บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


28 มิถุนายน 2552

<<< ม็อบตากฝนอีกครั้ง และ แสดงพลังเหมือนผึ้งกลับรัง >>>

วันนี้ไปกับกลุ่ม นปช. ดอนเมือง ที่พึ่งตั้งไม่กี่วัน
แต่ไปกันไม่ถึงสิบคน
หลายคนติดธุระไปที่นั่นที่นี่
ก็เลยกะว่าจะเหมาเท็กซี่ 2 คัน
เพื่อไปสนามหลวง
แต่รอตั้งนานไม่ยอมมา
สักพักมีพี่กระบะใจดี
พามาส่งแถวๆ ถ. หลานหลวง
หลังลงจากรถก็พากันเดินเรื่อยๆ
มาจนถึงสนามหลวง
มาถึงก็ยังงงๆ ว่าเวทีอยู่ไหนหว่า
เพราะเขาย้ายไปตั้งฝั่งวัดพระแก้ว
ส่วนฝั่งที่ชอบตั้งเดิมแถวหน้าธรรมศาสตร์
กลายเป็นที่จอดรถสุขา
และรถเก๋งรถกระบะจอดเต็มไปหมด
กินพื้นที่ประมาณ 2 บล็อก
เหลืออีกบล็อกสำหรับที่ชุมนุมคนเสื้อแดงครั้งนี้
ตอนแรกดูด้วยสายตานึกว่า
ทั้ง 3 บล็อกพื้นที่เท่ากัน
แต่ตอนหลังเดินนับก้าวของตัวเอง
เลียนแบบการทำแผนที่ของฝรั่ง
ที่จะใช้วิธีนี้เพื่อลักลอบทำแผนที่
ในดินแดนประเทศอื่น
พบว่าถนนที่ตัดผ่าน ม.ธรรมศาสตร์ กับ ม.ศิลปากร
ผ่านเข้าไปในสนามหลวงเหมือนผ่าครึ่งสนามหลวงเลย
ส่วนอีกสองบล็อกที่เคยจัดประจำ
จะมีพื้นที่รวมกันแล้ว
จะพอๆ กับที่พื้นที่บล็อกฝั่งวัดพระแก้ว
ผมลองเริ่มนับก้าวจากหลังเวทีนิดหน่อย
มาจนถึงถนนที่ตัดผ่าน
ได้ประมาณ 350 ก้าว
ที่จริงอาจบวกลบประมาณ 10 ก้าว
เพราะเดินตามถนนที่โค้งไม่ได้เดินเป็นเส้นตรง
กะประมาณคร่าวๆ ไว้งวดหน้า
จะไปเดินนับ
และวัดให้เป็นมาตรฐานเลย
และเส้นตัดผ่านสนามหลวง
ก็ประมาณ 250 ก้าว
นับเฉพาะบริเวณที่มีม็อบอยู่ไม่รวมทางเดิน
รวมๆ แล้ววันนี้คนมาประมาณเฉียดแสน
เพราะเอา 350 x 250 ก็ได้ 87,500 ตร.ก้าวของผม
ซึ่งตร.ก้าวของผม ก็คงประมาณคนยืนติดกัน
ถ้านั่งคงเลยตร.ก้าวของผม
แต่นับเผื่อๆ เพื่อให้รู้ตัวเลขคร่าวๆ
ไม่ถึงขนาดเป๊ะๆ อะไร
และเป็นแบบวิทยาศาสตร์
ไม่ได้คาดเดาแบบใช้สายตา
หรือใช้ความรู้สึกอย่างเดียว

หลังจากเดินซื้อนั่นนี่กินไปเรื่อยๆ
สุดท้ายก็ไปนั่งกินขนมจีนและกระเพาะปลา
แถวฟุตบาทข้างเวทีทางด้านซ้าย
ยังกินไม่ทันหมดฝนก็ตกเปาะแปะลงมา
ต้องหนีไปเข้าเต้นท์เพื่อกินให้หมด
หลังกินหมดนึกขึ้นได้ว่า
เอากล้องมาถ่ายรูปด้วย
ถ้าไม่ถ่ายช่วงฝนตก
ก็จะพลาดเหตุการณ์น่าประทับใจแน่ๆ
เลยวิ่งฝ่าสายฝนไปปีนรถกระบะบ้าง สิบล้อบ้าง
แถวๆ หลังเวทีเพื่อจะเก็บภาพอันน่าประทับใจนี้ไว้



















แต่ว่ามันอยู่ไกลไปหน่อย
เลยมาปีนโครงเหล็กด้านซ้ายมือ
เพื่อจะเก็บภาพได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
แบบนี้



















