บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


02 สิงหาคม 2553

<<< เพราะเป็นคนไม่ใช่หุ่นยนต์ จึงต้องมีหนทางของตนเอง >>>

หลายครั้งท่านอาจเคยเจอ เคยพบ หรือประสบด้วยตนเอง
ว่าเด็กๆ ทำไมไม่ทำตามใจผู้ใหญ่ วัยรุ่นไม่ทำตามใจพ่อแม่
หรือแม้แต่คนทั่วไปไม่ทำตามใจผู้มีอำนาจ
อันที่จริงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร เพราะพวกเขาเป็นคนไม่ใช่หุ่นยนต์
ถ้าเป็นหุ่นยนต์ตั้งโปรแกรมยังไง สั่งให้ทำอะไรก็ทำตามแต่โดยดี
เพราะไม่มีเลือดเนื้อและจิตใจก็ว่าได้ ซึ่งต่างจากคนซึ่งมีเลือด มีเนื้อ และมีจิตใจ
จึงบังคับฝืนใจกันไม่ได้ หรือได้ก็อาจเกิดอาการต่อต้านทั้งแบบดื้อเงียบและดื้อเปิดเผย

เมื่อโยงมาเรื่องการเมือง ก็สามารถจะตอบคำถามบางอย่างที่หลายคนสงสัย
หรือไม่เข้าใจหรือแกล้งไม่เข้าใจ เช่นกรณีวิกฤตการเมืองในปัจจุบัน
ทำไมถึงไม่สงบเสียที ทำไมยังมีคนออกมาต่อต้านไม่เลิก
ทั้งๆ ที่สร้างภาพให้พรรคพวกตนดูดี กู้เงินมาแจกแหลกรานหวังซื้อใจกันเต็มที่
แถมวาดภาพฝ่ายตรงข้ามเลวร้ายสารพัด แต่ทำไมผลไม่เป็นดั่งที่ตั้งใจอยากจะเห็น
ที่ต้องการจะดึงคนอีกพวกมาเป็นพวกตนให้ได้เยอะๆ

กรณีถ้าเป็นของที่ทดแทนกันได้
เช่น เงินทอง ถ้าโดนโกงไปแล้วได้คืนยังพอทำใจยอมรับได้
เพราะเงินทองทดแทนกันได้ อาจมีเจ็บใจบ้างที่โดนหลอกโดนโกง
แต่ถ้าได้เงินทองคืนมาก็อาจจะช่วยลดความคับแค้นใจลงได้บ้าง

แต่ถ้าเป็นกรณีสิ่งที่ทดแทนกันไม่ได้
ยกตัวอย่างเรื่องการเมืองเกี่ยวกับนายก
ถ้าชาวบ้านเขาชื่นชอบนายกทักษิณ
จะไปปล้นอำนาจมาประเคนให้สุรยุทธ์หรือแม้แต่อภิสิทธิ์
หรือจะชวน อานันท์ หรือเทวดามาจากไหน มันก็ทดแทนกันไม่ได้
เพราะมันต่างกัน อาจมีบ้างบางคนที่ไม่ได้ชอบนายกคนไหน
ชอบแค่ว่าใครแจกอะไรมากกว่ากัน ก็เป็นอีกกรณีหนึ่ง
ซึ่งคนพวกนี้มักไม่ค่อยเคลื่อนไหวทางการเมือง
ในทางการเมืองถือว่าไม่ใช่พวกเขาไม่ใช่พวกเรา
พวกนี้ใครชนะก็เฮตามไปไม่มีอะไรมาก
แต่ถ้าพวกชอบการเมืองและพร้อมเคลื่อนไหว
หรือเป็นระดับกองเชียร์
พวกนี้ต่อให้คุณเอาเงินฟาดหัวยังไง
หรือเที่ยวไปสรรหาเทวดามาจากไหนให้มาเป็นนายก
เขาก็ไม่เอาเขาจะเอาคนที่เขาชอบกลับคืนมา
บางคนอาจพัฒนาไปถึงการทวงความเป็นธรรมให้กับสังคม
และอยากเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองให้ดีขึ้น
ไม่ให้มีมือที่ไหนมาแทรกแซงการเมืองอีก
นอกจากมือของประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศ

