บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


11 มีนาคม 2554

<<< ม็อบแนวลุกขึ้นสู้ เหมาะกับสถานการณ์ขณะนี้มากกว่า ม็อบแนวสันติอหิงสา >>>

ตั้งแต่ต้นปีมาแล้ว มีข่าวเตรียมทำรัฐประหาร
มีการสร้างสถานการณ์ก่อม็อบปลุกคนทำสงคราม
มีการให้สัมภาษณ์หรือโหรทำนายชี้นำเรื่องการทำรัฐประหาร
มีการเตรียมความพร้อมรอแค่คนส่งซิกก็จะทำ
และล่าสุดมีสถานการณ์ความรุนแรงทางภาคใต้
คล้ายกับก่อนเกิดรัฐประหาร 19 กันยา
ไม่รวมถึงสถานการณ์ไม่ปกติ
ในการทำให้เกิดสภาวะขาดแคลนสินค้าหลายๆ อย่าง
เรื่องหลังนี่อาจเป็นพวกนักการเมืองบริหารห่วยแตกด้วย
แต่สถานการณ์เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เชื้อเชิญอำนาจนอกระบบออกมา
และล่าสุดก็มีการปล่อยข่าวจะมีการรัฐประหารอีก
แต่คงไม่มีวันที่ 12 นี้เหมือนข่าวลือที่เราได้ยินมา
เพราะไม่มีใครบ้ามาทำรัฐประหารช่วงเขาก่อม็อบเตรียมพร้อมแบบนี้
ถ้าจะทำก็คงเป็นช่วงที่ไม่มีม็อบใหญ่ออกมา
อาจเป็นการลือไปยังงั้นหรือมีลับลวงพลางเพื่อผลอย่างอื่นมากกว่า

เมื่อมีลางบอกเหตุเช่นนี้
ว่าอาจมีการเกิดรัฐประหารขึ้นได้อีกในไม่ช้า
รอแค่โอกาสดีๆ มีคนส่งซิกเขาก็ทำให้ได้ทันที
ประกอบกับการโดนสลายการชุมนุม
ด้วยการปราบปรามอย่างโหดเหี้ยม 2 ปีติดต่อกัน
แค่นี้ยังไม่พออีกหรือที่จะเร่งทำม็อบลุกขึ้นสู้
เพื่อสู้กับศึกรัฐประหารหรือศึกการปราบปรามสลายม็อบ

แนวทางสันติอหิงสา ต่อให้เป็นลักษณะลิงหลอกเจ้ายังไง
แต่มวลชนทั่วไปก็หลงเชื่อว่าแนวนี้ดีจริงๆ
จะทำให้มีมวลชนเพิ่มและล่าสุด
กำลังจะทำให้มวลชนเป็นหัวคะแนนด้วย
ทั้งๆ ที่ชอบบอกว่า จะสู้แนว 2 ขา คือในสภากับนอกสภา
แต่พฤติกรรมจะพากันไปสู้ในสภากันหมดแล้ว
ส่วนอีกขาที่จะเอาไว้สู้กับการทำรัฐประหาร
และการสลายม็อบอย่างโหดเหี้ยมนอกสภา
ไม่มีการเตรียมพร้อมใดๆ ให้มวลชนลุกขึ้นสู้ เมื่อถึงเวลานั้น

มีการสร้างกระแสว่าแนวสันติอหิงสา
เป็นแนวทางที่ถูกต้องดีที่สุด
เป็นแนวทางที่คำนึงถึงความเป็นไปได้มากที่สุด
ลองถามคนเหล่านั้นว่า ถ้าเขาทำรัฐประหารกับส่งคนมาสลายม็อบ
แนวทางสันติอหิงสาที่ว่าจะสู้กับพวกนี้ยังไง
เพราะเขาคงไม่ปล่อยให้คุณใช้แนวนี้หามวลชนได้เยอะหรอก
ถ้าเขาชิงลงมือทำก่อน สมมุติภายในปีนี้
แนวสันติอหิงสามีความพร้อมยังไงในการรับมือ

