บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


27 ตุลาคม 2553

<<< การปกครองแบบพ่อปกครองลูก ไม่ถูกกาลเทศะในยุคสมัยใหม่ >>>

การปกครองแบบพ่อปกครองลูก
น่าจะเป็นระบบเก่าและค่อยๆ ล้าสมัยในอนาคต
แม้จะไม่ถึงกับสูญพันธุ์ไปเลยก็ตาม
เนื่องจากเป็นการปกครองที่เหมาะสมกับ
สภาพการปกครองแบบเผด็จการนั่นเอง
คือถ้าพ่อเห็นว่าเรื่องไหนดีไม่ดีกับลูก
ก็จะจัดการให้ลูกเสร็จสรรพ
โดยไม่จำเป็นต้องสนใจว่าลูกจะชอบหรือไม่
ถึงไม่ชอบก็หือไม่ได้อะไรประมาณนั้น
จึงเหมาะกับการปกครองในระบอบเผด็จการ
หรือระบอบกษัตริย์อย่างในอดีต
ที่ผู้ปกครองสามารถชี้นิ้วสั่งการอะไรได้
โดยไม่มีใครกล้าคัดค้านหรือคัดค้านได้

แต่ถ้าใครคิดจะนำวิธีนี้มาใช้ในระบอบประชาธิปไตย
ก็เห็นท่าจะไปไม่รอดเพราะมันขัดแย้งอย่างมาก
ระบอบประชาธิปไตยทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ
ในการแสดงความคิดความเห็น
คัดค้านหรือสนุบสนุนได้ในทุกๆ เรื่อง
ถ้ามีข้อยกเว้นมากๆ แสดงว่า
ยังไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง จริงๆ
ผู้ปกครองอาจคิดว่านโยบายนั้นนโยบายนี้
เหมาะสมกับประชาชนในประเทศ
ก็จะพยายามออกนโยบายนั้นๆ ให้ได้
แม้คนส่วนใหญ่ของประเทศไม่ต้องการ
ถ้าเป็นแบบนี้แล้วกฏหมายดังกล่าว
คงไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่แล้ว
เพราะถ้าเป็นประโยชน์ต่อพวกเขา
ยังไงเขาก็ไม่ปฏิเสธกันมากมายแน่ๆ
แสดงว่ามันคงเป็นประโยชน์ต่อผู้มีอำนาจมากกว่า
ที่อาจได้หน้าได้ชื่อเสียง จากต่างประเทศ
ถ้าทำนโยบายนั้นๆ สำเร็จ
หรือได้ผลประโยชน์แอบแฝงอื่นๆ
จากนโยบายดังกล่าว

ดั่งสุภาษิตโบราณที่ว่า
“ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน"
ซึ่งก็คือการทำให้ผู้รับพอใจนั่นเอง
เหมือนคุณเป็นพ่อเป็นแม่
จะสร้างบ้านให้ลูกด้วยเงินของคุณก็จริง
แต่แบบบ้านรายละเอียดต่างๆ ของบ้าน
ต้องตามใจคนที่เราจะปลูกให้
ซึ่งก็คือลูกของเรา
ไม่ใช่ปลูกตามใจเรา เงินเรา เราชอบแบบนี้
แบบนี้ไม่ใช่ลักษณะการปลูกบ้านให้ลูกอยู่แล้ว
แต่เป็นการปลูกบ้านเพื่ออยู่เองแล้วแบบนั้น
เพราะคนที่อยู่ เขาจะรู้สึกว่าเขาเป็นเจ้าของบ้านจริงๆ
ก็ต่อเมื่อเขามีอำนาจในบ้านนั้นๆ จริงๆ
ไม่ใช่รู้สึกว่าเป็นผู้มาอาศัยอยู่ไปวันๆ
ถ้ารู้สึกแบบนั้นเมื่อไหร่
ก็แสดงว่าเริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่เจ้าของบ้านที่แท้จริงแล้ว