อย่างที่บอก เพราะว่าเป็นคนไม่ใช่หุ่นยนต์
จะมาสั่งบงการอะไรยากโดยเฉพาะเรื่องการเมือง
ยกเว้นบางพวกบางสีที่ถูกล้างสมอง
ตั้งโปรแกรมซ้ายหันขวาหันแล้วทำตาม
ไม่สนใจว่าอะไรถูกผิด หลับหูหลับตาทำตามสั่งอย่างเดียว
พวกนี้น่าจะเรียกว่าพวกคนยนต์
เพราะทำตัวเหมือนหุ่นยนต์เข้าไปทุกที

อย่าว่าแต่คนเลยแม้แต่ปลาที่เราเลี้ยง
ให้อาหารที่มันไม่ชอบ มันก็ไม่กิน
อาหารชนิดไหนที่มันชอบมันกินจนท้องแตกตายมันก็ยอม
อย่างปลาทอง เป็นต้น ขนาดมันไม่ใช่คน
มันยังเลือกสิ่งที่ชอบ สิ่งที่ไม่ชอบ หรือเลือกหนทางตนเองเลย

การเลือกใช้ชีวิตทั้งเรื่องงาน เรื่องอาหารการกิน เรื่องท่องเที่ยว
หรือเรื่องอื่นๆ ในชีวิตประจำวันของแต่ละคน
ก็คือการเลือกหนทางตนเองของแต่ละคนนั่นเอง
สิ่งที่เราเลือก สิ่งที่พ่อแม่ปู่ย่าตายายเราเลือก
ไม่ใช่ว่าลูกหลานทุกคนจะชื่นชอบหรือจะอยากทำตาม
เช่นถ้าเรารู้สึกอยากปลีกวิเวก ถือสันโดษ อยากใช้ชีวิตพอเพียง
แบกเป้ข้ามเขาไปอยู่บนดอยคนเดียวก็ทำได้ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร
คนที่ทำอะไรได้แบบนี้มักจะอยู่คนเดียวหรือไม่มีลูกหลาน
แต่ถ้าวันหนึ่งมีคู่ครอง มีลูกหลาน
สิ่งที่หวังว่าจะสันโดษ อยู่อย่างพอเพียงอะไร
ก็เริ่มจะทำไม่ได้แล้ว นอกจากจะต้องบังคับให้ลูกหลาน
ยอมจำนนรับสภาพความเป็นอยู่ตามไปด้วย
เช่นอยู่ห่างไกลความเจริญ ห่างไกลโรงเรียน ห่างไกลโรงพยาบาล
ถ้าพ่อแม่ที่เห็นแก่ตัว อยากทำตามใจตนเอง ไม่รับผิดชอบต่อลูกหลานของเขา
ก็คงปล่อยให้ลูกหลานไม่มีหนทางเลือกในชีวิตต่อไป
จนอาจไร้การศึกษาหรือว่าไม่สามารถเรียนสูงๆ ได้
เพราะว่าพ่อแม่พอเพียง ทำตัวคล้ายๆ ชีวิตปู่เย็น
แล้วจะมีทรัพย์สินอะไรมาใช้จ่ายส่งเสียให้ลูกหลานเล่าเรียนสูงๆ
แถมยังไม่มีเงินทุน เพื่อให้ลูกหลานได้มีทุนไปตั้งต้นประกอบอาชีพของเขาอีก
แบบนี้ถือว่ารับผิดชอบต่อลูกหลานหรือว่าทำตามใจตนเองกันแน่
แล้วจะพูดได้เต็มปากเต็มคำได้อย่างไรว่ารักลูกหลานจริงๆ
อนาคตถ้าลูกหลานเขามีทางเลือกที่ดีกว่าเขาก็อาจจะเลือกเส้นทางใหม่
แต่ถ้าไม่มีทางเลือกเขาก็อาจต้องทนยอมรับสภาพไปวันๆ
เขาอาจไม่โทษพ่อแม่ที่เกิดมาไม่มีทรัพย์สินเงินทองเหลือให้เขา
แต่ถ้าเขาคิดได้วันไหนและมีทางเลือก เขาอาจทิ้งพ่อแม่ไปก็ได้

