ด้วยรักและอาลัยถึงน้อง เจมส์ กฤษดา กล้าหาญ ผู้จากไป
ย้อนหลัง3ปีที่ผ่านมาในกลุ่ม รักเชียงใหม่ 51 ทุกคนจะเห็นเด็กหนุ่ม อายุ 18 ปี หน้าตาดี รูปร่างทะมัดทะแมง อารมณืร้อนมุทะลุ ตามประสาวัยรุ่น หนึ่งในสมาชิกคนเสื้อแดง เชียงใหม่ที่เข้าร่วมโดยไม่มีใครชักชวน ทุกงานที่มีการรวมตัวเราจะเห็นน้องเจมส์ ช่วยเหลืองานทุกอย่างโดยไม่รู้จักเหนือย เขาเป็นที่รักของพี่ๆทุกคนที่ได้รู้จักเขา ทุกครั้งที่ขอความช่วยเหลือการงาน จะไม่เคยได้ยินคำปฎิเสธจากปากน้องเจมส์ไม่ว่าจะงานหนักงานเบาเราจะเห็นเขากุ รีกุจอ ช่วยงานจนดึกจนดื่นทุกครั้งไป แทบไม่มีครั้งไหนเลยที่กลุ่มมีกิจกรรมแล้วจะไม่เห็น น้องเจมส์ ภาพเด็กหนุ่มคนนี้อยู่ในความทรงจำของพี่ๆทุกคน ทุกครั้งที่เจอน้อง จะเห็นสายตาที่มุ่งมั่น เอาจริงเอาจังตลอดเวลาที่ได้รู้จักเขา ถ้าถามหา นายกฤษดา กล้าหาญจะไม่มีใครที่รู้จัก แต่ถ้าบอกน้องเจมส์ ทุกคนจะร้องอ๋อทันที่ น้องเจมส์เดินทางไปร่วมกับกลุ่มไม่ว่าที่ ทำเนียบปี 52 งานถวายฎีกาที่สนามหลวง แม้นแต่ช่วงสงกรานต์เลือด ราชดำเนิน และที่ราชประสงค์ พวกเราจะเห็นเด็กหนุ่มที่มีแต่รอยยิ้มบนใบหน้าทุกที่ไป ตั้งแต่รู้จักกับน้องเจมส์ผมยังไม่เคยเห็นใบหน้าโกรธสักครั้งเดียว ทุกครั้งจะเจอกันจะได้ยินแต่เสียงหัวเราะใสๆ กับใบหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา และความฃี้เล่นตามประสาวัยรุ่นของ เจมส์ก็มีที่ทำให้คนอื่นเคืองอยู่บ้างเหมือกัน แต่ก็น่าจะเป็นส่วนน้อย หลังจากพฤษภาทมิฬ ผมได้เจอน้องเจมส์ไม่ค่อยบ่อยนัก เนื่องด้วยภาระกิจของผมเองแล้วก็ของน้องที่ต้องช่วยงานพ่อของอ้อย แฟนสาวทำงานเพื่อเลี้ยงชีพ ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็ต้องออกไปช่วย อ้อยขายสติกเกอร์ที่ถนนคนเดิน วัวลายและท่าแพเป็นประจำ พูดง่ายๆทำงานกัน30 วันเต็มที่เดียว ด้วยความขยันหมั่นเพียรของเจมส์ จึงเป็นที่รักเสมือนดั่งลูก จากพ่อแม่ของอ้อย เจมส์ได้รับความรักและห่วงใย จากพ่อและแม่อ้อยอย่างมากสิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตได้รับการเติมเต็มื้ ครอบครัวของน้องอ้อย เพราะเจมส์เป็นเด็กที่ขาดความอบอุ่นเพราะพ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เจมส์ยัง เล็ก ต้องอยู่ในความอุปการะของยายตลอด 21 ปีที่ผ่านมา เจมส์เรียนหนังสือขณะที่บวชเป็นสามเณร จนจบ มัธยมต้น แต่ต้องลาสิกขาบทมาเพื่อทำงานหาเลี้ยงยายและตัวเอง
