บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


03 พฤษภาคม 2554

<<< นโยบายหาเสียง เสี้ยวหนึ่งในฝันมาหาอะไร >>>

ด้านการเมือง
1. ให้มีเลือกตั้งผู้ว่าทุกจังหวัด
โดย นนทบุรี กับ ธนบุรี ถือเป็นจังหวัด
ที่ต้องมีผู้ว่าต่างหากแยกจากกรุงเทพฯ
โดยผู้ว่าแต่ละจังหวัดสามารถกำหนดนโยบาย
ที่ไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญของประเทศได้อย่างเสรี
หรือเลือกระบบเศรษฐกิจต่างๆ ได้ตามใจชอบ
รวมทั้งให้สัมปทานต่างๆ ได้เต็มที่
ไม่ต้องกังวลว่าจะทับซ้อนจังหวัดอื่นหรือระดับประเทศ
ขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้ว่าและประชาชนส่วนใหญ่ในจังหวัดนั้นๆ เห็นชอบ
รวมทั้งสิทธิ์คุมตำรวจในพื้นที่ โดยจะมีตำรวจจากส่วนกลางเช่น FBI ช่วยเสริม
ยกเว้นด้านทางการทหาร การต่างประเทศระดับสูง
เช่น เรื่องเกี่ยวกับดินแดน ที่เป็นสิทธิเฉพาะรัฐบาลกลางเท่านั้น
แต่การต่างประเทศเช่น ความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศอื่นทำได้เสรี

2. ทุกนโยบายที่สำคัญที่อาจกระทบกับคนทั้งประเทศหรือหลายจังหวัดต้องทำประชามติ
เช่นบางจังหวัดอาจสนับสนุนให้มีการตั้งโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์
ซึ่งอาจมีผลกระทบกับคนจังหวัดอื่นถ้าเกิดมีกรณีรั่วไหลของสารรังสีต่างๆ
แบบนี้ต้องทำประชามติ แต่ถ้าเปิดบ่อนคาสิโนของแต่ละจังหวัด
ไม่จำเป็นต้องทำประชามติระดับประเทศ แต่ต้องทำประชามติระดับจังหวัดอีกที
แม้จะเป็นนโยบายหาเสียงจนชนะมาก็ตาม เนื่องจากการชนะเลือกตั้ง
ประชาชนอาจไม่เห็นด้วยทุกนโยบายหรืออาจเลือกตัวบุคคลมากกว่านโยบาย
หรือยังไม่ทราบรายละเอียดข้อดีข้อเสียดีพอเพราะการหาเสียงส่วนใหญ่จะพูดกันย่อๆ
ดังนั้นจึงต้องมีการลงประชามติเรื่องนั้นๆ อีกครั้งก่อนจะทำ
โดยอาจเป็นการทำประชามติผ่านระบบโทรคมนาคม เช่น
การโหวตผ่านโทรศัพท์ หรือผ่านอินเตอร์เน็ต เป็นต้น เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
ยกเว้นกรณีการลงประชามติที่น่าจะเป็นความลับส่วนตัว
ที่อาจต้องลงผ่านการกาบัตรเลือกตั้ง
โดยมีคณะกรรมการกลางทั้งฝ่ายสนับสนุนฝ่ายคัดค้าน
รวมทั้งอาจารย์ นักวิชาการ สื่อต่างๆ
ร่วมเป็นกรรมการดูแลโปรแกรมการลงประชามติ
เพื่อความโปร่งใสของผลการลงประชามติ

3. ส่งเสริมให้มีอินเตอร์เน็ตใช้ทุกหมู่บ้านทุกครอบครัว ทั้งผ่าน Wifi หรือมือถือ
กรณีการลงประชามติต่างๆ ให้ใช้ฟรีนอกนั้นเน้นให้ราคาค่าใช้ถูกๆ

