บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


03 พฤษภาคม 2554

<<< ถ้าเราหยุดเคลื่อนไหว ด้วยข้ออ้างที่ว่าเพื่อความสมานฉันท์ เพื่อความปรองดอง ไม่ขอเปลี่ยนแปลงอะไร ขอแค่ให้ได้เลือกตั้งอย่างเดียว เท่ากับว่าการต่อสู้หลายปีที่ผ่านมา ไม่ก้าวหน้าไม่พอยังถอยหลังกว่าเดิมอีก >>>

ก่อน 19 ก.ย.49 ไทยมี รธน.40 ซึ่งดีกว่า รธน.50 ของพวก คมช.
และกฏหมายหลายฉบับที่ให้อำนาจพวกเผด็จการ
ยังไม่มีมากมายเหมือนหลังยึดอำนาจได้สำเร็จ
แล้วถ้าหยุดยอมรับสภาพไม่ขอเปลี่ยนแปลงอะไร
ขอแค่ให้ได้เลือกตั้ง แบบชนะเข้าไปก็ทำอะไรไม่ได้
ไม่เรียกว่าติดลบจะให้เรียกว่าอะไร เท่าทุนยังไม่ได้เลย

เมื่อโครงสร้างยังเหมือนเดิม อะไรๆ คงยังเหมือนเดิม
ไม่รัฐบาลหน้าก็รุ่นลูกรุ่นหลานเราภายภาคหน้า
ก็คงต้องเจอกับมือที่มองไม่เห็น
ที่ชอบแทรกแซงการเมืองทุกรูปแบบอีก
ไม่พอใจก็รัฐประหาร หรือไม่ก็หาเรื่องถีบตกเก้าอี้
หนุนม็อบมาป่วนสารพัด
ทุกอย่างยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้เหมือนเดิม

แล้วมาบอกว่าขอให้หยุดไม่จองเวรจองกรรม
ปล่อยให้ทุกอย่างค้างคาเปรียบเหมือนกับการซุกเศษแก้วไว้ใต้พรม
วันหนึ่งก็ต้องมีโอกาสพลาดเผลอมาเหยียบเศษแก้วที่ซุกไว้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
วิธีการนี้ใช่วิธีที่บอกว่าจะสู้เพื่อลูกหลานในอนาคต
จะได้ไม่ต้องมาเจอการเมืองแบบปัจจุบันนี้อีก
หรือสู้เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงไหม

แม้แต่รัฐบาลนี้ ขนาดเขาอุ้มให้มาเป็นกับมือแท้ๆ
แล้ววันนี้ถ้าสังเกตุให้ดีกำลังมีการงัดข้อกันอยู่
เมื่อฝ่ายรัฐบาลนี้อยากให้เลือกตั้ง
กะไปตายเอาดาบหน้าว่างั้นเหอะ
แต่มือที่มองไม่เห็นต้องการปิดประเทศเคลียร์
การเลือกตั้งจึงต้องลุ้นกันต่อไปว่า
จะมีโอกาสได้เลือกตั้งกันไหม
โอกาสเหลือ 20% แล้ว จาก 50%

อาจมีคนแย้งว่า อ.ธิดา บอกว่า
จะสู้จนกว่าจะได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงไง
ส่วนณัฐวุฒิ มาแนวยอมรับผลเลือกตั้ง
คือถ้า ปชป. ชนะงวดนี้แบบโปร่งใสก็จะยอมรับผล
แล้วรัฐธรรมนูญที่ยังไม่เป็นประชาธิปไตย
โครงสร้างที่ยังสามารถแทรกแซงการเมืองได้ตลอดเวลา
จะทำยังไง ถ้ายอมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้
งวดนี้ต่อให้พรรค พท. ชนะ ก็เลิกไม่ได้
ต้องคอยกระทุ้งเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงให้ได้
แต่ก็หวังยากเพราะนโยบายหาเสียงยังไม่กล้าระบุ
ก็อย่าหวังว่าชนะมาแล้วจะกล้าไปแก้ไขโครงสร้างอะไรเลย
แต่เมื่อเป็นความเห็นของเหล่าแกนนำ นปช.
ซึ่งก็คงยึดแนวนี้เป็นหลัก ก็ถือว่าเป็นความเห็นของ นปช.
แต่ผม 1 คนไม่เลิก มีตั้ง 1 คน แล้วตอนนี้ อิอิ
ที่จริงอาจมีอีกหลายพันคนในม็อบสารพัดแดงที่คิดแบบผม

แต่ไม่ว่า อ.ธิดา หรือแกนนำนปช.เก่าใหม่จะพูดยังไง
ก็ไม่มีน้ำหนักเท่าทักษิณพูด แม้แต่ตัว อ.ธิดา เอง
ถ้าทักษิณไม่ให้ขึ้นเวทีวันไหน ก็คงไม่ได้ขึ้นเวทีเหมือนกัน
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องตำแหน่งประธาน นปช.
ที่สามารถล็อบบี้บีบออกได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ดังนั้น เบื้องหน้าใครจะพูดยังไง ขึงขังยังไงก็ว่ากันไป
แต่ถ้าดูความสัมพันธ์แล้วเหมือนเจ้านายกับลูกน้องแบบนี้
ผมคงยึดความเห็นของคนที่เป็นเจ้านายเป็นหลัก

ส่วนผมกับทักษิณความสัมพันธ์จะแตกต่างจากแกนนำ นปช. คือ
กรณีผมจะไม่ใช่ลักษณะเจ้านายกับลูกน้อง จึง ติได้ เห็นแย้งได้
วิจารณ์ได้สารพัด เป็นความสัมพันธ์ลักษณะ คนเหมือนกัน
เท่าเทียมกัน แม้บารมีจะไม่เท่ากัน
หรือยศฐาบรรดาศักดิ์ เงินทอง มีไม่เท่ากันก็ตาม
แต่สำหรับผม ผมถือว่าเท่ากันไม่มีเล็กไม่มีใหญ่กว่ากันในทางกาารเมือง
แต่ในโลกส่วนตัว ก็ยังเคารพในฐานะผู้ใหญ่ตามธรรมเนียมแบบไทย
ดังนั้นคำพูดทักษิณไม่สามารถมาผูกว่า ผมต้องทำตามนั้นด้วย
ไม่เหมือนแกนนำ นปช. ที่มีความสัมพันธ์ลักษณะเจ้านายลูกน้อง
ใครจะขึงขัง ว่าก้าวข้ามทักษิณ ทักษิณป็นคนเสื้อแดงคนหนึ่งเท่านั้นยังไง
ก็ว่ากันไป แต่พฤติกรรมและความจำเป็นที่ยังอยากเล่นการเมือง
สังกัดพรรคทักษิณคุม เชื่อเหอะว่า ยังไงก็ไม่กล้าหือกับทักษิณ ไม่งั้นก็ไม่รุ่ง

โดย มาหาอะไร

FfF