ผมหลับตาก็นึกสภาพออกทันทีว่า
พวกที่ชูแนวสันติอหิงสาจะมอบตัวตามเคย บางพวกก็อยู่ที่บ้าน
ส่วนมวลชนก็นั่งรอฝ่ายตรงข้ามมาสลายม็อบแบบพฤษภาทมิฬหรือสมัยอดีต
นั่งรอเขามากระทืบให้นอนแล้วควบคุมตัวไปหมด จบแบบนี้แหล่ะม็อบสันติอหิงสา
แต่งวดนี้อาจมีโหดกว่าเดิมเพราะถ้าไม่โหดกว่าเดิม ก็ไม่รู้ว่าเขาจะออกมาทำกันอีกทำไม
แล้วคิดหรือว่าเขาจะจับไปแล้วรอวันปล่อยตัวเหมือนเดิม
นอกจากคนที่เป็นพวกเขา ทำงานเข้าตาทางเขา
เช่นทำม็อบไม่ให้สามารถต่อต้านเขาได้เท่านั้นเอง
วันนั้นก็จะหูตาสว่างกันอีกรอบว่ามีใครบ้าง
งวดที่แล้วหูตาสว่างกันไปไม่กี่คน

มันเหมือนกับว่า มีข้าศึกเตรียมยกทัพมาถล่มเมืองเสื้อแดง
แทนที่แม่ทัพเมืองเสื้อแดงจะปลุกคนให้ลุกขึ้นสู้
พร้อมสู้แบบถวายชีวิตในการทำศึกกับข้าศึกที่กำลังจะยกทัพมา
ระหว่างแนวฝึกซ้อมเตรียมรับมือในการทำศึก
กับแนวทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทำเหมือนบ้านเมืองปกติ มีงานรื่นเริง
มีการโฆษณาพากันเข้าวัดฟังธรรม นั่งสมาธิเน้นสันติอหิงสากัน
ถามว่าแม่ทัพแบบไหนจะนำชัยมาให้
หรือแนวไหนจะมีโอกาสชนะมากกว่ากัน

ฟันธงได้เลยแม่ทัพแบบหลังประมาท ไม่รอบคอบ ไม่มีเหตุผล ไร้สติ
ข้าศึกเตรียมบุกกับไม่เตรียมรับมือ ถือว่ามีสติเป็นแม่ทัพที่ดีก็บ้าแล้ว
และแพ้แน่นอน ยิ่งมีแม่ทัพที่ท่องคำว่าสันติอหิงสาพาตัวรอดไปวันๆ
ยามหน้าสิ่วหน้าขวานหรือจะเกิดความรุนแรงขอหนีทัพกลับก่อน
เพื่อให้สอดคล้องกับแนวสันติอหิงสา ส่วนชาวบ้านชาวเมืองจะเป็นยังไง
ก็ดิ้รนเอาตัวรอดกันเองแล้วกัน จบเหมือนเดิมแบบนี้แหล่ะ
ฟันธงล่วงหน้าได้เลย ไม่มีแนวสันติอหิงสาที่ไหน
สามารถมารับมือเอาชนะการทำรัฐประหารหรือสลายม็อบรุนแรงไปได้หรอก

มีแต่แนวลุกขึ้นสู้เตรียมความพร้อมรอการสู้อย่างถวายชีวิตเท่านั้น
ที่ยังพอมีสิทธิ์ลุ้นว่าจะชนะหรือแพ้ได้ไม่ใช่ปิดประตูชนะ
เผลอๆ ถ้าทำได้อย่างน่าเกรงขาม ข้าศึกก็อาจไม่กล้ายกทัพมาบุกก็ได้
แต่แนวอหิงสา ข้าศึกไม่มีความเกรงกลัว
พร้อมยกทัพมาบุกทุกเวลาเมื่อมีโอกาสเหมาะๆ

ขอฟันธงเลยว่าสถานการณ์ช่วง 1-2 ปีนี้
ที่อาจมีทั้งการทำรัฐประหารและการสลายม็อบรุนแรงอีก
วิธีทำม็อบแบบพร้อมลุกขึ้นสู้เท่านั้นที่จะยันเอาอยู่และมีโอกาสได้ชัยชนะ
แต่วิธีสันติอหิงสา คือวิธีพร้อมยอมจำนน ทันทีที่เกิดเหตุการณ์ที่ว่า
ยิ่งแกนนำที่ยึดแนวนี้อย่างเหนี่ยวแน่นไม่หนีทัพเอาตัวรอดไปก่อนก็มอบตัวตามเคย
และถ้าแพ้ขึ้นมาก็ไม่ต้องไปโทษอะไรเลย
โทษการไม่กล้าสู้แต่อยากมานำของเหล่าแกนนำได้เลย
เพราะยุทธวิธี ยุทธศาสตร์ผิดชัดเจน ไม่เหมาะกับสถานการณ์ในขณะนี้เลย
ผมกล้ายืนยันแบบนี้ พร้อมโต้แย้งทุกเวทีกับแกนนำทุกคน
ในประเด็นสถานการณ์ขณะนี้ แนวอหิงสากับแนวลุกขึ้นสู้แบบไหนเหมาะกว่ากัน

