ลองอ่านดู
ของเก่าแล้วสมัยช่วงคมช.
แต่คิดว่าช่วงนี้เขาจะทำแบบเดิมไหม
ส่วนตัว
ผมว่ากำลังทำเหมือนเดิม
เพียงแต่เปลี่ยนตัวละครแต่เนื้อหาเหมือนเดิม
สังเกตุดูก็รู้
ที่จริงน่าทำเป็นคู่มือแจกชาวบ้านไปทุกครัวเรือน
เพื่อให้เขาดูสื่อได้อย่างรู้เท่าทัน
เพราะมีคู่มือประกอบให้เข้าใจว่า
เขากำลังตบตาหรือหลอกลวงอะไรให้ประชาชนดูอยู่
แนะนำให้ Save เก็บไว้ครับ
แจกเป็นคู่มือให้ชาวบ้านเห็นก็ดีครับ
ทำงานกันได้ขยันขันแข็งแบบนี้น่าสรรเสริญมาก
คุ้มเงินภาษีประชาชนมากๆ
ต้องเอาไปโพทะนาต่อ
อีกอย่างสังเกตุดูน่ะ
เขาใช้คำว่าเขากำลังทำสงครามประชาชนอยู่
ดังนั้นวิธีคิดวิธีจัดการ
จากวันนั้นจนวันนี้ก็คงยังไม่เลิก
และยังเดินหน้าทำลายล้างพรรคที่เขาไม่ชอบ
ไปหนุนพรรคที่เขาอยากหนุน
เพื่อความปลอดภัยของเขาด้วย
ดูวิธีการทั้งหมด
วิธีสกปรกก็ยังทำ
ไม่ว่าจะเป็นการบิดเบือนข่าวสารโจมตีก็ยังทำ
ความคิดแบบนี้ แนวคิดแบบนี้
เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยยิ่งนัก
แถมยังเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่า
พวกนี้กำลังแทรกแซงการเมืองตลอดเวลา
โดย มาหาอะไร
--------------------------------------------------
เนื้อหาบางส่วนถอดความโดยหนังสือพิมพ์มติชน
วันที่ 19 พฤจิกายน 2550 เวลา 17:18:06 น.
เรื่อง สรุปการบรรยายพิเศาและการประชุมมอบโอวาทของ ผบ.ทบ.ให้กับ ผบ.หน่วยระดับกองพันขึ้นไป
เรียน ผบ.ทบ.
อ้างถึง 1. หนังสือ ยก.ทบ.ด่วนมาก ที่ กห 0403/1183 ลง 7 ก.ย.50
2.วิทยุ ยก.ทบ.ด่วนมาก ที่ กห 0403/1207 ลง 13 ก.ย.50
สิ่งที่ส่งมาด้วย บันทึกการถอดเทปคำบรรยายพิเศษและการประชุมมอบโอวาทของผบ.ทบ.ให้กับ ผบ.หน่วยระดับกองพันขึ้นไป เมื่อ 21 ก.ย.50
1. ตามที่ ผบ.ทบ.ได้กรุณากำหนดให้มีการบรรยายพิเศษ และการประชุมมอบโอวาทของ ผบ.ทบ.ให้กับ ผบ.หน่วยระดับกองพันขึ้นไป ณ หอประชุมกิจติขจร เมื่อ 21 ก.ย.50 เวลา 12.45-14.00 (รายละเอียดตามอ้างถึง 1=2) นั้น
2. สลก.ทบ. ได้ถอดเทปการบรรยายพิเศษและการกล่าวมอบโอวาทของ ผบ.ทบ.ให้กับ ผบ.หน่วยระดับกองพันขึ้นไป ตามข้อ 1 เสร็จเรียบร้อยแล้ว (รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย) สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
2.1 การบรรยายพิเศษของ รอง ผบ.พล.1 รอ.ได้กล่าวเปรียบเทียบการทำสงครามแย่งชิงประชาชนในห้วงก่อนยุคสงครามเย็น ยุคสงครามเย็น และในยุคประชาธิปไตยทุนนิยมเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจรัฐ อาทิ ประเทศฝรั่งเศส รัสเซีย ลาว และเนปาล ซึ่งได้มีการปฏิวัติหรือเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองประเทศ และล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยใช้พลังประชาชนในระดับรากแก้วเป็นแนวร่วมและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจรัฐและการดำเนินการตามเป้าหมายที่บุคคล กลุ่มบุคคล หรือพรรคการเมืองต้องการ สำหรับในประเทศไทยได้ต่อสู้กับความขัดแย้งทางด้านลัทธิอุดมการณ์ กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในห้วงยุคสงครามเย็นมาเป็นระยะเวลาอันยาว นาน โดยในระยะแรกเป็นการดำเนินการต่อสู้ทางทหาร และต่อมาจึงประสบผลสำเร็จด้วยการใช้นโยบายการเมืองนำการทหาร โดยมีองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงกรุณาเป็นตัวอย่างในการสละเวลาและอุทิศพระองค์ เพื่อประชาชน และแย่งชิงประชาชนให้อยู่กับสถาบันพระมหากษัตริย์และกองทัพ ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2495 ถึงปัจจุบันมีโครงการพระราชดำริ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ยากจน การแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อน มากกว่า 4,000 โครงการ
