บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


08 กันยายน 2553

<<< อนาคตประเทศไทย ต้องผูกค่าเงินบาทกับเงินหยวน >>>

เนื่องจากว่าประเทศจีน คือคู่แข่งทางการค้าที่สำคัญของไทยในเวลานี้
และสินค้าจีนราคาถูก เห็นให้เกลื่อนเมืองไทย
ค่าเงินหยวนตอนนี้สูงกว่าไทยก็จริง
แต่ค่าจ้างแรงงานในจีนต่ำกว่าไทยมากหลายเท่า
แถมยังมีคนมากมายมหาศาล
ทำให้สินค้าจีนถูกผลิตครั้งละมากๆ
ต้นทุนสินค้าต่อชิ้นยิ่งถูกเข้าไปอีก
เลยทำให้จีนสามารถขายสินค้าราคาถูกกว่าได้
และตีตลาดต่างประเทศแย่งลูกค้าจากไทยด้วย
นอกเหนือจากส่งเข้ามาตีตลาดเมืองไทย
ที่ได้ผลกระทบไม่เฉพาะสินค้าอุตสาหกรรมเท่านั้น
สินค้าเกษตร ก็มีผลกระทบตามไปด้วย

แนวทางแก้ปัญหาเรื่องนี้
ต้องแก้เรื่องการทำให้ต้นทุนต่ำลง
โดยการเพิ่มผลผลิตให้มากขึ้นและมีคุณภาพมากขึ้น
เพื่อจะได้สามารถขายได้มีราคามากขึ้น
โดยไม่จำเป็นต้องไปลดราคาแข่งกับสินค้าจีนมากนัก
และอีกวิธีที่ช่วยได้เร็ว และดีพอสมควร
ก็คือเรื่องค่าของเงินบาท
ควรจะผูกติดกับค่าเงินหยวนในอัตราที่เหมาะสม

ปัจจุบันและอดีตที่ผ่านมา
ไทยมักผูกค่าเงินบาทกับเงินดอลล่าห์สหรัฐ
เวลาค่าเงินดอลล่าห์อ่อน ค่าเงินบาทก็จะแข็งค่าขึ้น
สินค้าไทยก็จะขายลำบากมากขึ้นเพราะเหมือนราคาแพงขึ้น
ในสายตาของลูกค้าในประเทศสหรัฐ
หรือประเทศอื่นที่ผูกติดค่าเงินกับดอลล่าห์สหรัฐเช่นจีน
ทำให้สินค้าไทยดูแพงขึ้น แต่ในขณะเดียวกันสินค้าจากสหรัฐ
หรือประเทศที่ผูกค่าเงินกับดอลล่าห์สหรัฐกับดูเหมือนถูกลง
ในสายตาคนไทย ทำให้สินค้าจากประเทศเหล่านั้น
หลั่งไหลมาตีตลาดเมืองไทยได้มากขึ้น

หลังจีนเปิดประเทศ ทำให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
เพิ่มในอัตราที่สูงอันดับต้นๆ ของโลกตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้
ยิ่งช่วงนี้ที่อเมริกาประสบภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
ก็พยายามหารายได้เข้าประเทศ
สิ่งหนึ่งที่เขาทำก็คือการพยายามกดเงินดอลล่าห์ให้ต่ำลง
เพื่อให้สินค้าประเทศเขาถูกลงและขายได้เพิ่มขึ้น
ซึ่งก็ทำให้ค่าเงินแถวประเทศเอเชียดูแข็งค่าขึ้นไปด้วย
แต่จีนนั้นผูกเงินหยวนติดกับเงินดอลล่าห์สหรัฐเสียแน่น
ทำให้จีนไม่กระทบเท่าไหร่แถมยังได้เปรียบที่สินค้าจีนถูกลง
จนทำให้ตีตลาดทั่วโลกได้มากขึ้นอีกด้วย

ดังนั้นทำไมประเทศไทยไม่ผูกค่าเงินบาท
ติดกับค่าเงินหยวน ในอัตราที่เหมาะสมหล่ะ
เพราะถ้าค่าเงินหยวนอ่อนเราก็อ่อนตาม
ค่าเงินหยวนแข็งเราก็แข็งตาม
ซึ่งจีนเป็นคู่แข่งทางการค้าที่สำคัญของไทย
นอกจากการเป็นคู้ค้าที่สำคัญของไทย

กรณีค้าขายกับจีน
การผูกติดเงินบาทกับเงินหยวน
ทำให้การค้าขายกับจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่คนมากที่สุดในโลก
ทำให้การค้าขายไม่ต้องพะวงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา
ระหว่างเงินบาทกับเงินหยวน เพราะกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนคงที่แน่นอน
เพียงแต่ถ้าไปขอกู้เงินก็ควรทำประกันความเสี่ยงไว้บ้างเพื่อความรอบคอบ
จะได้ไม่ซ้ำรอยเดิมเหมือนวิกฤตต้มยำกุ้งของไทยในปี 40

กรณีการส่งสินค้าไปขายแข่งกับประเทศจีน
ก็ไม่ได้เปรียบเสียเปรียบเรื่องค่าเงินอีกต่อไป
เพราะไม่ว่าค่าเงินจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง
เมื่อเทียบกับเงินดอลล่าห์ ก็จะเหมือนกันกับจีนทุกประการ

กรณีค้าขายหรือขายแข่งกับประเทศคู่แข่งในย่านอาเซียน
หรือ ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น เหล่านี้
ก็ไม่ต้องไปกังวลมาก เพราะว่าถ้าค่าเงินบาทของไทยไม่เหมาะสม
สู้คู่แข่งแถวนี้ไม่ได้ ค่าเงินหยวนของจีนก็ไม่เหมาะสมเหมือนกัน
แล้วจีนเขาจะปล่อยไว้ให้เสียเปรียบหรือ
เดี๋ยวเขาก็ปรับค่าเงินให้ได้เปรียบอยู่เสมออยู่แล้ว
ไทยแทบไม่ต้องออกแรงไปทำอะไรเลยด้วยซ้ำ
ซึ่งจะดีที่จะถูกโจมตีค่าเงินได้ยากขึ้นด้วย
เพราะถ้าจะโจมตีจริงๆ ต้องตีค่าเงินหยวนก่อน
ซึ่งไม่ง่ายที่จะไปตีเพราะจีนใหญ่มากพอ
ที่จะล้มทับพวกโจมตีค่าเงิน

ดังนั้นคิดว่าอนาคตน่าจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายในการดูแลค่าเงินบาท
ซึ่งในยามไม่วิกฤต อาจไม่มีใครกล้าคิดกล้าทำเพื่อป้องกันก่อนล่วงหน้า
คงต้องรอให้เกิดวิกฤตอีกครั้งนั่นแหล่ะ อาจได้เห็นการปรับเปลี่ยนอย่างที่เราว่ามาก็ได้

โดย มาหาอะไร
FfF