ที่ผ่านมา เจมส์ผ่านงานทุกอย่างมาหมดพูดง่ายๆไม่เลือกงาน ไม่ว่าหนัก เบาเจมส์ทำอย่างไม่ย่อท้อ เพื่อเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ที่ผ่านมาผมรักเจมส์ดุจลูกเพราะเจมส์กับลูกชายคนโตผมอายุเท่ากัน และด้วยความหนักเอาเบาสู้ยิ่งทำให้เด็กคนนี้อยู่ในความรู้สึกลึกๆอยู่ตลอดมา จนกระทั่ง 02.45 นของคืนวัน อาทิตย์ ที่ 28 ส.ค.เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในสายแจ้งว่าเจมส์และอ้อยถูกยิงถล่มด้วยอาวุธ สงคราม หน้าปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งบนถนน สายเชียงใหม่ -หางดง ยังไม่รู้อาการเพราะขณะที่คนโทรมาแจ้งทางร.พ.หางดงกำลังส่งตัวมาที่ ร.พ.มหาราช นครเชียงใหม่ เพราะเจมส์ อาการสาหัสอาการโคม่าเพราะเสียเลือดมาก ผมและเพื่อนอีก2-3 คนจึงตรงไปที่ ร.พ.มหาราช นครเชียงใหม่ ตึกอุบัติเหตุทันทีที่ทราบข่าวด้วยความห่วงใย และภาพที่ได้เห็นตรงหน้าหลังจากไม่ได้เจอกันหลายอาทิตย์ ทำให้รู้สึกสลดใจเป็นอย่างมาก เพราะบาดแผลที่เห็นในเบื้องต้น ไม่น่าเชื่อเลยว่า น้องเจมส์ที่สดใสได้หายไปมีแต่ภาพที่มีบาดแผลตั้งแต่หน้าอกขาว,ช่องท้องไล่ มาถึงขาขวา โดยเฉพาะขาขวามีบาดแผลที่น่ากลัวมากเภราะแผลมีวงกว้างจากการทำลายของอาวุธ สงคราม ที่หน้าอกแพทย์ต้องเปิดออกเพราะมีเลือดออกในช่องท้อง จำนวนมาก จากการสอบถามแพทย์กระสุนทำลายปอดขวา,ตับ,สำใส้,และที่ขาขวาตัดเส้นเลือดใหญ่ แพทย์นำเจมส์เข้าห้องผ่าตัดถึง 2ครั้งในคืนเดียวกัน หลังจากนั้นแพทย์ได้ย้ายน้องเจมส์มาที่ห้อง ICU ศัลยกรรมหนัก อาคารสุจิณโณ ชั้น 2 หลังผ่าตัดใหญ่พวกเรามีความหวังมากขึ้นเพราะน้องมีสติ แสดงสีหน้ารับรู้เมื่อพวกเราเข้าเยี่ยม น้องเจมส์จำทุกคนที่รู้จักได้หมด
Uploaded with ImageShack.us
เขามีสีหน้ายิ้มแย้มทุกครั้งที่มีพวกเราเข้าเยี่ยม ทุกครั้งที่ผมเข้าเยี่ยม เจมส์จะแสดงท่ายกน้ำเข้าปากเพื่อขอน้ำทาน เพราะอาการระคายเคืองจากสายยางที่สอดลงไปที่ปอด แต่พวกเราก็ได้แต่ทำตามคำแนะนำของแพทย์ที่นำสำลีชุบน้ำเช็ดที่ปากทั้งภายใน และนอกเพียงเท่านั้น เพราะปอดของเจมส์ได้รับบาดเจ็บกระสุนทำลายปอดด้านขวา พี่น้องคนเสื้อแดงที่เข้าเยี่ยมเจมส์บอกกันเพียงเสียงเดียวกันว่าเจมส์ต้อง รอด เพราะสังเกตูจากอาการตอบสนองที่เห็น เจมส์ไม่เคยอสดงความเจ็บปวดให้พวกเราเห็นเลยสักครั้งเดียว
