บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


27 มกราคม 2553

<<< ข้อเท็จจริงที่ควรรู้ เรื่อง เครื่องตรวจระเบิด GT200 >>>

ผลวิจัยสหรัฐฯ ชี้อุปกรณ์เดาว์ซิ่งไฮเทคขาดประสิทธิภาพ

ข่าว ห้ามส่งออกอุปกรณ์ตรวจจับระเบิด ADE651ของ บริษัท ATSC ทำให้เกิดข้อกังขาต่อประสิทธิภาพของอุปกรณ์โดยเฉพาะสนิฟเฟ็กซ์ และGT200

Content by VoiceTV
27 มกราคม 2553 เวลา 21:01 น.
View 51 : comment 0


VoiceNews
Voice TV Reporter
Click ชมผลงานทั้งหมด

http://www.voicetv.co.th/content /7642/ผลวิจัยสหรัฐฯชี้อุปกรณ์เดาว์ซิ่งไฮเทคขาดประสิทธิภาพ

-------------------------------------------------------------

BBC แกะGT200 อึ้ง! เหมือนรุ่นที่ถูกแบนเป๊ะ

 GT200

รายการแนวข่าวสืบ สวนสอบสวนของสำนักข่าว BBC อังกฤษ ที่เปิดโปงเครื่องตรวจระเบิดลวงโลก ล่าสุดแกะเครื่อง GT200 แล้ว

รายการ Newsnight ทาง BBC2 ที่อังกฤษ ซึ่งดำเนินรายการภาคสนามโดย แคร์โรไลน์ ฮอว์ลี่ ตามประเด็นการผลิตและจำหน่ายเครื่องตรวจจับระเบิดและวัตถุต้องสงสัยที่เป็น การหลอกลวง ของบรรดาบริษัทผลิตสินค้าด้านความมั่นคงในอังกฤษอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากเปิดโปงอุปกรณ์ ADE651 ของบริษัท ATSC ว่าใช้งานไม่ได้จริงจนทำให้ทางการอังกฤษต้องสั่งห้ามส่งออกขายต่างประเทศ ล่าสุดได้นำอุปกรณ์ GT200 ของบริษัท Global Technical มาแกะดูส่วนประกอบในแบบเดียวกับการแกะอุปกรณ์ ADE 561 ซึ่งก็พบว่าผลออกมาเหมือนกัน คือไม่มีอุปกรณ์ใดๆที่เป็นวงจรไฟฟ้าเป็นส่วนประกอบในส่วนที่เป็นด้ามจับเลย และเป็นเพียงกล่องพลาสติกเปล่าๆ ขณะที่การ์ดที่ใช้จำแนกประเภทวัตถุที่ต้องการตรวจหา พบว่าทำจากพลาสติก และกระดาษแข็งธรรมดา

ผู้ที่ตรวจสอบ GT200 ในรายการNewsnight คือ นาย ซิดนี่ย์ อัลฟอร์ดผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่ตรวจสอบเครื่อง ADE 561 ที่กลายเป็นข่าวดังทั่วโลก

แม้ว่าอุปกรณ์ ADE 651 จะถูกอังกฤษแบนไปแล้ว แต่ที่อิรักซึ่งซื้ออุปกรณ์นี้ล็อตใหญ่ เพื่อใช้ในกิจการรักษาความปลอดภัย ยังคงใช้อุปกรณ์ADE651 ในจุดตรวจทั่วประเทศ ขณะเดียวกันนาย นูรี อัลมาลิกี นายกรัฐมนตรีอิรักสั่งตรวจสอบการใช้อุปกรณ์ ADE651 แล้ว

รายการของBBC นี้ยังระบุอีกว่า รัฐบาลอังกฤษเตรียมที่จะออกประกาศเตือนอย่างเป็นทางการต่อประเทศที่ซื้อ อุปกรณ์ค้นหาวัตถุ ADE651 และ GT200 ไปใช้ว่า อุปกรณ์เหล่านั้นไม่มีประสิทธิภาพจริง

ประเทศที่ใช้อุปกรณ์ GT200 ในงานด้านความมั่นคง นอกจากไทยแล้ว ยังมีเม็กซิโก เลบานอน จอร์แดน เคนย่า และจีนด้วย

ภาพ : webpage BBC Newsnight
http://news.bbc.co.uk/2/hi/programmes/newsnight/8481774.stm
Content by Voice TV
28 มกราคม 2553 เวลา 14:51 น.
View 22 : comment 0


Tortermpong
Voice TV Reporter
Click ชมผลงานทั้งหมด

http://www.voicetv.co.th/content/7664/BBCแกะGT200อึ้งเหมือนรุ่นที่ถูกแบนเป๊ะ

--------------------------------------------------------------

วันอังคาร, ตุลาคม 20, 2009

GT200 รหัสหายนะชายแดนใต้
เผยแพร่บทความ


เหตุ"คาร์บอมบ์"ล่าสุด มีหลายคนตั้งข้อสังเกตุไปที่เครื่องมือตรวจหาวัตถุระเบิด GT200(Global Techical) ว่าทำงานไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากมีเจ้าหน้าที่นำเครื่องมือดังกล่าวไปตรวจ สอบรถ"ฑูตมรณะ"คันนั้นแล้ว หลังได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน แต่เครื่อง Gt200 เจ้ากรรมตัวนั้นดันไม่ชี้เป้า (ภาพและคำบรรยาย:เณรรูน)

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา เวบ บล็อกหนุ่มเมืองชล
20 ตุลาคม 2552


แม่ค้าวิจารณ์ จีที200 ไร้ประสิทธิภาพ!

บรรยากาศ บริเวณตลาดสดรถไฟเขตเทศบาลนครยะลา เช้าวันที่ 20 ต.ค. เงียบเหงา หลังเหตุ จยย.บอมบ์ พ่อค้า-แม่ค้า วิพากษ์วิจารณ์ เครื่อง จีที 200 ไร้ประสิทธิภาพ

ผู้ สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 20 ต.ค. ว่า บรรยากาศบริเวณตลาดสดรถไฟเขตเทศบาลนครยะลา ค่อนข้างเงียบเหงา มีประชาชนออกไปจับจ่ายซื้อของกันบางตาเนื่องจากยังคงมีความหวาดกลัว จากเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 19 ต.ค. ทำให้ พ่อค้าแม่ค้าขายของกันไม่ค่อยได้ พ่อค้าแม่ค้าต่างวิพากษ์วิจารณ์ทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะการใช้เครื่องจีที 200 (GT 200 ) ที่ไร้ประสิทธิภาพ(ข่าว:ไทยรัฐ)

รู้จักGT200


เครื่องตรวจหาสารเสพติดและวัตถุระเบิด มีลักษณะคล้ายกับเสาอากาศวิทยุ ตัวเครื่องจะหันปลายเสาอากาศชี้ไปยังตำแหน่งที่มีวัตถุระเบิดวางอยู่ โดยใช้พลังงานไฟฟ้าสถิต จากผู้ตรวจค้นและสามารถทำการเลือกกลุ่มของเป้าหมายที่จะทำการตรวจได้


คุณ อังคณา นีละไพจิตร ซึ่งเคลื่อนไหวเรื่องสิทธิมนุษยชนเคยเขียนถึงประสิทธิภาพอันน่าสงสัยของจีที 200ไว้ดังต่อไปปนี้


2-3 ปีที่ผ่านมา ผู้คนในจังหวัดชายแนนภาคใต้พูดถึงเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจสอบวัตถุระเบิด จีที 200 มากขึ้น

คงจำกันได้ว่าในครั้งแรกๆ ที่มีการนำเครื่องมือชนิดนี้มาใช้งาน น่าจะเป็นเมื่อประมาณปี 2549 -2550 ใน “ยุทธการพิทักษ์แดนใต้” ซึ่งมีการนำเครื่องมือดังกล่าวมาใช้ประกอบในการปิดล้อมตรวจค้นตามหมู่บ้าน ต่างๆ

โดยเมื่อเครื่องตรวจเจอสารซึ่งเป็นส่วนประกอบของวัตถุระเบิด เครื่องจะชี้ปลายเสาอากาศไปยังตำแหน่งที่มีสารดังกล่าวอยู่

ในการปิด ล้อมตรวจค้นช่วงเวลานั้น มีการควบคุมตัวประชาชนจำนวนมาก ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เมื่อพบว่าเครื่องมือชนิดนี้มีปฏิกิริยาต่อบุคคลรวมถึงวัตถุอุปกรณ์ต่างๆ ที่ประชาชนใช้ในชีวิตประจำวันในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

มีรายงาน จากบริษัทผู้ผลิตเครื่อง จีที 200 บริษัทหนึ่งว่า เครื่องนี้จะมีปฏิกิริยาต่อ “สารยูเรีย” ซึ่งเป็นสารตั้งต้นชนิดหนึ่งที่ใช้ในการประกอบวัตถุระเบิด และเป็นสารชนิดเดียวกันกับที่เป็นส่วนประกอบของ “ปุ๋ยเคมี” ซึ่งนิยมอย่างใช้กันอย่างแพร่หลายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งเป็นสังคม เกษตรกรรม

ท่ามกลางการตั้งคำถามและคำวิพากษ์วิจารณ์ถึงความแม่นยำจาก บรรดานักสิทธิมนุษยชนและราษฎรจำนวนมากในพื้นที่ โดยมีรายงานขององค์กรสิทธิมนุษยชนระบุว่า เครื่องมือชนิดนี้ได้ชี้การปนเปื้อนสารประกอบวัตถุระเบิดแม้ในคนพิการ หญิงตั้งครรภ์ หรือแม้แต่เด็ก

มีรายงานว่าในการตรวจค้นครั้งหนึ่ง เครื่องชี้ไปยังกล่องกระดาษกล่องหนึ่ง ทำให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงมั่นใจว่าภายในกล่องนั้นน่าจะต้องมี วัตถุหรือสารที่เกี่ยวข้องกับระเบิด แต่เมื่อเปิดดูภายในกลับพบว่าเป็นเพียงกล่องที่บรรจุผ้าอนามัยที่นำมาขายใน หมู่บ้าน

ไม่ต่างจากอีกกรณีในการปิดล้อมตรวจค้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ในบริเวณบ้านของผู้หญิงคนหนึ่ง เครื่องได้มีปฏิกิริยาที่บริเวณปลายยอดของต้นมะพร้าวต้นหนึ่ง ทำให้เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าจะต้องมีคนนำวัตถุหรือสารประกอบวัตถุระเบิดไปซุก ซ่อนเอาไว้ แต่เมื่อได้ปีนขึ้นไปดู พบถุงพลาสติกเก่าๆ ใบหนึ่ง เมื่อเปิดออกดูภายในกลับพบว่าเป็นเพียงถุงใส่น้ำมันมะพร้าวที่คาดว่าหนูคงจะ คาบขึ้นไปทิ้งไว้บนยอดมะพร้าว

หรือกรณีงานบุญที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ในขณะที่ผู้คนมาช่วยกันทำอาหาร เจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 ที่มาดูแลความปลอดภัยภายในวัด ได้ใช้เครื่องจีที 200 ตรวจสอบรอบๆ บริเวณโรงครัวภายในวัด เครื่องดังกล่าวได้ชี้ไปที่หม้อใส่แกงหม้อหนึ่ง ทำให้เป็นที่สงสัยของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นอย่างยิ่ง

ในขณะที่คน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความคลางแคลงใจต่อประสิทธิภาพของเครื่องมือ ชิ้นนี้ หน่วยงานความั่นคงกลับมีความมั่นใจในการใช้งานมากขึ้น มีการสั่งซื้อเครื่องมือดังกล่าวเพิ่มขึ้น

ในคำเบิกความเป็นพยานใน คดีที่ญาติของผู้ถูกนำตัวมาควบคุมตัวภายใต้โครงการอบรมการฝึกอาชีพ 4 เดือนโดยไม่สมัครใจที่ค่ายทหารใน จ.ระนอง ชุมพร และสุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2550 ได้ยื่นคำร้องต่อศาลให้มีการไต่สวนว่าการอบรมครั้งนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

