บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


30 สิงหาคม 2553

<<< กลยุทธ์ โยกย้ายถ่ายเท จากทำเลที่มีมากไปสู่น้อย >>>

ช่วงหลังๆ ที่ภาคใต้เกิดความไม่สงบ
มีการอพยพของคนใต้มาทำมาหากินภาคอื่นๆ มากขึ้น
โดยเฉพาะในกรุงเทพ คาดว่ามีจำนวนมาก
ที่เข้ามาเพราะไม่อยากอยู่ทางใต้ หรือกลัวเหตุการณ์ความไม่สงบ
และคนภาคนี้ส่วนใหญ่ก็ยึดติดกับพรรคเก่าแก่อย่าง ปชป. มาด้วย
ก็เลยทำให้ฐานเสียงในกรุงเทพของ ปชป. มีมากขึ้นตามไปด้วย
คิดดูซิมีคนมาเลือกตั้งระดับล้านคน
ถ้ามีคนหนีออกมาจากทางใต้หรือไม่คิดกลับใต้เยอะๆ
ระดับหลายแสนคน แต่พร้อมออกมาแสดงสิทธิเลือกตั้ง
มันก็ทำให้ ปชป. มีฐานเสียงเพิ่มขึ้นมามากมายขนาดไหน

ผิดกับคนภาคอื่นที่ไม่ได้เป็นลักษณะภาคนิยมเหมือนคนใต้
แต่เริ่มจะเกิดบ้างแล้วช่วงไม่กี่ปีมานี้
ซึ่งถ้ามีการโยกย้ายเข้ามาของคนอีสานและเหนือช่วงนี้
รับประกันว่าฐานเสียงแดงเพิ่มมากขึ้นแน่ๆ
แต่ถ้าพวกที่เคยเข้ามาอยู่นานแล้ว และทำธุรกิจในกรุงด้วย
ก็คงอาจไม่แดงด้วยก็ได้
กลยุทธ์นี้ ผมว่ามันมีผลเหมือนกัน
คล้ายๆ กรณี จีนอพยพ ช่วงบ้านเมืองเกิดสงครามกลางเมือง
กับช่วงอดอยากจนถึงขนาดเกิดลัทธิกินเนื้อคนด้วยกันเอง
ได้มีการอพยพออกจากจีนแผ่นดินใหญ่เป็นระลอกๆ
กระจายไปทั่วทุกมุมโลก
เดี๋ยวนี้พบว่ามี ไชน่าทาว์น ทุกๆ เมืองใหญ่ๆ ในโลกนี้
และหลายๆ ประเทศก็เข้าไปกุมเศรษฐกิจในประเทศนั้นๆ
เพราะค้าขายเก่ง หรือรักการค้าขายมากกว่ารับราชการ
เลยมีโอกาสร่ำรวยมากกว่า และมีหัวการค้าด้วย
คล้ายๆ คนยิวที่เข้าไปกุมเศรษฐกิจหลักในอเมริกา
และหลายๆ ประเทศของฝรั่ง
คนเหล่านี้ค้าขายเก่ง และมีลักษณะช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
ผ่านทางประเพณีวัฒนธรรมหรือสมาคม
เลยทำให้การทำธุรกิจเจริญเติบโตกันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
แถมยังช่วยให้ประเทศจีนหลังเปิดประเทศเจริญเติบโตได้เร็วขึ้น
จากการนำเข้าสินค้าจากจีน ของไชน่าทาว์นทั่วโลก
หรือคนจีนโพ้นทะเลที่ร่ำรวยเข้าไปช่วยลงทุนในประเทศจีนมากมาย

ซึ่งลักษณะการอพยพของชาวจีน
ช่วยทำให้เห็นภาพที่สามารถมากำหนดเป็นกลุยุทธ์ได้
นั่นคือ กลยุทธ์ โยกย้ายถ่ายเท จากทำเลที่มีมากไปสู่น้อย
ซึ่งอาจเกิดจากความบังเอิญเพราะพื้นที่เดิมทำเลไม่ดี
เช่นแห้งแล้ง ไม่สงบ หรือทำมาหากินไม่คล่อง หรือเกิดสงคราม
หรืออาจเกิดจากการจัดตั้ง แนะนำให้โยกย้ายไปที่นั่นที่นี่
สำหรับคนที่อยากจะโยกย้ายถิ่นอยู่แล้ว
รวมไปถึงการสร้างวัฒนธรรมหรือสมาคม
เพื่อเชื่อมโยงกันตลอดเวลา เพื่อหวังผลในอนาคต

ถ้าจะนำกลยุทธ์นี้มาใช้ในทางการเมือง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนำมาใช้ในการเลือกตั้ง จะเห็นผลมาก
เพราะว่าในเขตๆ หนึ่ง สมมุติว่ามี ส.ส. ได้ 1 คน
และเขตนี้มีคะแนนเสียงหนาแน่น
สามารถชนะคู่แข่งขาดลอยทุกครั้งจนหายห่วง
ก็สามารถสนับสนุนให้มีการโยกย้ายถ่ายเท
ไปยังเขตที่ยังมีฐานเสียงน้อยกว่าได้
โดยเฉพาะในเมืองกรุง ซึ่งยังไงก็ดึงดูดผู้คน
เข้ามาทำมาหากินอยู่แล้ว
ถ้าคนที่เข้ามาใหม่
ไปอาศัยยังเขตที่ยังมีฐานเสียงแดงน้อยๆ
ก็มีโอกาสได้ลุ้นในการเลือกตั้งในอนาคตได้
ซึ่งไม่ใช่การย้ายเพื่อเลือกตั้งครั้งนั้นครั้งนี้หรือก่อนเลือกตั้ง
แต่หวังผลระยะยาวนานหลายปี
นี่ก็ถือเป็นกลยุทธ์หนึ่ง ที่คู่แข่งอาจทำอยู่ก็ได้

การแบ่งเขตเลือกตั้งหรือการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเลือกตั้ง
เช่นเขตเดียวเบอร์เดียว มาเป็นแบบเลือกเป็นพวงหลายๆ เขต
ก็เป็นรูปแบบการโยกย้ายที่รวดเร็วและได้ผลเร็วด้วย
ทำให้ส่งผลต่อการเลือกตั้ง ตั้งแต่หลังการทำรัฐประหารมาเลยทีเดียว
เพราะหลังการทำรัฐประหาร
ก็มีการคิดรูปแบบเพื่อเอาเปรียบทางการเมืองทุกอย่าง
จึงทำให้เห็นรูปแบบการเลือกตั้งแบบแปลกๆ
รวมไปถึงการแบ่งเขตแบบแปลกๆ ก็มี
เช่นเขตเลือกตั้งไม่ติดกันยังจับมาพ่วงเพื่อเลือกเป็นพวงเดียวกัน
มันเหมือนเป็นความพยายามแชร์เขตที่มีฐานเสียงของพวกตนสูงๆ
มาช่วยพยุงกับเขตที่มีฐานเสียงต่ำๆ หรือมีเสียงใกล้เคียงกับคู่แข่ง
เพื่อให้ได้มีโอกาสได้รับเลือกมากยิ่งขึ้น

โดย มาหาอะไร
FfF