ถอดความจากคำแถลงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ภายหลังคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท
วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553
วันนี้ถือว่าเป็นประวัติ ศาสตร์ทางการเมืองไทยและกระบวนการยุติธรรมไทย ทรัพย์สินที่เขาสั่งยึดวันนี้สี่หมื่นกว่าล้าน โดยอ้างว่าเป็นราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นหลังจากผมเป็นนายกฯ ราคาหุ้นก่อนเข้ามา 21 บาท พอครอบครัวผมขายได้ 49 บาท ตรงส่วนเกินที่เกิดขึ้น เขาบอกว่าผมใช้อำนาจหน้าที่ตอนเป็นนายกฯ เขาจึงยึดหมด คงเป็นที่ขบขันกันทั้งโลก การที่หุ้นขึ้นทำให้ผมร่ำรวยเพราะการเป็นนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่จริงๆแล้วหุ้นขึ้นทั้งตลาด
ฟังการอ่านวันนี้ คล้ายวันที่พรรคไทยรักไทยถูกยุบ ตั้งแต่ก่อนที่จะมีการปฏิวัติ ศาลถูกใช้เป็นเครื่องมือจัดการทางการเมือง และวันนี้ผู้พิพากษาบางกลุ่มก็เล่นการเมือง วันนี้เป็นการเมืองร้อยเปอร์เซ็นต์
เมื่อวานเพิ่งพูดไปว่ารัฐบาลรู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว เพราะคนปักธงกับคนอุ้มรัฐบาลเป็นคนเดียวกัน ผมทำใจแล้วว่าโดนแน่ แต่จะโดนอย่างไร เมื่อโดนตรงนี้เข้า ก็สรุปได้ว่าการเป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ทรัพย์สินประเทศเพิ่มขึ้น ไม่เห็นแบ่งผมเลย แต่หุ้นบริษัทครอบครัวผมขึ้น บอกว่าผมโกง
ยังดีที่ยังคืนในมูลค่าหุ้นส่วนก่อนเป็นนายกรัฐมนตรี ราคาหุ้นขึ้นลงตามดัชนีเศรษฐกิจและตลาดโลกเป็นส่วนใหญ่ ตอนนี้ผมไม่เข้าใจ ราหุ้นขึ้นเพราะผมเป็นนายกรัฐมนตรี มาโกงให้บริษัทตัวเอง แล้วที่เหลือในตลาดหลักทรัพย์หุ้นเขาไม่ขึ้นกันหรือ ทั้งธนาคารกรุงเทพ ทีพีไอ ปูนซิเมนต์ไทย ยูคอม ทรู ก็ขึ้นกันทั้งนั้น ยอมรับเป็นการเมืองสุดๆ
จะเห็นว่าวันนี้ผมใส่ชุดดำ ขอไว้ทุกข์ให้กับความดื้อของตนเองที่ดื้อไม่ยอมเชื่อ คุณหญิงกับลูกๆ ที่ไม่อยากให้ผมเข้าการเมือง ชีวิตการเมืองวุ่นวายสับสน เราเป็นเศรษฐีสบายอยู่แล้ว อย่าไปยุ่งการเมืองเลย แต่การที่ผมเรียนเตรียมทหารและโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เติบโตมาจากบ้านนอก ทำงานสร้างตัวมา เห็นคนยากจน ก็อยากจะช่วยเขาบ้างในฐานะเพื่อนร่วมชาติ ก็เลยดื้อกับคุณหญิง กับลูก พ่อขอโทษที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน
การเมืองวันนี้ดุและใจดำมาก ผมขอให้ผมเป็นเหยื่อคนสุดท้าย เมื่อใดที่ประเทศชาติเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงแล้ว อำนาจจะมีการถ่วงดุล คงจะไม่มีเหยื่ออย่างผมอีก แต่วันนี้ดุลอำนาจไปอยู่กับอำมาตย์
