บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


20 กันยายน 2552

<<< ถ้าอยากให้เป็นแบบไหน ก็ทำไปแบบนั้น >>>

วันนี้มีโอกาสไปเที่ยววัดลำพญาที่นครปฐมอีกครั้ง
พอดีที่บ้านอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเลยไปหาอะไรกินที่นั่น
ซึ่งรถก็เยอะพอสมควรโดยเฉพาะช่วงเที่ยงๆ
ที่นี่กลายเป็นตลาดน้ำไปเรียบร้อยแล้ว
มีเรือพานักท่องเที่ยวล่องคลอง
ชมวิวชมบรรยากาศพอได้เพลิน
บังเอิญว่าเราสังเกตุพบว่า
คนมาวัดนี้ก็เพื่อมาเที่ยวตลาดน้ำและมาหาอะไรกินกันที่นี่
แทบไม่ค่อยมีใครสนใจมาปิดทอง
หรือมาฟังเทศน์ฟังธรรมอะไรเลย
คือไม่ใช่เราชอบฟังเทศน์ฟังธรรมอะไรหรอกน่ะ
เพียงแต่สังเกตุเห็น
พอลองไปเทียบกับหลายวัดที่เคยไปเที่ยว
ก็พบหลายวัดก็มีลักษณะเดียวกันนี้
คือบางวัดผู้คนแห่กันไป
ก็เพียงเพื่อไปถ่ายรูปวัด
รูปนั่นนี่ที่ดังๆ แล้วอยู่ภายในวัดนั้นๆ
หรือบางวัดก็เห็นในข่าวคนแห่ไปแต่เช้ามืด
ในวันหวยจะออกอะไรประมาณนั้น
แทนที่จะแห่กันไปเพื่อไปทำบุญไปฟังเทศน์ฟังธรรม
ตามจุดประสงค์ที่เขาสร้างวัดขึ้นมา
ซึ่งก็ไม่แน่ว่าปัจจุบันจุดประสงค์ในการสร้างวัดนั้น
เปลี่ยนไปแล้วหรือไม่
แต่พอมาสังเกตุแต่ละวัดที่เป็นแบบที่เราว่า
ก็ไม่ค่อยเจอคำขวัญข้อคิดคติธรรมอะไร
ที่ติดไว้ทั่ววัดประเภทใครเข้ามาด้วยจุดประสงค์อะไร
เป็นต้องได้เห็นข้อคิดเตะเข้าที่ตาไม่ข้างใดก็ข้างหนึ่ง
เผื่อจะมีโอกาสคิดอะไรได้ลึกซึ้ง
เข้าถึงแก่นแท้ของธรรมะได้ด้วยตนเองบ้าง
ปรากฏว่าไม่มี บางที่มีแต่ไม่รู้ติดให้ใครอ่าน
เป็นภาษาบาลีสันกฤต
ติดเพื่อให้เกิดความขลังหรือยังไงไม่รู้
แต่ชาวบ้านชาวช่องไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร
รวมไปถึงบทสวดสารพัดด้วย

จึงมาคิดว่า ถ้าอยากให้เป็นแบบไหน ก็ทำไปแบบนั้น
อยากให้คนมาวัดเพื่อมาค้าขายกันอย่างเดียว
ก็เปิดเป็นที่ค้าขาย
อยากให้คนมาวัดเพื่อมาหาหวยกันอย่างเดียว
ก็เปิดกุฏิใบ้หวย
อยากให้คนมาวัดเพื่อมาฟังเทศน์ฟังธรรมหรือทำจิตใจให้สงบ
ก็เปิดอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับเรื่องนี้
หรือไม่ก็มีป้ายแสดงธรรมให้ชาวบ้านอ่าน
แล้วสะดุดคิดได้ด้วยตนเองบ้าง
หรือแสดงตนให้เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาในทางธรรม
เพื่อให้ชาวบ้านเขาศรัทธา
เข้ามาประกอบกิจกรรมทางศาสนาจริงๆ