แล้วก็แบบนี้























































ลองแอบถ่ายตัวเองแบบกอดเสาไว้แน่นกลัวตกเหมือนกัน



















อยู่ๆ โครงเสาสั่นเล่นเอาเสียว
ฝีมือการเขย่าของแม่หนูน้อยคนนี้
อยากปีนขึ้นมาด้วย
แม่ไม่ให้ปีน เลยขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก



















เจ๊ดา แดงทั้งตัวเหมือนเคย



















เสื้อแดงจากพัทยาเดินเข้ามาสมทบ



















ธงบอกความหมายดี



















ขนาดแกนโลกยังเอียง คิดอะไรมาก
เลยลองถ่ายภาพเอียงๆ ดู























































สักพักเขาก็ชักจอขึ้นมาบังเรา
เลยต้องลงจากโครงเหล็กไปหามุมถ่ายรูปด้านล่างแทน
ไปเจอกลุ่ม FARED มาให้บริการปฐมพยาบาลเหมือนเคย
งวดนี้เราไม่ได้ไปช่วยอะไร กะถ่ายรูปตามงานถนัด



















นั่นไงมันเริ่มตั้งเค้ามาอีกแล้ว



















ว่าแล้วช่วงดึกๆ ตอนจตุพรกำลังพูด
ก็ตกลงมาอีกรอบ
งวดนี้ตกค่อนข้างแรง



















เรากินก๋วยเตี๋ยวเสร็จเดินออกมาได้หน่อยมันก็ตกอีกแล้ว
แถมตกแรงเสียด้วยพี่ข้างหลังเรียกเข้าไปหลบในเต้นท์
ปรากฏว่ามันก็เปียกเหมือนกัน



















ฝนตกค่อนข้างแรงมากและนานพอดู
แถมสาดเข้ามาเปียกไปหมดทำให้เริ่มจะสั่นๆ



















พอดีลืมไป
ทั้งมือถือและถ่านสำรองรวมไปถึง CD ที่พึ่งซื้อ
มันจะโดนฝนเปียก ยืนเปียกได้สักพัก
เลยขอถุงพลาสติคแม่ค้าแถวนั้น
มาห่อสิ่งของที่เปียกน้ำไม่ได้เดี๋ยวพัง

สักพัก เราก็เดินลุยฝน
เพื่อไปเก็บภาพผู้คนที่ยืนปักหลักแถวหน้าเวที



















แถวหน้าๆ เวทีปักหลักกันเหนียวแน่นจริงๆ ไม่มีถอย



















สักพักใหญ่ๆ ฝนก็หยุดตก



















นี่เป็นบริเวณบล็อกตรงกลางที่เป็นที่จอดรถ
ก็มีคนมานั่งอยู่พอสมควร



















พอดีไปเจอกลุ่ม นปช.ดอนเมือง อีกครั้ง
ซึ่งมาด้วยกันไม่กี่คนบางคนก็จะขอกลับแล้ว
เพราะเปียกไปหมด
และบางคนจะกลับหลังทักษิณโฟนอินเสร็จ
แต่บางคนก็กะจะอยู่ถึงเช้า
ส่วนเราก็จะขอกลับก่อน
เพราะเราเคยลองอยู่ถึงเช้ามาแล้ว
ทั้งหน้าจวนผู้ว่า ที่หน้ารัฐสภา
และ ที่สนามหลวงตอนไปหน้าทำเนียบในวันรุ่งขึ้น
พอเข้าใจสภาพแล้วว่าเป็นยังไง

