บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


15 มิถุนายน 2553

<<< กลุ่มเครือสหาย (Affinity Group) >>>

หากเส้นเกิดจากจุดจำนวนมากเรียงต่อกัน เส้นของขบวนการเคลื่อนไหวในยุคใหม่ก็เกิดจากการรวมตัวกันของจุดจำนวนมากที่เรียกว่า Affinity Group ซึ่งในที่นี้ขอแปลไปพลาง ๆ ก่อนว่า “กลุ่มเครือสหาย”

กลุ่มเครือสหายเป็นเสมือนนิวเคลียส ของขบวนการเคลื่อนไหว แต่สิ่งที่แตกต่างจากนิวเคลียส ของขบวนการเคลื่อนไหวในสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็นขบวนการชาตินิยม หรือขบวนการสังคมนิยม ก็คือนิวเคลียสของขบวนการสังคมใหม่มีเป็นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน ต่างก็มีอิสระในตัวเอง แต่ขณะเดียวกันก็เกี่ยวร้อยกับ นิวเคลียสอื่น ๆ อย่างหลวม ๆ พร้อมที่จะแตกตัวและพร้อมที่จะมารวมตัวกันใหม่ ในแง่นี้ ขบวนการเคลื่อนไหวยุคใหม่จึง สอดคล้องกับแนวทางของลัทธิอนาธิปไตย หากมิใช่ประกาศว่าเป็นอนาธิปไตย เต็มตัว

ความเป็นมา

ประวัติความเป็นมาของกลุ่มเครือสหายนั้น สามารถสืบย้อนไปได้ถึงต้นกำเนิดในขบวนการอนาธิปไตยในสเปน ยุคศตวรรษที่ 19 สเปนเป็นประเทศที่ลัทธิอนาธิปไตยมีความเข้มแข็งและเป็นที่นิยมมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก โดยเฉพาะในช่วงก่อนยุคเผด็จการนายพลฟรังโก ในสมัยนั้น นักอนาธิปไตยและนักกิจกรรมของ ขบวนการแรงงานจะรวมตัวกันใน หมู่เพื่อนสนิทเป็นกลุ่มเล็ก ๆ เรียกว่า “tertulias” (tertulia ในภาษาสเปนแปลว่า gathering เป็นการมาชุมนุมกันเพื่อพูดคุย ถกเถียงในเรื่องต่าง ๆ เช่น การเมือง วรรณคดี ศิลปะ ฯลฯ) หรือ grupos de afinidad ซึ่งก็คือที่มาโดยตรงของคำว่า Affinity Group นั่นเอง

จากการรวมตัวในหมู่เพื่อนฝูง เพื่อพูดคุยถกเถียงกันถึงเรื่อง ต่าง ๆ ตามร้านกาแฟ ในปี ค.ศ. 1888 เมื่อเกิดความขัดแย้งทางชนชั้นอย่างรุนแรงในยุโรป มีการก่อกบฏและการต่อสู้หลาย ครั้งในหลายท้องถิ่นของสเปน องค์กรของนักอนาธิปไตยและแรงงานสเปนจึงเปลี่ยนรูปแบบของ การรวมตัวกันตามธรรมชาตินี้ ให้กลายเป็นพื้นฐานสำคัญของ การจัดตั้ง ขบวนการกลุ่มเครือสหายของนักอนาธิปไตยสเปนนี่เองที่เป็นแนวหน้าในการต่อสู้กับลัทธิฟาสซิสต์ในระหว่างสงครามกลางเมืองสเปน (Spanish Civil War 1936-9)

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 กลุ่มเครือสหายอนาธิปไตยรวมตัวกันเป็นสหพันธ์อนาธิปไตยไอบีเรียน (Federación Anarquista Ibérica—FAI) โดยมีสมาชิกอยู่ในราว 50,000 คน จำนวนสมาชิกจะเพิ่มขึ้นอีกมาก ในช่วงสงครามกลางเมือง (นอกจาก FAI ยังมีกลุ่มเครือข่ายอนาธิปไตยอื่น ๆ อีก เช่น CNT แต่ FAI จัดเป็นเครือข่ายที่ราดิกัลที่สุด) กลุ่มเครือสหายที่รวมตัวกันเป็น FAI นั้น ต่างก็มีอิสระเป็นเอกเทศในตัวเอง ไม่มีการรวมศูนย์อำนาจ ไม่มีโครงสร้างการบังคับบัญชา เป็นลำดับชั้น สมาชิกแต่ละคนมีเสรีภาพในการสร้างแนวทางต่อต้านขัดขืนของตนเอง

