"เตช"ชี้การดำเนินการปมพระวิหาร สมัย"นายกฯสมัคร"ถูกต้องแล้ว
วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554 เวลา 12:52:33 น.
นายเตช บุญนาค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แสดงความเห็นต่อกรณีที่ประเทศไทยถอนตัวออกจากการเป็นภาคีอนุสัญญาคณะกรรมการ มรดกโลก เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ว่าไทยควรประท้วง กรณีปราสาทพระวิหารต่อไปอย่างถึงที่สุด แม้ว่าถอนตัวออกจากภาคีสมาชิกมรดกโลกแล้ว ทั้งนี้ เห็นว่าสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีดำเนินการถูกต้องแล้ว ในการประท้วงและคัดค้านเรื่องปราสาทพระวิหาร เชื่อสถานการณ์ ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นแตกหัก และมีหนทางคลี่คลายปัญหาได้
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1309326761&grpid&catid=01&subcatid=0100
---------------------------------------------------------
ถอนตัวมรดกโลก เย้ยสุวิทย์ รักษาการทำไม่ได้
รองปลัดกระทรวงต่างประเทศ ระบุ 'สุวิทย์' เป็นรัฐบาลรักษาการ ไม่มีอำนาจในการถอนตัวจากสมาชิกมรดกโลกได้ ชี้ เป็นแค่การวอล์คเอาท์ การถอนตัวจะทำได้หลังเลือกตั้ง เมื่อได้รัฐบาลใหม่ดำเนินการ...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00-12.00 น.วันที่ 28 มิ.ย. ที่ห้องประชุมลานนาไทย โรงแรมเชียงใหม่ออคิด ถ.ห้วยแก้ว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้มีการประชุมตามโครงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การดำเนินการของไทยกรณีปราสาท พระวิหารและมีการบรรยายความรู้เกี่ยวกับอาเซียนและการร่วมมือทางเศรษฐกิจ มีคณะตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศ โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐ นำโดย ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผวจ.เชียงใหม่ และ นักศึกษาจากหลายสถาบันเข้ามาร่วมรับฟังกันเป็นจำนวนมาก
นายพิษณุ จันทร์วิทัน รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหาเขาพระวิหารที่เกิดขึ้น ขณะนี้การที่เราเป็นสมาชิกอาเซียน โดยประชาคมอาเซียนต้องเตรียมตัว มีตัวแทนจากกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กรมอาเซียน กรมสารนิเทศ กองกฎหมาย สำหนักงานปลัดกระทรวง ฯลฯ ทำงานร่วมกันในการแก้ปัญหาเขาพระวิหารครั้งนี้ถือว่าบ้านเมืองไม่ปกติ เหมือนที่เคยเป็นมาแน่นอน เพราะฉะนั้น การนำข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงมาพูดให้ชาวบ้านฟังน่าห่วง จากที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ พ.ศ.2505 จนกระทั่งปัจจุบันพูดในฐานะข้าราชการ และได้ทำงานอย่างมืออาชีพ เรามีแต่ความจริงใจ คณะทำงานเรื่องนี้เรามีหน่วยงานต่างๆ ประชุมหารือกันตลอด ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ข้าราชการทหาร 3 เหล่าทัพ เพื่อปกป้องกันการเสียแผนดินของประเทศชาติ เมื่อทำงานมาโดยตลอด แต่มีบางคนกล่าวหาเราทำผิด และกล่าวหาว่า เราขายชาตินั้นถือว่ารุนแรงและกล่าวหากันเกินไป เราทำงานพร้อมกับนักวิชการ และผู้รับผิดชอบหลายฝ่ายจะไม่คิดพิจารณาทำในสิ่งที่ถูกหรืออย่างไร
