บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


11 เมษายน 2553

<<< ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ได้อยู่ท่ามกลางสมรภูมิรบกลางกรุง >>>

หลายคืนมาแล้วตั้งแต่มีประกาศ พรก. สถานการณ์ฉุกเฉิน
ผมได้ไปสังเกตุการณ์บรรยากาศการชุมนุม
ที่แยกราชประสงค์กับที่ผ่านฟ้า
และได้นอนค้างคืนจนเกือบรุ่งเช้าก็กลับบ้าน
ซึ่งมีข่าวว่าจะมาสลายม็อบตีสามบ้าง ตีสี่บ้าง หรือ ตีห้าบ้าง
แต่ก็ไร้วี่แววว่าจะมีการสลายม็อบ
เมื่อคืนก็เช่นกัน ด้วยความอยากอยู่ในบรรยากาศการสลายม็อบ
แบบไม่เคยเจอจริงๆ จังๆ มากนัก
พลาดมาหลายงานโดยเฉพาะครั้งหลัง ตอนสงกรานต์เลือดปีที่แล้ว
โดนพี่สาวหลอกให้ไปเที่ยวสงกรานต์ที่บ้าน
หลังกลับจากการไปร่วมสังเกตุการณ์ที่พัทยา
แต่ไปถึงเขาก็เลิกกันพอดีก็เลยกลับไปนครปฐมในคืนนั้นเลย
และรุ่งเช้าก็มีเรื่องจนมีการสลายการชุมนุม
แต่พี่สาวก็พาเที่ยวแถวกาญจน์ไปเรื่อยเปื่อย
งวดนี้โทรมาชวนให้กลับไปก็ตั้งใจว่าจะไม่กลับไป
จะอยู่ร่วมสังเกตุการณ์ให้ได้
เมื่อคืนเลยซื้อเสื่อแถวนั้นแล้วปูนอนแถวหน้าห้าง ZEN



















หลังไม่มีเหตุการณ์อะไรก็กลับบ้านตอนรุ่งเช้า
ตื่นมาก็บ่ายสองบ่ายสามตามเคย
และได้ยินข่าวมีความพยายามสลายม็อบโดยเฉพาะแถวๆ เวทีผ่านฟ้า
ก็อาบน้ำแต่งตัวแล้วโบกแท็กซี่ไปแถวผ่านฟ้า
ปรากฏว่าแท็กซี่บอกว่าได้ข่าวมีการปิดถนน
แถวปิ่นเกล้าบริเวณสะพานที่จะข้ามไปสนามหลวง
ก็เลยแนะนำให้เราไปม็อบแถวราชประสงค์ดีกว่า
เขาว่าเดี๋ยวดึกๆ ที่นี่สนุก
พอไปถึงก็เห็นผู้คนทยอยกันมาคึกคัก แถวๆ แยกประตูน้ำ






































บริเวณหน้าเวทีแถวแยกราชประสงค์ ก็แน่นขนัด



















เลยคิดว่าจะหาทางไปแถวผ่านฟ้าดีกว่า
คนเยอะแบบนี้มันไม่มาหรอกเหมือนหลายวันที่ผ่านมา
ก็เดินลัดเลาะมาทางสยามพารากอน
ก็เห็นพวกการ์ดที่เฝ้าแถวนี้
คอยบอกให้คนที่กำลังเข้ามาไปช่วยทางผ่านฟ้าดีกว่า
แล้วบนเวทีก็มีการระดมคนไปช่วยแถวผ่านฟ้าด้วย
เราก็พยายามโบกรถมอเตอร์ไซด์ไปกับเขา
แต่ไม่มีใครรับแบบวันนี้ใส่ดำมาไม่มีแดงติดตัวเลย
ซึ่งช่วงนี้เหมือนเข้าสมรภูมิรบแล้ว
จะแต่งแดงให้เขาเล็งยิงได้ง่ายๆ กันไปทำไมก็ไม่รู้เหมือนกัน
ไม่ใช่ม็อบแสดงพลังแต่กำลังรบกันแล้ว
พอดีเห็นคนเสื้อแดงคนหนึ่งนั่งรถตุ๊กๆ ผ่านมา
ก็วิ่งขึ้นไปขอนั่งกะเขาด้วย
ที่ไหนได้เขาจะไปรับแฟนเขาแถวคลองถม
แต่เราก็จะขอติดไปด้วยแล้วจะนั่งไปต่อจนถึงแถวสนามหลวง