อันที่จริงถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝัน
ไม่จำเป็นต้องยึดตามที่ตั้งเป้าไว้ตอนแรกก็ได้
เหมือนตอนที่บุเรงนองยกทัพมาตีไทย
แล้วไปเจอด่านแถวกาญจนบุรี
เจอฝั่งไทยขุดบ่อรอบด่าน
พอทหารพม่าวิ่งลุยลงไป
ก็เอาน้ำมันเทลงมาแล้วจะไฟเผา
ก็เผาทหารพม่าจนกระเจิง
แต่ก็ยังพยายามจะลุยเข้ามาอยู่
เพราะแม่ทัพไม่ได้สั่งให้ถอย
ถ้าแม่ทัพเฉยๆ คนก็จะตายเพิ่ม
บุเรงนองเลยต้องถอยไปก่อน
อาจเสียหน้าบ้าง
แต่จริงๆ แล้วรักษาไพร่พลไว้รบคราวหน้า
ดีกว่าตายกันหมดในครั้งนั้น
อันที่จริงโดนฝนก็ไม่ถึงกับตาย
แต่การให้อยู่ถึงเช้าแบบต้องยืนแบบนั้น
และเปียกกันไปทั้งตัวแบบนั้น
ทหารยามเขายืนยังมีผลัดเปลี่ยนเวร
เช่น 2 ชั่วโมงเปลี่ยนที
แบบนี้ผมว่าทรมานไปหน่อย
จริงอยู่ว่าแสดงถึงจิตใจที่เข้มแข็ง
แต่เท่าที่ดูแล้วก็โอเคแล้วหล่ะ
เพราะหน้าๆ ปักหลักเหนียวแน่นจริงๆ
หลังๆ มีบ้างที่หลบฝน
แต่ก็ทยอยเข้ามาเพิ่มเมื่อฝนซา
ถ้าแกนนำไม่เลิกบางส่วนเขาก็ไม่เลิกอันนี้จริง
อันที่จริงปรับเปลี่ยนเลิกเที่ยงคืน
ก็ไม่น่าเสียหลายอะไร
เพราะการยืนเปียกๆ แบบนั้น
และแทบไม่ได้นั่งสำหรับบางคน
เพราะพื้นเปียกโคลนไปหมดก็ไม่กล้านั่งกัน
จะทำให้เขาเจ็บไข้ได้ป่วยกันเปล่าๆ
เก็บแรงไว้สู้กันต่องวดหน้าดีกว่า
อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวน่ะ
ซึ่งผมไม่รู้ว่าหลังจากที่ผมกลับแล้ว
เขาทำยังไงกันต่อไป
แต่ก็อาจอยู่กันถึงเช้าจริงๆ
แต่ก็ไม่เป็นข่าวเท่าไหร่น่ะเราว่า
ที่อยากเสนอแนะต่อสักเรื่องคือ
ต้องเน้นว่าต่อให้แกนนำโดนจับหมด
ในการสลายม็อบครั้งต่อไป
ซึ่งไม่ทราบว่าจะโดนวันไหนหรือวิธีใด
ประชาชนที่เหลือควรมารวมตัวกัน
ที่ท้องสนามหลวงต่อไป
ไม่เช่นนั้นแล้ว
ถึงคนมาเป็นล้าน
ถ้าเขาจับแกนนำไม่กี่คน
ม็อบก็จบลงอย่างง่ายๆ

วกมาเล่าเรื่องม็อบตากฝนต่อ
พอดีก่อนกลับยังย้อนกลับไปเดินนับก้าวอีกครั้ง
เริ่มตั้งแต่บริเวณป้ายนี้



















ก่อนเดินนับก้าว กะ ถ่ายรูปวัดพระแก้วตอนกลางคืนก่อน



















พอจะเดินข้ามถนนไปถ่ายใกล้ๆ
ก็มองรถ กลัวถูกชน
ปรากฏว่ามองเข้าไปไม่มีคนขับสักคัน
ถึงรู้ว่าม็อบรากหญ้างวดนี้
เอารถเก๋ง รถกระบะ มากันเยอะจริงๆ



















นี่สนามหลวงฝั่งหน้าศาล จอดเรียงกันเป็นตับ



















นี่จอดกันเต็มไปหมดในสนามหลวงบริเวณบล็อกตรงกลาง



















นี่ก็จอดกันเต็มแถวบริเวณบล็อกหน้าธรรมศาสตร์



















และยังมีจอดกันแถวถนนราชดำเนินด้านข้างโรงแรมรัตนโกสินทร์
ยาวพอสมควร พอดีไปยืนรอรถแท็กซี่แถวๆ นั้นเลยเห็น

ส่วนนี่เป็นสภาพถนนตรงกลางที่แบ่งครึ่งสนามหลวง



















ซึ่งบริเวณนี้เดินไปเจอร้านขาย CD เกี่ยวกับไพ่
ที่ทำให้แจกไพ่แล้วเจ้ามือป็อกแปด ป็อกเก้าได้ดั่งใจนึก
สนใจยืนดูอยู่ตั้งนานทำได้จริงๆ ซะด้วย
เลยช่วยซื้อมา 4 แผ่น แผ่นละ 150 บาท
รวมทั้งกลเกี่ยวกับไพ่ด้วย



