การยอมจำนนให้เขายึดเมืองได้เพราะต้องการยึดหลักอหิงสา
เพื่อความเท่ห์อะไรก็แล้วแต่ หลังจากนั้นคนในเมืองนั้นจะต้องไปลุ้นเอาเองว่า
พวกมายึดเมืองมันจะปราณีขนาดไหน ถ้าเป็นสมัยก่อนตายทั้งเมืองก็เคยมีมาแล้ว
โดนเผาทิ้งทั้งเมืองก็มีมาแล้ว ถ้าสมัยปัจจุบันเรื่องม็อบ
แกนนำ แกนนอนอะไร อาจไม่มีใครกล้ามานำอีกหรือโดนอุ้มไปเก็บหมด
และมวลชนที่ไม่ได้ถูกฝึกให้พร้อมลุกขึ้นสู้ พร้อมนำตนเอง
จะยอมจำนนอยู่กับบ้านอย่างหวาดกลัวต่อไป
เพราะแสดงตัวเป็นเสื้อแดงเพื่อนบ้านรู้หมดแล้ว
เกิดสงครามกลางเมืองจริง ไม่สู้ก็โดนฝ่ายตรงข้ามเล่นอยู่แล้ว
มันเหมือนหลอกให้มวลชนออกมาร่วมสู้
แล้วคนชวนให้มาสู้ ไม่กล้าสู้ให้ถึงที่สุด
ปล่อยให้มวลชนเผชิญชะตาชิวิตกันเองในตอนจบดีๆ นี่เอง

จะมาบอกว่าถึงตอนนั้นก็ลุกขึ้นสู้สิ
แล้วถ้าคิดว่าต้องใช้แนวลุกขึ้นสู้ในบั้นปลาย
แล้วทำไมไม่ทำม็อบเตรียมความพร้อมสู้เอาไว้ก่อน
อาจข่มขวัญจนไม่เกิดการต่อสู้กันจริงๆ ก็ได้
การบอกให้มวลชนยึดแนวอหิงสาบ้าง
เป็นหัวคะแนนให้พรรคการเมืองบ้าง
วันที่ต้องลุกขึ้นสู้อยู่ๆ มาปรับแนวทาง
แล้วแกนนำโดนรวบหมด ในช่วงนั้น
นึกสภาพออกไหมว่ามันจะสู้กันไปได้ยังไง

อีกอย่างน่ะสมัยก่อนไม่มีม็อบเสื้อแดง
พวกพรรคการเมืองเขาก็หาเสียงได้อยู่แล้ว
ยังไปแย่งงานนักการเมืองมาทำอีก
แทนที่จะมาทำแนวนอกสภาให้เต็มที่
กับไปหนุนแนวในสภากันหมด
แล้วมาบอกว่าจะสู้ 2 ขา อะไร
พูดอย่างทำอีกอย่าง
ไม่ได้เตรียมความพร้อมสู้แนวนอกสภาเลยแบบนี้
มีแต่สโลแกนสวยหรู ต่อต้านรัฐประหารอะไร
แต่ใช้สันติวิธีไม่อธิบายวิธีให้มวลชนฟังให้หมดหล่ะว่า
สันติวิธีที่ว่ามันทำยังไงไปต้านรัฐประหารได้
แถมเตรียมความพร้อมสู้ในสภาเต็มที่
ฝึกมวลชนไปเป็นหัวคะแนนเต็มที่แทนที่จะสอนให้ลุกขึ้นสู้
แล้วถ้าเกิดไม่มีการเลือกตั้งโดนรัฐประหารก่อนหล่ะ
ใครจะมาลุกขึ้นสู้ให้อย่างที่หวังกัน
ไม่ใช่ประกาศว่าเกิดรัฐประหารมาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยทันที
แต่แกนนำคงโดนรวบหมดแล้วหล่ะถ้าจะเกิดรัฐประหาร
และมวลชนที่กล้ามาก็ไม่ใช่พวกยึดแนวสันติอหิงสาแน่
เพราะพวกที่ยึดแนวนี้พร้อมยอมจำนนอยู่กับบ้าน
จะโดนกวาดล้างยังไงก็ยอมเพราะไม่ชอบลุกขึ้นสู้ มันน่ากลัว
ชอบแนวสันติอหิงสาดีกว่า อะไรแบบเนี้ยะ
ไม่มีความพร้อม ไม่มีความฮึกเหิม
ถ้าสมมุติมีแกนนำฟลุ๊คมานำได้อีก
ก็คงสั่งให้นั่งลงรอโดนรวบกันเท่านั้นเอง
เขียนดักคอทำนายให้เห็นล่วงหน้าแบบนี้แหล่ะ
เดี๋ยวจะมาบอกว่าหวยออกมาบอกทีหลังก็แม่นอ่ะซิ