พอไปถึงแถวๆ สนามหลวง ก็เห็นเฮลิคอปเตอร์
บินวนอยู่ตลอดเวลาซึ่งก็วนอยู่อย่างนี้จนดึก
ถึงช่วงที่กำลังสลายการชุมนุมด้วย



















แวะทักทายคนรู้จักแถวๆ หน่วยพยาบาล Fared สักครู่หนึ่ง



















ก็เดินมาแถวสี่แยกคอกวัวซึ่งไม่ไกลกันนัก
ซึ่งกำลังมีเหตุการณ์สลายการชุมนุมอยู่พอดี
และเริ่มได้ยินเสียงปืน เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว



















เห็นรถพยาบาลวิ่งรับคนบาดเจ็บไม่ขาดสาย
ไม่กี่นาทีก็นำคนเจ็บออกไปคัน



















เห็นทหารยิงแก๊สน้ำตาและผลักดันผู้ชุมนุม
จนออกมาอยู่บริเวณข้างถนนราชดำเนินได้สำเร็จ
ท่ามกลางเสียงปืนดังตลอดเวลา



















ผู้คนก็หลบแก๊สน้ำตาแต่ไม่หนีไปไหน
ก็ยังอออยู่บริเวณนั้น ซึ่งมีผู้คนไม่มากในช่วงนั้น
มีไม่กี่ร้อยคน แต่ไม่มีใครถอย
แต่วิ่งหลบเมื่อมีเสียงกระสุนมากๆ เท่านั้น
แล้วก็จะวิ่งเข้าใส่พวกทหารเป็นระลอกๆ



















เมื่อตั้งหลักได้ผู้ชุมนุมก็วิ่งเข้าใส่พวกทหารบริเวณนั้น
จนทหารหนีกลับเข้าไปในถนนเล็กๆ เหมือนเดิม
และก็จะได้ยินเสียงปืนดังเป็นระยะๆ และมีเสียงระเบิดดังด้วย
และมีการยิงแก๊สน้ำตาออกมาอีก
ฝ่ายทางผู้ชุมนุมบางคนก็ขว้างระเบิดขวดเข้าใส่
ซึ่งก็ทำให้เกิดไฟลุก ณ จุดที่ขวดตก

เห็นบางคนไปนำถังดับเพลิงมาฉีดไม่รู้จะฉีดไล่ทหารหรือไปดับไฟ
แต่ละอองน้ำยาดับเพลิงขาวๆ มันกระจายอยู่แถวๆ นั้น เห็นได้จากไกลๆ
แต่สงสัยจะโดนกันเองมากกว่าจะไปถึงพวกทหาร
เพราะมันไม่มีแรงดันที่จะทำให้น้ำยาดับเพลิงไปได้ไกลๆ
เห็นไปเอามาฉีดได้ 2-3 อันก็หยุด




















ผมไม่รู้วาพวกทหารมีอาวุธอะไรบ้าง
และมีรัศมีไกลขนาดไหน
ทำให้ไม่กล้าเข้าไปใกล้เกิน
มีบางจังหวะที่ร่วมโห่ร้องเสียงดังๆ
แล้ววิ่งเข้าใส่ช่วงที่ทุกคนพยายามวิ่งเข้าใส่ทหาร
และผมเกือบจะเข้าไปในถนนเล็กๆ ตรงนั้นแล้ว
แต่ก็เจอแก๊สน้ำตา จนพวกข้างหน้าหันหลังวิ่งหนีกันออกมา
เลยพากันหนีแตกกระจาย
ซึ่งผมโดนแก๊สน้ำตาแบบปลายแถวยังรู้สึกแสบตาอยู่ถึงตอนนี้

