แค่รวมตัวเลขหลังโดยสอยเรียบร้อยแล้วได้เกินครึ่ง
ประมาณ 270-290 เสียง ก็มั่นคงอยู่ได้นานอยู่แล้ว
ยิ่งเสียง พท. มีเสียงเกินครึ่งอยู่แล้ว
อำนาจต่อรองพรรคร่วมแทบไม่มี
ให้เก้าอี้ดีหน่อยก็โอเคแล้ว
ไม่โอเคเอาพรรครอเสียบมีมากมาย
เสียงมากๆ จะถูกเล่นงานเรื่องเผด็จการในสภาอีก
ยิ่งพยายามรวบรวมมากเท่าไหร่
ภาพจะยิ่งออกมาแบบนั้นมันไม่ส่งผลดี
สู้มีเสียงเกินนิดๆ หน่อยๆ ให้ฝ่ายตรงข้ามได้ลุ้นจะดีกว่า
ฝ่ายตรงข้ามจะได้หวังลุ้นเปลี่ยนในสภา
มากกว่าออกไปเล่นนอกสภาแบบเดิมๆ
อีกอย่างเสียงมากถ้าโกงกินบริหารไม่ได้เรื่องก็อยู่ไม่ได้
เสียงน้อยแต่ถ้าเกาะกันแน่น
ขนาดแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเสียงไม่ถึงครึ่งอย่าง ปชป.
ยังอยู่เกือบครบเทอมทุกครั้งที่แย่งเก้าอี้พรรคอื่นมาได้
เราว่าเอาแค่พรรคของบรรหารมาก็โอเคแล้ว
จะได้เก้าอี้เหลือแบ่งกันเองเยอะขึ้นด้วย
อย่าพยายามคาดหวังเด็ดขาดว่า
จะลากยาวไปครบเทอมได้
แค่คิดว่าจะอยู่รอดไม่รอดแบบปีต่อปีจะดีกว่า
เพราะสถานการณ์พร้อมโดนล้มตลอดเวลา
ที่สำคัญจะทำให้การหาเสียงงวดหน้า
ได้ชัยชนะเด็ดขาดมากขึ้น
ถ้าไม่เอาพวกคู่แข่งมาร่วมมาก
ส่วนสูตรดึงงูเห่าพรรคภูมิใจไทยมาร่วมรัฐบาล
ทำไม่ยากแต่อายุรัฐบาลอาจสั้นกว่าที่คาดไว้
หมดความชอบธรรม เหมือนรัฐบาลบอภิสิทธิ์ทันที
ที่เคยสร้างตำนานงูเห่ากับเพื่อไทยมาก่อน
แล้วถ้าเพื่อไทยทำมันจะต่างอะไรกับที่ไปด่าพวกนั้น
มันจะย้อนเข้าหาพรรคพวกตนเองได้
นอกจากนี้พวกเดียวกันก็จะเริ่มยี้ด้วย
เตือนอีกที สูตรงูเห่านี้ อายุสั้นที่สุด
ถ้าทำเมื่อไหร่ ไอ้ที่เคยไปด่าเนวิน เนรคุณอะไรก็คงไม่ได้แล้ว
หรือที่ไปด่าว่าเขาต่างๆ นาๆ ที่ไปเป็นงูเห่า
ชูอภิสิทธิ์เป็นนายกก็ด่าไม่ได้อีก
ที่สำคัญในเมื่อเขาตั้งตัวเป็นงูเห่าชัดเจน
แถมเลือกตั้งงวดนี้ฟาดฟันกันสุดฤทธิ์
ไม่รวมหนุนพวกตรงข้ามปราบปรามเสื้อแดง
ยังไงก็ยอมรับไม่ได้ ดึงมาได้ แต่จะนับถอยหลังรัฐบาลนี้ทันที
เพราะจะไม่โดนแค่ฝ่ายตรงข้ามเล่นงาน
แต่อาจจะโดนพวกเดียวขย่มจนน่วมได้
งวดนี้อยู่เกิน 1 ปีก็ถือว่าเก่งแล้ว
ถ้าอยู่ได้ 2 ปี เป็นอะไรที่คาดไม่ถึง
3 ปีขึ้นเซอร์ไพร์สสุดๆ ดังนั้นอย่าคาดหวังมาก
ตั้งสูตรพอเพียงให้พวกนั้นหวังเล่นเกมในสภา
อาจจะลดแรงกดดันจากเกมนอกสภาได้มาก
ไม่งั้นก็จะย้อนรอยเหมือนสมัย ทรท.