มีนายทหารระดับสูงจาก กอ.รมน.ภาค 4 ท่านหนึ่งให้การต่อศาลว่า บุคคลที่ถูกนำตัวมาควบคุมภายใต้โครงการฝึกอาชีพดังกล่าว ต้องสงสัยว่ามีความเกี่ยวข้องกับการประกอบวัตถุระเบิด เนื่องจากเครื่องตรวจจับ (จีที 200) มีปฏิกิริยาต่อพวกเขา

รวมถึง กรณีของ นายยะผา กาเซ็ง อิหม่ามประจำมัสยิดบ้านกอตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ที่ถูกทรมานจนเสียชีวิต ภายหลังถูกเจ้าหน้าควบคุมตัวจากการปิดล้อมตรวจค้นในหมู่บ้านของเขา ก็พบเช่นกันว่าเครื่องมือชนิดนี้แสดงปฏิกิริยาต่อบริเวณบ้านและมัสยิดที่นาย ยะผาเป็นอิหม่ามอยู่

แม้หน่วยงานความมั่นคงจะพยายามชี้แจงว่า เครื่องมือชนิดนี้เป็นเพียงเครื่องมือเบื้องต้นที่ใช้ในการตรวจสอบ แต่ในทางปฏิบัติกลับดูเสมือนว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติซึ่งใช้เครื่องมือชนิด นี้ได้พิพากษาตัดสินไปแล้วว่า ผู้ซึ่งถูกเครื่องมือนี้ชี้คือ “ผู้กระทำผิด”

คง จำกันได้ถึงความผิดพลาดจากการใช้เครื่องจีที 200 เมื่อไม่นานมานี้ กรณีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามอาก้า และเอ็ม 16 กราดยิงนายโกศล เกษมสุข อายุ 48 ปี และนางผ่องศรี เกษมสุข อายุ 45 ปี ซึ่งออกจากบ้านในพื้นที่หมู่ 9 บ้านปลักใหญ่ ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เพื่อเดินทางไปกรีดยางห่างจากบ้านประมาณ 3 กิโลเมตรจนเสียชีวิต

ก่อน ที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจที่เกิดเหตุ ได้ทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ด้วยเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด จีที 200 เครื่องตรวจสอบดังกล่าว ตรวจไม่พบวัตถุระเบิดในที่เกิดเหตุ รวมทั้งในร่างของผู้ตายทั้งสอง เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปเพื่อยกร่างของผู้ตาย แต่แล้วก็เกิดระเบิดขึ้น ทำให้ผู้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้รับบาดเจ็บ

เหตุระเบิด “คาร์บอมบ์” กลางเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อบ่ายวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา จึงทำให้เครื่องมือชนิดนี้ถูกตั้งคำถามอีกครั้งจากผู้คนในจังหวัดชายแดนภาค ใต้ รวมถึงสังคมไทยทั้งประเทศ ถึงประสิทธิภาพและความแม่นยำในการทำงาน เพราะก่อนเกิดระเบิดได้มีประชาชนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรวจสอบรถต้อง สงสัยคันที่เกิดระเบิดโดยใช้เครื่องมือชนิดนี้แล้ว แต่กลับไม่พบความผิดปกติใดๆ กระทั่งเกิดการสูญเสียดังกล่าว

และแม้ หน่วยงานความมั่นคงจะยืนยันตรงกันว่า ความผิดพลาดไม่ได้เกิดจากตัวเครื่อง ซึ่งมีนัยที่สื่อถึงการใช้งบประมาณของกองทัพในการจัดซื้อเครื่องมือชนิดนี้ ว่าไม่มีความบกพร่อง หากแต่ทำให้เกิดคำถามกลับไปยังผู้เกี่ยวข้องว่า แล้วความผิดพลาดเกิดจากอะไรกันแน่ ที่สำคัญใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อความผิดพลาดดังกล่าว

โดยเฉพาะที่ ผ่านมาการใช้เครื่องมือชนิดนี้ได้ก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนหลายต่อ หลายครั้ง และทุกครั้งก็ไม่เคยมีคำตอบจากหน่วยงานความมั่นคงถึงความรับผิดชอบใดๆ

ใน ขณะที่เจ้าหน้าที่มองว่าความผิดพลาดเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่หน่วยงานความมั่นคงน่าจะเกิดความตระหนักมากขึ้นว่า ผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้เครืองมือชนิดนี้ได้สร้างความไม่ไว้วางใจของราษฎรต่อ การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ทั้งงานตรวจค้นและงานการข่าวต่างๆ

ที่ สำคัญที่สุดคือเครื่อง จีที 200 ได้ถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการยุติธรรมในการหาค้นพยานหลักฐาน ซึ่งหากปราศจากความถูกต้องแม่นยำและความน่าเชื่อถือเสียแล้ว คงเป็นการยากที่จะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมขั้นต้นที่มี เจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง…

ในยุคสมัยที่การเมืองไม่สามารถนำ การทหารได้จริง!

เท่าที่สรุปได้ในเบื้องต้นมีดังต่อไปนี้

1. ผลการทดสอบก่อนการสั่งซื้อไม่แน่ชัด ไม่มีการแสดงค่าร้อยละ ของ False Positive และ False Negative

2. ผู้ขายเป็นนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรด้วยทั้ง ๆ ที่มีอาชีพค้ายุทธภัณฑ์ นอกเหนือจากเป็นอาจารย์

3. ราคาค่าเครื่อง เครื่องละเก้าแสนบาท (ไม่รวมซิมการ์ด) ถ้ารวมแล้วก็ประมาณ 1.6 ล้านบาท

4. สื่อหลักต่าง ๆ ไม่พยายามแตะต้องรายงานข่าวนี้เลย


ต้อง ขอขอบคุณผู้ที่ใช้นามแฝงว่า Thai Expat in US ที่นำข้อมูลต่าง ๆ ที่น่าสนใจมาเสนอ

http://thaienews.blogspot.com/2009/10/gt200.html

-------------------------------------------------------------------------------


การเมือง
วันที่ 25 มกราคม 2553 18:50

อังกฤษห้ามขายGT200ตรวจบึ้มไร้ค่า-ไทย นำเข้า

ภาพ: สำนักข่าวอิศรา

รัฐบาลอังกฤษห้ามขายเครื่องตรวจระเบิดมือถือส่งไป อิรัก-อัฟกาฯ ส่วนไทยนำเข้า535เครื่องบึ้มตลอด ชุมชนเน็ตหว้ากอแฉเลียนแบบ "สุเทพ"ยันคนละยี่ห้อ

เว็บไซต์สำนักข่าวบีบีซี รายงานเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา(23 ม.ค.) รัฐบาลอังกฤษได้ออกคำสั่งห้ามส่งออกและจำหน่ายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดแบบ มือถือ ADE-651 ไปยังประเทศอิรักและอัฟกานิสถาน ซึ่งกำลังพลจากกองทัพอังกฤษยังคงปฏิบัติการอยู่ใน 2 ประเทศนี้ ภายหลังจากตำรวจนำกำลังเข้าจับกุมตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ดังกล่าว

ก่อนหน้าการจับกุม สำนักข่าวบีบีซีได้รายงานข่าวเชิงสืบสวนเพื่อจับโกหกเครื่องมือชนิดนี้ ซึ่งตัวแทนจำหน่ายโฆษณาว่าสามารถค้นหาวัตถุระเบิดได้อย่างแม่นยำ มีประสิทธิภาพด้วยการ์ดอิเลคทรอนิคส์แบบพิเศษ แต่แท้ที่จริงแล้วเครื่องมือดังกล่าวไม่สามารถค้นหาวัตถุระเบิดได้จริง

รายงานระบุด้วยว่า เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด ADE-651 ถูกส่งไปจำหน่ายอย่างแพร่หลายในตะวันออกกลาง รวมถึงประเทศไทย โดยรัฐบาลอิรักเคยทุ่มเงินถึง 85 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2,500 ล้านบาท) เพื่อจัดซื้อเครื่องมือชนิดนี้ซึ่งมีสนนราคาอยู่ที่เครื่องละ 40,000 เหรียญ (ราว 1.2 ล้านบาท) และส่งไปใช้กันเกือบทุกจุดตรวจในกรุงแบกแดด

เป็นที่น่าสังเกตว่า ทั้งรูปลักษณ์และวิธีการทำงานของเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด ADE-651 มีความคล้ายคลึงกับเครื่องตรวจร่องรอยสสารระยะไกล หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200” ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคงใช้กันอย่างกว้างขวางในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวคือที่ตัวเครื่องจะมีเสาอากาศคอยชี้จุดหรือทิศทางที่ตรวจพบสารที่ต้อง การค้นหา ขนาดของเครื่องไม่ใหญ่นัก สามารถถือได้อย่างเหมาะมือ มีการ์ดใส่เข้าไปในตัวเครื่องเพื่อกำหนดชนิดของสสารที่ต้องการตรวจ และอ้างว่าใช้ไฟฟ้าสถิตย์จากตัวผู้ถือไปค้นหาสนามแม่เหล็กจากสารประกอบ ระเบิด

แหล่งข่าวซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์จาก สถาบันอุดมศึกษาชื่อดังในกรุงเทพฯ ตั้งข้อสังเกตว่า บริษัทที่ถูกจับกุมในอังกฤษน่าจะเป็นบริษัทเดียวกันกับที่จำหน่ายเครื่อง ตรวจจับวัตถุระเบิดที่มีชื่อทางการค้าว่า ADE-101 ซึ่งกำลังถูกจัดซื้อเพื่อนำมาใช้ในภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย

ก่อนหน้านี้ องค์กรภาคประชาสังคม นักวิทยาศาสตร์ ตลอดจนชุมชนในอินเทอร์เน็ต ได้ออกมาตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพของเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200 หลังจากฝ่ายความมั่นคงใช้เครื่องมือดังกล่าวตรวจหาวัตถุระเบิดและแสดงผลผิด พลาดถึง 2 ครั้งซ้อน จนเกิดระเบิดครั้งรุนแรงที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส (คาร์บอมบ์) เมื่อวันที่ 6 ต.ค.2552 และในตลาดสดกลางเมืองยะลา (มอเตอร์ไซค์บอมบ์) เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ปีเดียวกัน เป็นเหตุให้มีประชาชนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

ผลจากความผิดพลาดดังกล่าว ทำให้กองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (พตท.) ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ และสรุปว่าความผิดพลาดเกิดขึ้นจากตัวผู้ใช้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญพอ หรืออาจจะพักผ่อนน้อย เนื่องจากเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดชนิดนี้ใช้ไฟฟ้าสถิตย์จากร่างกายผู้ถือ เพื่อตรวจหาสนามแม่เหล็กจากสารประกอบระเบิด แต่คำชี้แจงดังกล่าวถูกต่อต้านจากกลุ่มนักวิทยาศาสตร์และองค์กรภาคประชา สังคมที่ติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะหลักการทำงานของเครื่องมือตามที่อ้างไม่ใช่หลักวิทยาศาสตร์ อีกทั้งยังไม่มีกลไกอิเลคทรอนิคส์ใดๆ ในตัวเครื่อง วิธีการค้นหาระเบิดจึงคล้ายกับ “ลวดเดาว์ซิ่ง” ที่ใช้หาแหล่งน้ำ แต่ไม่ได้มีการยอมรับว่าเป็นวิทยาศาสตร์แต่อย่างใด

