บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


19 กันยายน 2552

<<< งานรำลึก 3 ปี 19 กันยา วันปล้นประชาธิปไตยไทย >>>

วันนี้เป็นวันครบรอบ 3 ปี
ที่ประชาธิปไตยไทยถูกย่ำยี
จนบัดนี้ก็ยังไม่ดีขึ้น
ก่อนหน้าวันนี้ ก็มีข่าวทำนองว่า
รัฐบาลเตรียมกองกำลังจำนวนมาก
แถมยังบอกว่ามีแผนซ้อมจับแกนนำ
หรือไม่ก็มีเครื่องเล่นใหม่ไว้ปราบม็อบ
ประเภทส่งความถี่สูงๆ
อาจทำให้คนหูดับได้
พี่ๆ แถวคอนโดเรา
คงได้ยินข่าวการขู่กันไว้เยอะ
งวดนี้จึงไม่ค่อยมีใครไป
ชาวบ้านบางคนก็คงกลัวว่า
จะเกิดเหตุรุนแรง
รวมทั้งเราก็คาดว่างานนี้
อาจมีเหตุรุนแรง แต่ก็อยากไป
เผื่อไปช่วยหาพวกตัวป่วน

วันนี้กว่าเราจะตื่นก็เที่ยงตามเคย
มาถึงแถวอนุสาวรีย์ชัยก็ประมาณบ่าย 2 เห็นจะได้
มาถึงฝนก็เริ่มตก และตกหนักลมแรงคล้ายๆ พายุเข้า
ตึกที่อยู่ใกล้ๆ บางทีมองแทบไม่เห็น
ในช่วงที่กระหน่ำลงมาแบบมืดฟ้ามัวดิน
สักพักถนนแถวอนุสาวรีย์ด้านฝั่งดินแดง
ก็เจิ่งนองไปด้วยน้ำรวมไปถึงรอบๆ อนุสาวรีย์
ก็เริ่มมีน้ำขังบ้างแล้ว

























เราฝ่าฝนไปหาซื้อเสื้อกันฝนมาใส่
แล้วพยายามโบกรถแท็กซี่ 2 คัน
ปรากฏว่าโดนปฏิเสธทั้ง 2 คัน
พอรู้ว่าเราจะไปร่วมม็อบ
โดยอ้างว่าแก๊สหมดบ้างหล่ะ
จะเอารถไปส่งบ้างหล่ะ
แต่ก็จอดรอรับผู้โดยสารคนอื่นแถวนั้น
ก็เลยต้องข้ามไปอีกฝั่งไปโบกรถสาย 28
ไปลงแถวสวนสัตว์ดุสิต
แล้วนั่งมอเตอร์ไซด์ฝ่าสายฝน
ไปแถวๆ เวทีม็อบหน้าลานพระบรมรูปทรงม้า
เห็นรถบัสและรถตู้จำนวนมาก
จอดเรียงรายอยู่ตลอดทาง
ก็พอเดาได้ว่าวันนี้คงไม่เหงาเท่าไหร่



















ที่ต้องฝ่าฝนมาก่อนที่ฝนจะหยุด
ก็เพราะต้องการมาเก็บภาพความประทับใจ
ท่ามกลางสายฝนกระหน่ำ
แต่ผู้คนส่วนหนึ่ง
ยังคงปักหลักไม่ยอมหนีไปไหน

และมักไม่ผิดหวังจริงๆ
เก็บความประทับใจได้ทุกครั้งที่ฝนตก

นี่คู่หนึ่งซึ่งนั่งฟังปราศรัยท่ามกลางสายฝนและน้ำเจิ่งนอง

























นี่ 3 สาว เต๊ะท่าถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ท่ามกลางน้ำเจิ่งนอง

