ดวงหัวใจที่กล้สแกร่งของเจมส์ ทำให้ทุกๆคนสบายใจ จนกระทั้งเมื่อวันที่ 3 ก.ย. ช่วงเช้าเจมส์ยังตอบคำถามพยาบาลได้หมดว่าใครมาเยี่ยม เจมส์เรียกชื่อผมทั้งๆที่มีสายช่วยหายใจขนาดใหญ่ในลำคอ แต่เหตุการที่เราวาดฝันเอาไว้เริ่มเลือนลางตั้งแต่เวลา 13.30 นของวันที่ 3 ก.ย. เพราะเจมส์มีอาการตอบสนองน้อยลง มีอาการสำรักอย่างต่อเนื่อง จนทีมแพทย์ต้องระดมเข้ามาช่วยกันหาสาเห๖แล้วเราก็ได้รับคำตอบที่เราไม่อยาก ฟัง แพทย์แจ้งว่า เจมส์ มีอาการติดเชื้อที่ปอด,ปวดข้างขวาไม่ทำงาน,ลำไส้บวม,หัวใจโต,และที่สำคัญบาด ผลที่ขาขวามีเนื้อที่ถูกทำลาย ส่งผลให้มีการติดเชื้อ ทางแพทย์แจ้งว่าอาจจะต้องตัดขาข้างขวา ทำให้ความรู้สึกของผู้ที่ร่วมรับฟังในขณะนั้นตกวูบลงทันที พวกเราได้แต่ภาวนาว่าอย่ามีสิ่งอื่นนอกเหนือจากนี้เลย แต่คำภาวนาไม่สำฤทธิ์ผล เพราะหลังจากนั้นไม่ถึง 1ช.ม. แพทย์แจ้งเราว่าต้องทำการช็อตหัวใจ น้องเพราะชีพจรของน้องขึ้นสูง ถึง180 ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนพวกเราตั้งตัวไม่ทันคนที่มาเยี่ยมเจมส์ใน ตอนช่วงเช้าแล้วโทรมาสอบถามอาการในช่วงบ่ายเปรียบได้ดังหนังคนละม้วนที่ เดียว ภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะหลังจากนั้นไม่นานแพทย์ผู้ดูแลมาแจ้งว่าน้องมีอาการไตวายไม่สามารถขับ ของเสียออกจากร่างกายได้ด้วยตนเอง จะต้องมีการใช้ไตเทียมเข้าช่วย เพื่อให้ระบบอื่นกลับมาทำงานเหมือนเดิม พวกเราได้ปรึกษา อ้อย(แฟนสาว) ก็รีบตอบตกลงทันที่ ให้แพทย์ดำเนินการได้ทันที่เพราะนี้คือความหวังที่จะทำให้อวัยวะภายในของ น้องกลับคืนมา เรารีบนำใบสั่งแพทย์ลงไปซื้ออุปกรณ์ในการฟอกไตทันที่ อย่างมีความหวัง แต่วามหวังของพวกเราต้องสะดุดลงอีกเมื่อแพทย์เฉพาะทางได้แจ้งว่ายังไม่ สามารถใช้ไตเทียมได้เนื่องจามความดันโลหิตของน้องตกลงเรื่อยๆ และระบบของหัวใจสวิงขึ้นและลงสลับกันตลอดเวลา การใช้ไตเทียมจะส่งผลกับคนไข้ในเรื่องความดันที่จะลดลงอีก จนคณะแพทย์ พยาบาล ได้เชิญแพทย์เฉพาะทางไม่ว่า ไตและหัวใจมาตรวจและลงความเห็นอีกครั้ง จนมีการให้ยากรตุ้นพัวใจและเพิ่มความดันโลหิต ทางแพทย์รอจนกระทั้งเวลา 23.00นความดันโลหิตและการเต้นของหัวใจของน้องดีขึ้นระดับที่น่าจะปลอดภัยกับ น้องจึงลงมือทำการฟอกไต ทำให้เราใจชื้นขึ้นมาเพราะอาการตอบสนองของน้องดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ความดันโลหิตก็ยังต่ำกว่ามาตราฐานอยู่ตลอดเวลา พวกเราก็ยังมีความหวังว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะดีขึ้น เพราะระหว่างที่ทำการฟอกไต เจมส์มีการหลับได้ดีขึ้นกว่าก่อนมากขึ้น..