นอกจากนั้น จากเอกสารโฆษณาประชาสัมพันธ์ของบริษัทผู้จำหน่ายเครื่อง ยังอ้างว่าการทำงานของเครื่องมือนี้ไม่ใช้แบตเตอรี่ แต่ใช้พลังงานจากไฟฟ้าสถิตย์ ใช้หลักพื้นฐานการดึงดูดของสนามแม่เหล็ก ชี้บอกทิศทาง (ตำแหน่ง) ของสารที่ได้กำหนดค่าไว้ในเซนเซอร์การ์ด การตรวจจับสามารถผ่านทะลุพื้นผิวแต่ละชนิดและผสมหลายชนิด เช่น พื้นดิน น้ำ น้ำมันเชื้อเพลิง คอนกรีต โลหะ ตะกั่ว ยานพาหนะ เรือ อากาศยาน สิ่งปลูกสร้าง ไม่มีสิ่งใดปิดกั้นการตรวจจับได้ สามารถตรวจค้นหาทางภาคพื้น พื้นที่เปิดโล่ง 700 เมตร มีสิ่งปลูกสร้างหนาแน่น 200 เมตร ในบริเวณป่าเขา 600 เมตร สามารถตรวจค้นหาทางทะเลชายฝั่ง 850 เมตร บริเวณท่าเรือเปิดโล่ง 750 เมตร ท่าเรือมีเรือหนาแน่น 100 เมตร สามารถตรวจค้นหาทางอากาศโดยขึ้นไปบนเฮลิคอปเคอร์ 4,000 เมตร (เท่ากับ 4 กิโลเมตร) ความลึกในการตรวจค้นหาใต้น้ำลึก 500 เมตร ใต้พื้นดินลึก 60 เมตร สามารถค้นหาได้ทั้งสารประกอบระเบิด ดินปืน รวมถึงซากศพมนุษย์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์และผู้รู้ทางด้านนี้ต่างยืนยันว่าเป็นคุณสมบัติที่เกิน จริงและเป็นไปไม่ได้เลย

ประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพ ของเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200 เคยถูกนำเข้าพิจารณาในคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตาม เร่งรัด ประเมินผลการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ วุฒิสภา โดยมีการเชิญผู้แทนจากฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกองทัพบกโดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เข้าชี้แจง

ผลสรุปจากคณะกรรมาธิการฯ คือให้กองทัพจัดการทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องมือชนิดนี้อย่างเป็นทางการ ด้วยวิธีการที่สากลยอมรับ ไม่ใช่จัดทดสอบโดยบริษัทตัวแทนจำหน่ายเครื่อง แต่ข้อเรียกร้องดังกล่าวไม่ได้รับการตอบสนองจากฝ่ายความมั่นคงแต่อย่างใด

ปัจจุบัน กลุ่มองค์กรภาคประชาสังคม นักวิทยาศาสตร์ และชุมชนในอินเทอร์เน็ต ได้จัดทำฟอร์เวิร์ดเมล์ในนามของ "ชุมชนวิทยาศาสตร์หว้ากอ" หัวข้อ "ร่วมยับยั้งเครื่องตรวจระเบิดลวงโลก" มีเนื้อหาต่อต้านเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดที่มีชื่อทางการค้าแตกต่างกัน หลายชื่อ และกำลังนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทย ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ส่งต่อๆ กันเพื่อให้ความรู้กับประชาชนด้วยภาษาและข้อมูลที่เข้าใจจ่าย พร้อมให้โหลดเอกสารอ้างอิงจากต่างประเทศที่มีการตรวจสอบ จับกุม และสั่งห้ามจำหน่ายเครื่องมือลักษณะใกล้เคียงกันนี้ เพื่อกดดันให้ฝ่ายความมั่นคงยุติการใช้เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดดังกล่าว

นอกจากนั้นยังมีนักข่าวต่างประเทศชื่อ ดังที่ทำข่าวอยู่ในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขียนบทความเชิงประชดประชันผ่านเว็บไซต์ของตนเอง กรณีฝ่ายความมั่นคงไทยใช้เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดที่ถูกตั้งคำถามว่ามี คุณสมบัติไม่ต่างอะไรกับของเล่นเด็กด้วย

สำหรับเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200 ที่ใช้ในประเทศไทยมีราคาเครื่องละ 9 แสนถึง 1.6 ล้านบาท และมีใช้กิจการเพื่อความมั่นคงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ถึง 535 เครื่อง!

ที่มา: โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
ต้น ฉบับของบีบีซี http://news.bbc.co.uk/2/hi/uk_news/8476381.stm

ปูดจีที200 ตรวจวัตถุระเบิดดัดแปลงไม่เจอ

นายตำรวจตระเวนชายแดนรายหนึ่ง เคยทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า เครื่องจีที 200 ซึ่งไทยใช้งานอยู่นั้นนำเข้ามาจาก 3 ประเทศ คือ อังกฤษ สหรัฐอมเริกา และเยอรมัน เป็นเครื่องที่ใช้ตรวจหาวัตถุระเบิด ช่วงที่ตนเองเคยทำงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็เคยผ่านการสัมผัสใกล้ชิดและใช้งานมาบ้างแล้วในหน่วยงานที่ตนทำงานอยู่

ซึ่งประสิทธิภาพของเครื่องชนิดนี้เท่า ที่ผ่านประสบการณ์มา พบว่าค่อนข้างทำงานได้ตรงเป้าบ้าง ผิดพลาดบ้าง แต่โดยหลักเกณฑ์การใช้เครื่องที่ทางบริษัทผู้ผลิตระบุมาคือ ต้องขึ้นอยู่กับความมั่นใจและความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของตัวเครื่องจาก ตัวผู้ใช้งานด้วย จะต้องมีจิตใจเชื่อมั่นแน่วแน่ ผสานใจเป็นหนึ่งเดียวกับตัวเครื่องชนิดนี้ ผลการทำงานจึงค่อนข้างเป็นไปตามเป้าหมาย แต่หากผู้ใช้งานเครื่องนี้มีสภาพจิตใจที่ไม่เชื่อมั่นในคุณภาพของเครื่อง การทำงานของเครื่องก็จะด้อยประสิทธิภาพ และไม่เป็นไปตามเป้า

"เครื่องชนิดนี้ โดยส่วนตัวแล้ว รู้สึกไม่ค่อยมีความมั่นใจมากนัก แต่การที่มีเครื่องดังกล่าวอยู่ในขณะปฏิบัติหน้าที่เสี่ยง ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ดีกว่าไม่มี ถ้าผู้ใช้งานมีความเชื่อมั่นในตัวเครื่องมันก็ทำงานได้ตามเป้าหมาย แต่ถ้าผู้ใช้งานไม่เชื่อมั่น การใช้งานเครื่องนี้ก็จะผิดพลาด ซึ่งที่ผ่านมามีทั้งเป็นไปตามเป้าและความผิดพลาด ทั้งนี้บริษัทผู้ผลิตเองไม่มีรายใดหรอก ที่จะออกมาระบุว่าเครื่องที่ตนเองผลิต มีประสิทธิภาพหรือคุณภาพไม่ดี และเมื่อใช้ไม่ได้ผล จึงบอกว่าผู้ใช้จะต้องมีจิตใจเชื่อมั่นผสานใจเป็นหนึ่งเดียวกับตัวเครื่อง การใช้งานจึงมีประสิทธิผลดี"

แหล่งข่าวรายนี้ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามสำหรับเครื่องดังกล่าวนั้น หากทางกลุ่มคนร้ายดัดแปลงวัตถุระเบิด ก็ไม่สามารถตรวจหาเจอ เช่น หากคนร้ายใช้ดินระเบิดจากพลุ ดอกไม้ไฟ หรือประทัดยักษ์มาทำระเบิด เครื่องดังกล่าวก็จะตรวจหาไม่เจอแล้ว ซึ่งคล้ายกับการนำสุนัขดมกลิ่นมาตรวจหาสารเสพติด ยาเสพติด หากผู้ลักลอบค้ายาเสพติดนำกระเทียม หัวหอม ซึ่งมีกลิ่นแรงมาป้ายมาทา มาป้าย ก็ทำให้สุนัขไขว้เขว เป็นต้น

"สรุปได้ว่าเครื่องดังกล่าวนี้ หากผู้ใช้งานมีความเชื่อมั่นในตัวเครื่อง ก็จะทำให้มีประสิทธิภาพได้ตามเป้าถึง 80 เปอร์เซ็น แต่ถ้าผู้ใช้งานไม่มั่นใจ ไม่เชื่อ ก็อยู่ที่ 50:50" แหล่งข่าวรายนี้ ระบุ

"สุ เทพ” ยันเครื่องตรวจระเบิดในไทยใช้ได้ผล

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฝ่ายความมั่นคงของอังกฤษ จับกุมบริษัทผู้ผลิตเครื่องตรวจจับวัตุระเบิดที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับประเทศไทยใช้จำนวนมาก แต่เป็นคนละยี่ห้อ ว่า ตนยังไม่เห็นข้อมูลทางเทคนิคเหล่านี้ แต่เท่าที่ตนติดตามจากฝ่ายปฏิบัติที่อยู่ในสนามก็ใช้ได้ผล แต่ว่ามันก็มีตัวแปร เช่น ในขณะที่ทำงานอาจมีฝนตก หรือ มีเหงื่อในมือหรือคนนั้นไปผ่านบางพื้นที่มา จึงอาจมีข้อคลาดเคลื่อนได้ แต่ตนก็ถามเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ที่อยู่ในสนามก็บอกว่าพอใจและเห็นว่าใช้ได้ ผล

เมื่อถามว่า หากมีการสั่งให้ยกเลิกการใช้ ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่มีสิทธิภาพจริงอย่างที่โฆษณา นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงและมีการใช้เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดยี่ห้อดังกล่าวใน บ้านเราก็สามารถทบทวนได้ ทราบว่าที่ใช้อยู่เป็นคนละยี่ห้ออยู่แล้ว แต่ต้องไปดูว่าเหมือนกันหรือไม่

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/politics/20100125/97149/อังกฤษห้ามขายGT200ตรวจบึ้มไร้ค่า-ไทยนำเข้า.html


-------------------------------------------------------------------------------

การเมือง : บทวิเคราะห์
วันที่ 26 มกราคม 2553 02:00

ชำแหละเครื่องตรวจระเบิดฉาว กับคำถาม"ใคร"ละลายงบ 500 ล้าน!

ข่าวรัฐบาลอังกฤษสั่งห้ามจำหน่ายเครื่องตรวจจับวัตถุ ระเบิดแบบมือถือ ADE-651

ภายหลังจากตำรวจนำกำลังเข้าจับกุมและดำเนินคดีกับตัวแทนจำหน่าย อุปกรณ์ดังกล่าว เพราะพิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถใช้งานได้จริง ทำให้สังคมไทยเริ่มตื่นตัวหาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องตรวจระเบิดที่มีลักษณะ การใช้งานคล้ายคลึงกัน ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในหน่วยงานด้านความมั่นคงไทย ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง

จริงๆ แล้วข้อสงสัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของตัวเครื่องซึ่งในบ้านเราใช้ชื่อทางการ ค้าว่า "จีที 200" และมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "เครื่องตรวจหาร่องรอยสสารระยะไกล" นั้น ถูกตั้งคำถามและวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่องค์กรภาคประชาสังคม นักวิทยาศาสตร์ และชุมชนในอินเทอร์เน็ตมาระยะหนึ่งแล้ว

ต้นสายปลายเหตุมาจากเจ้าเครื่องมือชนิดนี้แสดงผลผิดพลาดจนทำให้เกิด ระเบิดอย่างรุนแรงถึง 2 ครั้งติดๆ กันในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส (คาร์บอมบ์) เมื่อวันที่ 6 ต.ค.2552 และที่ตลาดสดกลางเมืองยะลา (มอเตอร์ไซค์บอมบ์) ในอีก 13 วันถัดมา เป็นเหตุให้มีประชาชนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

ผลจากความผิดพลาดดังกล่าว ทำให้กองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (พตท.) ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ และสรุปว่าความผิดพลาดเกิดขึ้นจากตัวผู้ใช้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญพอ หรืออาจจะพักผ่อนน้อย เนื่องจากเจ้าเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดชนิด นี้ใช้ไฟฟ้าสถิตจากร่างกายผู้ถือ เพื่อค้นหาสนามแม่เหล็กจากสารประกอบระเบิด ดินปืน ยาเสพติด หรือแม้แต่ศพมนุษย์

แต่คำชี้แจงดังกล่าวถูกต่อต้านจากกลุ่มนักวิทยาศาสตร์และองค์กรภาคประชา สังคมที่ติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะมีอย่างที่ไหนที่ความเที่ยงตรงของเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ต้องขึ้นกับ ความพร้อมของสภาพร่างกายผู้ใช้ อีกทั้งตัวเครื่องก็ไม่มีกลไกอิเล็กทรอนิกส์ใดๆ วิธีการค้นหาระเบิดจึงคล้ายกับ “ลวดเดาว์ซิ่ง” ที่ใช้หาแหล่งน้ำในอดีต แต่ไม่ได้มีการยอมรับว่าเป็นวิทยาศาสตร์

