อาการของคนหูตาสว่างแล้ว มี 3 ระยะ ดังนี้
รู้แจ้ง คือ อาการรู้ลึก รู้ชัด ในสิ่งที่คลุมเครือหรือสงสัยกัน
เมื่อรู้แจ้งแล้ว ก็จะเริ่มออกอาการหูตาสว่างขึ้นมาให้เห็น
ด้วยการกระพือต่อ อันนี้เป็นปกตินิสัยของคนทั่วไป
เมื่อรู้อะไรดีๆ หรือความลับอะไร มักปิดไม่ค่อยจะอยู่
เลยเที่ยวโพทะนาต่อ เพื่อหวังให้คนอื่นรู้ในสิ่งที่ตนรู้
เห็นจริง คือ อาการที่แน่ชัด ว่าสิ่งที่รู้แจ้งนั้น จริงแท้แน่นอน
ก็จะออกอาการหูตาสว่างมากที่สุด เรียกว่าหูตาสว่างจ้าเลยแหล่ะ
เมื่อถึงขั้นนี้แล้วก็ยากที่จะกลับไปติดเชื้อโฆษณาชวนเชื่อใดๆ อีกต่อไป
เมื่อเห็นจริง ก็ยิ่งมั่นใจว่าสิ่งที่รู้แจ้งนั้นถูกต้องแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์
คราวนี้ไม่แค่โพทะนาต่ออย่างเดียว อาจถึงขั้นบอกเล่าได้ด้วยตนเอง
โดยไม่ใช่ลักษณะจำเขาเอามาว่าต่อ เหมือนตอนรู้แจ้งอย่างเดียว
และจะออกอาการต่อต้านเชื้อโฆษณาชวนเชื่อที่แรงขึ้นด้วย
ทิ้งสิ่งจอมปลอม คือ นี่คือผลของการรู้แจ้ง เห็นจริง จนถึงระดับขีดสุด
จนเกิดอาการหูตาสว่างระยะสุดท้าย ยากเกินจะเยียวยาอะไรได้อีกแล้ว
นอกเสียจากการรักษาโดยธรรมชาติ นั่นคือการทิ้งสิ่งจอมปลอม
ที่เคยฝั่งหัวมานาน ทิ้งไปให้หมด ไม่ให้มีหลงเหลือ
เพื่อเป็นเชื้อร้ายแพร่พันธุ์ได้ในภายหลัง
เมื่อทิ้งสิ่งจอมปลอมไปได้ ก็เท่ากับมีภูมิคุ้มกันเชื้อโฆษณาชวนเชื่อ
ที่แฝงมากับสิ่งจอมปลอมด้วย
คนที่ทิ้งสิ่งจอมปลอมได้แล้ว ก็จะมีอาการหูตาสว่างตลอดไป
และจะกลายเป็นเสรีชนสมบูรณ์แบบ และเพื่อไม่ให้เชื้อโฆษณาชวนเชื่อ
ได้แพร่หลายต่อไปในอนาคต เขาเหล่านั้นก็จะร่วมกัน
ทำให้คนเป็นเสรีชนเหมือนตนมากขึ้นเรื่อยๆ
เพื่อให้คนมีภูมคุ้มกันเชื้อโฆษณาชวนเชื่อเยอะๆ
จะได้มีคนตาสว่างกลายเป็นเสรีชนเยอะๆ
เมื่อคนในสังคมมีอาการหูตาสว่างมากๆ
เชื้อโฆษณาชวนเชื่อ ก็จะอ่อนแอ ไม่สามารถแพร่กระจาย
หรือดำรงคงอยู่ได้ในสังคมนั้นๆ ได้อีกต่อไป
เมื่อถึงวันนั้น โรคตายทั้งเป็น
จะปรากฏกับคนที่ชอบแพร่เชื้อโฆษณาชวนเชื่อ
จนออกอาการให้เห็นเด่นชัดขึ้น
ยิ่งเขียนต่อ ยิ่งมึนหนัก วันนี้หมอเดาสถานการณ์
ก็ขอจบการบรรยายเรื่องอาการของคนหูตาสว่าง
ที่จะมี 3 ระยะคือ รู้แจ้ง เห็นจริง ทิ้งสิ่งจอมปลอม แต่เพียงเท่านี้
โดย มาหาอะไร
FfF
บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.