จนพอวางใจได้ผมจึงขออ้อยกลับไป พักผ่อนที่บ้าน เพราะสอบถามทางแพทย์แล้วทางแพทย์แจ้งว่าต้องดูผลการฟอกไตอีกครั้งตอนเช้า ผมจึงเดินทางกลับมาตอน01.00น ได้หลับพักผ่อนสัก 3-4 ช.ม.ก็มีเสียงโทรศัพท์ปลุกในต้องลุกขึ้นมาตอน06.25 น ในสายแจ้งว่าให้ผมรีบเดินทางไป ร.พ.ด่วน แล้วสิ่งที่พยายามไม่ให้เกิดขึ้นก็เกิดขึ้นจริงๆ ทันที่ที่เจอหน้าอ้อยก็เห็นแต่คราบน้ำตา อ้อยบอกว่าหมอหยุดเครื่องฟอกไตแล้วเพราะคนไข้ไม่สามารถรับได้แล้ว ความดันโลหิตลงมาถึง30/19 หัวใจเต้นอ่อนลงเรื่อยๆจนแพทย์ต้องทำการช็อตด้วยไฟฟ้าอีก 2 รอบด้วยกันแต่อาการโดยรวมไม่ดีขึ้น เพราะอวัยวะในร่างกายไม่ว่า ปอด, ตับ,หัว,เริ่มชลอการทำงาน การอับเสบที่ปอดมีอาการรุนแรงมากขึ้น การตอบสนองน้อยลงตามลำดับ คณะแพทย์ระดมกันมาช่วยกันอีกครั้ง แพทย?การแก้ไขอยู่ประมาณ1.30 ช.ม. จน 10.00นแพทยืได้เรียกอ้อยและผมเข้าไปขอคุยด้วยว่าทางแพทยดำเนินการทุกวิถีทาง แล้วแต่ไม่ดีขึ้นเพราะอวัยวะภายในของเจมส์ เริ่มหยุดการทำงาน ความดันโลหิตยังต่ำลงมากขึ้น การเต้นของหัวใจอ่อนลงเรื่อยๆ ทางแพทย์ประเมินแล้วไม่สามารถรักษาอวัยวะภายในให้กลับฟื้นมาได้เพราะเซลล์ ถูกทำลายจากการติดเชื้อ และจากคมกระสุนสงคราม โดยให้ทางน้องอ้อยเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะให้กระตุ้นหัวใจต่อไปหรือไม่หรือจะ หยุดทุกอย่างเพื่อปล่อยให้น้องเจมส์ไม่ต้องทรมานต่อไป
แล้วค่อยๆให้น้องเจมส์หลับไปตามระยะเวลาการเต้นของหัวใจที่เหลืออยู่ แพทย์ให้เหตุผลหลายๆอย่างเพื่อประกอบการตัดสินใจของน้องอ้อย จนในที่สุดน้องอ้อยยอยตัดสินใจทั้งน้ำตานองหน้า เพื่อปล่อยให้น้องเจมส์ได้ไปไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป ดดยเซ็นยินยอมให้แพทย์หยุดการกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้าต่อไป วินาทีที่เหลือพวกเราก็รอคอยเวลาที่หัวใจอันกล้าแกร่งของน้องเจมส์ หยุดการทำงานไปเองตามกำลังที่เหลืออยู่ บรรยากาศหลังจากนั้นมีแต่เสียงร้องไห้ และคราบน้ำตา ระงมไปทั่วทั้งในและนอกห้อง ICU ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นไม่ต่ำกว่า 50 คนต่างทยอยเข้าบอกลาน้องเจมส์ ด้วยคราบน้ำตาและเสียงร่ำไห้ตลอดเวลา จนกระทั่งเวลา 14.44 น. เวลาที่พวกเราไม่อยากให้มาถึงก็มา สัญญาณชีพสุดท้ายของน้องรักของพวกเราก็มาถึง สัญยาณเสียงคลื่นหัวใจดังยาวติดๆกัน ทางแพทย์ได้เข้ามาดูแล้วได้แจ้งว่า