ข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวเครื่องสรุปได้ดังนี้
1.ลักษณะทางกายภาพ - เป็นแท่งยาวๆ สีดำ ด้านหนึ่งเป็นด้ามจับ ตรงปลายอีกด้านหนึ่งมีเข็มโลหะเล็กๆ คล้ายเสาอากาศ โดยเจ้าเสาอากาศที่ว่านี้หมุนได้รอบทิศ และจะแสดงปฏิกิริยาด้วยการชี้ไปในทิศทางที่พบสารประกอบระเบิด สารประกอบยาเสพติด หรือสารประกอบดินปืน โดยในตัวเครื่องไม่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แบตเตอรี่ หรือแหล่งกำเนิดพลังงานใดๆ

ข้อสังเกต - เครื่องตรวจหาสารระเบิดที่ชื่อ "ไฟโด้" ซึ่งได้รับการยอมรับกันทั่วโลกว่ามีประสิทธิภาพจริง ประกอบขึ้นด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมาย ไม่ใช่เครื่องเปล่าๆ แบบ จีที 200 และรายงานจากห้องทดลองวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ไม่พบว่ามีการใช้เครื่อง จีที 200 ในการตรวจหาสสาร

2.วิธีการใช้งาน - บริเวณใต้เครื่องมีช่องใส่ "การ์ด" หรือ "ชิพ" ซึ่งมีทั้งหมด 18 อัน แยกตามสสารที่ต้องการค้นหา แบ่งหยาบๆ ได้ 3 กลุ่ม คือกลุ่มสารประกอบระเบิด กลุ่มสารประกอบที่ใช้ผลิตยาเสพติด และกลุ่มสารประกอบจำพวกดินปืนที่ใช้ในอาวุธปืน เมื่อต้องการตรวจหาวัตถุต้องสงสัยชนิดใด ก็ใส่การ์ดสำหรับสารประกอบชนิดนั้น

ข้อสังเกต - เป็นไปได้อย่างไรที่เครื่องมือชนิดเดียวจะค้นหาสสารได้ทุกประเภท ทั้งสารประกอบระเบิด ดินปืน ยาเสพติด ซึ่งเป็นสสารคนละกลุ่ม โดยเฉพาะศพมนุษย์ซึ่งเป็นเรื่องทางชีวภาพ

3. ประสิทธิภาพ - เอกสารโฆษณาของบริษัทผู้จำหน่ายเครื่อง อ้างว่าการตรวจจับสามารถผ่านทะลุพื้นผิวได้แทบทุกชนิด แม้แต่ตะกั่ว ยานพาหนะ เรือ อากาศยาน สิ่งปลูกสร้าง ไม่มีสิ่งใดปิดกั้นการตรวจจับได้ สามารถตรวจค้นหาทางภาคพื้น 700 เมตร บริเวณป่าเขา 600 เมตร ชายฝั่งทะเล 850 เมตร ทางอากาศโดยขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์ 4,000 เมตร (เท่ากับ 4 กิโลเมตร) ความลึกในการตรวจค้นหาใต้น้ำ 500 เมตร ใต้พื้นดินลึก 60 เมตร

ข้อสังเกต- ในสิ่งแวดล้อมมีสสารกระจายตัวอยู่มากมาย เป็นไปได้อย่างไรที่เครื่องมือชนิดนี้จะตรวจค้นสสารที่ต้องการในระยะไกลขนาด นั้น อีกทั้งการตรวจจับสมบัติทางแม่เหล็กของสสารต้องอาศัยสนามแม่เหล็กในการตรวจ สอบ ซึ่งต้องใช้พลังงานปริมาณมากในการผลิต (ยกตัวอย่างเครื่องซีทีเอ็กซ์ 900 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นอุโมงค์ขนาดยักษ์) แต่ตัวเครื่อง จีที 200 กลับไม่มีการใช้แบตเตอรี่ใดๆ ใช้แค่พลังงานไฟฟ้าสถิต ซึ่งไม่เพียงพอในการสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าให้มากพอที่จะส่งผลไกลตามอ้าง

อันตรายของอุปกรณ์ตรวจจับวัตถุระเบิดหากไม่มีประสิทธิภาพจริงมีอยู่ 2 ประการ คือ false negative หมายถึงมีสารที่ต้องการค้นหาจริง แต่ตรวจไม่พบ ผลก็คือเกิดระเบิดตูมตาม มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต กับ false positive หมายถึงไม่มีสารที่ต้องการตรวจ แต่เครื่องแสดงผลว่าตรวจพบ ผลก็คือหากใช้เครื่องมือชนิดนี้ตรวจหาสารประกอบระเบิดจากตัวผู้ต้องสงสัย อาจทำให้ผู้ต้องสงสัยรายนั้นถูกจับกุมดำเนินคดีและสูญสิ้นอิสรภาพ ซึ่งเป็นเรื่องอ่อนไหวอย่างยิ่งโดยเฉพาะในสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชาย แดนภาคใต้

ที่น่าสนใจก็คือประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200 เคยถูกนำเข้าพิจารณาในคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตาม เร่งรัด ประเมินผลการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ วุฒิสภา กระทั่งได้ข้อสรุปว่ามีมูลน่าสงสัย จึงมีมติให้หน่วยงานด้านความมั่นคงจัดทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องมือชนิดนี้ อย่างเป็นทางการด้วยวิธีการที่สากลยอมรับ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากผู้เกี่ยวข้อง

หรืออาจเป็นเพราะเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดตระกูล นี้ได้รับการจัดซื้อและใช้ปฏิบัติภารกิจเฉพาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้มากถึง 535 เครื่อง สนนราคาเครื่องละ 9 แสนถึง 1.6 ล้านบาท คิดเป็นเงินงบประมาณก็สูงถึงกว่า 500 ล้านบาท...หากเป็นเครื่องที่ไร้ประสิทธิภาพหรือลวงโลกดังที่สงสัยกัน ย่อมจะต้องมีการสอบสวนทวนความว่าจัดซื้อกันมาได้อย่างไร?

งานนี้ย่อมมีคนเจ็บตัวหลายคน!


-------------------------------------------------------------------------------

ปูดจนท.เลี้ยงไข้ ดับไฟใต้ แฉซื้อจีที200

ปฐมพงษ์" จี้ นายกฯ ตั้ง กก.ตรวจสอบการแก้ไขปัญหาใต้ ชี้ ทหาร ไม่เข้าใจนโยบายการเมืองนำการทหาร ปูด จนท.เลี้ยงไข้แสวงหาผลประโยชน์ ยก จีที200 สหรัฐฯ-อังกฤษ ไม่รับรอง ยันผลการตรวจสอบไม่ถึง 50%

ที่ ราชตฤณมัยสโมสร (สนามม้านางเลิ้ง) เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 29 ธ.ค. พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานองค์กรอนาโลม พร้อมด้วยนายเจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ แถลงถึงการแก้ไขปัญหาภาคใต้ของรัฐบาล ว่า ตนจะทำหนังสือถึงนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ตั้งคณะกรรมการในการตรวจสอบแนวทางการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะแนวทางการใช้การเมืองนำการทหาร เนื่องจากเห็นว่าที่ผ่านมายังไม่ได้ผลและไม่มีความชัดเจน เพราะไม่มีใครพูดกับโจรได้ใต้ได้รู้เรื่อง เนื่องจากมีทั้งคนดีและคนไม่ดี รวมถึงการบังคับบัญชายังมีความสับสน จนมีการกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ในพื้นที่มีการแสวงหาผลประโยชน์เกี่ยวกับงบประมาณที่ ลงไปในพื้นที่ กระทั่งถูกข้อกล่าวหาว่าเลี้ยงไข้ ในส่วนของนโยบายต่างๆในเรื่องการพัฒนาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่สามารถทำได้ถ้าหากสถานการณ์ยังมีความรุนแรงอยู่

พล.อ.ปฐม พงษ์ กล่าวต่อว่า ตนตั้งข้อสังเกตในการซื้อเครื่องจีที200หรือเครื่อง ตรวจสารระเบิดจากไอระเหย มาใช้ในพื้นที่ จากการตรวจสอบกับประเทศอังกฤษ ทราบว่า เครื่องมือตัวนี้ไม่ใช่เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ ปัจจุบันไม่มี ประเทศที่พัฒนาแล้วใช้เครื่องมือตัวนี้ แม้แต่ กระทรวงกลาโหมของกองทัพสหรัฐอเมริกา ก็ไม่รับรอง เพราะผลการตรวจสอบต่ำกว่า 50% ส่วนเครื่องที่ใช้ได้และได้รับการรับรองคือไฟโด (FIDO) เหตุใดกองทัพและรัฐบาลจึงไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องนี้ ยังมีการนำเครื่องจีที 200 มาใช้ในพื้นที่ภาคใต้ อยากให้นายกรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบเพื่อลดการสูญเสียในเรื่อง ของงบ ประมาณที่ลงไปในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ลดการแทรกซึมผลประโยชน์ในเรื่องงบประมาณ และสร้างความศรัทธาให้รัฐบาลและกองทัพ
http://www.thairath.co.th/content/pol/55874


-------------------------------------------------------------------------------

“หมอพรทิพย์” ย้ำ “จีที 200” มีดีกว่าไม่มี ท้าคนโจมตีลงพื้นที่พร้อมทีมนิติวิทย์


Written by Administrator
Sunday, 17 January 2010 00:00

โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา

แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม คือบุคคลที่เกี่ยวพันกับเครื่องตรวจสารระเบิด จีที 200 โดยตรง เธอยืนยันผ่านข้อเขียนของเธอเองถึงความจำเป็นของเครื่องมือชนิดนี้ ท่ามกลางกระแสเรียกร้องจากหลายฝ่ายให้จัดทดสอบประสิทธิภาพอย่างเป็นทางการ เพราะเชื่อว่าเป็นอุปกรณ์ลวงโลก

“คุณหญิงหมอ” เขียนคอลัมน์ชื่อ “เลื้อย ไปเรื่อย” ตีพิมพ์ในนิตยสารเนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 912, 914 และ 916 ช่วงเดือน พ.ย.ถึง ธ.ค.ปีที่แล้ว ตอกย้ำประสิทธิภาพของเครื่อง จีที 200 ในขณะที่มีการเคลื่อนไหวขององค์กรภาคประชาสังคม นักวิทยาศาสตร์ และชุมชนอินเทอร์เน็ตวิพากษ์วิจารณ์เครื่องมือตัวนี้พร้อมตั้งคำถามว่ามี ความแม่นยำขนาดไหน เพราะเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงใช้ตรวจหาวัตถุระเบิดพลาดถึง 2 ครั้งติดๆ กันจนเกิดระเบิดขึ้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 6 ต.ค.2552 และกลางตลาดในเขตเทศบาลนครยะลา เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ปีเดียวกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

ความผิดพลาดที่ว่านี้ยังไม่รวมถึงกรณีที่บางฝ่ายตั้งคำถามว่าความไม่แม่นยำ ในการตรวจอาจทำให้สุจริตชนต้องสูญสิ้นอิสรภาพ เพราะเครื่องมือชี้ว่าร่างกายปนเปื้อนสารระเบิด ทั้งที่จริงๆ ไม่มีการปนเปื้อน

อย่างไรก็ดี แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ออกมาตอบโต้เสียงวิจารณ์อย่างแข็งขัน

ในคอลัมน์ “เลื้อยไปเรื่อย” ของคุณหญิงหมอ ตีพิมพ์ในเนชั่นสุดสัปดาห์ฉบับที่ 912 หัวเรื่องว่า “วิทยาศาสตร์ ไม่เอียง แต่คนเอียง” เขียนถึงเครื่องมือ จีที 200 ตอนหนึ่งว่า

