เพราะผลที่ได้รับยังไงๆ ก็ไม่เหมือนกัน
ยกตัวอย่างเส้นใหญ่แบบพวกพันธมิตร
ขนาดปิดสนามบินยังเป็นผู้ก่อการดีไปได้เลย
แถมคดีก็เล็กๆ น้อยๆ ปรับกันไม่กี่บาท
ที่ทำผิดกันแล้วยังอยู่ได้ดี
ก็เพราะมีพวกเส้นใหญ่คุ้มกระบาล
ถ้าพวกเส้นเล็กหรือไม่มีเส้นไปทำตาม
จะมีผลเหมือนกันได้ยังไง
ยิ่งถ้าต่อสู้โดยไม่รู้ว่าสู้อยู่กับใคร
สู้ไปก็ไม่ชนะได้ง่ายๆ
เพราะเป้าหมายถ้าไม่กระทบใครที่สู้อยู่
สู้ไปสิบปีก็ไม่เกิดอะไรขึ้นมา
การต่อสู้ตามแนวทางประชาธิปไตยแล้ว
แค่ทำให้คนไม่ก้มหัวให้
พวกเส้นใหญ่ทั้งหลาย
ก็ใกล้ชนะศึกนี้แล้ว
และถ้ามีคนแบบนี้เยอะๆ
ทั่วบ้านทั่วเมือง
แค่นี้ก็อยู่ไม่ได้แล้วหล่ะ
ต้องดิ้นรนออดอ้อนหาทางลงแล้วหล่ะ
เพราะชาติจริงๆ ก็คือประชาชนคนในชาตินั้นเอง
ถ้าคนส่วนใหญ่ในชาติไม่เอาใคร
แล้วใครหน้าไหน
จะมาอ้างกันอยู่ได้ยังไง
ว่าจะปกป้องชาติ จะทำนั่นนี่เพื่อชาติ
บทเรียนในอดีต
สำหรับพวกที่คิดว่ามีกองกำลังอันหน่อยนิด
แล้วสามารถยึดนั่นนี่แล้วชนะ
เคยมีแล้วที่ยุโรป
ช่วงลัทธิคอมมิวนิสต์กำลังเบ่งบาน
คนเผยแพร่ 2 คน
ยังเน้นใช้แนวทางสันติให้ความรู้คน
แต่คนใจร้อนหลายกลุ่มไม่ทันใจ
ก่อการยึดเมืองได้หลายแห่ง
สุดท้ายไม่ตายก็โดนจับหมด
เพราะมีอาวุธไม่ทันสมัยและคนน้อยนิด
สู้ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้
ถ้ามีเป็นกองทัพ
แล้วมีใครมาวิเคราะห์บอกว่า
ไม่ควรใช้กำลังควรสู้แบบสันติ
นั่นก็สติไม่ดีแล้ว
หรือไม่ก็อาจถูกมองว่า
รับงานมวิเคราะห์ก็ได้
ที่สำคัญถ้าคิดว่าจะไม่ใช้สันติวิธี
อยากใช้วิธีรุนแรง
ใช้คนไม่ถึงโหลก็สามารถทำได้แหล่ะ
ผมไม่เห็นจะต้องใช้คน
เป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่นเป็นแสนเลย
มีคนป่วนเยอะแยะแต่ป่วนไม่ถูกที่
ก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี
แค่สะใจเล็กๆ น้อยๆ ไปวันๆ เท่านั้นเอง
ในระบอบประชาธิปไตย
ตอนเลือกตั้งต่างฝ่ายต่างหาเสียงสู้กันได้อยู่แล้ว
เพียงแต่ตอนนี้มันมีบางพรรคบางพวก
ที่เส้นใหญ่หนุนหลังอยู่
มันถึงได้กล้าออกนอกเส้นทางประชาธิปไตย
แบบไม่กลัวเกรงอะไร
การสู้แบบสันติวิธีที่ว่า
ก็คือการสู้กับพวกเส้นใหญ่
สันติวิธีไม่ใช้อาวุธกระจอกๆ
ถือไปให้เขายิงตายด้วยความชอบธรรม
ขอแค่ทำให้ชาวบ้านเข้าถึงแกนแท้ของปัญหา
และรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังก็พอ
เดี๋ยวเขาก็จะเกิดอาการต่อต้านในใจ
ไม่ก้มหัวให้กับพวกเส้นใหญ่เหล่านั้นเอง
เป็นการเปลี่ยนแปลงไปตลอดชาติ
ไม่ใช่เฉพาะชั่วครั้งชั่วคราว
แต่ถ้าในใจยังยอมก้มหัวให้ใคร
แล้วจะมาแสดงอาการ
ทำขึงขังเหมือนจะแรง
ก็แค่แสดงบทบู๊กันไปได้ไม่กี่น้ำหรอก
ยกเว้นว่าเป็นพวกไม่ก้มหัวให้ใครแล้ว
อยากจะลองก็ตามใจ
โดย มาหาอะไร
บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.