ถ้าได้อยู่ ณ สถานการณ์ตอนนั้น
จะเกิดอารมณ์ร่วมทันทีว่า
รัฐบาลนี้โหดจริงๆ
เล่นส่งทหารใช้อาวุธหนักมายิงใส่ประชาชน
เสียงปืนเสียงระเบิดที่ดังอยู่เป็นระยะๆ
มันช่างเหมือนอยู่ในสมรภูมิรบยังไงยังงั้นเลย
จะเกิดอาการโกรธแค้นรัฐบาลและทหารอย่างแรงทีเดียว



















ขณะที่ผู้ชุมนุมไม่กี่ร้อยคนบริเวณนั้น
กำลังยันกับทหารที่มาพร้อมอาวุธหนัก
แต่เสียงปราศรัยขณะนั้นเป็นจาตุรนต์ กำลังปราศรัยบนเวที
ไม่มีการบอกให้ส่งคนมาช่วยเลย
ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งฟังเทศน์ขณะทำสงครามกันอยู่เลย
จนบางคนเริ่มไม่พอใจ ว่าทำไมไม่มีการส่งคนมาช่วย
แล้วสักพักใหญ่ๆ ก็มีแกนนำคนอื่นมาประกาศว่า
เกิดเหตุปะทะแถวแยกคอกวัว
ให้ชายฉกรรจ์ไปช่วย
และก็มีณัฐวุฒิออกมาบอกว่า
จะนำคนจากแถวราชประสงค์มาช่วย
ผมว่าความรู้สึกช้ากันจริงๆ
จากแยกคอกวัวกับเวทีที่ผ่านฟ้า
ห่างกันไม่เท่าไหร่เอง กว่าจะรู้ข่าวและส่งคนมาช่วยได้
ปาเข้าไปเกือบชั่วโมง

เกือบโดนทหารเข้ามายึดพื้นที่บนถนนราชดำเนินได้แล้ว
ซึ่งถ้ายึดที่แยกคอกวัวได้ก็จะทำให้ไปยึดแถวอนุสาวรีย์ได้ง่ายขึ้น
เพราะมีการเตรียมกองกำลังตีมาอีกทางฝั่งโรงเรียนสตรีวิทยา
แต่ถ้าที่คอกวัวไม่แตกพวกทหารมายึดที่อนุสาวรีย์
ก็เหมือนมาโดนพวกม็อบประกบหน้าหลัง
แต่ถ้าที่แยกคอกวัวแตกก็ไม่ต้องพะวงข้างหลังเพราะไม่มีคนเท่าไหร่
ก็จะไปร่วมกันตีสองทาง ตรงอนุสาวรีย์
บริเวณเวทีที่ผ่านฟ้าจะถูกบีบจากสองทาง
ทั้งที่มาจากอนุสาวรีย์กับที่มาจากทิศทางแถวๆ พระบรมรูปทรงม้า
โชคดีที่มีการยันตรงจุดนี้ไว้ได้

สักพักใหญ่ๆ ผู้คนถึงมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ก็เริ่มที่จะยันทหารไม่ให้โผล่ออกมาที่ถนนราชดำเนินได้อีก



















นี่คือตัวอย่างกระสุนยางที่เก็บได้แถวนั้น



















เวลายิงโดนคนแล้วจะจะเป็นแผลแบบนี้









































ส่วนกระสุนจริงกับระเบิดอะไรไม่รู้เสียงดังสนั่นหวั่นไหว
โดนคนแล้วจะทำให้ไส้ทะลักหรือหัวสมองแตกได้แบบนี้
นี่ถ่ายมาจากกล้องคนอื่นที่เก็บภาพคนเจ็บคนหนึ่งได้



