4. ยกเลิกระบบซี ยศตำแหน่งเก่าต่างๆ ของข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ
เปลี่ยนให้มีโครงสร้างใหม่ดังนี้คือ
หัวหน้า(แผนก กอง ส่วน ด้าน) กับ ตำแหน่งรอเป็นหัวหน้า

+++++++++++++++++++++++++++++++

ด้านส่งเสริมประชาธิปไตย
1. นำรัฐธรรมนูญ 40 กลับมาแก้ไขบางมาตรา
เช่น มาตราเกี่ยวกับองคมนตรีตัดทิ้ง ให้เหมือนประเทศญี่ปุ่นและอังกฤษ,
มาตราเกี่ยวกับการหมิ่นสถาบันตัดทิ้ง ให้ใช้มาตราหมิ่นประมาททดแทน
และต้องให้ตัวแทนสถาบันเป็นคนฟ้องร้องเท่านั้น,
มาตราเกี่ยวกับ สส. ต้องจบปริญญาตรีตัดทิ้ง,
วุฒิสมาชิกมาจากการเลือกตั้งของคนทั้งประเทศ
โดยเรียงคะแนนที่ได้รับเลือกมากที่สุด 1-100 คนแรกได้เป็นวุฒิสมาชิก เป็นต้น

2. ส่งเสริมกระบวนการประชาธิปไตยในระบบการศึกษา
เช่น ให้มีการจัดแข่งขันปราศรัยอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
ชิงถ้วยนายกรัฐมนตรีทุกปี ทั้งในระดับประถม มัธยม อุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป

3. ยกเลิกกฏหมายที่จำกัดเสรีภาพการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทุกกรณี

4. ประชาชน 50,000 คนหรือม็อบที่มีคนร่วมจำนวนหลายหมื่น
สามารถเสนอขอทำประชามติเรื่องใดๆ ก็ได้
โดยทั้งรัฐและฝ่ายขอทำประชามติต้องมีเวลานำเสนอและคัดค้าน
ผ่านสื่อต่างๆ อย่างเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะสื่อทีวี
โดยมุ่งหวังให้ประชาชนทราบข้อเท็จจริงเรื่องต่างๆ ให้มากที่สุด
ครอบคลุมทั้งผลดีผลเสียมากที่สุดเพื่อความรอบคอบในการลงประชามติ
โดยให้ถือเสียงข้างมากของประชาชนที่มาลงประชามติเรื่องนั้นๆ เป็นคำตัดสินสิ้นสุด
ยกเว้นเรื่องสำคัญมากๆ เช่น ดินแดน เป็นต้น
อาจกำหนดให้ต้องมีเสียงสนับสนุนหรือคัดค้านเกิน 80% ขึ้นไปก็ได้

5. ให้มีการเลือกตั้งนายกโดยตรงจากคนทั้งประเทศที่มีสิทธิเลือกตั้ง 1 คน 1 สิทธิ

6. ทุกเรื่องที่ไม่สามารถหาทางออก หรือไม่มีบทบัญญัติไว้ก่อน หรือไม่สามารถยอมกันได้
ให้ประชาชนทั้งประเทศลงประชามติตัดสินขั้นสุดท้ายยึดเสียงข้างมากเป็นหลัก


+++++++++++++++++++++++++++++++

ด้านกระบวนการยุติธรรม
1. ไม่ให้รับรองคำสั่งคณะรัฐประหารทุกฉบับ

2. ยกเลิกกฏหมายของคณะรัฐประหารทุกฉบับแล้วเขียนใหม่

3. ห้ามจำคุกกักขังผู้ต้องหาที่ยังไม่ได้พิพากษาให้ผิด เกิน 1% ของโทษต่ำสุดในคดีนั้น
และต้องมีสถานที่กักบริเวณเพื่อไม่ให้หลบหนีแต่ต้องให้ผู้ต้องหา
ใช้ชีวิตได้ตามปกติ
เช่น พาครอบครัวมาอยู่ได้ และทำมาหากินได้
ติดต่อบุคคลภายนอกได้ตลอดเวลา ให้แค่กักบริเวณเท่านั้น
ห้ามจำกัดสิทธิอื่นใด นอกจากศาลมีคำตัดสินว่าผิดแล้วเท่านั้น