เมื่อวานไปม็อบแดงสยามต้าน 112
ที่อนุสาวรีย์ขาวหน้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติมา
คนประมาณเกือบพันพอคึกคักแม้ไม่เยอะ
มันเหมือนย้อนกลับไปวันเก่าๆ ที่เริ่มต่อสู้กับพวก คมช.
แต่แนวการทำม็อบก็ยังเหมือน ม็อบของ นปช. ตอนนี้ไม่มีผิด
ต่างกันแค่ข้อเรียกร้องต่างกันเท่านั้นเอง
ไม่ได้ปลุกให้เตรียมการลุกขึ้นสู้อะไรเหมือนกัน เฮ้อ
ใครอยากไปให้กำลังใจหรือแสดงออกว่าไม่เห็นด้วยกับ 112
ควรปรับปรุงยกเลิกอะไร มีทุก วันที่ 10 และ 19
ไม่ว่าจะเป็นวันราชการหรือไม่
งานเริ่ม 5โมงเย็นถึงเที่ยงคืน
แต่ปกติจะเริ่มจริงๆ ประมาณหกโมงเย็น
โดยเฉพาะวันที่ 10 ช่วงห้าโมงเย็น
มีพิธีรำลึกถึงวีรชนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
กว่าจะมาถึงที่ก็ประมาณหกโมงเย็นได้เริ่ม
คนจะเยอะช่วง สองทุ่ม
ทั้งๆ ที่แทบไม่มีการประชาสัมพันธ์เลย
ถ้ามีอาจได้หลายพันอยู่เพราะข้อเรียกร้องแรง
แต่การปราศรับปกติแอบแรงบ้างบางคน
ไม่ต่างจากไปม็อบ นปช. แค่เป็นม็อบที่ถูกกล่าวหา
ว่าแรงนั่นนี่ แต่จริงๆ ไม่มีอะไร
และวัดใจคนได้เหมือนกันด้วยว่า
แค่ถูกกล่าวหายังไม่กล้ามาช่วย
แล้ววันที่จะต้องสู้กับอะไรที่หนักกว่านี้
จะมีใครกล้ามาช่วยหรือ

ทุกวันอาทิตย์มีม็อบต้าน 112
แถวหน้าเรื่อนจำพิเศษกรุงเทพหรือเรือนจำคลองเปรมด้วย
เริ่ม 4-5โมงเย็นไม่แน่ใจเดี๋ยวจะแวะไปชมสักที
เราว่าจะแวะไปให้กำลังใจบ่อยๆ เพราะอย่างน้อย
ม็อบพวกนี้ก็กล้าพอที่จะเสนอสิ่งที่ไม่เห็นด้วย
ดีกว่ากล้าด่าแต่ไม่กล้าเสนออะไร
และถ้าเรื่องนี้ยังไม่กล้า อย่าได้คาดหวังว่า
เมื่อได้รับเลือกเข้าสภาแล้วจะไปกล้าสู้กล้างัดข้ออะไร
หรือคิดจะรื้อกฏหมายเหล่านี้ด้วย
"การกระทำวันนี้สามารถทำนายอนาคตได้เหมือนกัน"

โดย มาหาอะไร

FfF