การรวมตัวของ FAI จึงเป็นไปอย่างหลวม ๆ ในพื้นที่ที่มีกลุ่มเครือสหายที่เป็นสมาชิก FAI หลายกลุ่ม พวกเขาจะจับมือกันจัดตั้งสหพันธ์ ระดับท้องถิ่น สหพันธ์ท้องถิ่นหลาย ๆ สหพันธ์จะประสานงานกันด้วยคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นมาจากตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจากกลุ่มเครือสหายแต่ละกลุ่ม จากนั้นสหพันธ์ท้องถิ่นจะส่ง ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจไปที่คณะ กรรมการระดับภูมิภาคและคณะ กรรมการระดับชาติเป็นขั้นสุดท้าย แต่กลุ่มเครือสหายแต่ละกลุ่ม ยังคงมีอิสระเป็นเอกเทศ มีการศึกษา การจัดตั้ง การดำเนินงานและปฏิบัติการต่อสู้ของตัวเอง

ในแง่หนึ่ง กลุ่มเครือสหายและ FAI มีการดำเนินการที่เป็นความลับมาก ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแทรกซึมและปราบปรามของอำนาจปกครองและตำรวจ การที่กลุ่มเครือสหายมีสมาชิกจำนวนน้อยและต่างรู้จักกันและกันดีเป็นระยะเวลานาน จึงช่วยป้องกันการแทรกซึมจากตำรวจได้เป็นอย่างดี

แนวคิดในการจัดตั้งขบวนการโดย มีรากฐานอยู่บนกลุ่มเครือสหาย มาปรากฏอีกครั้งในขบวนการต่อต้านนิวเคลียร์ที่สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ.1977 เมื่อประชาชนราว 2,500 คน ซึ่งจัดตั้งขึ้นมาจากการรวมตัว ของกลุ่มเครือสหายจำนวนมาก บุกเข้ายึดโรงปฏิกรณ์ปรมาณูที่ นิวแฮมป์เชียร์ ขบวนการต่อต้านนิวเคลียร์ใช้วิธีการรูปแบบนี้ในปฏิบัติการที่ประสบความสำเร็จมากมายหลายครั้งตลอดทศวรรษที่ 1970 และ 1980 การจัดตั้งแนวทางนี้ยังมีปรากฏในขบวนการโซลิดาริตีในอเม ริกากลาง, ขบวนการปลดปล่อยของคนรักเพศเดียวกัน, องค์กร Earth First และขบวนการด้านสิ่งแวดล้อม และที่โด่งดังล่าสุดคือขบวนการสังคมใหม่ที่ประท้วง WTO ในซีแอตเติล, ประท้วง IMF และธนาคารโลกในวอชิงตัน ดีซี, ประท้วงการประชุมสุดยอด FTAA ในควิเบก ตลอดจนการประท้วงสงครามอัฟกานิสถานและอิรักในหลายประเทศทั่วโลก

ลักษณะและแนวคิดของกลุ่มเครือสหายในขบวนการสังคมใหม่

กลุ่มเครือสหายเป็นคนกลุ่มเล็ก ๆ อาจมีตั้งแต่ 3-5 คน ไปจนถึง 20 คน คนเหล่านี้ทำงานร่วมกันในโครงการหรือปฏิบัติการอันใดอันหนึ่ง แรกเริ่มเดิมที กลุ่มเครือสหายเป็นกลุ่มที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นการรวมตัวของเพื่อนฝูง คนในชุมชน ที่ทำงานหรือองค์กรเดียวกัน แต่ในระยะหลัง มีการจงใจจัดตั้งกลุ่มเครือสหายขึ้นบ้าง โดยจัดให้จับกลุ่มกันในหมู่คน ที่มีเป้าหมายร่วมกัน เช่น การจัดกลุ่มที่เกิดขึ้นในการอบรมปฏิบัติการท้าทายซึ่งหน้า (direct action) หรือการอบรมวิธีการอารยะขัดขืน เป็นต้น กลุ่มเครือสหายอาจเป็นกลุ่มปิด (ไม่รับสมาชิกเพิ่ม) หรือกลุ่มเปิดก็ได้

โครงสร้างภายในกลุ่มเครือสหาย เป็นไปตามแนวทางการจัดตั้ง แบบอนาธิปไตย ต่อต้านการตัดสินใจและการจัดตั้งแบบลำดับชั้นที่มีการสั่งงานจากบนลงสู่ล่าง กลุ่มเครือสหายให้อำนาจแก่สมาชิกแต่ละคนที่จะคิดสร้างสรรค์ การท้าทายซึ่งหน้าของตนเองขึ้นมา ดังนั้น สมาชิกจึงมิใช่แค่ “กระทำ” ปฏิบัติการ แต่ “เป็น” ปฏิบัติการนั้นด้วย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ไม่มีช่องว่างระหว่างเป้าหมาย กับวิธีการกลุ่มเครือสหายจัดตั้งในแนวระนาบและไม่มีการรวมศูนย์ ซึ่งเป็นหลักการที่เป็นหัวใจสำคัญสองข้อของลัทธิอนาธิปไตย