4. ให้เขียนกกฏหมายใหม่ ทุกมาตราต้องระบุให้ชัดเจน
ว่าทำอะไรมีโทษผิดแค่ไหนอย่างไร

เช่นทำผิดอะไรแค่ไหนถึงติดคุก 1 ปี หรือ 2 ปี ...
ไม่ให้ใครมีดุลยพินิจตัดสินได้เอง
ต้องเขียนให้ชัดชนิดว่าประชาชนเปิดอ่านกฏหมายผ่านเน็ตก็ตัดสินกันได้เอง
แม้จะมีกรณีพิเศษยกโทษให้ยังไง ก็ต้องระบุให้ชัดเจนล่วงหน้า

5. กฏหมายมาตราไหนที่ไม่สามารถบังคับใช้ได้อย่างเท่าเทียมกันให้ยกเลิกให้หมด
เช่นบังคับห้ามคนอายุไม่ถึง 18 ปีทำอะไร ต้องบังคับใช้คนอายุไม่ถึง 18 ปีได้หมด
ถ้ามียกเว้นใครพวกไหนต้องเขียนข้อยกเว้นไว้ล่วงหน้า
ถ้าเกิดกรณีไม่สามารถนำไปบังคับใช้ได้ตามกฏหมาย
ให้ยกเลิกกฏหมายมาตรานั้นเสีย

6. การฟ้องร้องการเสียค่าปรับต่างๆ ควรสามารถกระทำได้แบบออนไลน์
ทั่วประเทศไม่ควรต้องไปที่ สน. ที่เกิดเหตุเท่านั้น ร่วมทั้งการไปขึ้นศาลด้วย

เพื่อป้องกันการกลั่นแกล้งกัน เช่นไปฟ้องที่ศาลไกลๆ หรือที่อันตราย
หรือเสียเวลาและค่าใช้จ่ายการเดินทางสูงๆ

7. ใช้ระบบลูกขุนในการพิจารณาคดี

8. ประชาชน 50,000 รายชื่อ สามารถขอยื่นคัดค้านคำตัดสินได้ทุกคดี
โดยให้มีการอภิปรายข้อดีข้อเสียจนพอใจแล้วทำการลงประชามติ
ให้ถือเสียงข้างมากเป็นคำตัดสินที่เด็ดขาด


+++++++++++++++++++++++++++++++

ด้านสังคม
1. ตั้งกระทรวงช่วยเหลือภัยพิบัติแห่งชาติ
ดูแลการเกิดเหตุภัยพิบัติทุกชนิดแบบครบวงจร
ทั้งน้ำท่วม ฝนแล้ง หนาวจัด ไฟไหม้ แผ่นดินไหว สึนามิ
รวมไปถึงเหตุการณ์ที่มีคนตายจำนวนมาก
โดยจะต้องเป็นเจ้าภาพช่วยเหลือเยียวยาทั้งช่วงเกิดเหตุ
และหลังเกิดเหตุระยะยาวจนกว่าผู้ประสบเหตุจะตั้งตัวได้
รวมไปถึงอาจส่งความช่วยเหลือไปช่วยประเทศต่างๆ ที่เกิดภัยพิบัตร้ายแรงด้วย
เพื่อดำรงภาพลักษณ์คนไทยมีน้ำใจให้เป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก

2. ส่งเสริมการแข่งขันกีฬาทุกชนิด
โดยสนับสนุนด้านรางวัลและสถานที่จัดงาน
ทั้งในระดับอำเภอ ระดับจังหวัดและระดับประเทศ
ทั้งระดับนักเรียนและระดับประชาชนทั่วไป
เพื่อให้เยาวชนและคนทั่วไปสนใจกีฬา
และจะได้มีนักกีฬาที่มีฝีมือเพื่อไปแข่งขันกับต่างประเทศเยอะๆ

3. ส่งเสริมให้มีกิจกรรมต่างๆ ให้มากๆ กระจายไปทุกศาสตร์
เพื่อให้แต่ละคนดึงพรสวรรค์ของแต่ละคนมาใช้ให้เต็มที่

ทั้งเรื่องการร้องเพลง เล่นดนตรี กีฬา จัดดอกไม้ โต้วาที
ประดิษฐ์หุ่นยนต์ แต่งกลอน เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
งานด้านวิทยาศาสตร์ทั้งชีวะ เคมี ...