จะเห็นได้ว่า
การปกครองแบบพ่อปกครองลูก
ไม่ถูกกาลเทศะในยุคสมัยใหม่
ยุคสมัยนี้และอนาคต
ต้องเป็นการปกครองแบบปกครองกันเอง
ถึงจะเข้ากับระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงได้
การปกครองกันเอง
อาจมีการเลือกตั้งให้คนมาทำหน้าที่แทนตน
แต่ไม่ใช่มอบหมายให้ทำแทนในทุกๆ เรื่อง
หรือให้สิทธิขาดทำอะไรได้โดยไม่มีใครสามารถคัดค้านได้
และถ้าทำไม่ดี ดูแล้วไปไม่รอด
ก็ต้องสามารถมีวิธีการเชิญออกจากตำแหน่งได้ด้วย
ซึ่งการปกครองแบบพ่อปกครองลูก
จะทำแบบที่ว่าไม่ได้
แต่การปกครองแบบปกครองกันเองทำสิ่งที่ว่ามาได้

ขอยกตัวอย่าง แนวคิดการปกครองแบบพ่อปกครองลูก
กรณีการประท้วงที่ฝรั่งเศสล่าสุด
เรื่อง แผนยืดเวลาเกษียณ ของรัฐบาลฝรั่งเศส
ที่เริ่มมาหลายเดือนแล้ว และเริ่มปะทุในช่วงนี้
และคาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้คงแตกหัก
ไม่ใครก็ใครต้องจากกันไปข้างหนึ่ง
ระหว่างคนส่วนใหญ่ของประเทศ
กับผู้ปกครองไม่กี่คน
ไม่ต้องบอกก็น่าจะเดาออกว่าใครจะไป
นี่เป็นแนวคิดพ่อปกครองลูกแบบหลงยุค
ทั้งๆ ที่ข้อดีและข้อเสียมีพอๆ กัน
เผลอๆ ข้อเสียมากกว่าข้อดี เช่น
ทำให้เด็กจบใหม่ตกงานมากขึ้นเพราะลดการเกษียณ
ก็มีคนออกจากองค์กรช้าก็รับใหม่ช้าไปด้วย
หรือยืดเกษียณก็ตองทำงานนานขึ้น
ได้เงินบำนาญนานออกไปอีก
ส่วนข้อดีก็อาจเป็นเรื่อง
ทำให้รัฐมีสภาพคล่องมากขึ้น
คือไม่ต้องหาเงินก้อนมาจ่ายให้ช่วงที่ยืดอายุการเกษียณออกไป
นี่เป็นเหตุผลหลักสำคัญในนโยบายการยืดการเกษียณนี้
นอกนั้นเรื่องเงินเฟื้อ เรื่องคนทำงานต้องเลี้ยงดูคนเกษียณมากขึ้น
เป็นข้ออ้างเสียมากกว่า

-----------------------------------------------------------


“ซาร์โกซี” คะแนนนิยมลดฮวบ หลังปล่อยแผนยืดเวลาเกษียณ
ตุลาคม 25, 2010
Filed under breakingnews, ต่างประเทศ

“ซาร์โกซี” งานเข้า ผลสำรวจล่าสุดชี้คะแนนนิยมลดฮวบ ชาวบ้านไม่พอใจแผนยืดอายุเกษียณ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 25 ต.ค. ผลสำรวจคะแนนนิยมล่าสุดของประชาชนชาวฝรั่งเศสที่มีต่อ นิโกล่าส์ ซาร์โกซี่ ประธานาธิบดี พบว่า ชาวเมืองน้ำหอมกว่าร้อยละ 70 ไม่พอใจท่านผู้นำอย่างยิ่ง โดยมีสาเหตุหลักมาจากการผลักดันแผนยืดเวลาเกษียณอายุของคนงานจาก 60 ปีเป็น 62 ปี

ก่อนหน้านี้ ผู้นำฝรั่งเศสพยายามผลักดันให้วุฒิสภาผ่านความเห็นชอบแผนขยายอายุการทำงาน จาก 60 ปีเป็น 62 ปี และประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด ขณะนี้กำลังเป็นภัยต่อตัวเขาเอง เพราะนอกจากคะแนนนิยมที่ลดแล้ว ปัญหาเรื่องการประท้วงที่เกิดขึ้นอย่างยาวนานก็ยังไม่สงบลงอีกด้วย เนื่องจากบรรดาสหภาพแรงงานโรงกลั่นน้ำมันยังคงผละงานประท้วงสร้างความเดือด ร้อนให้แก่ผู้คนทั่วประเทศ ล่าสุดคนงานที่โรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่ง ยืนกรานจะประท้วงยืดเยื้อ ส่งผลให้ขณะนี้ปั๊มน้ำมันราว 1 ใน 4 ของทั่วประเทศขาดแคลนน้ำมันแล้ว และคาดว่าพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะขาดแคลนน้ำมันมากที่สุด คือ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ด้านสหภาพแรงงานการรถไฟก็ประกาศว่า คนงานราว 20% ของทั้งหมดจะหยุดงานประท้วงในสัปดาห์หน้า

http://www.isnhotnews.com/2010/10/“ซาร์โกซี”-คะแนนนิยมลดฮ
-----------------------------------------------------------