“...พร้อมๆ กันก็มีข่าวเรื่องการใช้เครื่องมือ จีที 200 ตรวจไม่พบระเบิด ทั้งๆ ที่มีการวางระเบิดไว้ ชาวบ้านจึงถูกระเบิดเจ็บระนาว มีการลงข่าวว่าเครื่องมือนี้ใช้ไม่ได้ ผู้คนเริ่มสับสนว่าตกลงเครื่องมือนี้ใช้ได้หรือใช้ไม่ได้กันแน่ ซึ่งหมอก็ถูกเชิญให้ไปพูดคุยเรื่องนี้ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่ง ประเทศไทย (จัดโดยโต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ย.2551) มีคุณอังคณา นีละไพจิตร (ประธานคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ) มีนักศึกษาปริญญาเอกคนหนึ่ง ซึ่งพยายามนำเสนอข้อมูลว่ามีบทความหรือความเห็นในเชิงการตำหนิคุณภาพของ เครื่องมือนี้

คุณอังคณาฯ เองก็เปิดประเด็นเรื่องการละเมิดสิทธิของเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าตรวจค้น โดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ใช้เครื่องมือนี้ พอเครื่องมือชี้ที่ใคร ทหารก็เอาตัวไปเข้าค่ายอบรม ฟังแล้วรู้สึกได้ว่าทุกคนพูดแต่ในจุดของตัวเอง ซึ่งหมอฟังแล้วยังอยากเชิญคนพูดให้ลงไปสัมผัสหรือประกบการทำงานกับทีมงานของ หมอด้วยตัวเอง แทนที่จะพูดจากการ 'ฟังเขาว่ามา'

ในมุมของนักวิทยาศาสตร์ก็มักจะไม่เชื่อไว้ก่อน เพราะฟังแล้วดูหลักการไม่ชัดเจน ซึ่งเครื่องมือจีที 200 นี้ หมอเองฟังหลักการแล้วดูไม่เป็นวิทยาศาสตร์นัก แต่จากการใช้ปฏิบัติงาน ทีมงานของหมอใช้งานได้แม่นยำ เราจึงใช้เป็นเพียงเครื่องมือนำทางเท่านั้น ตราบใดที่ยังไม่มีวิธีการหรือเครื่องมือที่ดีและสะดวกกว่านี้

หมอได้อธิบายให้ที่ประชุมฟังว่า เครื่องมือที่ใช้ในการตรวจสารระเบิด มีทั้งการตรวจแบบเบื้องต้น (Presumptive) และตรวจยืนยัน (Confirmative) การตรวจมีลักษณะหลากหลาย เช่น ตรวจหาปริมาณ (Quantitative) ตรวจหาคุณสมบัติหรือคุณภาพ (Qualitative) เครื่องมือบางอย่างมีความเฉพาะ (Specific) แต่ความไว (Sensitivity) ไม่แน่นอน รวมทั้งความแม่นยำ (Accuracy)

เครื่องมือ จีที 200 มีความไว ตรวจชนิดของสสารได้ แต่ไม่แม่นยำ เพราะมีปัจจัยตัวแปรที่คนใช้เครื่องมือพอสมควร จึงไม่ควรนำมาเป็นเครื่องมือพิสูจน์ทราบเพื่อดำเนินคดี แต่ต้องใช้เครื่องมืออื่นตรวจตามเพื่อยืนยันอีกครั้ง เช่น เครื่องไฟโด้ ไอออนสแกน หรือเครื่องจีซีเอ็มเอส

หมอสนใจว่าเจตนาของคนที่ร่วมเสวนาคิดอะไร โดยเฉพาะเรื่องเครื่องมือจีที 200 นี้ หมอเห็นพูดบ่อยมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ฟังคนอื่นมาทั้งนั้น มีการพูดกันปากต่อปากถึงขนาดลือว่าทหารสั่งให้คนถือเครื่องจีที 200 บังคับให้ชี้คนที่เขาสงสัยได้ รวมทั้งกลุ่มทนายความที่พากันสนับสนุนลูกความให้สู้คดี ทั้งๆ ที่ผลการตรวจดีเอ็นเอ หรือตรวจสารระเบิดด้วยเครื่องไอออนสแกนนั้นไม่ผิดพลาด

เครื่องมือวิทยาศาสตร์ชิ้นนี้ อย่างไรเสียก็ให้ประโยชน์ในการตรวจค้นมากกว่าการฟังคำคน ที่สำคัญทำให้พิสูจน์ทราบว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการสั่งการนั้น เขาไม่เคยใช้มือของตัวเองสัมผัสจับต้อง แต่จ้างวานให้วัยรุ่นเป็นผู้ทำ ทำไมจึงไม่มีกลุ่มเอ็นจีโอออกมาช่วยกระชากหน้ากากผู้อยู่เบื้องหลัง...”

จากนั้นในคอลัมน์ชื่อเดียวกัน ตีพิมพ์ในเนชั่นสุดสัปดาห์ฉบับที่ 914 จั่วหัวว่า “อย่ายึดติด” แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ก็เขียนถึงเครื่องจีที 200 อีกครั้ง

“...อีกเรื่องที่พูดกันมากเหลือเกินคือเครื่องจีที 200 ที่มีคนฉวยโอกาสพยายามให้ยกเลิกการใช้ อ้างว่าไม่มีประสิทธิภาพ แต่ทีมงานของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ใช้เครื่องนี้ได้แม่นยำมาก เพราะในการตรวจพิสูจน์หมอใช้เครื่องมือหลายชิ้นช่วยกัน ตั้งแต่จีที 200 เครื่องไฟโด้ และไอออนสแกน

หมออธิบายให้นักสิทธิมนุษยชนหลายครั้งว่า การตรวจทำอย่างไร ก็ดูเหมือนแผ่นเสียงจะตกร่อง เวลาอยู่ต่อหน้าหมอ ไม่พูดไม่ถาม แต่ลับหลังก็พูดให้ร้ายแบบเดิม การปิดความคิดเช่นนี้ น่าจะไม่ใช่คุณสมบัติที่ดีของนักสิทธิมนุษยชนที่ใช้เรียกอยู่ ควรทำงานให้คุ้มค่างานที่รับผิดชอบ ไม่ใช่เลือกทำสิ่งที่ตัวเองได้ประโยชน์ หัวโขนนั้นใช้หลอกผู้คนได้ก็เวลาแสดงบนเวที ตัวจริงคงปกปิดใครไม่ได้นาน”

ส่วนในคอลัมน์เลื้อยไปเรื่อยเช่นกัน แต่เป็นฉบับที่ 916 ชื่อเรื่องว่า “ระเบิดต้อนรับ” คุณหญิงหมอพูดถึง จีที 200 โดยโยงกับเหตุระเบิดต้อนรับนายกฯไทยและนายกฯมาเลย์ ที่ลงพื้นที่ชายแดนใต้ร่วมกันเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2552

“ช่วงที่ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ และนายกฯ มาเลเซีย ลงปฏิบัติภารกิจชายแดนใต้เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา กลุ่มก่อเหตุร้ายได้แสดงพลังในการวางระเบิดอย่างรุนแรง

เริ่มจากกลางคืนก่อนกำหนดนายกฯ เดินทางเข้าพื้นที่ คนร้ายวางระเบิดที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ทหารได้รับบาดเจ็บ รุ่งเช้าเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแล้วสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะจุดชนวนมาจาก ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ใกล้กันมาก

ต่อมาตอนสายก็มีระเบิดที่อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส ลักษณะการก่อเหตุมีการปิดป้ายผ้าว่ารัฐปัตตานีเป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซีย จุดประสงค์เพื่อต้องการล่อเป้าให้ทหารเข้าไปปลดป้าย จากนั้นก็ได้เกิดระเบิดขึ้น เนื่องจากมีการจุดชนวนโดยการลากเส้นเอ็นเชื่อมระเบิดกับป้ายผ้าไว้ พอทหารเดินสะดุดเส้นเอ็นก็เกิดระเบิดขึ้น มีทหารนาวิกโยธินได้รับบาดเจ็บ พร้อมๆ กันก็มีการติดป้ายแบบเดียวกันที่หลายอำเภอในปัตตานี

หลังจากนั้นก็เกิดเหตุระเบิดรุนแรงหลายครั้งที่อำเภอเมืองยะลา โดยคนร้ายวางระเบิดไว้ที่ศาลาแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ระเบิดของทหารให้มาตรวจ สอบ ขณะประเมินสถานการณ์ คนร้ายกดระเบิด ทหารได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลก็มีเหตุระเบิดใกล้ๆ กัน เจ้าหน้าที่กู้ระเบิดตำรวจออกมาปฏิบัติการ พบป้ายมีข้อความเยาะเย้ยเครื่องมือจีที 200 และเจ้าหน้าที่กู้ระเบิด ตำรวจจึงรู้ตัวว่าเป็นกลลวงอีกครั้ง และได้สั่งให้ทุกคนถอยโดยเร็ว แต่ไม่ทันการณ์ ตำรวจคนหนึ่งจึงถูกระเบิดร่างแหลกเหลว จนเกือบหาชิ้นส่วนร่างกายที่เหลือไม่ได้

ปฏิบัติการครั้งนี้เหี้ยมโหดอำมหิต วางแผนมาอย่างแยบยล ทำให้หมอนึกไปถึงการถล่มโจมตีให้ร้ายอุปกรณ์จีที 200 ดูเหมือนจะมีกลุ่มบุคคลที่พยายามห้ามจัดซื้ออุปกรณ์นี้ หมอมองเลยไปเบื้องหลังของจิตใจคนกลุ่มนี้ว่าเขาคิดอะไร เพราะการมีเครื่องมือนี้ย่อมดีกว่าไม่มี หรือว่าเขาไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่รัฐมีเกราะป้องกันตัวเลย...”

ถือเป็นข้อคิดและข้อมูลอีกมุมหนึ่งจากทาง ฝั่ง “ผู้ใช้จริง” ซึ่งสังคมคงต้องชั่งน้ำหนักและใช้วิจารณญาณ!

http://www.isranews.org/isranews/index.php?option=com_content&view=article&id=132:---200--&catid=13:2009-11-15-11-18-09&Itemid=6

-------------------------------------------------------------------------------

วันที่ 02 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 เวลา 17:31:41 น. มติชนออนไลน์

"คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ"แถลงการณ์ให้รบ.ตรวจ สอบเครื่องตรวจหาวัตถุระเบิด "GT200"

"คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ" แถลงการณ์ให้รบ.ตรวจสอบประสิทธิภาพเครื่องตรวจหาวัตถุระเบิด "GT200" หลังพบผิดพลาดมากก่อความเสียหายในชายแดนใต้ ชี้ควรหาคนกลางมาตรวจสอบ ถ้าไม่น่าเชื่อถือควรเลิกใช้

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ได้ออกแถลงการณ์ผ่าน www.deepsouthwatch.org เรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบประสิทธิภาพของเครื่องตรวจหาสารประกอบระเบิด หรือ GT200 ความว่า

ปัจจุบันเครื่องตรวจหาสารประกอบระเบิดหรือที่เรียกว่า GT200 กลายเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับการปฏิบัติงานของ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไรก็ตาม GT200 ได้กลายเป็นประเด็นถกเถียงถึงประสิทธิภาพ และความน่าเชื่อถือ หลังจากหลายครั้งได้ส่งผลทั้ง False-Positive (การแสดงผลบวกทั้งๆ ที่ไม่มีสารต้องสงสัย) และ False-Negative (การแสดงผลลบทั้งๆ ที่มีสารต้องสงสัย) ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายกับชีวิตและอิสรภาพทั้งของประชาชนและเจ้าหน้าที่ รัฐ

การส่งผลบวกทั้งๆ ที่ไม่มีสารต้องสงสัย (False-Positive) เกิดขึ้นในหลายครั้งกับชาวบ้านที่ถูกตรวจโดยเครื่องมือชนิดนี้ ชาวบ้านจากอำเภอตากใบ นราธิวาส คนหนึ่งกล่าวว่าเครื่อง GT200 ชี้ไปที่ต้นมะพร้าว และเมื่อทหารปืนขึ้นไปกลับพบกว่าเป็นถุงใส่น้ำมันพืชที่ลิงอาจคาบไปไว้บนต้น มะพร้าว ในอีกครั้งหนึ่งที่คนทำงานด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่คนหนึ่งถูกเครื่อง GT200 ชี้ ในขณะที่เขากำลังสูบบุหรี่ นอกจากนั้น ผู้ถูกเชิญตัวหลายคนในหลายเหตุการณ์ก็เนื่องมาจากเครื่องมือนี้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีอบรม 4 เดือน เมื่อปลายปี 2550 หรือกรณีอิหม่ามยะผา กาเซ็ง