4. ยกเลิกการจำหน่ายบุหรี่ เหล้าเบียร์ไวน์ห้ามมีแอลกอฮอล์เกิน 5%
และห้ามดื่มเมามายจนครองสติไม่อยู่

เนื่องจากบุหรี่นอกจากจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้สูบเองเท่านั้น
ยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนทั่วไปและคนในครอบครัวของผู้สูบด้วย
ส่วนเหล้าเบียร์ไวน์ไม่เกิน 5%
อาจช่วยให้คายหนาวได้ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวมากๆ
และเพื่อสังสรรค์ตามงานรื่นเริง
แต่เพื่อความปลอดภัยของคนในสังคม
จึงเพิ่มห้ามดื่มเหล้าเมาจนครองสติไม่อยู่
แม้จะนั่งดื่มเฉยๆ ไม่ได้ขับรถหรืออาละวาดก็ตาม
ถ้ามีการทะเลาะวิวาทและมีแอลกอฮอล์ด้วยเพิ่มโทษเป็นสองเท่า

5. สนับสนุนให้มีวันผู้ใหญ่ ให้ความสำคัญแก่เด็กวัยรุ่นที่อายุครบ 15 ปี ในปีปัจจุบัน
โดยมีการแจกกฏหมายที่น่ารู้ ส่งเสริมกิจกรรมรื่นเริง
ทั้งการเดินพาเหรด กิจกรรมแสดงความสามารถ แบบปิดเมืองฉลอง

6. ส่งเสริมให้มีเว็บหลักเว็บหนึ่งที่รวบรวมงานบริการของหน่วยงานราชการต่างๆ
ให้สามารถบริการออนไลน์ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

เพื่อลดการเดินทางไปติดต่อที่ศูนย์ราชการต่างๆ ให้มากที่สุด
เช่นการจดทะเบียนสมรส การหย่า การแจ้งเกิด แจ้งตาย
แจ้งย้ายเข้า ย้ายออก และส่งหลักฐานต่างๆ ประกอบผ่านทางอินเตอร์เน็ต
เช่นเดียวกับการเสียภาษีเงินได้ โดยมีเจ้าหน้าที่
ให้คำแนะนำและคอยตรวจสอบหลักฐานออนไลน์ต่างๆ
เช่นกรณีต้องการเห็นหน้าก็สามารถดูผ่านระบบเว็บแคมหรือวีดีโอคอนเฟอเรนซ์

7. สร้างแฟลตขนาดหลายพันห้อง ให้คนที่ไม่มีบ้านได้อาศัยชั่วคราวฟรี พร้อมฝึกอาชีพฟรี
โดยให้อาศัยไม่เกิน 1 ปี เพื่อไม่มีการยึดเป็นที่อาศัยถาวร
ถ้าหางานทำได้ ขยายโอกาสให้พักต่อได้อีก 2 ปี ในช่วงกำลังตั้งตัว

+++++++++++++++++++++++++++++++

ด้านการศึกษา
1. ส่งเสริมฝึกการค้าขายให้กับเด็กตั้งแต่ประถม
เช่นจัดกิจกรรมอาทิตย์ละครั้งเป็นกิจกรรมถนนคนเดินในโรงเรียน
ที่อาจให้นักเรียนนำของทั้งที่ผลิดเองหรือที่พ่อแม่ทำอยู่มาขาย
รวมทั้งได้แสดงออกในกิจกรรมต่างๆ