นายพิษณุ กล่าวต่อว่า "ผมไปที่ไหน ก็ถูกต่อว่ากระทรวงการต่างประเทศไทยไม่ทันเขมร เขมรก้าวไปข้างหน้าแล้ว เราเดินตาม ผมยอมรับว่าใช่ เราทำงานเป็นสากลเราต้องเดินตาม เล่นบทตำรวจจับผู้ร้ายในสายตาประชาชน เรามองไทย เรากับเขมร เรามองว่าคนละระดับ เราไม่ได้ว่าเพื่อนบ้าน หากเราจะแลกหมัดเข้าไปไล่ทุบ เขาก็จะไปร้องกับโลกว่าเรารังแกประเทศเล็ก มีหลายพวกในประเทศไทย กล่าวหากองทัพประเทศไทยว่าเรามีกำลังมากกว่าหลายร้อย เท่าทำไมเราไม่เข้าไปยึด เราถามกลับไปว่าภาวะปัจจุบันเราทำแล้วได้อะไร สระแก้วผู้ว่าฯ เล่าให้ฟังว่าการค้ามีเงินสะพัดมากกว่า 3 หมื่นกว่าล้านบาท เฉพาะโรงเกลือ ดังนั้น เรายังต้องการสัมพันธ์อันดีกับกัมพูชาตลอด เพราะเราต้องการให้เศรษฐกิจและการค้าของไทยกับเพื่อนบ้านดีขึ้น"
นายพิษณุ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ทางคณะทำงานของเรา คือ จำกัดความแพ้ให้หยุดอยู่เพียงเท่านั้น เพราะศาลโลกได้ตัดสินแล้วว่าปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา แต่ไม่ได้พูดถึงที่ดินโดยรอบปราสาท จึงเป็นของไทย และ หลังจากคำตัดสินของศาลโลกเมื่อ 49 ปีที่แล้วเรายอมรับมติของศาลโลก ว่าเราแพ้กัมพูชา แล้วตามคำตัดสินของศาลโลกว่าปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา แต่ศาลโลกไม่ได้ชี้เขตแดนและศาลโลกได้ปฏิเสธเรื่องเขตแดนมาตั้งแต่ต้น และ บัดนี้ 50 ปีมาแล้ว กัมพูชาจะมาพูดเรื่องเขตแดน เป็นไปไม่ได้ ตอนนี้เราทำได้เพียงแค่การจำกัดความแพ้ให้หยุดเพียงแค่นี้ เราจะแพ้มากกว่านี้ไปอีกไม่ได้ จะให้เราชนะคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเราแพ้มาตั้งแต่ต้น แต่เราเชื่อระบบความยุติธรรมของศาลโลก เพราะคงไม่เหมือนปี 2505 ที่ตัดสินให้เราแพ้ ขณะนี้โลกเปลี่ยนไป ฝรั่งเศสไม่ได้เป็นมหาอำนาจอีกต่อไปแล้ว ตนเชื่อว่าความทันสมัยในการสื่อสารในยุคปัจจุบันที่ทีมงานของกระทรวงต่าง ประเทศ ซึ่งได้รับการตั้งตามมติของคณะรัฐมนตรีไปแถลงต่อศาลโลก ทั่วโลกได้ทราบข้อเท็จจริงหมด ซึ่งตนเชื่อในความยุติธรรมของศาลโลกแล้ว แต่ความเฉียบพลันและความแม่นยำของข่าวสารนั้น โกหกกันไม่ได้ ซึ่งตอนนี้เราต้องจำกัดความแพ้ให้อยู่แค่นั้น
รองปลัดกระทรวงการต่าง ประเทศ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ ต้องรอฟังศาลโลกจะพิจารณาที่ทางกัมพูชาขอมาตรการคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ ซึ่งหากศาลโลกให้ความคุ้มครองชั่วคราวกับกัมพูชา ทางฝ่ายไทยเราต้องถอนทหารออกจากแนวเขตพื้นที่และงดทำกิจกรรมใดๆในพื้นที่ข้อ พิพาทรอบๆ เขาพระวิหารออกมาทั้งหมด ศาลโลกออกไปตามที่กัมพูชาร้องขอจริง เราถือว่าเป็นเรื่องเลวร้ายมาก คาดว่า ประมาณเดือนกรกฎาคม ศาลโลกคงมีมติเรื่องนี้ออกมา ตามที่กัมพูชาร้องขอให้ หากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้น เราต้องมาพิจารณากันใหม่ว่าเราจะปฏิบัติตามศาลโลกหรือไม่ โดยเราจะเอาประโยชน์ของประเทศชาติมาชั่งว่าเราจะทำหรือไม่ทำ ซึ่งเราคิดว่าไม่ควรจะเกิด
ต่อข้อถามที่ว่าไทยถอนตัวจากการเป็น สมาชิกมรดกโลก ได้หรือเสียอย่างไร รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า มีทั้งได้และเสีย เราไม่คาดคิดมาก่อนว่าเราจะถอนตัว เรากำลังประเมิน เพราะคณะกรรมการมรดกโลก หัวหน้าคณะ คือ นายสุวิทย์ คุณกิตติ ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจามรดกโลกฝ่ายรัฐบาลไทย นายสุวิทย์ บอกเพียงว่า ถ้าไม่ถอนตัวเกรงว่าระยะต่อไปหากไปรับมติอันนี้อาจจะสุ่มเสี่ยงในการเสียดิน แดน ตนถามกระทรวงการต่างประเทศว่า จะได้หรือเสียอย่างไร ก็ยังไม่มีใครรู้และตอบได้ เพราะการถอนตัวยังไม่เกิดขึ้น การที่ นายสุวิทย์ ได้ลุกขึ้นออกจากการประชุมแสดงจุดยืนเท่านั้น