กฎหมายวันนี้เหมือนเล่นติ๊ต่าง ถ้าเป็นพวกอำมาตย์ ทำสำนวนแล้วยังดึงเรื่องไปได้เรื่อย แต่ถ้าไม่เป็นพวกอำมาตย์ กฎหมายก็จะเดินไปอย่างรวดเร็ว กฎหมายไทยเช่นนี้ขาดมาตรฐานสากลอย่างรุนแรง มีคนเพียงคนเดียว กระชากประเทศล้าหลังอย่างรุนแรงมาก
ผมเป็นนักเรียนทุนรัฐบาล ที่ไปเรียนปริญญาโทและเอกทางด้านกระบวนการยุติธรรมในทางอาญา ทำวิทยานิพนธ์เรื่องหลักนิติธรรม ปรากฏผมเป็นเหยื่อของกระบวนการยุติธรรมและทำกับผมอย่างขาดหลักนิติธรรมอย่าง ที่สุด
ผมต้องขอโทษผู้พิพากษาที่มีอุดมการณ์ ไม่อยากเห็นสถาบันที่ท่านรักต้องเป็นแบบนี้ ก็เพราะเขาต้องการจัดการผม จึงดึงสถาบันของท่านลงมา หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นหลังจากที่เขาทำผมถึงที่สุดแล้ว
ผมเป็นคนพูดรู้เรื่อง ไม่อยากให้ผมเล่นการเมือง ผมก็พร้อมถอย ผมเคยกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปแล้วว่าจะไม่รับตำแหน่ง เคยประกาศหน้าทำเนียบเมื่อเดือนเมษายน 2549 ผมประกาศว่าจะไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่การเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะเพราะหันหลังออก หาว่าไม่ยุติธรรม ไม่ยุติธรรมเพราะกล้องทีวีไปถ่ายในคูหา เป็นประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ยุบสภาไปแล้ว กว่าจะได้เลือกตั้งยืดเวลาทอดไปถึงธันวาคม แต่เขารอไม่ไหว ปฏิวัติก่อน ซึ่งก่อนหน้านั้นลอบฆ่าผมหลายครั้ง จากนั้นเขาก็ตั้ง คตส. มา วันนี้ถ้าได้เปอร์เซ็นต์ถือว่าปล้นทรัพย์
การปฏิวัตินั้น สนธิบังแค่หุ่นเชิด คนปักธงคือคนปฏิวัติ
การที่ยืดเยื้อ จัดการไม่เสร็จสักที เพราะพี่น้องเมตตาช่วยเหลือ เริ่มจากการเลือกตั้งที่พรรคพลังประชาชนชนะเลือกตั้ง คุณสมัครเข้ามา แต่ผลสุดท้ายเขาก็จัดการคุณสมัคร ตามด้วยการยุบพรรคพลังประชาชน แล้วก็ตั้งรัฐบาลตามที่เขาต้องการ
ผมขอบคุณที่พี่น้องเสื้อแดงที่ไม่มาชุมนุม ไม่เช่นนั้นท่านจะถูกกล่าวหาว่ามาทำเพื่อผม ทั้งที่พี่น้องมากันเพื่อประชาธิปไตย ขอให้วันนี้เป็นเรื่องของผมล้วนๆ หลายคนอาจโกรธแทนผม โกรธได้แต่อย่างใช้ความรุนแรง อย่าไปทำเหตุให้เขาปราบปราม รัฐบาลนี้ถนัดอยู่แล้ว พี่น้องต้องอดทน ต่อสู้ด้วยสันติให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยเพื่อลูกหลานของเรา ไม่เช่นนั้นประเทศจะอยู่ในมืออำมาตย์ ไม่พอใจใครก็สามารถจัดการได้ เป็นประเทศที่ไม่สามารถทำนายอนาคตได้ แล้วประเทศจะอยู่อย่างไร