เห็นคนเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ
น่าเสียดายไม่รู้มีใครทำหน้าที่ถ่ายคนเจ็บทุกคนไว้หรือเปล่า
เราถ่ายได้บางคนเพราะทุกอย่างเร็วไปหมด
ทุกคนแข่งกับเวลาเพื่อช่วยชีวิตคนไว้
ไม่สามารถบอกให้เขาหยุดรอให้ถ่ายรูปเสร็จก่อนได้
ก็ต้องอาศัยถ่ายตอนรถติดหรือฟลุ๊คอยู่ใกล้รถที่ขนคนเจ็บจริงๆ
การถ่ายคนเจ็บไว้ทุกคนเพื่อจะได้เป็นหลักฐาน
และจะได้ไม่ถูกอุ้มสูญหายไปในภายหลังด้วย




















คนนี้น่าจะเป็นตากล้องมืออาชีพ
จะถือกล้องหรือไม่ถือก็โดนได้พอๆ กัน
เพราะกระสุนมันไม่มีตา และคนยิงมันตาถั่ว



















หน่วยแพทย์กู้ชีวิต อยู่หน้าบริเวณที่เขายิงกันเลย



















ขณะที่ข้างหน้ามีเสียงปืนดังตลอดเวลา
ด้านหลังผู้ชุมนุมกลับพบว่ามีการมุงรุมชายคนหนึ่ง



















มีคนคิดว่าเขาเป็นพวกทหารพยายามจะมาทำร้ายแต่มีการ์ดคอยห้ามไว้
ซึ่งหลายคนปักใจเชื่อว่าเขามีอาวุธ จึงต้องพิสูจน์โดยให้เขาแก้ผ้า
เพื่อความมั่นใจว่าไม่มีจริงๆ และเราก็พยายามไปช่วยห้ามพวกที่จะรุมชายคนดังกล่าว
ซึ่งสอบถามจึงรู้ว่ามาจากประจวบฯ บ้านเดียวกับเราแต่คนละอำเภอ
ซึ่งน่าจะพอใจได้แล้วเพราะได้แก้ผ้าตรวจว่าไม่มีอาวุธแล้ว



















มีแกนนำระดับรอง ได้เข้ามาบริเวณนี้
แล้วมาบอกให้ทุกคนอยู่ในความสงบ
แล้วให้ทุกคนนั่งลงพร้อมเปิดเพลงแนวคอนเสริต์บนเวทีเสื้อแดง
ทำท่าเหมือนจะมาเปิดคอนเสริต์กลางสนามรบ
แต่ไม่มีใครบ้านั่งลงหรอก
เพราะว่ายังได้ยินเสียงปืนเป็นระยะๆ
และอยู่ไม่กี่สิบก้าวจากบริเวณสี่แยก
ใครจะบ้ามานั่งลง
การยืนนิ่งๆ ยังดีกว่าการนั่งลง
เพราะว่าทหารจะไม่กล้าเข้ามาใกล้
เพราะกลัวโดนวิ่งเข้าใส่จนไปแย่งอาวุธพวกเขาได้
แต่การนั่งลงคือการพร้อมที่จะโดนทหารกระทืบให้หมอบ
ซึ่งจะใช้ทหารไม่กี่คนก็สามารถคุมคนเป็นพันได้
แต่ถ้ายังยืนอยู่คนไม่กี่ร้อยยังสามารถยันพวกทหารได้
ผมดูแล้วเหมือนทำตามตำราที่มีคนพูดบนเวทีบ่อยๆ
มากกว่าจะคิดถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น



