การส่งผลลบทั้งๆ ที่มีสารต้องสงสัย (False-Negative) ซึ่งก่อให้เกิดผลเสียหายอันใหญ่หลวงกับชีวิตและทรัพย์สิน กระทั่งกับเจ้าหน้าที่เอง เหตุระเบิดสองครั้งเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ใกล้โรงแรมเมอร์ลิน อ.สุไหงโกลก วันที่ 6 ตุลาคม และระเบิดที่ตลาดพิมลชัย อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 19ตุลาคม ที่ผ่านมา หรืออีกเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2551 ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนต้องเสียชีวิต 3 นาย ที่อ.ปะนาเระ จ. ปัตตานี ทั้งสามเหตุการณ์นี้ เครื่อง GT200 ถูกนำไปใช้ในการตรวจเบื้องต้น แต่ไม่สามารถจับสารต้องสงสัยได้ จนนำไปสู่การสูญเสียดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงชี้แจงว่าการใช้งานของเครื่องขึ้นอยู่ กับความเชี่ยวชาญและสภาพความพร้อมทางร่างกายของผู้ใช้งาน โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่า อาจเป็นเพราะผู้ใช้งานมีภาวะเหนื่อยล้าทำให้ส่งผลกับตัวเครื่องมือ ในทางวิทยาศาสตร์มีความเห็นว่า ลักษณะการใช้งานที่ต้องอาศัยสภาพร่างกายของผู้ใช้นั้น ไม่เป็นไปตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือได้ และจากข้อมูลที่ค้นพบ ทราบว่าทางกองทัพเองยังไม่เคยใช้การพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ ประสิทธิภาพของเครื่องมือนี้ จะมีก็แต่เพียงการทดลองโดยผู้ผลิตหรือผู้ขายที่จำลองสถานการณ์ที่ไม่ได้อิง กับหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ

นอกจากนั้น GT200 ยังกลายเป็นประเด็นถกเถียงทางวิชาการทั้งในชุมชนอินเตอร์เนตและชุมชนวิชาการ จากข้อมูลที่มีอยู่ พบว่า GT200 ไม่ได้ถูกนำไปใช้ในหน่วยงานทางความมั่นคงของประเทศที่มีแสนยานุภาพ และประสิทธิภาพทางทหาร หน่วยงานของสหรัฐอเมริกาได้ทำการทดลองเครื่องรุ่น MOLE ซึ่งเชื่อว่าเป็นเครื่องชนิดเดียวกับ GT200 แต่ใช้ชื่อทางการค้าต่างกัน โดยใช้การทดลองแบบ double-blind testing พบว่ามีความถูกต้องเพียงแค่ 6 ใน 20 ครั้ง ของการทดลอง นั่นหมายถึงเพียงแค่ 30% ของความถูกต้อง เช่นเดียวกับ เครื่องมือที่คล้ายคลึงกันอีกชนิดคือ Sniffex ซึ่งมีข่าวว่า FBI ของสหรัฐอเมริกาได้ตรวจสอบและออกความเห็นว่าเป็นเครื่องมือที่ไม่มี ประสิทธิภาพจริงตามการกล่าวอ้าง และขณะนี้ FBI กำลังดำเนินการฟ้องร้องบริษัทผู้ผลิต (ดูเหมือนว่าทางกองทัพไทยได้ใช้เครื่อง Sniffex ด้วย)

เครื่อง GT200 ราคาปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 900,000 บาท ซึ่งหากรวมราคา Cards ที่ใช้ร่วมกับเครื่องแล้วก็จะมีราคาประมาณเครื่องละ 1 ล้าน 2 แสนบาท ขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันพบว่าทางกองทัพมีนโยบายที่จะให้มีการจัดซื้อเครื่องดังกล่าว เพิ่มขึ้น นอกจากกองทัพทั้งสามเหล่าทัพแล้ว หน่วยงานรัฐอื่นๆ ที่มีเครื่องมือชนิดนี้ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เพราะ GT200 สามารถตรวจจับสารเสพติดได้ด้วย) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นต้น

คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ มีความกังวลต่อกรณีนี้เป็นอย่างยิ่ง และขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการดังต่อไปนี้


1. ขอให้มีการทดสอบการใช้เครื่องมือนี้โดยอิงกับหลักการทางวิทยาศาสตร์ (เช่นการทดลองโดยวิธี double-blind testing เป็นต้น) โดยหน่วยงานที่เป็นกลาง เป็นอิสระ และให้ภาคประชาชนและนักวิทยาศาสตร์มีส่วนร่วมสังเกตการณ์การทดลองนี้


2. ขอให้การเชิญตัวบุคคล การควบคุมตัว การจัดทำบัญชีรายชื่อ หรือการตั้งข้อหาประชาชน ไม่ขึ้นอยู่กับการแสดงผลของเครื่องมือนี้เพียงอย่างเดียว โดยต้องประกอบกับหลักฐานอื่นๆ และหากพิสูจน์ได้ว่าเครื่องมือนี้ไม่มีประสิทธิภาพที่น่าเชื่อถือเพียงพอ (เช่นแสดงผลชัดเจนได้น้อยกว่า 60-70%) ก็ควรยุติการนำผลการตรวจของเครื่องมือนี้มาใช้ประกอบในกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรมขั้นต้น คือการจับกุม และควบคุมตัวประชาชน


3. ขอให้ทางกองทัพปฏิรูปนโยบาย การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ โดยให้มีกระบวนการที่โปร่งใสตรวจสอบได้ มีระบบการตรวจสอบถ่วงดุลย์ โดยให้จัดซื้อด้วยวิธีปกติ และเผยแพร่ข้อมูลให้สาธารณชนสามารถเข้าถึงได้ พร้อมไปกับการคำนึงถึงความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติ


4. หากการตรวจสอบจากหน่วยงานทาง วิทยาศาสตร์ที่เป็นอิสระ พบว่าเครื่องมือชนิดนี้ไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอ ขอให้กองทัพภาคที่ 4 ยุติการนำเครื่องมือชนิดนี้มาใช้ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในทันที เพื่อลดความระแวงระหว่างรัฐและประชาชน และเพื่อฟื้นฟูความไว้เนื้อเชื่อใจ และความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมให้กลับคืนมา



http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1257157541&grpid=&catid=02

----------------------------------------------------------------------------

อภิสิทธิ์ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องเครื่อง GT200 กับอีก 2 เรื่อง
ที่นี่ http://www.pm.go.th/media/weekly/8871


แนะนำกระทู้ของชาวหว้ากอ พันทิพ

ที่เกาะติดเรื่องนี้มาหลายกระทู้แล้ว เช่น

ท่านนายกออกรายการตจอบปัญหาเรื่อง GT200 แล้วครับ แต่ว่า...
http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8806823/X8806823.html

มาแล้ว ! แกะเครื่องตรวจระเบิดติงต๊อง มาดูกันว่ามีอะไรข้างในบ้าง
http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8804615/X8804615.html

clip JD300 เครื่องตรวจจับระเบิดชนิดใหม่ราคา 159 บาท
http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8815270/X8815270.html

ผู้เกี่ยวข้องในการจัดซื้อ




















---------------------------------------------------------------

เครื่องต้นแบบ GT200





















ถอดเหลือโครงร่างง่ายๆ สองรูปแบบ แบบนี้










Commercial and hi-tech "dowsing" devices

A number of devices resembling "high tech" dowsing rods have been marketed for modern police and military use: none has been shown to be efficacious.[25] The more notable of this class of device are ADE 651, Sniffex, and the gt200.[26][27] A US government study advised against buying "bogus explosive detection equipment".[25]

รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านที่นี่ http://en.wikipedia.org/wiki/Dowsing


---------------------------------------------------------------


วันอาทิตย์, กุมภาพันธ์ 07, 2010

ทำไม ปชป.จึงต้องอุ้มเครื่องเน่าจีที 200 : ขบวนการอมาตย์อุบาทว์ โกงชาติระห่ำขนานแท้

โดย คุณเสรีชน
ที่มา เวบบอร์ด ประชาไท
7 กุมภาพันธ์ 2553

เครื่อง จีที 200 เป็นข่าวกระหึ่มไม่เฉพาะในประเทศไทย แต่ดังไปทั้งโลก ดังเพราะอังกฤษยกเลิกการใช้เครื่องนี้ และเรียกกลับจากอิรักทั้งหมด

แต่อำมาตยาธิปไตย กลับใช้คนประเภทถิ่นกาขาว ..แพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ออกมาตรวจสอบแล้วรีบประกาศเลยว่า เครื่องใช้ได้ดี

แต่ คืนนั้นเอง รัฐบาลอังกฤษออกข่าวยกเลิกการใช้เครื่องจีที 200 ..หมอผมพุดเดิ้ล ก็เลยหน้าจ๋อย โกหกสังคมไม่ได้ ถูกเยาะเย้ยถากถางไปทั่ว อุตสาห์มาแถต่อเมื่อวาน 6 กพ ว่า ใช้ได้ 30 % ก็คุ้มแล้ว

30 % ของหมอหมายความว่า จับระเบิดได้ 30 จาก 100 ลูก คุ้มหรือ? แต่หมอลืมไปว่า เงินที่ใช้ซื้อน่ะ หนึ่งล้านสี่แสนบาทไม่ใช่สองพันบาทนะ และที่สำคัญ กรณีนี้ 70 ครั้งที่ไม่เจอ โดยทางตรรกะ ไม่ได้แปลว่าไม่มีระเบิดนะครับ มันหมายความว่าอาจจะมีระเบิด แต่ GT200 ตรวจไม่พบ

ถ้าผู้ทรงคุณวุฒิออกมายืนยันว่า GT200 ใช้ได้ผล คนใช้งานก็เชื่อท่าน แต่คนซวยน่ะชาวบ้าน (และอาจรวมถึงคนใช้งานด้วย)

เรายืนยันอีกครั้งว่า ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ตรวจเจอระเบิดมากแค่ไหน แต่มันอยู่ที่ไม่เจอระเบิดมากแค่ไหนต่างหาก

ปี ที่แล้ว ทหารในอีรัคใช้ ADE-651 ตั้งด่านตรวจรถวิ่งเข้าเมือง ปล่อย car bomb ผ่านด่านไป 2 คัน เพราะ ADE-651 ตรวจไม่พบระเบิดเหตุการณ์นี้มีคนเสียชีวิต 250 คน ไม่ทราบว่าอย่างนี้จะเรียกว่าคุ้มอีกหรือเปล่า?

แล้วสองสามวันมานี้ หมอพรทิพย์ ก็ยิ่งดวงอับอีกแล้ว เมื่อนายเจมส์ เรนดี (James Rendi) ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ James Randi Educational Foundation ซึ่งเป็นสถาบัน ที่ให้ความรู้และตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับการอวดอ้างคุณภาพสินค้า และความสามารถพิเศษของมนุษย์ เพื่อป้องกันการหลอกลวง รวมทั้งผู้อวดอ้างว่า ตนเองมีความสามารถพิเศษเหนือมนุษย์ ด้วยการตั้งเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 34 ล้านบาท) หากว่าสามารถพิสูจน์ได้ว่า สามารถทำอย่างที่อวดอ้างได้จริง

และท้าว่า ถ้าหมอพรทิพย์ของไทยพิสูจน์ว่าเครื่องใช้งานได้จริง เขาจะมอบเงินให้เธอทันทีหนึ่งล้านเหรียญจริงๆ นอกจากนี้ เจมส์ เรนดี ยังได้อ้างอิง ถึงคำพูดของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ให้การรับรองว่า GT200 สามารถใช้งานได้จริง โดยที่ไม่ต้องทดสอบว่า "การประกาศออกมาเช่นนี้ มันเป็นการรับรองคุณภาพที่ชัดเจน เขาเชื่อมั่น ต่อการทำงานของมันมาก เขาสนใจที่จะร่วมทดสอบหรือไม่? ผมหวังว่า โทรศัพท์ของผมจะดังสักที" เขาเยาะเย้ยรองนายกถึงสติปัญญาตื้นเขลาถึงเพียงนี้ ?