จะเห็นได้ว่า อุดมคติของพ่อแม่ แนวการใช้ชีวิตของพ่อแม่
ไม่จำเป็นที่รุ่นลูกรุ่นหลานจะต้องทำตาม
และถ้าพ่อแม่เลือกแนวทางที่ตนชอบ
แต่ลูกหลานไม่ชอบ ก็อยู่ด้วยความคับข้องใจมาก
และพร้อมจะจากไป เมื่อมีโอกาสที่ดีกว่า
ไม่ใช่พวกเขาอกตัญญู
แต่เป็นเพราะพ่อแม่ไม่รู้จักหน้าที่มากกว่า
แถมไม่มีความรับผิดชอบต่อลูกหลาน
ที่สร้างให้เขาเกิดมา แต่ไม่คิดส่งเสริมให้เขาได้ดียิ่งๆ ขึ้นไป
กลับคิดกักกันให้เขาอยู่ในโลกอุดมคติของตนเอง
โดยไม่ยอมให้เขามีหนทางไป ยังงี้เรียกได้ยังไงว่ารักลูกจริง

สรุปเลี้ยงได้แต่ตัว แต่หัวใจเลี้ยงไม่ได้นั้น ของจริง
สิ่งที่พ่อแม่คิดและทำไม่จำเป็นที่ลูกหลานจะต้องทำตามก็ได้
พ่อแม่เป็นหมอลูกไม่จำเป็นต้องเป็นหมอเหมือนพ่อแม่ก็ได้
ไม่ใช่ความผิด
หนทางชีวิตเป็นของคนแต่ละคน
ทุกคนย่อมมีสิทธิ์เลือกหนทางชีวิตตนเอง
ถ้าเขาคิดเลือกอะไรแล้ว
ถ้าเราไม่ชอบต้องปล่อยให้ธรรมชาติลงโทษ
ถึงจะเป็นวิธีที่ดีกว่าการไปบังคับขู่เข็ญขืนใจให้ยอมรับ
เพราะถ้าเป็นแบบหลังแล้ว จะเกิดอาการต่อต้านขึ้นแน่นอน

ยกตัวอย่างเรื่องให้ธรรมชาติลงโทษ
เช่นผมชอบขับรถเร็ว ขับจนเกียร์พังไป 4 ลูกแล้ว
เปลี่ยนเครื่องใหม่โอเวอร์ฮอล 2 ครั้ง เสียนั่นนี่
สี่ห้าปีมานี้ ซ่อมรถจนหมดเงินไปสามแสนกว่าบาทแล้ว
เดี๋ยวนี้ขับช้าลงมากเพราะไม่มีเงินจะซ่อมแล้ว
ซึ่งก็มีข้อดีทำให้ปลอดภัยขึ้น แถมรถก็ไม่ค่อยจะเสียอีกด้วย
แต่ถ้ามาห้าม ห้ามยังไงก็ไม่ฟังหรอก
บางคนอาจรอดตายจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับรถเร็ว
พวกนี้ก็จะเข็ดขับช้าลงแต่โดยดีไม่ต้องมีใครสั่งใครบังคับ

เรื่องการเมืองก็เหมือนกัน ต้องยอมตามเสียงส่วนใหญ่
เสียงส่วนน้อยก็คอยท้วงติงเสนอแนะชี้แนวทางใหม่ๆ
ถ้าผลมันออกมาว่าแนวทางเสียงส่วนใหญ่พากันลงเหว
เช่น เศรษฐกิจไม่ดี ประเทศกำลังย่อยยับ
เดี๋ยวคนทั่วไปเขาก็เปลี่ยนขั้วเอง โดยไม่ต้องมีใครมาบังคับอะไรเลย
เพราะเขาก็รักประเทศ รักชีวิตและทรัพย์สินเงินทองของเขาเหมือนกันทุกคน
ยกเว้นกรณีกลัวนั่นกลัวนี่กลัวอำนาจจะสั่นคลอน
ถึงไม่ยอมให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ
เมื่อฝืนธรรมชาติ ธรรมชาติก็อาจจะติดตามมาลงโทษในไม่ช้า
เพราะเป็นคนย่อมมีชีวิตจิตใจโดนข่มแหงกดดันมากๆ
ก็ต้องลุกขึ้นสู้ตามธรรมชาติของคน
เพราะเป็นคนไม่ใช่หุ่นยนต์ จึงต้องมีหนทางของตนเอง
ไม่ชอบให้ใครมาคอยบงการชีวิต ถ้าคิดผิดคิดใหม่ทำใหม่ได้

โดย มาหาอะไร
FfF