เราต้องมีมวลชนแนวหน้าสักหลายแสนถึงล้านขึ้นยิ่งมากยิ่งดี
เราต้องมีมวลชนแนวหลังหลายล้านที่พร้อมลงคะแนนเลือกพรรค
แค่นี้ก็สามารถรับมือกับพวกมีอำนาจ
พวกชอบเล่นการเมืองนอกสภา
หรือพวกชอบทำรัฐประหารได้หมดเกลี้ยง
แต่ถ้ามีแต่แนวหลัง รอเลือกตั้งอย่างเดียว
ชนะมาก็โดนพวกเล่นนอกสภาล้ม
มือที่มองไม่เห็นก็ขยันมาช่วยล้ม
หรือพวกชอบปล้นอำนาจก็ไม่เห็นหัว
ต้องมีมวลชนทั้งสองแนวให้เข็มแข็ง แล้วจะดีเอง
ซึ่งการสร้างมวลชนนั้นมันต้องฝึก ต้องใช้เวลา เหมือนกัน
ยิ่งการจะออกมาเป็นมวลชนแนวหน้าด้วยแล้ว
และโดยเฉพาะพวก ส.ส.ด้วยแล้ว
ต้องอย่าพึ่งเน้นแนวรุนแรง
พยายามให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหาเสียง
ทำไมเวลาหน้าเลืองตั้ง ก็เห็นออกมากันได้
ก็ต้องค่อยๆ ให้ออกมาก่อน
แต่อาจยังไม่มาแนวเสื้อแดงเลยก็ให้ช่วยๆ หนุน
ต้องฝึกกันทั้งนั้นไม่ว่า ส.ส. หรือชาวบ้านทั่วไป
ก็คือคนรักตัวกลัวตายเหมือนกันทุกคน
แต่ถ้าคนเยอะๆ เขาอาจอุ่นใจ
เมื่อออกมาบ่อยๆ ก็จะมีความกล้า และ มั่นใจมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นใช้คนเยอะๆ ไปดึงคนในที่ต่างๆ ให้กล้ามาร่วมชุมนุม
แต่ไม่ใช่ไปแล้วกลับวันเดียว
ต้องฝั่งตัวต้องจัดการเซ็ตแกนนำระดับอำเภอลงไปเลย
เพื่อไม่ให้เสียเที่ยว ไม่งั้นฟัง 3 เกลอเสร็จกลับ ไม่ค่อยได้อะไร
ไปที่ไหนควรให้โอกาสคนที่นั่นขึ้นมาพูดเยอะๆ
เพื่อให้เขากล้าและฝึกคนทำหน้าที่แกนนำแทน
ไม่ใช่ต้องรอแต่ 3 เกลอไป
อย่างกรณีขอนแก่นโมเดลเป็นตัวอย่างที่ดีมากๆ
ขนาดได้ข่าวว่าไม่ต้องมี 3 เกลอไป คนยังล้นหลาม
แต่ถ้าที่ไหนคนยังไม่ตื่นตัวมากนัก
ก็ให้ 3 เกลอดึงคนออกมาแต่อาจไม่จำเป็นต้องไปทั้งหมด
โฟนอินของ 3 เกลอบ้างก็ได้จะได้ลดค่าใช้จ่าย
หรือไปได้หลายๆ งานในวันเดียวกันเหมือนทักษิณ
แค่คอยเป็นพี่เลี้ยงให้ก็พอ
คือพูดกันพอหอมปากหอมคอก็พอ
เพราะเขาดูทางทีวีทุกวัน
มีโอกาสได้ฟัง 3 เกลอมากกว่าคนในพื้นที่อยู่แล้ว
จึงต้องให้โอกาสคนในพื้นที่มากๆ
เพราะบางคนเขาก็อยากจะพูดบ้าง
อะไรพวกนี้แหล่ะ
ทำไปเรื่อยๆ ไม่ต้องไปเร่งรัดหาเรื่องกับพวกนั้น
เดี๋ยวมันก็มาหาเรื่องเองแหล่ะ
เห็นขบวนการเสื้อแดงขยายมวลชนได้เยอะๆ
ก็นอนไม่หลับกันทั้งนั้นแหล่ะ
พวกเราไม่จำเป็นต้องยกกำลังไปยึดนั่นนี่เลย
แค่ทำให้พรรคพวกเรากลับมาเป็นรัฐบาลได้
หลายสื่อก็กลับมาอยู่ในมือเรา