สำหรับ สถานการณ์ด้านการเมืองของประเทศไทยใน ปัจจุบันยังคงดำเนินการต่อสู้ทางการเมืองด้วยการแย่งชิงประชาชนในระดับราก แก้ว โดยพรรคการเมืองที่ใช้นโยบายประชานิยม ได้ใช้วิธีการทุ่มเงินจำนวนมหาศาล เพื่อให้ประชาชนในระดับรากแก้วเกิดความนิยมชมชอบในตัวผู้นำ ทั้งที่นโยบายดังกล่าวมิได้นำไปสู่การแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนได้ อย่างแท้จริง รวมทั้งมีแนวความคิดต่อต้านปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวฯ ที่มุ่งหมายให้ประชาชนมีความเป็นอยู่อย่างพอเพียงด้วยการพึ่งตนเอง ทั้งนี้แนวนโยบายประชานิยมดังกล่าว ได้เกิดขึ้นจากการผลักดันของกลุ่มนักการเมืองที่เป็นอดีตสมาชิกพรรค คอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยเป็นแกนหลัก ซึ่งได้เปลี่ยนแนวทางการต่อสู้ด้วยการใช้กำลัง มาเป็นการดำเนินการทางด้านการเมืองในระบอบประชาธิปไตย และยังคงมีแนวความคิดที่จะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีแนวทางและทฤษฎีในการทำสงครามประชาชนที่ไม่แตกต่างจากอดีตที่ผ่านมา จึงขอให้กองทัพซึ่งเป็นสถาบันหลักที่เคียงคู่กับสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดย ตลอดนั้น ได้ดำเนินการเพื่อแย่งชิงประชาชนกลับมาให้อยู่กับสถาบันพระมหากษัตริย์และ กองทัพต่อไป
2.2 ผบ.ทบ.กล่าวมอบโอวาทให้กับ ผบ.หน่วยระดับกองพันขึ้นไป
2.2.1 การบรรยายของ รอง ผบ.พล.1 รอ.ถือเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณชนได้ เนื่องจากอาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และมอบภาพว่า กอ.รมน.หรือ ผบ.ทบ.ปลุกให้สิ่งที่หมดสิ้นไปแล้วในอดีตกลับคืนมาอีก ซึ่งฝ่ายตรงข้ามยังมีแนวความคิดและนโยบายในการดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป ด้วยการจัดระเบียบในการบริหารประเทศในลักษณะของทุนนิยมรูปแบบใหม่ ดังนั้นในอนาคตการต่อสู้เพื่อแย่งชิงประชาชนจะยังคงมีอยู่ต่อไป การที่กำหนดให้ ทบ.ใช้กลยุทธ์ 3 เกาะติดนั้น มีวัตถุประสงค์ เพื่อแย่งชิงประชาชนทุกระดับและทุกพื้นที่กลับมาอยู่กับกองทัพ และทำให้ประชาชนมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และชาติบ้านเมือง นอกจากนี้ได้มีการดำเนินการตามโครงการคุณธรรมนำไทยการมอบแนวทางและนโยบายกับ ผบ.หน่วย เพื่อทำให้ประชาชนรักกองทัพ ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมนั้น จะต้องเริ่มที่การทำให้กำลังพลของกองทัพเป็นทหารที่ดี มีวินัยความเข้มแข็งและชาญฉลาดเพื่อให้กองทัพมีศักดิ์ศรี มีเกียรติ เป็นที่ศรัทธา เลื่อมใสของประชาชนรวมทั้งจะต้องสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจที่ดีกับ หน่วยงานราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ซึ่งกองทัพหน่วยงานราชการและประชาชน จะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ และนำไปสู่ชัยชนะในการทำสงครามประชาชน หน่วยงานราชการต่างๆ และประชาชนจะเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบการบริหารประเทศของฝ่ายการเมืองที่ เข้ามาบริหารประเทศต่อไป