"หากจะมีการถอนตัว จริงๆ ต้องมีการทำหนังสือจากนายกรัฐมนตรีไปยืนยันกับกรรมการมรดกโลก ซึ่งใช้ระยะเวลาเป็นปี นาทีนี้ถือว่ายังไม่มีการถอนเป็นแค่เพียงการวอล์คเอาท์ออกจากที่ประชุม เท่านั้นและถือว่าคุณสุวิทย์เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและเป็นเพียงรัฐบาลรักษาการเท่านั้น นาทีนี้ตามกฎหมายยังถือว่าไทยยังไม่ได้ถอนตัว ซึ่งการถอนตัวจะทำได้หลังจากการเลือกตั้ง เมื่อได้รัฐบาลใหม่เท่านั้นจะดำเนินการได้ เพราะรัฐบาลรักษาการไม่สามารถถอนตัวจากมรดกโลกได้ มีคำถามอีกว่ากรณีที่เราขึ้นทะเบียนมรดกโลกแล้ว 5 แห่งในประเทศไทยนั้นจะเป็นอย่างไร และกำลังขอเป็นมรดกโลกอีกจำนวนหลายแห่ง ผมคาดการณ์ว่า ที่ขอไปแล้วก็ได้ไป แต่ที่ขอใหม่ไม่ทราบ เดาได้ว่าน่าจะไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นมรดกโลกก็เป็นได้ แต่ผมก็เชื่อว่าคณะผู้แทนของไทยเราก็ได้ไตร่ตรองดูแลที่ประกาศถอนตัวออกมา และคงไม่เลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว เพราะหลายคนออกมาพูดว่าการถอนตัวไม่น่าจะได้ประโยชน์มากกว่าอยู่ในนั้น" นายพิษณุกล่าว
ไทยรัฐออนไลน์
* โดย ทีมข่าวภูมิภาค
* 28 มิถุนายน 2554, 17:11 น.
http://www.thairath.co.th/content/pol/182430
---------------------------------------------------------
อันที่จริงสถานการณ์กรณีเขาพระวิหารฝ่ายไทยตอนนี้
กำลังตกเป็นลอง หลังพลาดท่าในสมัยชวน 2
ทำให้ต้องไปยึดแผนที่ที่ทำให้เขมรได้เปรียบ
ส่วนแผนที่ที่ไทยได้เปรียบกับไม่ได้อยู่ในบันทึกข้อตกลง
ผลก็คือถ้าถูกนำขึ้นศาลโลกวันนี้
ก็แพ้ย่อยยับอาจเสียดินแดนมากกว่าที่คิด
การดำเนินกลยุทธ์จำกัดความพ่ายแพ้
ของกระทรวงต่างประเทศเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
โดยอาจต้องยอมเสียพื้นที่ส่วนน้อย
เพื่อแลกกับการที่ไม่ต้องเสียไปทั้งหมด
แต่ก็มีขบวนการปลุกกระแสคลั่งชาติ
ปั่นหัวหลอกชาวบ้านราวกับว่า
ไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบ หลักฐานเพียบ
พอที่จะสู้เอาปราสาทเขาพระวิหารมาเป็นของไทยได้
สุดท้ายพอไปเจอมาตรฐานสากลที่ศาลโลกทีไร
แพ้ตกม้าตายทุกครั้ง แถมยังปลุกให้ก่อสงคราม
ก็ยิ่งเข้าทางฝ่ายที่มีหลักฐานสู้ในศาลโลกอีก
เหม สั่งให้ส่ง 3 เหล่าทัพไปบุก
ทัพเรือปิดน่านน้ำ ทัพอากาศบอม์บ ทัพบกลุยให้ราบ อย่างฮา
ขอโทษทีอาจจำที่พูดเต็มๆ ไม่ได้ แต่มันแนวๆ นี้
เข้าทางเขมรทันที ลากไปเชือดได้เลย
ขนาดตีกันเองในประเทศวันนี้เป็นยังไง
โดนไปแล้ว ศาลโลกสั่งจับกัดดาฟี่แล้ว
แล้วถ้าระหว่างประเทศมีหรือจะไม่ได้
ปัญหาติมอร์ตะวันออกก็เหมือนกัน
ที่เป็นสิ่งยืนยันว่าต่างชาติแทรกแซง
แบ่งแยกดินแดนได้ไม่ใช่ไม่สามารถตัดสินได้
ไม่ว่าจะศาลโลกหรือเป็น UN ก็ตาม
นี่เป็นตัวอย่างอย่างดี
การหลอกตัวเอง ยอมรับความจริงไม่เป็น
ยังคิดว่าใช้ข้อมูลที่ปั่นหัวหลอกคนไทยบางคนให้เชื่อ
ให้คลั่งชาติเพื่อสนับสนุนสงครามไปวันๆ
จะเอาไปใช้สู้กับเขมรในศาลโลกได้
ไปเมื่อไหร่ก็คงแพ้ยับเยินกลับมาเมื่อนั้นแหล่ะ
คำคม มาหาอะไร
"หลอกตัวเอง เกรงข้าศึก คึกเกินเหตุ เลศนัยไม่มี รบกี่ทีก็แพ้"
โดย มาหาอะไร
FfF