คลิกชม ลิงค์ เจมส์ เรนดีท้าพิสูจน์จีที 200

รอบ นี้ นายก รองนายก และหมอพุดเดิ้ล ปากเสียเอง ไม่ตรวจข้อมูลแล้วรีบพูด โดนฝรั่งท้าทายแบบนี้ ประเทศจะเหลือเกียรติภูมิอะไรบ้าง แถมรองนายกสุเทพ ยังออกมาตอแหล โยนความผิดว่า เครื่องจีที 200 ซื้อมาในสมัยทักษิณ

อีกครั้งที่ว่า อะไรๆ ก็โทษท่านทักษิณ แต่เราก็ตามข้อมูลจนพบความโกหกตอแหลของรองนายก ที่ไม่เพียงแขนคด แต่ใจยังคดกว่าแขนว่า

ยุคทักษิณปี 48 ซื้อมาใช้ 4 เครื่อง ราคาเครื่องละ 2 หมื่น
ยุคสุรยุทธ์ปี 49 สั่งเพิ่มมาอีก 500 เครื่อง เครื่องละ 7 หมื่น
ยุคอภิสิทธ์ปี 52 ซื้อเพิ่มอีก 2000 เครื่อง เครื่องละ 1.4 แสนบาท (แต่ยังส่งไม่ครบ 2 พันเครื่องเรืองแตกก่อน)

ถ้าหัวกลวงขี้เหลืองดูคำตอบให้แล้ว ก็ไปคิดเอาเองว่า ถ้าทักษิณเป็นต้นเหตุ ก็ว่าไป แต่ตัวเลขมันฟ้องนะว่า ใครปัญญาอ่อน

ทักษิณ ซื้อมาถูก เพียงสี่เครื่อง ใช้ไม่ได้ก็เลิกซื้อ แต่รัฐบาลอำมาตย์ที่ชมตนเองนักว่าซื่อสัตย์ กลับงาบกันมโหฬาร เพราะราคาก้าวกระโดดมาก แถมไอ้เด็กมาร์คสั่งมาได้ตั้ง 2 พันเครื่อง ทั้งๆ ที่ อังกฤษกับสื่อเค้าบอกแล้วว่า มันของหลอกลวง

มาออกทีวีว่าใช้ได้ แถไปเรื่อย แล้วทำไม ปชป ซื้อมามากมายขนาดนี้ อยากรู้ไหม

ทำไมพวกเขาถึงต้องโยนขี้ความชั่วของตัวเองให้ทักษิณ เมื่อท่านเห็นข้อมูลต่อไปนี้จะหนาวเหน็บ

ใคร เป็นเอเย่นต์เริ่ม จาก web ผู้ผลิต ซึ่งมีเขียนไว้ว่า ตัวแทนจำหน่าย GT200 คือ บริษัท AVIA SATCOM ที่เคยออกข่าวสามมิติ เมื่อเข้าเวปบริษัทได้พบชื่อตามนี้

Avia Satcom Co.,Ltd.
"Mr. Suthep Duangchinda"
Director174/60-61 Viphawadi Road,
Don Muang,Bangkok 10210Thailand

ปรากฎว่า นายสุเทพ ดวงจินดา สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ มีตำแหน่งเป็น Director ของ บริษัท AVIA SATCOM

โอละพ่อ ปชป ซื้อเอง กินเอง งาบเอง ป้องกันตนเองสารพัดรูป

ที่สุด ทุกอย่างก็ย้อนมาที่พรรคเก่าแก่ ที่ชอบอ้างคุณธรรม แต่ปรากฎเรื่องฉาวโฉ่ทุจริตตลอดเวลา

ตอนนี้ หายสงสัยหรือยัง ชัดหรือยังว่า ทำไม ปชป ถึงต้องอุ้มเครื่องเน่าจีที 200 ทำชั่วขนาดนี้

หลัก ฐานกระจะตาแบบนี้ ผู้มีใจเป็นธรรมที่เคยเกลียดทักษิณ ตอนนี้จะตาสว่างได้หรือยังเล่าว่า เรื่องวุ่นวายในประเทศนี้ มันเกิดจากการสาดโคลน การโกหกตอแหลของกลุ่มองคมนตรีโกงป่า กลุ่มสื่อชั่วของนายสนธิ และกลุ่มพรรคการเมืองเก่าแก่ ที่แพ้เลือกตั้งท่านทักษิณมาตลอด

ตื่นเถิดชาวไทย ถ้าท่านรักประเทศ ไหว้พระสวดมนต์ จงยังความจริงให้ปรากฏ และเผยแพร่สัจธรรมออกไป

ความริษยานำพาโลกวินาศ ถึงขนาดนี้ ท่านยังจะร่วมกับคนทำชั่ว เพื่อทำลายประเทศไทยต่อไปหรือ

ตรองกันดูเถิดพี่น้องทั้งหลาย


http://thaienews.blogspot.com/2010/02/200.html

---------------------------------------------------------------

ข้อมูลจากคุณ ขนมสาคู ที่เว็บพันทิพราชดำเนิน

ใบเสร็จการ โกง ขั้นที่ 1
-------------------------------
กรมศุลกากร ซื้อ 6 เครื่อง ราคาเฉลี่ย
2,256,000/6 = 426,666 บาท

กองทัพไทย ซื้อ 222 เครื่อง ราคาเฉลี่ย
199,800,000/222 = 900,000 บาท


กรมศุลกากร ซื้อ 6 เครื่อง ราคาเครื่องละ 42x,xxx บาท
กองทัพใคร ซื้อ 222 เครื่อง ราคาเครื่องละ 900,000 บาท

-
สรุปรายงานการประชุมกรมฝ่ายยุทธบริการ ครั้งที่ ๓/๒๕๕๒
เมื่อ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๒ เวลา ๐๙๓๐ ณ ห้องประชุม กบ.ทบ.(๑)
http://dlogs.rta.mi.th/attachments/199_3-52.pdf
.
.
1.3 เครื่องตรวจจับสารเสพติด , อาวุธ และวัตถุระเบิด แบบ GT 200 จำนวน 222 เครื่อง เป็นเงิน 199,800,000 บาท
( วิธีพิเศษจาก บริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด อนุมัติซอ 9 ม.ค.52 ลงนาม 23 ก.พ.52 )

--
TOR ประกวดราคาซื้อด้วยวิธีการทาง อิเล็กทรอนิกส์โครงการจัดซื้อเครื่องตรวจพิสูจน์แบบพกพา จำนวน 6 เครื่อง
(GT200) ที่ราคาเฉลี่ย 4 แสนบาท
http://tor.gprocurement.go.th/06_tor/uploads5/73869/1/ad.pdf
ยกเลิกประกวด ราคาซื้อด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ จัดซื้อเครื่องตรวจพิสูจน์แบบพกพา จำนวน 6 เครื่อง [ 30/04/2552 ]
http://www.customs.go.th/UploadFile/Bidding/B0409010.pdf
ประกาศก รม ศุลกากร เรื่อง รายชื่อผู้ได้รับคัดเลือกการประกวดราคาซื้อด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โครงการจัดซื้อเครื่องตรวจพิสูจน์แบบพกพา จำนวน 6 เครื่อง [ 17/06/2552 ]
http://www.customs.go.th/UploadFile/Bidding/B0609012.pdf

.

.

แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 53 18:59:18

แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 53 18:53:50



จากคุณ : ขนมสาคู
เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 18:24:03 A:124.122.247.176 X:
ถูกใจ : แถวดินแดง, SuperCrazyBoy, PKT, ชาติอนุรักษ์, นางสาวหมอนทอง, คนรักดาบไทย, Dek RB


---------------------------------------------------------------------------

บริษัท เอ วิ เอ แซทคอม จำกัด
ที่อยู่ : 74/60-61 หมู่ 9 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร
รายละเอียด : ประกอบ กิจการขายส่ง และบริการซ่อมเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด รวมถึงอุปกรณ์และอะไหล่
ลักษณะกิจการ : การขายส่งเครื่องจักรและเครื่องมือเครื่องใช้อื่นๆ ซึ่งมิได้
ปีที่จดทะเบียน : 2535
http://www.companyinthailand.com/company_detail.php?company_id=23341


บริษัท อินเตอร์เทรด ออฟเซ็ท ดีเวลลอพเม้นท์ จำกัด
ที่อยู่ : 289 ซอยจัดสรรเอื้อวัฒนสกุล ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
รายละเอียด : รับเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับด้านบริหารงานพาณิชยกรรม
ลักษณะกิจการ : บริการการให้คำปรึกษาทางธุรกิจและการจัดการ
ปีที่จดทะเบียน : 2548

http://www.companyinthailand.com/company_detail.php?company_id=8674

---------------------------------------------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 7

ฝาก รูป+ เอกสารอ้างอิง+ข่าว+link

-
http://www.gt200.org
(1) เรื่อง ประกาศผลการประกวดราคาซื้อด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โครงการจัดซื้อเครื่องมือตรวจหาวัตถุระเบิด แบบพกพา
http://padmic.dopa.go.th/padmic/tenderbid/file/PG.YALA.doc
http://tor.gprocurement.go.th/06_tor/uploads/81637/1/TOR.YALA.doc
http://padmic.dopa.go.th/padmic/tenderbid/file/TOR.YALA.doc
(2) ประกาศสำนักงาน ป.ป.ส. เรื่อง ประกาศผลการประกวดราคาซื้อเครื่องตรวจหาสารเสพติดชนิดพกพา จำนวน ๓๐ เครื่อง
http://www.oncb.go.th/PortalWeb/ShowDoc/BEA+Repository/ONCBNews/News/2552/09/2503_bid_win30item/news/filedownload
http://tor.gprocurement.go.th/06_tor/uploads/87031/1/e-auction.doc
http://tor.gprocurement.go.th/06_tor/uploads/87031/1/TOR.doc
(3) แฉราคาซื้อ-ขายจีที200 อดีตถึงปัจจุบัน เป็นงงบริษัทจำหน่ายเดียวกัน แตกต่างฟ้า-ดิน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1265165749&grpid=&catid=02
(4) แกะพิรุธ เครื่อง"จีที 200-อัลฟ่า 6"
http://img29.imageshack.us/img29/9692/041i.gif
http://www.transparency-thailand.org/thai/index.php?option=com_content&task=view&id=151&Itemid=47
http://www.108acc.com/index.php?mo=3&art=404049
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1265257568&grpid=01&catid=no
(5)แกะพิรุธเครื่อง "จีที 200" กองทัพบก "ยุคบิ๊กป๊อก
http://img191.imageshack.us/img191/1166/051b.gif
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1265350287&grpid=no&catid=04
(6) ประกาศกรม ศุลกากร เรื่อง รายชื่อผู้ได้รับคัดเลือกการประกวดราคาซื้อด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โครงการจัดซื้อเครื่องตรวจพิสูจน์แบบพกพา จำนวน 6 เครื่อง [ 17/06/2552 ]
http://www.customs.go.th/UploadFile/Bidding/B0609012.pdf
(7) TOR ประกวดราคาซื้อด้วยวิธีการทาง อิเล็กทรอนิกส์โครงการจัดซื้อเครื่องตรวจพิสูจน์แบบพกพา จำนวน 6 เครื่อง
http://tor.gprocurement.go.th/06_tor/uploads5/73869/1/ad.pdf
(8) ยก เลิกประกวด ราคาซื้อด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ จัดซื้อเครื่องตรวจพิสูจน์แบบพกพา จำนวน 6 เครื่อง [ 30/04/2552 ]
http://www.customs.go.th/UploadFile/Bidding/B0409010.pdf
(9) ประกาศสำนักงาน ป.ป.ส. เรื่อง ประกาศผลการประกวดราคาซื้อเครื่องตรวจหาสารเสพติดชนิดพกพา จำนวน 10 เครื่อง
http://www.oncb.go.th/PortalWeb/applications/collaboration/newsONCB/user/internet/viewDetail.do?newsId=801&fileName=pro08042901_drugprofile.pdf&newsType=ONCB
http://view.gprocurement.go.th/01_procure/view_online_notice.php?id=198625&display_status=A
(10) สภาบันนิติวิทยาศาสตร์ ประกาศสอบราคาซื้อ เครื่องตรวจพิสูจน์สารเสพติดชนิดพกพา จำนวน ๒ ชุด
http://www.moj.go.th/upload/main_bidnews/uploadfiles/2525_6139.pdf
http://view.gprocurement.go.th/01_procure/view_online_notice.php?id=238534&display_status=A
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P8824894/P8824894-4.gif
(11) ประกาศ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เรื่อง ประมูลซื้อ เครื่องตรวจพิสูจน์สารเสพติดชนิดพกพา ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
http://view.gprocurement.go.th/01_procure/view_online_notice.php?id=296465&display_status=A
http://view.gprocurement.go.th/01_procure/view_online_notice.php?id=305016&display_status=A
http://tor.gprocurement.go.th/06_tor/uploads/76994/1/nsb2.doc
http://www.financepolice.com/download/520010261_28.xls
(13) สำนักงาน ป.ป.ส. ร่างประกาศ TOR ประกวดราคาซื้อเครื่องตรวจจับสารเสพติด
http://tor.gprocurement.go.th/06_tor/uploads/93545/1/TOR.NECTEC.doc
(14) http://img514.imageshack.us/img514/524/141c.gif
(15) http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2009/10/X8405522/X8405522-4.jpg
(16) GOPHER Golf Ball Finder ( ALPHA 6)
http://shop.ebay.com/i.html?_nkw=+GOPHER+Golf+Ball+Finder&_sacat=0&_trksid=p3286.m270.l1313&_odkw=GOPHER&_osacat=0
http://www.golfgiftsgalore.com/productdetail.asp?itemID=404&collection=No&itemname=Golf%20Ball%20Finder:%20%20Special%20Price
(17) Clip Vdo GOPHER Golf Ball Finder ( ALPHA 6)
http://www.youtube.com/watch?v=2iWGf0ixg6Q