2.2.2 หน่วยงานในระดับกระทรวง ทบวง กรม จะต้องกำหนดแผนงาน และยุทธศาสตร์ของกระทรวงให้ชัดเจน เพื่อนำไปสู่การจัดทำยุทธศาสตร์แห่งชาติในการพัฒนาของแต่ละหน่วยงานในอนาคต ทั้งนี้เพื่อให้นักการเมืองได้นำไปกำหนดแนวทางในการบริหารประเทศตาม ยุทธศาสตร์ของกระทรวง ที่กำหนดไว้เป็นแผนไทยระยะยาว หรือที่เรียกว่าแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งที่ผ่านมานั้นมีการดำเนินการที่ไม่สอดคล้องกันทำให้การพัฒนาประเทศขาด ความต่อเนื่อง การต่อสู้ในประเด็นดังกล่าวของกองทัพ ต้องดำเนินการด้วยความราบรื่น ด้วยการใช้กุศโลบาย เพื่อไม่ให้เกิดการต่อต้านว่าเป็นระบอบอำมาตยธิปไตยดังนั้นปัญหาเฉพาะหน้า ของกองทัพที่สำคัยกว่าปัญหาในพื้นที่ จชต.ได้แก่ การทำสงครามประชาชน และตระหนักว่ากองทัพกำลังเผชิญและต่อสู้กับกลุ่มขบวนการหนึ่ง ที่มีความพยายามในการโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ในทุกลักษณะ และทุกรูปแบบ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยปัจจัยแห่งความสำเร็จนั้นผบ.หน่วยจะต้องทำให้กำลังพลในกองทัพคิดเหมือน กัน และทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบคิดเหมือนกำลังพลในกองทัพ
นอก จากนี้ รอง ผอ.รมน.จว.ฝ่ายทหาร จะต้องเป็นบุคคลที่มีประสิทธิภาพ เป็นนักการทูตนักการเมือง และนักการทหาร สามารถโน้มน้าวจิตใจของบุคลากรทุกระดับในจังหวัดนั้นๆ ให้ หันมาสนับสนุนกองทัพได้ สำหรับการปฏิบัติภารกิจของ กอ.รมน.และการพัฒนาประเทศในห้วงที่ผ่านมา ได้กำหนดแผนงานและโครงการไว้ชัดเจน ซึ่งการปรับเปลี่ยนให้มีความเหมาะสมในระยะต่อไปนั้น จะขึ้นอยู่กับ ผบ.ทบ.ท่านใหม่ โดยผลลัพธ์สุดท้ายจะอยู่ที่การเอาชนะที่ประชาชน เพื่อประชาชน การปฏิบัติภารกิจของ กอ.รมน.ทุกๆ เรื่องนั้น จะประสบผลสำเร็จได้ด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น ซึ่งต้องมีแนวความคิดสอดคล้องกับกองทัพ ดังนั้นกำลังพลที่ปฏิบัติงานสนับสนุนภารกิจของ กอ.รมน.จะต้องได้รับการพัฒนาขีดความสามารถ มีความรู้ในทางพลเรือนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งระดับ มีความเข้าใจด้านการเมืองและเศรษฐกิจ และสามารถชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจได้ สำหรับพลทหารประจำการที่ปลดประจำการจากองทัพไปแล้ว จะต้องให้มีความรู้ และสามารถกลับไปสร้างมวลชนให้กองทัพได้มากขึ้นรวมทั้งในส่วนของ กอ.รมน.ซึ่งมีหลายโครงการที่จะสร้างคนให้มีอุดมการณ์รักชาติมีกลุ่มเป้าหมาย ที่หลากหลาย โดยเฉพาะ นสร.ต้องกำหนดแนวทางการพัฒนา นศท.ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้โดยให้มีการจัดหมวด หมู่ ในแต่ละจังหวัดและเข้าไปดำเนินการควบคุม และใช้ประโยชน์ทั้งในด้านการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ การแก้ไขปัญหายาเสพติด แรงงานต่างด้าวและผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
2.2.3 สถานการณ์ภัยคุกคามจากภายนอกประเทศ น่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก อย่างไรก็ตามการแทรกซึมเข้ามาของฝ่ายตรงข้าม การหลั่งไหลของยาเสพติดผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย นั้น ให้ กกล.ป้องกันชายแดนยังยึดถือว่าการป้องกันประเทศเป็นภารกิจที่สำคัญ โดยต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับการดำเนินการของ กอ.รมนงโดยเฉพาะในสภาวะที่กองทัพขาดแคลนงบประมาณ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้กำลังประชาชนคอยช่วยเหลือและแจ้งเตือน สำหรับการสร้างชุมชนให้มีความเข้มแข็ง เมื่อได้มีการจัดตั้งแล้ว ให้นำมาใช้งานทดแทนกำลังรบหลัก ที่มีภารกิจที่สำคัญกว่า โดยจะต้องจัดระเบียบการใช้กำลังให้สอดคล้องกับภัยคุกคามในแต่ละพื้นที่อย่าง แท้จริง ซึ่งในอนาคตต้องให้ประชาชนเป็นของกองทัพ สำหรับในห้วง 2 ปี ที่ผ่านมานั้น ภารกิจของ ทบ.