นี่คุณป้า คุณน้า ก็ลุยน้ำที่สูงเกือบครึ่งหน้าแข้งแล้ว

























น้ำท่วมขนาดนี้ ผู้คนก็ยังลุยน้ำเข้ามาร่วมม็อบไม่ขาดสาย
ภาพจากบริเวณด้านหลังเวที


























สภาพหน่วยพยาบาล Fared จากด้านหลัง
เป็นอีกภาพที่ประทับใจ ไม่หวั่นไหวจริงๆ
ไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออก หรือน้ำเจิ่งนองขนาดนี้



















หน่วยพยาบาลความจริงวันนี้ก็มีสภาพไม่ต่างกัน



















หน่วยพยาบาล RSR ก็เจอน้ำเจิ่งนองกันทั่วหน้า



















คราวนี้ลองมาดูป้ายคำขวัญกันบ้าง
มักมีคำขวัญข้อคิดแปลกๆ มาให้เห็นเสมอๆ
เช่น นี่นิยามใหม่ระบอบอภิสิทธิ์



















นี่ก็แรงไม่เบา ถ้าคนไม่เคยฟังคำอธิบายว่า
เขาหมายถึงอะไร
เรื่องสถาปนารัฐใหม่
อาจหาเรื่องมาโจมตีได้




















ป้ายนี้เจอแถวหน้าเวที แปลกันเอาเองก็แล้วกัน



















นี่ด้วยลองฝึกแปลภาษาชาวบ้านดู



















นี่ก็เด็ดทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ



















นี่ก็ประกาศเจตนารมย์ชัดเจน



















ส่วนนี่ก็ป้ายแจกอาหารฟรีให้พี่น้องมุสลิม
เห็นชื่อชมรมแดง-ดูไบ พึ่งเคยเห็นวันนี้ ชื่อแปลกดี



















นี่ก็ของอร่อยจากเมืองจันทบุรี



















ส่วนป้ายนี้ยาวจริงๆ พับผ่า เรียกร้องเอารธน. 40 คืนมา
ป้ายผ้ายาวเป็นกิโลได้
คนจะเดินผ่านยืนรอกันนานโข
ยาวจริงๆ แข่งทำสถิติโลกได้เลยน่ะเนี้ยะ



















คราวนี้มาดูภาพผู้คนในมุมกว้างๆ ดูบ้าง
จากไม่ค่อยเยอะในช่วงที่ไปตอนฝนกำลังตกแบบนี้



















แล้วก็แบบนี้



















พอฝนเริ่มซา ผู้คนก็เริ่มทยอยมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้



















แล้วก็แบบนี้



















ยิ่งเริ่มมืดยิ่งคึกคัก



















ดึกๆ ก็เข้ามากันแน่นแถวๆ ลานพระบรมรูปทรงม้า



















พยายามถ่ายมาให้ชมหลายๆ มุม หลายๆ แบบ



















































































































พอดีเดินสำรวจถึงแค่ทุ่มครึ่งกว่าๆ
ไม่รู้ว่าช่วงหลังจากนั้นเป็นยังไงบ้าง
นี่บริเวณทางไปบ้านสี่เสา
คนยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่



