พอดีเขียนเกี่ยวกับเรื่องการเมือง
ต้องขอวกมาเรื่องการเมืองสักหน่อย
ถ้าคุณอยากให้มวลชนเข้าใจว่า
คนอยู่เบื้องหลังวันที่ 19 กันยา มีแค่คนเดียว
ก็พุ่งเป้าโจมตีไปที่คนๆ เดียว
เดี๋ยวมวลชนก็เชื่ออย่างนั้น
เดี๋ยวก็จะได้ช่วยกันบิดเบือนประวัติศาสตร์ช่วงนั้นได้สำเร็จ
อันที่จริงเรื่องไหนไม่แน่ใจ ไม่มีหลักฐาน พูดไปกลัวโดนฟ้อง
ก็อย่าระบุออกมาว่ามีแค่คนนั้นคนนี้เพียงคนเดียว
ถ้าอยากชี้เป้าที่คนนี้เท่านั้นก็ควรจะเผื่อไว้บ้าง
เช่น คนนี้เป็นหนึ่งในหลายคน
ที่สุมหัวกันมาปล้นประชาธิปไตย เป็นต้น
คืออย่าเจาะจงให้ชาวบ้านเข้าใจเด็ดขาดว่า
มีแค่คนเดียว
ถ้าคุณไม่มีหลักฐานชัดๆ ว่ามีแค่คนเดียว
เพราะว่ามันจะเหมือนกับว่า
ถ้าคุณเป็นตำรวจ
แล้วทำคดีหนึ่งมีผู้ต้องสงสัยหลายคน
แต่คุณพยายามสรุปสำนวนว่า
มีคนนั้นคนนี้เพียงคนเดียวที่ทำ
ถามว่าชาวบ้านบางคน คนที่รู้เห็นเหตุการณ์
เขาจะคิดว่ายังไง บางทีอาจคิดว่า
คุณรับงานมาปิดคดีให้จบแบบนี้หรือเปล่า

อีกกรณีหนึ่งสำหรับเรื่อง
ถ้าอยากให้เป็นแบบไหน ก็ทำไปแบบนั้น
คือกรณีที่ทุกครั้งมีม็อบ
ก็จะเห็นมีสโลแกนอยู่ด้านหลังเวที
หรือเป็นประเด็นที่ทุกคนจะปราศรัยในวันนั้น
สรุปแล้วเป็นแค่นั้นใช่หรือไม่
ไม่ใช่เป้าหมายที่มวลชนมาฟัง
เพื่อจะได้ทำให้ได้ตามเป้าหมาย
สมมุติเรื่อง "แดงทั้งแผ่นดิน"
นี่เป็นเป้าหมายที่ต้องการให้เป็นใช่หรือไม่
ถ้าใช่เคยบอกวิธีการให้มวลชนรู้ไหม
ว่าทำยังไงถึงจะทำให้เป็นแดงทั้งแผ่นดินได้
มีสรุปเป็นข้อๆ ไหมว่า ข้อ 1, 2, 3, 4 ต้องทำอะไรบ้าง
เพราะเห็นมวลชนบางคนยังใช้วิธีผลักคนสีอื่น
ไม่ให้มาร่วมเพื่อเป็นแดงทั้งแผ่นดินด้วย
เพราะแบ่งข้างกันเป็นศัตรูถาวรไปแล้ว
หรือผลักสีเดียวกันที่เห็นต่าง
ให้ไปเป็นพวกอื่นสีอื่นอะไรแบบนี้
เพราะแนวทางที่ยกมานี้
มันจะตรงกันข้ามกับคำว่า แดงทั้งแผ่นดิน
คงเป็นเพราะเขามีแต่เป้าหมาย
ไม่มีแนวทางการปฏิบัติใช่หรือไม่
การปราศรัย การทำ MV โฆษณา
รวมไปถึงการเขียนเพลงมาสนับสนุนอะไร
ก็ไม่ได้ทำให้คนเป็นแดงทั้งแผ่นดินได้
ถ้าคนที่เป็นแดงอยู่แล้ว ทุกคนไม่รู้ไม่เข้าใจว่า
มีวิธีการทำยังไงให้เป็นแบบนั้นได้
รวมไปถึงมีวิธีการวัดความสำเร็จยังไง
วัดจากจำนวนคนมาร่วมม็อบได้ไหม
ระบุวัดจำนวนคนในพื้นที่ทั่วไทยที่จัดได้
ในเวลาเดียวกัน
เพื่อจะได้วัดได้ว่ามีเท่าไหร่จริงๆ
เพื่อไม่ให้เกิดการเวียนเทียน
หรือโกงการนับคน
หลอกพวกอื่น หรือ หลอกพวกเดียวกันไปวันๆ
ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไร
ต่อให้เราใช้วิธีปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ
แต่คนอื่นเขาก็สามารถคิดและเห็นได้เหมือนกัน
ไม่ว่าจะพวกเดียวกันหรือต่างพวกกันในเวลานี้

อีกอย่างของเก่าก็ยังไม่รู้ว่า
จะทำยังไงให้สำเร็จ
ก็มีเป้าหมายใหม่ๆ ออกมาอีกแล้ว
แล้วก็เหมือนเคยไม่รู้วิธีการทำเหมือนเคย
งวดหน้าไปอีกก็อาจได้เป้าหมายใหม่ๆ อีก เรื่อยๆ
แล้วจะมีโอกาสเป็นจริงได้สักกี่เป้าหมายกัน
ถ้ายังทำกันแบบนี้

ปล. ถ้าไม่ใช่เป้าหมาย
เป็นแค่ประเด็นในการปราศรัยกับมวลชน
ในแต่ละครั้งที่จัดม็อบ
ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าที่เข้าใจผิดไป

โดย มาหาอะไร