2. ส่งเสริมสร้างศูนย์วิทยาศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ในทุกจังหวัด
รวมทั้งการจัดให้เด็กนักเรียนได้มีการทัศนศึกษา
ทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดบ่อยๆ
โดยรัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายการเดินทาง
รวมทั้งแบกเป้ไปทัศนศึกษาต่างประเทศใกล้เคียงแบบเป็นกลุ่ม
สำหรับกรณีโรงเรียนที่พอมีผู้ปกครองที่มีฐานะที่จะสนับสนุนเรื่องนี้ได้เยอะๆ
เพื่อให้เด็กกล้าออกไปติดต่อค้าขายต่างแดนได้ในอนาคต

3. สนับสนุนหลักสูตรการศึกษาที่เน้นปลูกฝั่งค่านิยมที่จะติดตัวเด็กไปจนโต
ฝึกให้กล้าคิด กล้าทำ กล้านำตนเอง รวมไปถึงการลงทุนค้าขาย
การรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น การฝึกให้ขึ้นพูดบนเวทีบ่อยๆ ทุกคน
โจทย์เลขเน้นมีเงินนำไปลงทุนทำนั่นทำนี่ มากกว่าไปซื้อนั่นซื้อนี่
เปิดรายการสารคดีสิ่งแวดล้อมและความรู้เสริมต่างๆ
ให้ดูเป็นประจำในช่วงพักกลางวัน เป็นต้น

4. สร้างศูนย์เรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์แบบครบวงจร
ทั้งสาขาฟิสิกส์ เคมี ชีวะ คณิตศาสตร์
ให้เด็กได้มีโอกาสลงมือทดลองค้นคว้า
เน้นภาคปฏิบัติมากกว่าภาคทฤษฎี
เพื่อให้มีประสบการณ์นอกตำรา
โดยไม่จำเป็นต้องเรียนถึงระดับนั้นระดับนี้ก่อน
ถึงให้มีโอกาสได้เรียนแต่เปิดกว้างให้เรียนรู้ก้าวหน้ากว่าตำรา
ซึ่งอาจกระตุ้นทำให้เกิดมีนักวิทยาศาสตร์ไทยใหม่ๆ
ที่ค้นคว้าประดิษฐ์สิ่งต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
โดยใช้ช่วงวันหยุดเสาร์หรืออาทิตย์ ทั้งวัน
แล้วแต่ความสมัครใจหรือสนใจมาลงเรียนไม่เน้นบังคับ
คิดค่าใช้จ่ายถูกๆ เฉพาะค่าอุปกรณ์การศึกษา
แล้วเน้นใช้โรงเรียนเป็นสถานที่ฝึกเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

5. สร้างงานจ้างเด็กจบใหม่ที่ตกงานให้มาทำงานชั่วคราว 1 ปี
รวมทั้งฝึกอบรมเพิ่มความรู้ให้ ทั้งด้านภาษา คอมพิวเตอร์
และเพิ่มความชำนาญตามสายงานที่จบมา
พร้อมทั้งหาช่องทางให้มีงานทำให้ได้
พร้อมสนับสนุนให้มีเวลาหางานทำและการไปสอบสัมภาษณ์ด้วย

6. สร้างหอพักชาย หอพักหญิง ให้ได้ 10,000 ห้องพัก
เพื่อให้เด็กต่างจังหวัดที่เรียนดี เช่นเกรดเฉลี่ยตั้งแต่ 3.0 ขึ้นไปได้พักฟรี
โดยดูจากเกรดการศึกษา ของที่เรียนเก่ากับที่เรียนใหม่ทุกเทอม
เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้ขยันศึกษาเล่าเรียน

+++++++++++++++++++++++++++++++

ด้านการทหาร
1. ยกเลิกระบบชนชั้นคือ ชั้นประทวน กับ ชั้นสัญญาบัตร
ตำแหน่งให้มีโครงสร้างเหมือนข้าราชการทั่วไปดังนี้คือ
หัวหน้า(แผนก กอง ส่วน ด้าน) กับ ตำแหน่งรอเป็นหัวหน้า