เมื่อมีคนมาสมทบที่บริเวณแยกคอกวัวมากๆ
เสียงปืนก็สงบลงในบริเวณนี้



















แต่เริ่มไปดังขึ้นแถวๆ ใกล้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย



















มีการปะทะกันที่ถนนข้างๆ โรงเรียนสตรีวิทยา



















เริ่มเห็นรถพยาบาลมารับคนเจ็บกันขวักไขว่บริเวณนี้





































การเรียกร้องประชาธิปไตยประเทศนี้ต้องแลกด้วยเลือดและชีวิตทุกทีเลย



















อยู่ๆ มีคนมาบอกว่ามีระเบิดอยู่บริเวณถนนตรงหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ก็แตกตื่นกันเล็กน้อย



















เริ่มได้ยินเสียงปืนดังแถวนี้มากขึ้น
และก็มีคนเจ็บถูกหามออกมาส่งรถพยาบาลมากขึ้น
ซึ่งพอมีคนเจ็บออกมาตากล้องแถวนั้นก็วิ่งกรูกันถ่ายรูปเก็บเอาไว้



















แต่ถ้าเห็นเป็นพวกเสื้อเขียวลายพรางโดนจับตัวหรือเจ็บออกมา
ก็จะมีบางคนกรูจะเข้าไปทำร้าย ซึ่งการ์ดก็ช่วยกันเอาไว้



















ซึ่งคนที่วิ่งตามคนเจ็บชุดลายพรางออกมา
บอกว่าบางคนเป็นทหารแตงโมจะเข้าไปเอาศพคนเสื้อแดงออกมา
แล้วโดนยิงหรือมีข่าวลือว่ามีการยิงกันเองก็มี





































สุดท้ายก็ยึดบริเวณนี้ได้ ซึ่งลองไปนับดูมีรถถัง 6 คัน













































































































มีรถแบบนี้คันหนึ่ง



















และรถฮัมวี่แบบนี้อีก 3 คัน
























ทหารบางคนถูกจับได้ขณะหลบอยู่บนอาคาร
ซึ่งประชาชนหลายคนบอกว่ามันยิงใส่ประชาชน
ก็จะโดนรุมประชาทัณฑ์ ดีที่ว่าการ์ดช่วยป้องกันสุดฤทธิ์
หวุดหวิดกลายเป็นศพก่อนถึงหน้าเวทีที่แกนนำปราศรัยอยู่
ซึ่งการหลบไปอยู่ในอาคารทั้งกองสลากก็ดี โรงเรียนสตรีวิทยาก็ดี
ถ้าไม่ใช่พวกเจ้าหน้าที่ ถ้าเป็นพวกเสื้อแดง
ก็เป็นข่าวไปนานแล้วเพราะน่าจะมียามเฝ้าอยู่
คงไม่สามารถเข้าไปในอาคารได้โดยไม่มีกุญแจ
หรือโดยไม่ได้พังเข้าไป




















บริเวณแถวๆ หน้าเวทีปราศรัย ที่ผ่านฟ้า
ผู้คนยังคับคั่งแบบนี้





































ปอกกระสุนที่เก็บได้บริเวณนั้น
มีอักษร RTA ของกองทัพชัดเจน
ผมได้มาเป็นที่ระลึก 1 อัน
ลุงคนนี้เขาเก็บได้ 3 อัน
แล้วเขากลัวการ์ดมาเอาไปหมด
เขาแบ่งให้ผมมาอันหนึ่ง
ผมก็ไม่ได้ขอเขาหรอก
เพียงแต่บอกให้เขาเก็บไว้เดี๋ยวมีคนมาขอ



















ส่วนรูใหญ่อย่างนี้ไม่รู้ว่ากระสุนอะไร
วิถีกระสุนมาจากฝั่งพวกทหาร
ยิงมาโดนรถที่จอดรถไว้แถวนั้น



















แท็กซี่คันนี้เห็นเขาว่าโดนรถถังปีนขึ้นมาเหยียบ
ไม่รู้ว่าเหยียบกันอีท่าไหน



















พบกองเลือดหลายจุด ตรงจุดนี้มีส่วนที่เรียกว่าสมองกองอยู่ด้วย
ซึ่งเป็นสมองจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้เขาว่ายังงั้น



