มีเสียงมากแต่ก็ไปไม่รอดอยู่ดี
แถมมีมากๆ แล้วทำอะไร
มักจะออกอาการไม่เห็นหัวคน
มากกว่ามีน้อยๆ จะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่
จะได้เจียมตัวบริหารประเทศแบบไม่มีนอกมีในโกงกินกันมาก
เพราะใครโกงยิ่งชัดเจนหรืออื้อฉาวมาก
โอกาสโดนสอยในสภาได้แบบนี้
จะเท่ากับยืมมือฝ่ายค้านมาช่วยประคองรัฐบาล
แต่ถ้าคิดว่าโกงกินก็ไม่เป็นอะไรมีเสียงมาก
โหวตเมื่อไหร่ก็ผ่าน ก็คงไม่ต่างอะไรกับรัฐบาลชุดที่แล้ว
ถ้างวดนี้บริหารประเทศได้ดี
โอกาสที่ประเทศไทยจะเหลือแค่สองพรรคใหญ่ก็ใกล้เป็นความจริงเรื่อยๆ
เหมือนช่วง ทรท. อีกครั้ง แต่ก็จะเจอแรงต้านทานจากเหล่าผู้มีอำนาจอีกครั้ง
ดังนั้น ถ้ายังไม่อยากเผชิญหน้าเร็วๆ ก็อย่าพยายามไปกวาดต้อนมาร่วมพรรคมาก
แบบแค่ชนะเกินครึ่งก็นอนกันไม่หลับแล้วถ้าเกิน 300 เสียง
ก็คงมีคนสั่งลุยแล้วหล่ะ สมัย ทรท. ล้ม เพราะความพยายาม
จะสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับพรรค ในขณะที่รากฐานไม่แข็ง
คือมันยิ่งใหญ่แบบกวาดต้อนเขามาร่วมพรรคไม่ได้ยิ่งใหญ่เพราะอุดมการณ์
ถ้ายิ่งใหญ่เพราะอุดมการณ์มีมากเท่าไหร่เต็มที่ไม่ต้องกั๊กเลย
แนวคิดในการบริหารประเทศแบบเดิมๆ ที่เดินพลาด
ถ้ายังหลวมตัวเดินตามรอยเดิมก็จบเหมือนเดิม
เอาแค่พออยู่ได้ ไม่ต้องมาก แล้วใครงี่เง่าก็ไปดึงพรรครอเสียบ
ตอนนี้มี 3 พรรคพอเสียบได้ ไม่จำเป็นต้องดึงมาหมดด้วยซ้ำ
พรรคไหนเรื่องมากก็เอาพรรคใหม่มาเสียบแทนก็ได้
หรืองี่เง่ามากเป็นพรรคเดียวก็ได้ ในเมื่อเสียงเกินครึ่งแล้ว
และอย่าคิดบริหารประเทศแบบ ปชป.
ที่เน้นตัวเลขทางเศรษฐกิจมากกว่าชีวิตจริง
อันนี้ก็บทเรียนสำคัญเลย ถ้าเดินตามรอยสุดท้ายก็จะจบคล้ายกัน
การตั้งรัฐบาลให้ฝ่ายค้านมีเสียงระดับ 200
ก็เพื่อไม่ให้ไปอ้างว่าเป็นเผด็จการรัฐสภาอะไร
จะลดเงื่อนไขเรื่องนี้ลง ดีกว่าไปทำให้เขาเสียงน้อยๆ
แล้วไม่มีลุ้นเล่นในสภา ก็เลยพากันไปเล่นนอกสภาเหมือนเคย
สรุปหยุดเล่นการเมืองแบบเก่าๆ
ถ้าอยากอยู่ได้นานกว่า 1 ปี
เน้นทำงานบริหารประเทศไป
ส่วนเกมการเมืองก็มีหน่วยโต้ตอบ
มีแฟนคลับช่วยอยู่แล้ว
อีกอย่างงวดนี้กองเชียร์ก็ต้องช่วยกันตรวจสอบเพิ่มมากขึ้นด้วย
ไม่ใช่อวยกันอย่างเดียว เพราะสมัย ทรท. ก็อวยกันอย่างเดียว
สุดท้ายก็เลยทำอะไรเข้าทางฝ่ายตรงข้ามมากขึ้น
และเท่าที่สังเกตุ มีโอกาสที่ยิ่งลักษณ์จะเพลี่ยงพล้ำเกมการเมืองสูง
ดังนั้นถ้าอะไรไม่แน่ใจ ควรจะใช้วิธีโยนหินถามทาง
เพื่อให้สื่อ นักวิชาการ หรือกองเชียร์ติติง
จะได้ชั่งน้ำหนักระหว่างข้อดีกับข้อเสีย
แบบนี้ก็จะผิดพลาดยากขึ้น มากกว่าไปงุบงิบทำกันไม่กี่คน
และก็ไม่รู้ว่าไม่กี่คนที่ว่า เป็นคนของฝ่ายตรงข้ามแฝงตัวมากี่คน
ซึ่งอาจแนะนำทำอะไรที่เข้าทางฝ่ายตรงข้ามได้
โดย มาหาอะไร
FfF
บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.