2. คณะผู้นำเหล่าทัพ ให้มีการเลือกตั้งจากประชาชนทั้งประเทศ
อยู่ในตำแหน่งคราวละ 5 ปี
โดยให้ผู้สมัครมีคุณสมบัติเป็นทหาร
ทำงานไม่ต่ำกว่า 20 ปี เพื่อจะได้ผู้นำทหารที่รักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

3. นอกจากการเลื่อนขั้นปกติทุกปี
ให้มีเงินเพิ่มพิเศษมากน้อยตามแต่ละหลักสูตรที่จบ

โดยจะมีหลักสูตรหลายสิบหลักสูตรให้โอกาสทหารทุกคน
สอบแข่งขันเข้าศึกษา เช่น มนุษย์กบ, นักบิน, สงครามพิเศษ,
จบจากจปร., ขับรถถัง, พลร่ม, ใช้ปืนใหญ่, ผ่านสงครามต่างๆ เป็นต้น
เมื่อจบมาแล้วจะได้เงินเพิ่มประจำจนเกษียณอายุ
และจะเป็นเกียรติประวัติสำหรับใช้หาเสียงเป็นคณะผู้นำเหล่าทัพ

4. ประชาชน 50,000 รายชื่อ สามารถยื่นขอลงประชามติถอดถอนผู้นำเหล่าทัพได้
โดยให้ถือเสียงข้างมากในการลงประชามติเป็นคำตัดสิน


+++++++++++++++++++++++++++++++

ด้านศาสนา
1. สังคายนาพระพุทธศาสนาใหม่
ให้เน้นพระธรรมคำสั่งสอนมากกว่าวัตถุหรือเทวรูป

2. พระหรือนักบวช ทุกศาสนา ให้มีสิทธิมีเสียงเหมือนกับประชาชนทั่วไป
เพื่อให้สามารถปกป้องผลประโยชน์ของแต่ละศาสนา
ผ่านการกลั่นกรองกฏหมายที่เกี่ยวข้องกระทบสิทธิของแต่ละศาสนาได้
และส่งเสริมให้คนเป็นพระหรือนักบวชได้โดยไม่ต้องกังวลว่า
จะเสียสิทธิการเลือกตั้ง บางนิกายเช่น พระในธิเบตในอดีต
ก็เป็นทั้งพระและยังทำงานบริหารบ้านเมืองด้วย
จึงไม่แปลกที่จะให้สิทธิในการเลือกตั้ง
แต่ถ้าต้องการเป็นหัวคะแนนหรือหาเสียงทางการเมือง
ต้องสึกออกจากการเป็นพระหรือนักบวชก่อน

3. ยกเลิกการปิดกั้นการกำเนิดศาสนาใหม่หรือนิกายใหม่ๆ
เหมือนอดีตที่เปิดเสรีให้มีการคิดค้นลัทธิหรือศาสนาใหม่ๆ
จนมีลัทธิและศาสนามากมายเกิดขึ้นและยังนับถือกันจนถึงปัจจุบันนี้
เพื่อทำให้เกิดการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและมีทางเลือกใหม่ๆ
ที่เหมาะสมกับยุคสมัย เนื่องจากปัจจุบันพบว่า
อัตราผู้ไม่นับถือศาสนาสูงมากขึ้นในประเทศที่เจริญแล้วหลายประเทศ
แสดงว่าการไม่มีการปรับตัวเปลี่ยนแปลงของศาสนาและลัทธิที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ทำให้ขาดแรงจูงใจในการนับถือศาสนาก็เป็นได้

