บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


04 กุมภาพันธ์ 2553

<<< รัฐประหารเที่ยวนี้ มีโอกาสพลิกแผ่นดิน >>>

พอดีไม่รู้หรอกว่าเขาจะทำรัฐประหารกันหรือไม่
หรือถ้าทำจะทำวันไหนเวลาใดไม่รู้ทั้งนั้น
รู้อย่างเดียวว่าทำวันไหน
มีโอกาสทำให้เกิดการพลิกแผ่นดิน
ซึ่งจะพลิกท่าไหนพลิกจนกลายไปเป็นพม่า
หรือจะพลิกกลับมาเป็นแบบศิวิไลซ์กว่า
อันนี้ก็ต้องติดตามชมกันต่อไป
แต่ที่รู้ๆ คือช่วงต้นๆ ฝ่ายประชาธิปไตยจะเพลี่ยงพล้ำ
แต่หลังจากนั้นมีโอกาสพลิกกลับมา
เพราะการเพลี่ยงพล้ำเพื่อให้คนหูตาสว่างชัดๆ
กันทั่วแผ่นดินอีกครั้ง
ประเภทไม่แน่ใจจะได้เลิกคาใจกันได้
ซึ่งบางที่อาจต้องมีหน่วยกระซิบกระซาบเข้าไปบอกกล่าว
ขึ้นหลังเสืองวดนี้ไม่ง่ายเหมือนงวดก่อน
จึงอาจต้องทุ่มหมดตักเพื่อทำลายตนเองในภายหลัง
จุดอ่อนของการใช้กำลังนั้นมีอยู่
ยิ่งปกครองแบบเผด็จการนั้นยิ่งมีจุดอ่อนให้สอยได้
แต่อะไรไม่อะไรไม่รู้
สงครามกลางเมืองมีโอกาสเกิด
แต่เข้าใจว่าเกิดแบบ 3 จังหวัดชายแดนใต้โมเดล
ที่ตอนนี้ให้ไปเที่ยวฟรียังไม่ค่อยมีคนกล้าไป
อย่าว่าแต่ไปลงทุนเลย
แต่ถ้าเกิดในกรุงหลับตานึกภาพให้ดี
ว่าจะเจ๊งกันระเนระนาด
โดยเฉพาะทุนฝ่ายหนุนรัฐประหาร
อาจโดนจัดการพร้อมๆ กับที่เสื้อแดงจะโดนกวาดล้าง
เรียกว่าตาต่อตาฟันต่อฟัน
คนจะตกงานกันมากมายขนาดไหน
และมันจะสะท้อนกลับมาที่คนหนุนการทำรัฐประหารในที่สุด
มันอยู่กันได่ไม่นานหรอก
มันมีจุดอ่อนให้สอยมากมาย
งวดก่อนต่อต้านรัฐประหารแบบพวกหูตาไม่สว่างดี
ทำไปมีคนรั้งไปแต่งวดนี้คนรั้งไม่มี
งวดนี้มีแอบเชียร์หรือไม่ก็ออกไปลุยเอง
จะเป็นสงครามไม่รู้จบเหมือน 3 จังหวัดชายแดนใต้
ต่อให้มีกองกำลังมากมายตลอด 24 ชม.
และมีเคอร์ฟิวอยู่ทุกวัน
แล้วคิดดูว่าบรรยากาศมันน่าทำธุรกิจอะไรไหม
แค่นึกถึง 3 จังหวัดชายแดนใต้ก็จะเห็นภาพเอง
ที่สถานการณ์ยืดเยื้อยาวนาน
แต่เศรษฐกิจคงพังไปก่อนเรียบร้อยแล้ว

ดังนั้นคนคิดทำรัฐประหารเที่ยวนี้
เมื่อกล้าตัดสินใจเลือกทางนี้
ก็ต้องกล้ารับผลที่จะตามทุกอย่างด้วย

เมื่อประชาชนเลือดเข้าตา ก็อย่าหมายว่าจะปกครองได้ง่ายๆ
เมื่อประชาชนไม่กลัวตาย ก็ถึงวันล่มสลายของผู้มีอำนาจ
เมื่อประชาชนถูกกำจัดอย่างเด็ดขาด ก็ถึงคราวชาตินี้ใครดีใครอยู่
เมื่อประชาชนลุกขึ้นสู้ ก็อยากรู้ว่าใครจะต้านทานได้

โดย มาหาอะไร
FfF