นักธุรกิจครับ บทเรียนวันนี้บอกได้เลยว่าอย่ามาเล่นการเมือง นักธุรกิจมีนิสัยทำงานให้สำเร็จรวดเร็ว มันคนละวัฒนธรรม มีอะไรเข้ามา ท่านอาจโดนยึดทรัพย์อย่างผม ถ้าจะเข้าการเมืองจริงๆ ขายให้หมดก่อน อำมาตย์เขาไม่รังเกียจเรื่องทุจริต แต่อย่าป็อปปูล่าร์มาก ผมเป็นนายกรัฐมนตรีคนเดียว คนแรกที่ได้รับเลือกตั้งในสมัยที่สอง ปกติไม่มี เขาไม่อยากเห็นรัฐบาลที่ป็อปปูล่าร์
พี่น้องชาวไทยทุกท่าน กราบเรียนว่าสิ่งที่เขาประณามผมวันนี้ ผมขอยืนยันว่าทำงานตามหน้าที่ทั้งระบบ ไม่เคยคิดโกง ตั้งแต่เด็กก็ไม่เคยโกง ไม่เคยลอกข้อสอบใคร ไม่มีความจำเป็นต้องโกง ผมมีหลักทรัพย์มาก่อนเป็นนักการเมือง เคยประกาศบัญชีทรัพย์สิน ปี 2537 ผมมี 60,000 กว่าล้าน ไม่จำเป็นต้องโลภมาก นาฬิกาก็ใส่ทีละเรือน กินทีละมื้อ กินก๋วยเตี๋ยวได้ทุกมื้อ แต่หูฉลามทุกมื้อไม่ได้ คนเราจะโลภไปถึงไหน คุณหญิงสอนลูกดี ลูกไม่ฟุ่มเฟือย จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องดิ้นรนไปคดโกงใคร เราสบายแล้วก็ควรใช้ความรู้ความสามารถช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติที่ยังจนอยู่
ผมเป็นคนแรกที่ถูกยึดทรัพย์ส่วนตัว ทรัพย์ของครอบครัวเพื่อสังเวยการเมือง วันนี้เป็นประวัติศาสตร์ ผู้ชนะเป็นคนเขียน วันนี้ผมไม่ใช่ผู้ชนะ แต่จะบันทึกประวัติศาสตร์นี้ไว้
ถ้าผมโกงหรือทำอย่างที่เขากล่าวหา ขอให้มีอันเป็นไปในเจ็ดวันสิบวัน หากไม่โกง ขอฝากโคลงศรีปราชญ์ …
ธรณีนี่นี้เป็นพยาน เราก็ศิษย์มีอาจารย์หนึ่งบ้าง
เราผิด ท่านประหารเราชอบ
เราบ่ผิด ท่านมล้าง ดาบนั้นคืนสนอง…
ผมเคยบอกว่าจะแสวงหาความยุติธรรมให้ได้ ไม่ว่าความยุติธรรมนั้นจะอยู่ในนรกหรือ สวรรค์ ในหรือนอกประเทศ ผมถือว่าวันนี้ผมไม่ได้รับความยุติธรรม ผมจะแสวงหาต่อไป
ขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณต่อไป อย่าดูหนังม้วนเดียว ขอให้ดูย้อนไปตั้งแต่ผมทำงานมาเป็นอย่างไร แล้วก่อนถูกปฏิวัติเจออะไร มีการใช้สถาบันต่างๆ เข้ามาจัดการการเมืองอย่างไร ศึกษาให้ดีแล้วจะรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเราไม่ปกติ ขอให้พี่น้องผู้รักประชาธิปไตยต่อสู้ต่อไปด้วยสันติ อนาคตลูกหลานของเราจะเติบโตมาในสังคมประชาธิปไตย ที่มีความยุติธรรมและความเสมอภาค
ขอให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมวันนี้ ขอให้เป็นบทเรียนที่ดีสำหรับการเมืองไทยที่จะพัฒนาต่อไป ผมเจ็บคนเดียวไม่เป็นไร ขอขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงและอวยพรผมมา ขอขอบคุณในน้ำใจที่ผมจะไม่มีวันลืม ขอโทษคุณหญิงและลูกที่ผมดันทุรังเข้าการเมือง เสียใจครับ ขอบคุณครับ
…………………..