ภาพคนที่เสียชีวิต 2 ศพที่นำไปทำพิธีสวดบนเวทีที่ผ่านฟ้า
( ภาพโดยคุณแดงแท้เรียกว่าแดงเทียม แห่งเว็บประชาไท )
ส่วนผู้เสียชีวิตอีกหลายรายได้ตายที่โรงพยาบาล
บางศพทางโรงพยาบาลยังไม่อนุญาติให้นำศพมาบนเวที


















































ส่วนนี่เป็นภาพคนตาย และอาวุธสงครามที่ยึดมาได้
( ภาพจาก คุณเฮียสุริยา แห่งเว็บประชาไท )


















































ผมเดินย้อนกลับมาสำรวจบริเวณสี่แยกคอกวัว
พบว่ามีประชาชนมาแหงนหน้าดูตามหน้าต่างของอาคารนี้
เขาว่ามีพวกทหารที่ซุ่มยิงชาวบ้านแอบอยู่
และจับไปหลายคนแล้ว
และต่อมาก็มีตำรวจหลายนายเข้ามาช่วยค้นหา
ว่ายังมีหลงเหลืออยู่ข้างในอีกหรือไม่
ซึ่งพวกที่ซุ่มอยู่ในนี้เหมือนถูกล้อมไว้
เพราะพรรคพวกได้ล่าถอยออกจากพื้นที่หมด
ก็เหมือนถูกปล่อยเกาะไว้ในวงล้อมของม็อบเสื้อแดง
เลยสามารถเข้าไปคุมตัวได้ง่ายกว่า
ตอนที่มีพรรคพวกเขาคอยยิงกันให้อยู่

























การ์ดบางคนกำลังโชว์กระสุนที่พบ เราไม่รู้ว่าเป็นกระสุนอะไรบ้าง
ซึ่งเขายังเล่าอีกว่าช่วงที่มีการยันกันกับพวกทหารบริเวณนี้
มีชาวบ้านบางคนแถวนี้มาช่วยพวกทหาร
โดยเขวี้ยงถุงปลาร้าบ้าง นั่นนี่บ้างมาทางฝั่งคนเสื้อแดง

และจากคำบอกเล่าของผู้อยู่แนวหน้าหลายคน
บอกว่ามีการยิง M79 มา
แล้วเกิดไปโดนราวธงที่ติดประดับประดา ไว้ตามถนนในซอย
ทำให้กระสุนเด้งกลับไปโดนพวกเดียวกัน
และมีการยืนยันว่า
คนที่เคยคุมกำลังมาปราบม็อบเสื้อแดงช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว

ก็โดนยิงด้วย
และมีบางคนว่าเห็นทหารแตงโมที่เชียร์ฝ่ายม็อบเสื้อแดง
ยิงพวกเดียวกันด้วย
เสียดายไม่ได้เห็นเหตุการณ์กับตาตนเอง
ทั้งๆ ที่บางช่วงห่างไม่กี่สิบเมตร
แต่เพราะกลัววิถีกระสุนจึงไม่กล้าเข้าใกล้มาก
เพราะว่ามีแค่กล้องเป็นอาวุธอย่างเดียว



















รถเก๋งหลายคันที่จอดบริเวณนี้ มีรูลักษณะนี้แทบทุกคัน



















ซึ่งเจ้าของเขาจอดไว้เพื่อไปร่วมม็อบ
โดยจะจอดลักษณะหันหน้าออกจากถนนราชดำเนิน



















ซึ่งข้างหน้าคือฝั่งที่พวกทหารบุกมา
วิถีกระสุนที่ยิงโดนหน้ารถจำนวนมาก
จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันว่ามาจากฝั่งไหน
เมื่อเหตุการณ์สงบลงเจ้าของรถบางคน
กลับมาเห็นรถตนเอง ถึงกับงง
และบอกว่าจะขับมันกลับบ้านได้ไหม
แต่ดูแล้วหลายคันเราว่าหมดสภาพที่จะขับไปต่อแล้วหล่ะ
แต่อยากให้พวกเขาเก็บไว้เป็นประวัติศาสตร์
มันมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในอนาคต

























