหุ่นยนต์เหมือนพวกเผด็จการ
ที่ห้ามแย้ง ห้ามซัก ห้ามถาม ซาบซึ้งได้อย่างเดียว อะไรแบบนั้น

โดย มาหาอะไร
FfF