กิจกรรมของกลุ่มเครือสหายมีได้ มากมายไม่มีที่สิ้นสุด ไม่จำเพาะว่าจะต้องเป็นการประท้วงเท่านั้น แต่อาจเป็นกิจกรรมประจำวันที่ ทำร่วมกันหรือทำเป็นครั้งคราว กิจกรรมต่าง ๆ มีอาทิ การติดป้ายผ้าขนาดใหญ่, ปิดถนนเพื่อขี่จักรยาน, ให้ความสนับสนุนแก่กลุ่มเครือ สหายอื่นๆ , เล่นละครข้างถนน, นั่งล้อมต้นไม้ไม่ให้ถูกตัด, เปลี่ยนข้อความบนป้ายโฆษณาให้เป็นข้อความล้อเลียน, เล่นดนตรี ฯลฯ ในระหว่างการประท้วง กลุ่มเครือสหายจะสร้างกิจกรรมตามความถนัดของตน รวมทั้งมีบางกลุ่มที่ทำหน้าที่ เฉพาะบางอย่าง เช่น หน่วยพยาบาลฉุกเฉิน, หน่วยบริการอาหารและน้ำ, หน่วยกฎหมายในกรณีที่มีผู้ประ ท้วงถูกจับกุม เป็นต้น

ในสายตาคนภายนอกขบวนการที่มีฐานการจัดตั้งจากกลุ่มเครือสหายจำนวนมาก อาจดูเหมือนสับสนปนเปและไร้ระเบียบ ทั้งนี้เพราะคนทั่วไปมักเคยชิน กับโครงสร้างองค์กรที่มีการบังคับบัญชาเป็นลำดับชั้น และมีผู้นำที่ชัดเจน แต่อันที่จริง ขบวนการที่สร้างจากกลุ่มเครือสหายมีระบบระเบียบที่ชัดเจน เพียงแต่มีความยืดหยุ่นมากกว่า และแทนที่จะใช้การสั่งงานแบบบังคับบัญชา ขบวนการกลุ่มเครือสหายจะใช้วิธีการ ประสานงานเป็นโครงข่าย โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้นำ กลุ่มเครือสหายแต่ละกลุ่ม ไปจนถึงสมาชิกแต่ละคน มีเสรีภาพในการตัดสินใจและพลิกแพลงไปตามสถานการณ์ เพียงแต่ยึดมั่นในหลักการบางอย่างที่ตกลงร่วมกันไว้ก่อนหน้า อาทิเช่น ปฏิบัติการต้องตั้งอยู่บนการไม่ใช้ความรุนแรง เป็นต้น

ตัวอย่างจากการประท้วงขนาดใหญ่ ที่มีฐานการจัดตั้งจากกลุ่ม เครือสหาย อาทิ การประท้วง WTO ที่ซีแอตเติลเมื่อปี ค.ศ. 1999 ในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนหน้าปฏิบัติการจริง กลุ่มเครือสหายจำนวนหลายพันคน เข้าฝึกอบรมการไม่ใช้ความรุนแรง เช่น การรักษาความสงบนิ่งในสถานการณ์ตึงเครียด, การใช้ยุทธวิธีอารยะขัดขืน, การตอบโต้กับความรุนแรงจากเจ้าหน้าที่ และกระบวนการตัดสินใจร่วมกัน เป็นต้น

มีคนอีกจำนวนหนึ่งที่เข้ารับการอบรมระดับสอง ซึ่งเป็นการอบรมเกี่ยวกับการเตรียมตัวเมื่อถูกตำรวจจับกุมคุมขัง, ยุทธศาสตร์และยุทธวิธีของการสมานฉันท์และความรู้ด้านกฎหมาย รวมทั้งการสร้างสถานการณ์จำลองเมื่อมีการปราบปรามและจับกุมคุมขัง นอกจากนี้ยังมีการอบรมเกี่ยวกับยุทธวิธีในการปิดถนน, การเล่นละครข้างถนน (street theatre) ฯลฯ

กลุ่มเครือสหายแต่ละกลุ่มจะตัดสินใจกันเองว่า จะมีส่วนร่วมในการประท้วงอย่างไร บางกลุ่มอาจทำละครข้างถนน, ทำป้ายผ้าและหุ่นกระดาษขนาดใหญ่ หรืออาจทำง่าย ๆ แค่คล้องแขนในขบวนประท้วงปิดถนน ในแต่ละกลุ่มมักจะมีการตกลงกันเองภายในว่า คนไหนทำหน้าที่บุรุษ/นางพยาบาล เบื้องต้น คนไหนทำหน้าที่ให้ข่าวแก่ผู้สื่อข่าว คนไหนที่พร้อมให้ตำรวจจับกุม และคนไหนในกลุ่มจะทำหน้าที่คอยช่วยเหลืออยู่ภายนอกคุก ฯลฯ