ประสบผลสำเร็จด้วยดีเกินกว่าความคาดหมาย เนื่องจากผบ.หน่วยทุกนายที่ได้ทุ่มเทในการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบ ผบ.ทบ.จึงขอบคุณทุกนายที่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก สำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 19 ก.ย. 49 นั้น ผบ.ทบ.จะปกป้องผบ.หน่วยและกำลังพลทุกนาย ให้ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองอย่างมีความสุขและความสบายใจจึงขอให้ทุกนายมุ่ง มั่นในการปฏิบัติงาน อย่างมีอุดมการณ์และไม่ท้อแท้
3. ยก.ทบ.พิจารณา แล้วเห็นว่า การบรรยายพิเศษโดย รอง ผบ.พล.1 รอ.และการประชุมมอบโอวาทของ ผบ.ทบ.ให้กับผบ.หน่วยระดับกองพันขึ้นไป ตามข้อ 2 ทำให้ ผบ.หน่วยได้รับทราบสถานการณ์ โดยเฉพาะด้านการเมืองในห้วงที่ผ่านมาและในระยะต่อไป ที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ และความมั่นคงของชาติโดยรวม สำหรับการดำเนินการของกองทัพในห้วงระยะเวลาต่อไปนั้น จะต้องแย่งชิงประชาชนในทุกระดับและทุกพื้นที่ให้หันมาสนับสนุนกองทัพ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือว่าเป็นหน้าที่ของกำลังพลทุกคน ที่ต้องมีความเข้าใจสถานการณ์ดังกล่าวในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งการทำให้ประชาชนมีความเข้าใจเช่นเดียวกับกำลังพลของกองทัพ โดยปัจจัยของความสำเร็จนั้นกองทัพจะต้องส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาความรู้ ความสามารถของกำลังพล ให้มีความเข้าใจสถานการณ์ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ เพื่อให้การทำความเข้าใจกับประชาชน สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รวม ทั้งต้องสร้างความสัมพันธ์ และความเข้าใจทีทดีกับส่วนราชการอื่นๆ ผู้นำและองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น เพื่อให้พลังของกองทัพ ส่วนราชการ และกำลังประชาชนเป็นพลังที่เข้มแข็ง เป็นภูมิคุ้มกันการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุขต่อไป นอกจากนี้จะต้องผลักดันให้หน่วยงานในระดับกระทรวง ทบวง กรมได้จัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาในระยะยาว เพื่อให้นักการเมืองที่หมุนเวียนเข้ามาบริหารประเทศได้นำไปจัดทำนโยบายที่ เป็นแนวทางเดียวกัน เพื่อก่อให้กิดความต่อเนื่องในการพัฒนาประเทศดังนั้น จึงเห็นสมควรให้ นขต.ทบ.จนถึงระดับกองพัน ได้รับทราบข้อมูลจากการบรรยายพิเศษและการมอบโอวาทของ ผบ.ทบ.ตามข้อ 2.1 และข้อ 2.2 เพื่อนำไปยึดถือเป็นกรอบในการดำเนินการและนำไปสู่การปฏิบัติให้เป็นไปในทิศ ทางเดียวกันอย่างบูรณาการและเป็นเอกภาพต่อไป
4.ข้อเสนอ เห็นสมควรดำเนินการตามการพิจารณาในข้อ 3
จึงเรียนมาเพื่อกรุณาอนุมัติตามเสนอในข้อ 4
พล.ต.อักษรา เกิดผล จก.ยก.ทบ.
--------------------------------------------------
--------------------------------------------------
--------------------------------------------------
--------------------------------------------------
--------------------------------------------------
--------------------------------------------------
--------------------------------------------------
บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.