นี่คือข้อเสียสำคัญ
ของแนวคิดการปกครองแบบพ่อปกครองลูก
เพราะจะไม่ฟังเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน
บางคนอาจแย้งว่าฝรั่งเศสเขาก็มีการเลือกตั้ง
ใช่เขาอาจมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี
แต่เพื่อให้มาทำงานรับใช้ประชาชน
ไม่ได้ให้มาเป็นเจ้านาย
หรือใช้แนวคิดการปกครองแบบพ่อปกครองลูก
มาปกครองประชาชน
โดยไม่สนใจเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศแบบนี้
เพราะประเทศ ไม่ได้มีเฉพาะผู้ปกครองประเทศเท่านั้น
ที่รักประเทศพวกเดียว หรือคิดถูกฝ่ายเดียว
ถ้ายังดันทุรังทำการปกครองลักษณะพ่อปกครองลูก
ในระบอบประชาธิปไตยต่อไป
ก็คงวุ่นวายไม่เลิกและอาจจะเลยเถิด
จนเกิดสงครามกลางเมืองก็ได้ใครจะรู้
โดยเฉพาะถ้าเกิดกรณีนี้กับประเทศที่ยังไม่พัฒนา
ที่สำคัญ ต่อให้ดันทุรังออกกฏหมายมาบังคับใช้ได้สำเร็จ
แม้ว่าจะต้องเข่นฆ่าประชาชนไปกี่คน
ก็ไม่ได้หมายความกฏหมายนั้นๆ จะคงอยู่ต่อไป
เพราะระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงยังมีการเลือกตั้ง
เพื่อเลือกผู้อาสามารับใช้ไปบริหารประเทศ
ก็จะมีผู้เห็นช่องทางนี้ไปหาเสียง
เพราะถ้าคนคัดค้านนโยบายที่ว่าเกินครึ่ง
ใครนำนโยบายที่ว่าไปหาเสียงว่าจะยกเลิก
ก็จะได้ใจผู้มีสิทธิมีเสียงทันที
แม้จะมีการฮั้วกันทางการเมือง
ที่พรรคการเมืองเก่าจะจับมือกันเพื่อหนุนนโยบายที่ว่า
หรือกรณีผู้สมัครประธานาธิบดีเด่นๆ ฮั้วกัน
แต่ก็อาจจะมีคนสอดแทรกมาลงสมัครหรือตั้งพรรคใหม่ก็ได้
เพราะสิ่งไหนที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศต้องการ
แล้วไปขัดใจก็อยู่ไม่ได้ ต่อให้นโยบายนั้นๆ จะรีบๆ บังคับใช้มาก็ตาม
อนาคตก็เลิกได้ แต่ความวุ่นวายมันจะยาวนาน

ในกรณีที่ว่า รัฐไม่มีเงินขาดสภาพคล่องในช่วงนี้
ก็สามารถเลือกที่จะตัดงบประมาณด้านอื่นๆ
ที่ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้ในช่วงนี้ เช่น
งบจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ
ไม่มีความจำเป็นต้องไปซื้อช่วงนี้
งบที่แบ่งเค้กกันหม่ำอีกนี่ถ้าตัดไปได้
ก็เหลือเงินมาบริหารประเทศอีกเยอะ
เหมือนประเทศไทยช่วงนี้เกิดวิกฤตน้ำท่วม
ปรากฏว่าบ้านผมแถวปทุมธานี
เริ่มมีการแจกข้าวสาร 10 กก. แล้ว
ทั้งๆ ที่ยังไม่โดนน้ำท่วมเลยแถวบ้าน
งบหาเสียงเหล่านี้แหล่ะ
ถ้าตัดไปได้เหลือเงินพัฒนาประเทศอื้อซ่าเลย
แต่นักการเมืองส่วนใหญ่จะไม่ชอบ
เพราะไม่ได้ส่วนแบ่ง
จึงไปหาเรื่องตัดเงินที่หักค่าหัวคิวไม่ได้แทน

โดย มาหาอะไร
F
fF