กลุ่มเครือสหายต่าง ๆ จะจัดตั้งกันเป็น “รวงเถา” (cluster) รวงเถาเป็นการรวมตัวกันชั่วคราว เพื่อปฏิบัติการเฉพาะอันใดอันหนึ่ง หรือเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายการประท้วง รวงเถาอาจมีหน้าที่รับผิดชอบ ในการปิดล้อมพื้นที่ หรือเป็นเจ้าภาพการจัดประท้วงในวันใดวันหนึ่งของการประท้วงที่มีต่อเนื่องหลายวัน หรือจัดแสดงละครข้างถนนขนาดใหญ่ ฯลฯ การเกาะกลุ่มเป็นรวงเถาอาจจัดตั้งตามท้องถิ่นของกลุ่มเครือ สหาย (เช่น รวงเถากลุ่มเทกซัส) หรือเกาะกลุ่มตามอัตลักษณ์หรือประเด็นปัญหา (เช่น รวงเถากลุ่มนักศึกษาหรือรวงเถา กลุ่มต่อต้านโรงงานนรก) หรือเกาะกลุ่มตามปฏิบัติการ (เช่น รวงเถากลุ่มละครข้างถนน)

ในการประท้วงที่ซีแอตเติลนั้น พื้นที่รอบศูนย์คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ที่ใช้จัดประชุม WTO ถูกแบ่งออกเป็น 13 ส่วน โดยมีกลุ่มเครือสหายและรวงเถาแบ่งกันรับผิดชอบไปคนละส่วน ยังมีบางกลุ่มทำหน้าที่เป็น “กลุ่มร่อน” กล่าวคือเป็นกลุ่มอิสระที่พร้อมจะเคลื่อนไหวเข้าไปเสริมกำลัง ในจุดที่จำเป็น เมื่อปฏิบัติจริง รูปแบบการจัดตั้งเช่นนี้มีความยืดหยุ่นสูง หากได้รับสัญญาณขอกำลังคนเพิ่มในบางจุด กลุ่มเครือสหายจะประเมินกำลังสมาชิกของตนเอง แล้วตัดสินใจเองว่าจะเคลื่อนไปช่วยตามสัญญาณเรียกหรือจะปักหลักอยู่ที่เดิม เมื่อถูกปราบปรามด้วยแก๊สน้ำตา, สเปรย์พริกไทย, กระสุนยาง, กระบอง ฯลฯ สมาชิกแต่ละคนและกลุ่มแต่ละกลุ่ม จะประเมินกำลังของตนเอง ว่าจะปักหลักหรือล่าถอย หากมีกลุ่มหนึ่งถอยร่นลงมา จะมีอีกกลุ่มหนึ่งเข้าไปแทนที่ ในขณะเดียวกัน สมาชิกหรือกลุ่มที่ไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับการปราบปราม สามารถปักหลักอยู่ในพื้นที่ที่ ไม่มีความเสี่ยง ทำหน้าที่สนับสนุนในด้านอื่น ๆ หรือคอยชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน เป็นต้น

การประสานงานและความตกลงทั้งหมดเกิดขึ้นในที่ประชุมของสภา วาจก (Spokescouncil) สภาวาจกคือโครงสร้างการจัดตั้งเพื่อดำเนินปฏิบัติการขนาดใหญ่ แต่ละกลุ่มเครือสหายหรือรวงเถาจะมอบหมายให้วาจกคนหนึ่ง ซึ่งรับมอบการตัดสินใจของสมาชิกในกลุ่ม ไปเข้าร่วมประชุมสภาวาจก เพื่อร่วมตัดสินใจในประเด็นสำคัญ ๆ บางอย่าง เช่น การตัดสินใจในเรื่องของยุทธศาสตร์ด้านกฎหมาย, จุดนัดพบและการส่งกำลังบำรุง ต่าง ๆ สภาวาจกจะไม่เข้าไปก้าวก่ายหรือ เข้าไปแทนที่ความเป็นอิสระของกลุ่มเครือสหายใด ๆ ทั้งสิ้น กระบวนการตัดสินใจของสภาวาจกมักใช้วิธีประชาธิปไตยแบบกระบวนการแสวงหาฉันทามติ (onsensus)

เรียบเรียงจาก
http://en.wikipedia.org/
http://www.crimethinc.net/
http://www.radio4all.org/aia/index.html
Starhawk, “How We Really Shut Down the WTO,” The Global Activist’s Manual, New York, 2002.

ที่มา http://www.facebook.com/#!/note.php?note_id=127085460659441&id=10000111618772
โดย facebook ภัควดี

FfF