.



จากคุณ : ขนมสาคู
เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 00:18:36 A:124.120.7.82 X:

---------------------------------------------------------------

มีประกาศขายในต่างประเทศ
ราคาไม่กี่พันบาท ในไทยร้อยกว่าบาทก็มีขาย

ความคิดเห็นที่ 8

http://shop.ebay.com/i.html?_nkw=+GOPHER+Golf+Ball+Finder&_sacat=0&_trksid=p3286.m270.l1313&_odkw=GOPHER&_osacat=0

http://www.golfgiftsgalore.com/productdetail.asp?itemID=404&collection=No&itemname=Golf%20Ball%20Finder:%20%20Special%20Price


Clip VDO การใช้งาน

http://www.youtube.com/watch?v=2iWGf0ixg6Q



จากคุณ : ขนมสาคู
เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 00:20:14 A:124.120.7.82 X:

---------------------------------------------------------------

ผมพอจะรู้แล้วเจ้าเครื่องนี้

ใช้เทคนิคญาณวิเศษ
แบบว่าต้องศรัทธาในพลังพิเศษของตนเอง
ไม่งั้นทำไม่ได้ทุกคน
จึงทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเสี่ยงชีวิต
กับเครื่องมือชนิดนี้
แถมอภิสิทธิ์บอกว่า
ต้องใช้รุ่นมีแบต
เตอรี่ ขำกลิ้งเลย
ต้นตำรับเขาไม่ต้องใช้แบตอะไรเลย
แค่ใช้วัสดุง่ายๆ มาทำก็เป็นอุปกรณ์แบบนี้ได้แล้ว
ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าอะไรด้วย
ใช้กระแสจิตแบบคนทรงเจ้าอย่างเดียวก็พอ
มันทำงานเพราะความเชื่อและกระแสจิต
ประเภททำตัวเป็นเจ้าเข้าทรงอะไรแบบนั้น

แนะนำให้ไปจ้างพวกเจ้าเข้าทรง
ไปทำหน้าที่แทนเจ้าหน้าที่ดีกว่า

อาจเวิร์กเพราะมันเป็นเครื่องมือทางไสยศาสตร์
ไม่ใช่เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์อะไรเลย
มันดัดแปลงมาจากอุปกรณ์โบราณ
ตามความเชื่อของคน

ที่หาน้ำ หาแร่ หาศพอะไร เจอบ้างไม่เจอบ้าง
แถมแปลกหาเจอได้ด้วยงงตรงนี้แหล่ะ
สมัยเด็กๆ เคยเห็นมีการหาศพ เทศกาลอะไรไม่รู้
ยังงงๆ ว่าเขาใช้เทคนิคอะไร
อาจมีการเล่นกล
คือรู้ตำแหน่งแล้วมาแสดงละครตบตาคน
ทำเป็นสั่นเป็นเจ้าเข้า
เดินไปเดินมาแล้วไปชี้ว่า มีศพ

พอขุดลงไปกลับเจออีกต่างหาก
แต่ที่ไม่เจอก็มี

ที่เรื่องนี้ดังขึ้นมา
ก็เพราะว่าสองครั้งหลังไปตรวจแล้วไม่เจอ
ก็นึกว่าไม่มีกัน
ชาวบ้านเดินไปเดินมาแถวนั้นสักพัก
เกิดระเบิดมีคนบาดเจ็บมากมาย
และเครื่องชนิดนี้ยังเคยไปชี้ชาวบ้าน
จนถูกเจ้าหน้าที่พาไปสอบ
ซึ่งจะกลายเป็นเงื่อนไขของความอยุติธรรม
อีกเรื่องหนึ่งทีเดียวแบบนี้

ผมเห็นเครื่องต้นแบบแล้ว
ผมว่าผมทำได้ถูกกว่า 159 บาทอีก
ใช้เงินไม่กี่บาทก็ทำได้แล้ว
ขอแค่คิดว่าเป็นคนมีญาณพิเศษเหนือมนุษย์ทั่วไป
คล้ายๆ พวกทรงเจ้าเข้าผีก็ทำใช้ได้แล้ว
ถ้าไม่มีอารมณ์แนวนั้น
ต่อให้เครื่องละร้อยล้าน
ถ้าคนใช้ไม่มีญาณพิเศษแบบมนุษย์ธรรมดาไม่มี
ก็ไม่เวิร์ก
เหมาะสำหรับพวกเชื่อไสยศาสตร์
แต่การนำไปให้เจ้าหน้าที่ที่เขาไม่มีญาณประเภทนี้
ต้องการให้เขาไปเสี่ยงตายกันไปวันๆ ใช่หรือไม่

ถ้าเห็นเครื่องต้นแบบจะรู้ว่า
ทั้งหมอพรทิพย์และอภิสิทธิ์
เชื่อในพลังทรงเจ้าเข้าผี
แต่เพราะคนซื้อ คนออกมาแก้ต่าง
ไม่ใช่คนที่นำไปใช้ ในงานสถานที่เกิดเหตุจริง
จึงไม่เห็นความสำคัญของชีวิตคนนำไปใช้เท่าไหร่
ถึงได้ตะบี้ตะบันเถียงแทนคนผลิต
ถึงยอมรับได้กับเครื่องมือ
ที่ตรวจได้มั่วๆ แบบฟลุ๊คเจอบ้าง ไม่เจอบ้างได้
ส่วนสมาร์ทการ์ดที่ใช้ค้นหานั่นนี่
ก็แค่จิตวิทยา
เพิ่มความเชื่อมั่นเท่านั้นเอง
ไม่ได้มีวงจรอะไรที่เอาไปตรวจได้เลย
เพราะวงจรอิเล็คทรอนิคส์
ที่ไม่ใช้ไฟจากแบตเตอรี่หรือไฟฟ้าอะไร
เข้าไปหล่อเลี้ยงวงจรเพื่อให้มันทำงานได้
มันจะเป็นวงจรอิเล็คทรอนิคส์ไปได้ยังไง
ก็แค่ทำหลอกๆ เพิ่มความขลังเท่านั้นเอง
ไม่รู้ว่า GT200 ย่อมาจาก Gin Tee 200
หรือ กินที 200% หรือเปล่า
ถ้าเป็นแบบที่ว่า
คนทั่วไปก็คงอดคิดไม่ได้ว่า
รักค่าคอมมิชชั่นมากกว่าค่าของชีวิตเจ้าหน้าที่

ในการประมูลของกรมศุลกากร
ครั้งแรกมียื่นมารายเดียว
เข้าใจว่าคงเป็นบริษัท เอ วิ เอ แซทคอม จำกัด
เพราะประกอบ กิจการขายส่ง และบริการซ่อมเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด
รวมถึงอุปกรณ์และอะไหล่
แต่ระเบียบทางราชการ
ถ้ามีการประมูลต้องมีการยื่น 2 ราย
ทำให้ต้องยกเลิกการประมูล
แล้วพอมาประมูลอีกครั้ง
บริษัท อินเตอร์เทรด ออฟเซ็ท ดีเวลลอพเม้นท์ จำกัด
ก็มาเข้าร่วมประมูล
ทั้งๆ ที่มีอาชีพหลักคือ
รับเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับด้านบริหารงานพาณิชยกรรม,
บริการการให้คำปรึกษาทางธุรกิจและการจัดการ
ผลการประมูล ประมูลสูงกว่าบริษัทแรก 19,200 บาท
ตามผลดังนี้
http://www.customs.go.th/UploadFile/Bidding/B0609012.pdf

เท่ากับมีแววว่าจะเป็นการประมูลที่ฮั้วกัน
โดยดึงบริษัทอะไรก็ไม่รู้
มาร่วมประมูลเพื่อให้การประมูลผ่านไปได้
ไม่เช่นนั้นจะถูกยกเลิก
และต้องดำเนินการด้วยวิธีพิเศษ
เส้นทางการค้ามาแบบนี้เลย
ขนาดฮั้วกันแล้ว
ยังถูกกว่าที่กองทัพไทยซื้อมาอีก
ทั้งๆ ที่ซื้อมาหลายร้อยตัว
มากกว่าที่ศุลกากรซื้อมาแค่ 6 ตัว
งานนี้กินที 200% แน่ๆ

รักชาติจนน้ำลายไหลเป็นทางเลย
ไม่ต้องแปลกใจ

ว่าทำไมประเทศไทยเหลือแต่กระดูก

แถมเจ้าเครื่องนี้
ทำงานด้วยหลักการไฟฟ้าสถิต
ซึ่งถ้าไม่มีตัวแปลงไฟฟ้าสถิต
ไปเป็นกระแสไฟฟ้า
วงจรข้างในเครื่องทั้งหมด
จะเป็นวงจรหลอกๆ
ถอดวงจรออกมันก็ทำงานเหมือนกัน
เพราะของดั่งเดิมมันก็ใช้แค่
วัสดุที่ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้
ราคาไม่กี่บาท

อันที่จริงของมูลค่าไม่มาก

และอยู่ในอำนาจการจัดซื้อจัดจ้าง
ของเจ้าหน้าที่ที่สามารถจัดซื้อจัดจ้างได้เอง
ใครเป็นนายกไม่ว่าจะทักษิณหรืออภิสิทธิ์
ถ้าบอกว่าไม่รู้เรื่องผมเชื่อน่ะ
เพราะเป็นเรื่องภายในของหน่วยงาน
คนเป็นนายกไม่สามารถไปรับรู้ได้หมด
แต่ถ้าเรื่องมันแดงขึ้นมา
ว่ามีความไม่ชอบมาพากล
แล้วคนเป็นนายกหรือใคร

ออกมาปกป้องช่วยกันเต็มที่
ถึงตอนนี้แหล่ะครับ
ไม่ว่านายกชื่ออภิสิทธิ์หรือทักษิณ
ก็สมควรถูกตำหนิ
และสามารถไม่ไว้วางใจได้ด้วย
เพราะถือว่าถ้าไม่รู้ก็ไม่ผิด
แต่ถ้ารู้แล้ว ช่วยกันตะแบง

ผิดแน่นอน


สรุป เราว่ามันเป็นเครื่องตรวจจับการโกง
ได้ดีกว่าเป็นเครื่องตรวจจับระเบิดเสียอีก


โดย มาหาอะไร