+++++++++++++++++++++++++++++++

ด้านเศรษฐกิจ
1. ส่งเสริมให้มีสัมปทานรถไฟฟ้าความเร็วสูง ครอบคลุมทุกจังหวัดให้มากที่สุด
เช่น สายกรุงเทพ-เชียงราย, กรุงเทพ-หนองคาย, กรุงเทพ-อุบล,
กรุงเทพ-ตราด, กรุงเทพ-สุไหงโกลก เป็นต้น
และอาจมีแยกสายออกต่างหาก เช่น ปากช่อง-เพชรบูรณ์, นครสวรรค์- แม่สอด
ภาคใต้แยก 2 สายฝั่งจังหวัดติดอ่าวไทยกับกับจังหวัดติดอันดามันรวมทั้งภูเก็ต
ให้ยืดระยะเวลาสัมปทานออกไปให้นานๆ เช่น 100 ปี
เพื่อแลกกับค่าโดยสารที่ไม่แพงมาก ไม่มีความจำเป็นที่จะต้อง
ให้รีบหมดสัมปทานเพื่อให้รัฐรับไปทำต่อเพราะอาจทำไม่ดีเท่าเอกชน

2. ส่งเสริมให้มีระบบเศรษฐกิจหลายๆ แบบ แยกเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ
เช่น เขตทุนนิยมสุดขั้ว, เขตสังคมนิยม, เขตพอเพียง เป็นต้น
เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกในการใช้ชีวิตตามที่แต่ละคนต้องการมากที่สุด

3. เปิดเขตเศรษฐกิจเสรีสุดขั้ว
เช่น ให้ต่างชาติสามารถซื้อขาย ที่ดิน อาคาร หรือทำธุรกิจ
ในเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ได้เหมือนคนไทยทุกอย่าง,
เขตสินค้าปลอดภาษี, เขตปลอดวีซ่าเข้าออกเสรี เป็นต้น

4. ส่งเสริมให้เกษตรกรเป็นพ่อค้าคนกลาง โดยรัฐร่วมจัดตั้งสหกรณ์หรือบริษัท
ค้าพืชผลทางการเกษตรแต่ละชนิด เช่น ข้าว ยางพารา อ้อย ปาล์ม ผลไม้หลักๆ เป็นต้น

จะทำให้นำกำไรจากพ่อค้าคนกลาง มารับซื้อสินค้าในราคาแพงได้มากขึ้น
รวมทั้งลดภาระงบประมาณหลายหมื่นล้านถึงหลายแสนล้านในอนาคต
ที่จะต้องจ่ายในแต่ละปีในการรับจำนำหรือการรับประกันราคาแบบเดิมด้วย

5. ลดการใช้สารเคมี ส่งเสริมผักกางมุ้ง และพืชไร้ดิน โดยให้ทุนปลอดดอกเบี้ย
เพื่อให้เกษตรกรเปลี่ยนระบบการผลิต เน้นความปลอดภัยกับผู้บริโภค
ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่ส่งไปจำหน่าย
รวมทั้งคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุดด้วย

6. ลดภาษีให้กับธุรกิจที่หารายได้เข้าประเทศ
รวมทั้งเพิ่มสวัสดิการดูแลแรงงานที่หารายได้เข้าประเทศ

หรือที่ไปทำงานในประเทศต่างๆ และดูแลเรื่องการส่งแรงงาน
ไปทำงานต่างประเทศจะต้องไม่มีการเก็บค่านายหน้า
และให้เครดิตเงินกู้ยืมระยะยาวเป็นค่าใช้จ่ายในช่วงเริ่มต้นเดินทางไปทำงาน
ในการส่งเสริมการค้าขายกับต่างประเทศนั้น
ให้เน้นการเพิ่มปริมาณยอดขายสินค้าระหว่างกัน
มากกว่าเน้นการหากำไรเข้าประเทศ

7. สนับสนุนการจัดตั้งสหภาพแรงงานทั้งระดับบริษัทหรือระดับภาคธุรกิจต่างๆ
วันแรงงานหยุดทั้งสัปดาห์
จัดให้มีการอบรมความรู้เพิ่มเติมด้วยหลักสูตรระยะสั้น
พร้อมมหกรรมจัดหางาน และกิจกรรมด้านแรงงานต่างๆ ตามสถานที่ต่างๆ