ทางตรงที่มุ่งหน้ามาแถวลานพระบรมรูปทรงม้า
ผู้คนก็เริ่มทยอยกันเข้ามา



















ภาพนี้ถ่ายจากแถวสะพานมัฆวานมุ่งไปแถวลานพระบรมรูปทรงม้า



















วันนี้กะมาหาตัวป่วน
แต่ไม่พบซึ่งก็ถือว่าดีแล้ว
งานวันนี้ถ้าไม่มีเหตุร้ายจะถือว่าประสบความสำเร็จ
แต่ไม่รู้ว่าหลังเรากลับจะมีเหตุอะไรหรือเปล่า
พอดีจะกลับมาเอาเจ้ามดแดงกลับไปขับต่อ
เพราะพี่สาวเล่นเอาไปฝากบ้านคนอื่น
เราคิดว่าไปเอามาขับไปซ่อมไปเหมือนเดิมดีกว่า
วันนี้ก็เลยรีบกลับเพื่อนั่งรถทัวร์ไปบ้านพี่สาวที่นครปฐม
และไม่รู้ว่ามีกำหนดการอะไรอีก
แต่เดินดูรอบๆ หลายเที่ยวแล้ว
ไม่น่ามีรายการป่วนอะไร
เกือบมีนิดๆ หน่อยๆ ระหว่างเวทีเล็กกับการ์ด
แต่ก็ไม่มีอะไรสุดท้ายประมาณทุ่มหนึ่ง
ทางเวทีเล็กเขาก็ประกาศปิดเวที
เพื่อให้คนไม่เยอะเท่าไหร่แถวนั้น
ไปฟังเวทีใหญ่ ซึ่งถ้ายืนอยู่บริเวณนั้น
ปกติก็ฟังเสียงจากเวทีใหญ่ไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว

และก็มีหน่วยสันติวิธี
เดินมายืนประจันหน้ากับเจ้าหน้าที่
ที่ยืนล้อมแถวบริเวณทำเนียบ
หรือหน่วยงานทหารฝั่งถนนราชดำเนิน



















แต่ก็ไม่มีอะไร คงมากันกลัวทางนี้จะบุก
แต่ตอนเรากลับออกมาเพื่อจะกลับบ้าน
ผ่านมาเห็นอีกครั้ง เห็นต่างฝ่ายต่างนั่งลง
จับกลุ่มคุยกันเองหรือไม่ก็นั่งพักผ่อนกันตามสบาย



















วันนี้พอกลับไปถึงบ้าน เกิดหิว
แม่เราเอาขนมเค้กมาให้กิน

ถามไปถามมาถึงรู้ว่าเป็นวันเกิดน้องสาวคนเล็ก
พอดีบ้านเราไม่สนใจเรื่องวันเกิด
ไม่เคยจัดงานวันเกิดตั้งแต่เด็ก
นอกจากหลังๆ มีงานมีการทำ
ก็จัดกับเพื่อนฝูงบ้างเป็นบางครั้ง
แต่ระหว่างคนในบ้านมักไม่ค่อยจัดกัน
เลยทำให้เราพึ่งรู้วันเกิดน้องสาววันนี้เอง
คือรู้ตั้งนานแล้วแต่จำไม่ได้ว่าวันไหน
เพราะไม่ได้คิดจะจำกัน
คราวนี้จำได้แล้วว่า
น้องสาวคนเล็กเกิดวันปล้นประชาธิปไตยไปนี่เอง
ก็เลยลองถามวันเกิดพี่สาว
พี่สาวบอกเกิดวันที่ 9 กันยาที่ผ่านมานี่เอง
ก็เลยจำได้อีกวันว่าเป็นวัน 090909
คราวนี้พอถามถึงวันเกิดน้องสาวอีกคน
พี่สาวบอกว่าเกิดวันที่ 23 มิถุนายน
เราเลยบอกว่าทำไมไม่เกิดวันที่ 24 มิถุนายนไปเลย
จะได้จำได้ว่าเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง อิอิ
แบบว่าตอนนี้กำลังบ้าการเมือง
เลยจำเรื่องที่เกี่ยวกับการเมืองจะได้จำได้แม่น
เฮ้อ สนใจแต่เรื่องชาวบ้านชาวโลก
เรื่องใกล้ๆ ตัวเราแทบไม่รู้เลยจริงๆ

ภาพสุดท้ายไหนๆ ก็มาจัดม็อบที่ลานพระบรมรูปทรงม้าแล้ว
ก็ขอฝากคำคมไว้ให้สำหรับบางคนว่า

"ร.5 เลิกทาสมาหลายปี แต่ก็ยังมีทาสที่ปล่อยไม่ไป"

























โดย มาหาอะไร