ที่สมรภูมิรบนี้ก็มีคนตาย
ทุกจุดที่มีคนเจ็บตายมีเลือดเลอะถนน
ได้มีการนำแผงเหล็กมากั้นไว้ลักษณะนี้

























สภาพถนนแถวนี้ เหมือนพึ่งผ่านสงครามมาจริงๆ เลย



















จากรายงานข่าวจำนวนคนบาดเจ็บและคนตาย ในเวลาต่อมา
ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าฝ่ายไหนทำร้ายฝ่ายไหนมากกว่ากัน
เห็นกำลังมีการบิดเบือนทางสื่อต่างๆ ว่า
ฝ่ายม็อบเสื้อแดงไปทำร้ายฝ่ายที่มาสลายม็อบ
ทั้งๆ ที่มีคนเจ็บตายมากกว่ากันหลายเท่า

และสรุปแล้วนี่คือ
วิธีการสลายการชุมนุม หรือ สมรภูมิรบในสงครามกลางเมืองกันแน่

โดย มาหาอะไร

---------------------------------------------------------

รายงานสถานการณ์การชุมนุมในเขตพื้นที่ กทม.
ศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขในภาวะฉุกเฉินระดับชาติ

รายชื่อผู้เสียชีวิตจากการปะทะที่สี่แยกคอกวัว ณ วันที่ 10 เมษายน 2553
ลำดับที่   โรงพยาบาล     ชื่อ-นามสกุล                          อายุ    ข้าราชการ/พลเรือน
1.        ศิริราช              นายสมศักดิ์  แก้วสาน                34       พลเรือน
2.        ศิริราช              นายบุญธรรม  ทองผุย                40       พลเรือน
3.        หัวเฉียว             นายอำพล  ตติยรัตน์                  43      พลเรือน
4.        หัวเฉียว             นายยุทธนาทอง  เจริญพลพร       23      พลเรือน
5.        หัวเฉียว             นายไพศล  ทิพย์ลม                   37      พลเรือน
6.        กลาง                นายสวาท  วงงาม                      43      พลเรือน
7.        กลาง                Mr.Hiroyuki  Muramoto                      พลเรือน
8.        กลาง                นายวัฒนะชัย  กลัดสุข               36       พลเรือน
9.        กลาง                นายทศชัย  เมฆงามฟ้า               44      พลเรือน
10.       กลาง                นายจรูญ  ฉายแม้น                    46      พลเรือน
11.       กลาง                นายวสันต์  ภู่ทอง                      39      พลเรือน
12.       กลาง                ชายไทยไม่ทราบชื่อ                  46       พลเรือน
13.       วชิรพยาบาล       คะนึง  ฉัตรเท                                     พลเรือน
14.       วชิรพยาบาล       พลฯภูทพล  ภูริวัฒน์ประพันธ์                  ทหาร
15.       วชิรพยาบาล       พลทหารอนุพงษ์  เมืองรำพัน                  ทหาร
16.       วชิรพยาบาล       นายเกรียงไกร  คำน้อย              24       พลเรือน
17.       วชิรพยาบาล       นายนภพล  เผ่าพนัส                  30       พลเรือน
18.       พระมงกุฎเกล้า    พลทหารสิงหา  อ่อนทรง                       ทหาร
19.       พระมงกุฎเกล้า    พ.อ.ร่มเกล้า  ธุวธรรม                           ทหาร
20.       พระมงกุฎเกล้า    พลฯ อนุพงศ์  หอมมาลี              22       ทหาร
21.       รามา                 ชายไทยไม่ทราบชื่อ                  50       พลเรือน
22.       ราชวิถี               นายเทิดศักดิ์  ฟุ้งกลิ่นจันทร์        29       พลเรือน