8. เปิดเสรีให้เอกชนสามารถลงทุนแข่งขันกับรัฐวิสาหกิจทุกประเภท
เช่น ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ... เป็นต้น

9. สนับสนุนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจแบบเต็มใจ
คือคนในรัฐวิสาหกิจไหนตกลงกันได้แล้วว่าอยากแปรรูป
ให้เสนอเรื่องมาให้รัฐช่วยดำเนินการให้ไม่เน้นรัฐสั่งการให้แปรรูป
เพราะถ้าสู้เอกชนไม่ได้ ไปไม่รอด ก็จะเลือกแปรรูปเพื่อความอยู่รอดในที่สุด
ดีกว่าการบังคับเพราะจะเกิดการต่อต้านจนเกิดปัญหามากมายตามมาในที่สุด

10. สนับสนุนการประกันการว่างงานของประกันสังคมให้มากขึ้น
โดยทำเหมือนกับกรณีเด็กจบใหม่ทั้งการฝึกอบรมความรู้เพิ่มเติม
และหาช่องทางให้มีโอกาสได้ทำงานใหม่อีกครั้ง

11. หาพื้นที่เปิดตลาดนัดเปิดท้ายขายของโดยไม่เสียค่าเช่า
ใครมาก่อนจองที่ก่อน ตามทางเท้าว่างๆ
หรือพื้นที่สถานที่ราชการว่างๆ ในช่วงวันหยุดราชการ
หรือขอความร่วมมือให้ไปขายในช่วงวันทำงาน
ตามพื้นที่ว่างๆ ในสถานที่ราชการนั้นๆ
โดยแลกกับการขอความร่วมมือพ่อค้าแม่ค้า
อย่าขายของให้แพงเกินไปหรือหวังฟันกำไรกันมากเกินไป

+++++++++++++++++++++++++++++++

ด้านพลังงาน
1. เปิดเสรีการผลิตไฟฟ้า ประชาชนสามารถตั้งโรงงานผลิตไฟฟ้าได้เสรี
ถ้าใช้พลังงานจากธรรมชาติ เช่น พลังงานลม, พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น
อนุมติทันที อาจมีการลงประชามติสำหรับบางพื้นที่เกี่ยวกับเรื่องทัศนียภาพ

2. สนับสนุนพลังงานที่ไม่กระทบสิ่งแวดล้อมทุกชนิด
และลดการใช้พลังงานที่ทำลายสิ่งแวดล้อมจนถึงเลิกใช้ในที่สุด


3. ส่งเสริมรถทุกประเภททั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า
ทั้งลดภาษี สามารถจดทะเบียนได้ง่ายๆ และให้วิ่งบนถนนหลักได้หมด
รวมไปถึงการนำไปรับจ้างให้บริการประชาชน
และส่งเสริมการขยายปั๊มจำหน่ายไฟฟ้าด้วย


-------------------------------------------------------

นโยบายทั้งหมดทั้งปวงนี้เป็นเสี้ยวหนึ่งในฝันของข้าพเจ้า
ซึ่งหลายๆ เรื่องอาจทำไม่ได้ในช่วงไม่กี่ปีนี้
บางเรื่องอาจทำได้ในทันทีถ้าต้องการจะทำ
แค่เพียงอยากบันทึกสิ่งที่อยากเห็นในอนาคต
สำหรับประเทศนี้ ถ้าพรรคไหนหรือใคร
ที่พอมีศักยภาพนำไปทำให้เป็นจริงได้ ก็ยินดีอย่างยิ่ง

บางนโยบายอาจมีข้อเสียหรือทำไม่ได้จริงๆ
ซึ่งข้าพเจ้าก็ยินดีปรับเปลี่ยนถ้าดูเหตุผลแล้วทำไม่ได้จริงๆ
นี้เป็นเพียงการเผยนโยบายเสี้ยวหนึ่งในฝันของข้าพเจ้าเท่านั้น

โดย มาหาอะไร

FfF