แถมยังไปช่วยเชียร์ให้คนผ่านไปมาซื้อได้อีก 2-3 คน
เห็นเด็กคนขายลองทำให้ดูสดๆ
คนล้อมวงมากมายไม่มีใครจับได้เลย
แถมไม่ใช้วิธีซ่อนไพ่ด้วย
ใช้วิธีรวบไพ่และวิธีสับไพ่
สามารถทำให้ไพ่แจกออกมาได้ดังใจ
แม้แต่เก้าเกให้ลองทำออกมาเรียงสีแบบ J Q K
ปรากฏว่าทำได้จริงด้วย
ที่ช่วยประชาสัมพันธ์ขาย CD ให้กับคนที่มามุงดู
ก็หวังว่าเอาไปบอกลูกหลานว่า
อย่าไปเล่นไพ่พวกนี้
เพราะเจ้ามือสามารถทำไพ่ได้อย่างใจนึก
เล่นไปก็หมดตัว
แต่คิดว่าคนที่ซื้อไป
อาจเอาไปหลอกหากินในวงไพ่มากกว่า
เลยนำมาบอกในที่นี่ด้วย
เพื่อจะได้ไม่โดนหลอก
ถ้าใครยังติดเล่นไพ่อยู่
ไม่ใช่อะไรนึกถึงความหลัง
ถ้ารู้ว่าทำได้แบบนี้
คงไม่เสียหมดตัวแล้วหมดตัวอีก
ประกาศเลิกเล่นก็หลายหน
แต่ก็เลิกไม่ได้สักที
เพราะพอได้เงินที่พ่อแม่ส่งมาให้เรียน
2,000 บาทต่อเดือน
จ่ายค่าห้องที่แชร์กับเพื่อน
ค่ารถค่ากินก็แทบไม่พออยู่แล้ว
ยังจะเอามาเล่นจนหมดตัวอีก
ตอนหลังต้องใช้วิธี
ลดความอยากได้เงินคนอื่น
โดยเล่นตาละบาท
เล่นทั้งคืนได้เสียไม่กี่สิบบาท
นานๆ เข้าก็ไม่อยากเล่น
เพราะไม่อยากได้เงินคนอื่นแล้ว
ตอนมาจากประจวบไม่รู้เรื่องไพ่อะไรเลย
แทบไม่เคยเห็นสำรับไพ่ด้วยซ้ำ
พอมาเรียนในกรุงเท่านั้นแหละ
ลองจนติดกว่าจะเลิกได้เทอมสุดท้ายพอดี
ซึ่งถ้าไม่หลุดโปรก็จะโดนรีไทร์ด้วย
เนื่องจากไม่ค่อยได้ไปเรียน
โผล่หน้าไปสอบบางวิชา
อาจารย์ที่สอนวิชานั้นยังถามว่า
เธอเรียนกะฉันด้วยหรือ อิอิ
บางวันไปเรียนเพื่อนบอกว่าวันนี้มีสอบ
อ้าวพึ่งรู้แล้วจะเอาอะไรไปสอบหล่ะ
เพราะไม่ได้อ่านมาเลยมัวแต่นั่งนับเลขอยู่
มันจะไม่เกือบโดนรีไทร์ได้ยังไง
สุดท้ายพอเลิกเล่นไพ่ได้ก่อนเทอมสุดท้าย
ก็จบมาแบบ 2.0 กว่าๆ
แบบว่ารอดมาหวุดหวิด
ขนาดทำได้ A หมด
หรือเกือบหมดนี่แหละจำไม่ได้แล้ว
ก็ยังไม่ฉุดเกรดเท่าไหร่
แต่ก็ทำให้จบมาได้แบบหวุดหวิดเต็มที
เกือบหมดอนาคตก็เพราะติดไพ่นี่แหล่ะ
ถ้าไม่เคยก็อย่าไปลอง
ถ้ามีญาติพี่น้องเพื่อนฝูงที่ติดอยู่
ก็ซื้อ CD ที่ว่าไปให้เขา
ถ้าเขาไม่เป็นเจ้ามือเอง
เขาจะไม่กล้าเล่นอีกเลย
และก็จะไม่กล้าไปเล่นตามบ่อน
ทั้งในและต่างประเทศแน่ๆ

อ้อ เกือบลืม
ที่จั่วหัวเรื่องว่า แสดงพลังเหมือนผึ้งกลับรัง
ก็เพราะว่า หลังโดนสลายช่วงสงกรานต์หฤโหด
ม็อบเสื้อแดงมีสภาพเหมือนผึ้งแตกรัง
แต่วันนี้ผู้คนมาเยอะพอๆ กับม็อบที่ราชมังคลา
มากน้อยต่างกันไม่เท่าไหร่นัก
มีสภาพเหมือนผึ้งที่บินกลับรัง

ปล. ปกติฝรั่งเขาจะใช้คำว่า ม็อบ ( Mop )
กรณีเป็นการชุมนุมโดยควบคุมฝูงชนไม่ได้
แต่ถ้าชุมนุมแบบสงบจะเรียกว่า
การชุมนุมประท้วง ( Protest )
แต่คนไทยส่วนใหญ่ใช้คำว่าม็อบหมด
ไม่ว่าจะชุมนุมกันแบบไหน
ก็เลยใช้ตามมันสั้นดี

โดย มาหาอะไร