หลายหน่วยงานก็กลับมาเหมือนกัน
ข้าราชการเขารู้ลู่ทางลม
เราเป็นรัฐบาลหลายๆ อย่างก็จะกลับมาเอง
รวมทั้งอำนาจต่อรองต่างๆ
แต่ต้องไม่ใช่รัฐบาลเป็ดง่อย
ไม่ใช่รัฐบาลผสม
หรือรัฐบาลที่ชนะเลือกตั้งอย่างเดียว
เราไม่จำเป็นต้องยึดอะไรเลย
ถ้าเราชนะจะมีการย้ายข้างมาหาเราเอง
โดยไม่ต้องออกแรงไปยึดอะไรเลย
ที่สำคัญ
ต้องมีมวลชนที่ออกมาแสดงพลังแบบเสื้อแดงเยอะๆ
ไม่ใช่เป็นพลังเงียบออกมาเฉพาะตอนลงคะแนนเสียงเพียงอย่างเดียว
ถ้าสามารถช่วยกันสร้างมวลชนที่กล้าออกมาชุมนุมได้เยอะๆ
แบบไม่ได้จ้างเขามาด้วยน่ะ
ระดับล้านขึ้นจริงๆ
แล้วเสียงแนวหลังแข็งแกร่งเลือกชนะเกินครึ่งจริง
จะเปลี่ยนแปลงอะไรให้มันดีขึ้น
โดยแนวสันติได้ดั่งฝัน
ไม่มีใครกล้ามาหือ แน่นอน
แต่ที่เขากล้าหือ เพราะมีพลังเงียบจริงๆ
รอมาลงคะแนนเสียงอย่างเดียวเขาไม่กลัว
เขากลัวมวลชนที่กล้าออกมาชุมนุม
โดยไม่จำเป็นต้องไปปิดไปทำอะไรรุนแรงด้วยซ้ำ
ขอให้มีมวลชนแนวหน้าเท่าที่ว่ามา
และพลังเงียบพร้อมหนุนเกินครึ่งจริงๆ
เพื่อเป็นแบ็คให้ยามที่เป็นรัฐบาล
ไม่มีผู้มีอำนาจที่ไหนกล้าหือ
ถ้าทำได้อย่างว่า
คุณจะเปลี่ยนกฏหมายมาตราไหนก็ง่ายมาก
ก็มันอยู่ในสภามีเสียงมากกว่าฝ่ายค้านอยู่แล้ว
ถ้าพวกฝ่ายค้านไปเล่นนอกสภา
ก็เจอมวลชนที่พร้อมออกมาเคลื่อนไหวปกป้องมากมาย
ก็ไปไม่เป็นแล้ว
เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เสียเลือดเนื้อ
แบบผู้มีอำนาจต้องยอมจำนน
ไม่งั้นอาจไม่มีเก้าอี้ให้นั่งได้
ทหารหรือพวกถือปืนแบบถูกกฏหมายที่ไหน
เขาฉลาดเลือกข้างเป็นไม่ต้องห่วง
ขอแค่มีแบ็คให้เขา เพื่อว่าถ้าเลือกข้างนี้แล้ว
ไม่ต้องกลัวฝ่ายตรงข้ามกลับมาเล่นพวกเขาในภายหลัง
อีกอย่าง ไปชุมนุมที่ไหนทั้งที
ดาวเทียม อินเตอร์เน็ตแชร์แบบ WIFI หรือ วิธีเล่น Internet
พื้นที่ไหนยังไม่มีหาช่องทางให้เขา แนะเขา หรือไม่ก็ต้องสอน
หรือหาไปติดตั้งให้เน้นระดับหมู่บ้านก่อน
ต้องบอกช่องทางให้เขารับรู้หลายๆ ช่องทาง
ไม่งั้นช่องทางหนึ่งโดนปิด ไปไม่เป็น งง ทำอะไรไม่ถูก
แบบนี้ก็ไม่ไหว ต้องพร้อมติดต่อได้ทุกโอกาส
ต้องทำไปเรื่อยๆ แนวๆ นี้
รับประกันหนึ่งปีเห็นหน้าเห็นหลังในทางที่ดีขึ้น
"กรุงโรมไม่ได้สร้างในวันเดียวฉันท์ใด
ประชาธิปไตยก็ไม่ได้สร้างในวันเดียวฉันท์นั้น"
โดย มาหาอะไร
FfF
บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.