http://www.thaksinlive.com/2010/02/now/739
--------------------------------------------------------------------------------
คำแถลงวันที่ 1 มีนาคม 2553
http://www.ustream.tv/recorded/5111817
-----------------------------------------------
สรุปคำแถลงโดย มติชนออนไลน์
วันที่ 02 มีนาคม พ.ศ. 2553 เวลา 07:30:13 น. มติชนออนไลน์
"ทักษิณ"หลุดอารมณ์กลางจอถล่มศาลหนัก เจ็บใจถูกปล้นทรัพย์ยังหาว่าชั่วอีก เหน็บคนแก่ทำตัวเป็นเด็ก
พ.ต.ท.ทักษิณ สาปแช่งให้กรรมคืนสนองท้าพิสูจน์ตายใน 10 วัน โอดถูกปล้นเงินที่หามาด้วยหยาดเหงื่อชี้ปฏิวัติยังไม่จบ ชูกราฟหุ้นชินคอร์ปขึ้นน้อยกว่าหุ้นบางตัวในตลาด ร้องไร้ที่พึ่งในไทยลั่นสู้เวทีสากล ลั่นถูกกลั่นแกล้งขออภัยโทษแล้ว แต่เชื่อว่าจดหมายไม่ถึงพระหัตถ์ถูกทิ้งลงขยะ
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 1 มีนาคม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าววิดีโอลิงค์ ผ่านรายการทอล์ค อะราวด์ เดอะ เวิร์ล ซึ่งออกอากาศทางเว็บไซด์ทักษิณไลฟ์ (www.thaksinlive.com) และถ่ายทอดสดผ่านสถานี "พีเพิลชาแนล"ของคนเสื้อแดง เปิดใจหลังถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาให้ยึด ทรัพย์เป็นครั้งแรกว่า
วันนี้เป็นวันที่ 3 ที่แช่งตัวเองและยังมีชีวิตอยู่ หากโกงจริงป่านนี้คงตายโหงไปแล้ว ขอให้ทุกคนติดตามชมว่า ในวันจันทร์หน้าครบ 10 วัน ดูว่าจะยังออกมาพูดคุยกับพี่น้องได้อีกหรือไม่ ตามที่ได้ฝากโครง"ศรีปราชญ์" ไว้ถือว่าเป็นการแช่ง เพราะไม่มีปัญญาไปล้างแค้นใคร มีแต่ความเข้มแข็งสู้ต่อไป ไม่คิดล้างแค้นแต่ขอแช่งพวกที่กลั่นแกล้ง ยืนยันว่าที่ออกมาพูดไม่ใช่ใจอ่อน มั่นใจสิ่งที่ทำ ที่งดโฟนอินช่วงนี้เพราะต้องเรียกสติกลับมาไม่อยากให้เกิดอารมณ์ ยอมรับว่าเป็นมนุษย์หัวใจทำด้วยเนื้อมีความรู้สึก
"ผมเหมือนกับชาวนาที่ไปขุดดิน ปลูกหญ้าเพิ่งได้เงินมาแล้วเหงื่อยังไม่ทันแห้ง แต่เอาเงินผมไป เหงื่อยังไม่ทันแห้ง เขามาเงินผมไปแล้วบอกว่าผมไปปล้นมา เจ็บใจนักเพราะเงินที่ผมหามาได้ไม่ได้ไปปล้นใครมา" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า วันนี้คนที่ทุจริตคือคนที่เอาเงินภาษีของประชาชนไปใช้ เอาเงินรัฐเขากระเป๋าตัวเอง แต่เงินที่ยึดไปนั้นเป็นเงินปันผลของการขายหุ้นให้กับรัฐบาลสิงคโปร์ผ่านทาง บ.เทมาเส็ก และรัฐบาลจะตามไปทำให้สัญญากับ บ.เทมาเส็กเป็นโมฆะเหมือนกับ บ.ไอทีวี เป็นการผสมโรงของคนแก่ที่เต้นแร้งเต้นกา คนแก่เหมือนเด็กดิ้นอยากได้ของ ไม่ได้มองภาพพจน์กระบวนการยุติธรรม หรือคนอื่นจะเสียชี่อเสียงแค่ไหน
ชี้ปฏิวัติ 19 กันยาฯ ยังไม่จบ
อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้การปฏิวัติรัฐประหาร 19 ก.ย.ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง หรือการปฏิวัติยังไม่เสร็จสิ้นดี หัวหน้าปฏิวัติยังไม่สิ้นสุดแต่เปลี่ยนตัวหุ่นเชิด คนแรกคือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ คนที่สองคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี การปฏิวัติครั้งแรกใช้รถถังปฏิวัติแต่ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเอาไม่อยู่ไป ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ มอมเมาทุกอย่าง พอเลือกตั้งใหม่มาผิดโผ จึงเอานายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ออก ตอนนี้ได้นายอภิสิทธิ์ สมใจนึก
"ตอนนี้ปฎิวัติเงียบเอาทหารร่วมกับเสื้อเหลือง ส่งคนไปยึดสนามบินเป็นการปฏิวัติที่ยาวนานที่สุด ใช้เครื่องมือทุกอย่าง ทั้ง ศาล กระบวนการยุติ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ้างอำนาจคำสั่งของคณะปฏิวัติทุกอย่าง เป็นศาลของคณะปฏิวัติ ที่แน่ต้องศาลอาญา สมัยพล.อ.ชาติชาย ศาลสมัยนั้นบอกว่าคำสั่งคณะปฏิวัติใช้ไม่ได้ แต่วันนี้คำสั่งของคณะปฏิวัติวันนี้เลิศประเสริฐศรี" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า "คนที่มีหุ้นอยู่เดิมแต่กลับถูกยึดเงินปันผลเอาหลักการอะไรมาคิด คนอย่างผมไม่หยุด ผมไม่ผิด เอาขึ้นศาลสากลแน่นอน อย่าว่าผม ผมก็คนต้องปกป้องศักดิ์ศรี ลูกผู้ชายมีศักดิ์ ทุกคน วันนี้หยามไม่ได้ครับ"
จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ชูกแผ่นกราฟการขึ้นลงของราคาหุ้นชินคอร์ปเทียบกับหุ้นตัวอื่นที่เส้นกราฟ ขึ้นขนานไปกัน เช่น ราคาหุ้นของ บ.ปูนซิเมนต์ไทย หุ้นของธนาคารกรุงเทพ และหุ้นของ ปตท. มันไปทางเดียวกับตลาดหลักทรัพย์ หุ้นชินยังเติบโตน้อยกว่า ปูนซีเมนต์ ธนาคารกรงเทพ และ ปตท. วันนี้จะหาเรื่องว่าหุ้นขึ้นหลังจากเข้ารับตำแหน่ง เห็นชัดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์เติบโตแนวเดียวกัน ไม่เกี่ยวกับเรื่องภาษีสรรพสามิตการปล่อยกู้พม่าแล้วหุ้นจะขึ้น นักลงทุนเขามองว่าไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยกับกิจการที่ใหญ่โตขนาดนี้
"วันนี้แน่ๆ รัฐบาลอำมาตย์อุ้มสม การลงทุนทำโครงการเรียก 30 % จากผู้รับเหมา จ่ายสดก่อนเซ็นสัญญา การซื้อขายโยกย้ายตำแหน่งข้าราชการ แต่ผมเดินตามกติกาสากล อย่างภาษีสรรพสามิตเป็นแผนแม่บทโทรคมนาคมให้องค์การโทรศัพท์เก็บต๋ง(ค่างวด) เงินที่รัฐควรได้ต้องแบ่งให้ต่างชาติหรือ คำนวนแล้วให้องค์การโทรศัพท์รับไป 15 % จาก 25 % แล้วกรมสรรพสามิต10 % ผ่านเข้ากระทรวงการคลังรับเต็ม 25 % ทั้งที่รัฐไม่ได้เสียอะไรสักบาท"
"บางคนบอกว่าได้คืน 3 หมื่นล้านควรพอใจได้แล้วแต่มันไม่ใช่เงินสดทั้งหมด แต่เงินที่ถูกยึดไป 4 หมื่นเงินสด แล้วยังจะมาเล่นภาษีลูกผมอีก แต่บอกว่าหุ้นไม่ใช่ของลูกผม สรุปจะแกล้งกันให้ที่สุด เขาตั้งใจจะให้ผมหมดตัว ผมไม่สามารถมีที่พึ่งในประเทศไทย ผมถูกรังแก ผมทำหนังสือไปขอกราบบังคมทูลขอพระราชทานอภัยโทษ ผมมั่นใจว่าผมทำงานมาทั้งชีวิต แต่ไม่แน่ใจว่าจะถึงพระหัตถ์หรือไม่ คนไม่ชอบผมเยอะอาจจะทิ้งขยะไปก็ได้ ผมทำก่อนที่ประชาชนจะยื่นถวายฎีกาให้ เสียอีก" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