น้ออันเป็นที่รักของเราหัวใจหยุดเต้นแล้ว ทุกคนที่อญู่ในที่นั้นส่งเสียงร้องไห้อย่างไม่อายใครทั้งหญิงและชาย มัจจุราชได้มาพรากดวงใจกล้าแกร่งของน้องสุดที่รักของเราไปอย่างไม่มีวันกลับ เรารับรู้ได้ทันที่ว่าเราได้เสียผู้กล้าที่ออกมาแสดงความเป็นคนไทยที่รักใน ผืนแผ่นดินนี้และต้องการความยุติธรรมและประชาธิปไตย ไปอีกคนหนึ่งคนแล้ว การการกระทำของใครก็ตามที่ไม่เห็นว่าบ้านนี้เมืองนี้ไร้ขือไร้แปรแล้วหรือ อย่างไร พวกเราทุกคนรวมยืนไว้อาลัยน้องเจมส์ร้องกับคณะพยาบาล พร้อมร่วมส่งวิญญาณของไปสู่สุคติ ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้เราได้พบได้เจอ ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันทุกข์ชาติไป
ด้วยรักและอาลัยน้องรักสุดหัวใจ
พวกพี่ๆขอสัญญาว่าเราจะร่วมกันฝ่าฟันเพื่อให้ได้มาซึ่งความเป็นธรรมในสังคม ความเสมอภาคจะต้องกลับคืนสู่สังคมไทยแน่นอน และขอให้น้องเป็นผู้กล้าคนสุดท้ายที่ต้องสังเวยความป่าเถื่อนไร้มนุษย์ธรรม นี้เถอด สาธุ
Uploaded with ImageShack.us
Uploaded with ImageShack.us
http://www.youtube.com/watch?v=OJ_dhXiu_Sg เราและนาย
http://www.internetfreedom.us/showthread.php?tid=6295&page=1
โดย เสื้อแดงล้านนา
------------------------------------------------------------------------------
อีกหนึ่งศพในหลายๆ ศพ วีรชนคนเสื้อแดง
ที่ถูกตามเก็บหลังจบเหตุการณ์กระชับพื้นที่ไปหลายเดือนแล้ว
เป็นความโหดเหี้ยมของคนทำและคนสั่งการ
หวังเชือดไก่ให้ลิงดู
ข่มขู่คนเสื้อแดงที่กำลังก่อหวอดลุกขึ้นสู้อีกครั้ง
ส่วนตัวขอบรรยายความรู้สึกเป็นเพลงบทนี้
ที่แต่งหลังทราบข่าวการ์ดเสื้อแดงคนหนึ่งถูกยิงที่เชียงใหม่
เพลง ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เสื้อแดงต้องสู้ต่อไป
เนื้อร้อง/ทำนอง : มาหาอะไร
ไม่มี..การเปลี่ยนแปลง
เสื้อแดง..ต้องลุยต่อ ไป
ไล่ยิง..ไล่ปิด..ไล่ขัง
ปรองดองพ่อ....มึงดิ
ไม่มี..การ เปลี่ยนแปลง
เสื้อแดง..ต้องสู้ต่อไป
ไล่ยิง..ไล่ปิด..ไล่ขัง
สมานฉันท์แม่....มึงดิ
ขอแค่เพียง..ความ....เป็นธรรม
ขอแค่นั้น..ฉัน ไม่มีสิทธิหรือ..ไร
ถึงกับไล่..ล่า..จับกุม....
ถึงกับไล่..คุม..สื่อ แดง....
ถึงกับเล่น..แรง..แจก..ลูกปืน.....
ไม่มี..การเปลี่ยนแปลง
เสื้อแดง..ต้องลุยต่อ ไป
ไม่มี..การเปลี่ยนแปลง
เสื้อแดง..ต้องสู้ต่อไป
โดย มาหาอะไร
FfF
บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.