หมายเหตุ :
1. นายมานะ  อาจราญ อายุ 23 ปี เป็นเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เขาดินมายืนดูเหตุการณ์ ถูกยิงที่ศีรษะ (เขาดิน ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น.)
2. เสียชีวิตเพิ่ม 2 รายเป็นผู้ป่วยของ รพ.พระมงกุฎเกล้า และ วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์และวชิรพยาบาล วันที่ 13 เมษายน 53

แหล่งข้อมูลสำนักการแพทย์ (ศูนย์เอราวัณ) วันที่ 13 เม.ย.53
รายงานข้อมูลวันที่ 14 เมษายน 2553 เวลา 08.00น.
ที่มา : http://ws.niems.go.th/pf/download/dead-pf-0410-2010.pdf

สรุปจำนวนผู้บาดเจ็บจากการปะทะของกลุ่ม นปช. กับทหาร ที่บริเวณแยกคอกวัว ถนนดินสอ
เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553

พลเรือน  บาดเจ็บทั้งหมด     607 คน
ทหาร     บาดเจ็บทั้งหมด     237 คน
ตำรวจ    บาดเจ็บทั้งหมด       19 คน
รวมคนบาดเจ็บทั้งหมด   863 คน

รายงาน ณ วันที่ 13 เมษายน 2553 เวลา 06.00 น.
ที่มา : http://ws.niems.go.th/pf/download/sum-pf-0410-2010.pdf
---------------------------------------------------------

คลิปเหตุการณ์ปะทะ วันที่ 10 เมษายน 2553 แถวราชดำเนิน
จากประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์
(บาง Link ได้ถูกทางการบล็อคไปแล้ว)

http://www.youtube.com/watch?v=4ksYZkQeRxA
http://www.youtube.com/watch?v=-olI2IUfZjA
http://www.youtube.com/watch?v=NHGr_vS1Krw
http://www.youtube.com/watch?v=czeGy8E-01s
http://www.youtube.com/watch?v=RGADFlswXGM
http://www.youtube.com/watch?v=-WxJcO2b6k0
http://www.youtube.com/watch?v=vg4JLSGy4NQ
http://www.youtube.com/watch?v=M7FWE8FtyC0
http://www.youtube.com/watch?v=kTjC5aQqato
http://www.youtube.com/watch?v=dwrzEGSb8pk
http://www.youtube.com/watch?v=Y5H4_rDKxv4
http://www.youtube.com/watch?v=Lm-4NSN0Ft8
http://www.youtube.com/watch?v=XLqLXgfQ7yU
http://www.youtube.com/watch?v=qr-gpZ3gxic
http://www.youtube.com/watch?v=L9BbzwqrT7Y
http://www.youtube.com/watch?v=_Q0vIZwzEAA
รวมคลิป 10 เม.ย. โดย คุณ Tuxedo
ความจริง 10 เมษาใครฆ่าประชาชน #1
ความจริง 10 เมษาใครฆ่าประชาชน #2
ความจริง 10 เมษาใครฆ่าประชาชน #3



---------------------------------------------------------

แผนที่แสดงบริเวณที่มีการปะทะในการสลายม็อบช่วงหัวค่ำวันที่ 10 เม.ย. 53
เส้นสีแดง แสดงบริเวณที่มีจุดปะทะกัน จากซ้ายไปขวา คือ ถนนตะนาว สี่แยกคอกวัว, ถนนดินสอและบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
เส้นสีเขียว แสดงที่ตั้งเวทีใหญ่ ณ บริเวณผ่านฟ้า











---------------------------------------------------------

<<< ควันหลง สมรภูมิรบกลางกรุง >>>

---------------------------------------------------------


FfF