"ขณะนี้ประเทศไทยยังอยู่ในภาวะปฏิวัติต่อเนื่อง บรรดาทูตทั้งหลายควรเข้าใจ แต่ยกเว้นทูตอังกฤษคงไม่รู้ เพราะเข้าคอฟฟี่ช็อปสี่เสาฯ
ตอนนี้เวลามีเหตุ (ระเบิด) เกิดขึ้นชอบโยนให้ผมกับเสื้อแดง รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็บอกว่าเรื่องนี้ไม่เกินความคาดหมาย ซึ่งความจริงแล้วถ้ารู้แล้วทำไมไม่ป้องกัน แสดงว่าไม่สามารถจะดูแลได้ หรือไม่เช่นนั้นก็เป็นคนทำเอง วันนี้เป็นรัฐบาลขอให้พูดน้อยๆ แล้วทำงานเยอะๆ สมัยเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายค้านอาจจะสอนให้ทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ แต่วันนี้ก็กลับทำทุกเรื่องให้เป็นเรื่องใหญ่หมดเพราะไม่มีผลงาน ขอบอกว่าผมไม่มีศักยภาพหรอก หมดท่าแล้ว พวกคณะปฏิวัติทำอะไรก็ถูก พวกไม่ใช่คณะปฏิวัติทำอะไรผิดหมด
คปค.ที่ศาลอ้างถึงได้อำนาจมาจากอะไร การเข้ายึดสถานีโทรทัศน์แล้วออกประกาศก็ได้อำนาจแล้ว นี้คือรัฐาธิปัตย์ของประเทศใช่หรือไม่ ถามว่าเราจะอยู่อย่างนี้อีกนานไหม ขอบอกว่านานแน่นอนถ้าคิดว่าจะต้องบี้ให้ตาย ที่ทำไปเพราะระแวงผม แต่ขอบอกว่าผมไม่เคยคิดมักใหญ่ใฝ่สูงเลย ผมต้องสู้เพราะถูกรังแกขนาดนี้ จำเป็นต้องขึ้นศาลสากลก็อย่าตำหนิกัน
มีคนถามว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ ผมบอกว่าความหวังก็มีอยู่บ้าง ยังมีเวลา 30 วัน แต่เมื่อจบกระบวนท่าในการต่อสู้ในประเทศไทยแล้ว ก็ไปสู้เวทีสากล ผมถือว่ารังแกผมมากไป
ประชาชนหลายระดับทั้งโทร.มาและฝากข้อความ ฉะนั้น ถ้าเห็นใจผมก็ขอให้ 14 มีนาคม ที่สามเกลอชวนมาชุมนุมอย่างสันติ ให้ออกมากันเยอะๆ เพื่อบอกว่าเป็นหุ่นเชิดของคณะปฏิวัติในวันนั้น ว่าประชาชนเดือดร้อน และยังใช้สื่อทำลายคนอื่นอย่างน่าไม่อาย การทำทุกอย่างโดยมีเป้าหมายว่าจะจัดการคนคนเดียว และคณะคนหนึ่งเพราะระแวง เลยต้องจัดการแบบนี้โดยทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศ ถูกทำลายโดยใช้คนสมองช้าง ซึ่งเชื่องๆ เขาสั่งอะไรก็ทำตาม ไม่ได้คิดอะไร ฝากไปถึงนายอภิสิทธิ์ว่า รัฐบาลต้องทำงาน อย่าพูดมาก ถ้าพูดอย่างเดียว นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ยังเป็นนายกฯได้ดีกว่า แต่เขาอาจจะพูดภาษาอังกฤษไม่เก่งเพราะไม่ได้เกิดเมืองนอก
วันนี้อาจจะหนักไปหน่อยเพราะมีความเครียด พยายามลดแล้ว แต่ยังขันไม่ออก มันเจ็บใจ เงินหายมันเรื่องเล็ก แต่บอกว่าจะเอาผิดเราอีก 11 คดีอีก ก็เชิญเลย ทำให้มันเลย ผมจะได้มีข้อเอาไปใช้ในเวทีสากล อย่าต้องให้ร้องเพลงขอบคุณที่ซ้ำเติมอีกครั้ง
สำหรับผมยิ่งโดนยิ่งสู้ ฉะนั้นก็ขอให้คิดให้ดีว่าจะเอาผมต่อไหวไหม แต่ให้รู้เลยว่าถ้าโดนรังแกแบบนี้แผ่นดินไม่กลบหน้าไม่เลิกสู้ นอกจากนี้ ขอฝากถึงป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ (เผ่าจินดา ผบ.ทบ.) ว่าไม่ต้องประกาศปฏิวัติอีกรอบ เพราะตอนนี้ก็ปฏิวัติอยู่แล้ว และวันที่ 14 มีนาคม ประชาชนจะออกมาต่อต้านปฏิวัติเงียบอีกครั้งหนึ่ง
--------------------------------------------------------------------------------
FfF