<<< ทำไมเรื่องนี้ไม่เห็น ประยุทธ ขึงขัง >>>

วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 08:42:35 น. มติชนออนไลน์
ครบรอบ 6 ปี "ตากใบ" 3 จว.ชายแดนใต้เดือดบึ้ม 17 จุด 17ลูก มีผู้เสียชีวิต 1 รายบาดเจ็บ 16 คน

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2553 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 6 ปีเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงใน อ.ตากใบ จ.นราธิวาสเมื่อปี 2547 จนมีผู้ชุมนุมเสียชีวิต 78 ศพและบาดเจ็บจำนวนมากขณะที่ผู้ชุมนุมอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่รัฐนั้น ตั้งแต่ช่วงเวลา 01.30 น. กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้กระจายกำลังกันก่อเหตุป่วนเมืองขึ้นพร้อมกันในพื้นที่ 7 อำเภอของ จ.นราธิวาส ด้วยการลอบนำระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบขึ้นเป็นระเบิดชนิดใหม่ จุดชนวนด้วยการเหยียบ ลอบนำไปฝังไว้ในสวนยางพาราของชาวบ้าน จากนั้นตัดโค่นต้นยาง เพื่อหลอกให้เจ้าของสวนยางเข้าตรวจสภาพความเสียหาย เดินไปเหยียบกับระเบิดที่คนร้ายฝังไว้ ทำให้เจ้าของสวนยางซึ่งเป็นชาวไทยพุทธเดินไปเหยียบกับระเบิดที่คนร้ายฝังไว้ได้รับบา​ดเจ็บสาหัสที่เท้ารวม 14 คน นอกจากนี้ในพื้นที่จังหวัดปัตตานีและยะลามีเหตุรอบวางระเบิดเช่นเดียวกัน

ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า สรุปเหตุระเบิดวันที่ 24-25 ต.ค.53 ถึงเวลา 18.00 น.

สรุประเบิด พื้นที่จังหวัด นราธิวาส (ระเบิดแล้ว)
1. อ.รือเสาะ จำนวน 4 จุด
1.1 เวลา 2123 บ.บาลูกา ต.สามัคคี ไม่มีผู้บาดเจ็บ
1.2 เวลา 0420 บ.บากง ต.รือเสาะ ราษฎรเจ็บ 1 คน เสียชีวิตที่ รพ.
1.3 เวลา 0815 บ.ยาแลเบาะ (บ.ท่าเรือ) ต.รือเสาะ จนท.ตร.เจ็บ 1 คน
1.4 เวลา 1040 บ.สามัคคี ต.สามัคคี EOD ตร.นธ. เจ็บ 2 คน

2. อ.ระแงะ จำนวน 2 จุด
2.1 เวลา 0128 บ.วัดร่อน ต.ตันหยงมัส ราษฎรเจ็บ 1 คน
2.2 เวลา 0630 บ้านไทย ต.ตันหยงมัส ราษฎรเจ็บ 1 คน

3. อ.สุคิริน จำนวน 2 จุด
3.1 เวลา 0435 บ. ส.ว.นอก ต.สุคิริน ราษฎรเจ็บ 1 คน
3.2.เวลา 0610 บ. ส.ว.นอก ต.สุคิริน ราษฎรเจ็บ 1 คน

4. อ.ศรีสาคร จำนวน 1 จุด
- บ.ไอร์ตุย ต.ศรีบรรพต ราษฎรเจ็บ 3 คน

5. อ.ยี่งอ จำนวน 1 จุด
- บ.ปูตะ ต.ละหาร ราษฎรเจ็บ 1 ราย

6. อ.บาเจาะ จำนวน 1 จุด
-บ.ดูกู ต.บาเจาะ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

7. อ.เมือง จำนวน 1 จุด
- บ.ไม้งาม ต.บางปอ ราษฎรเจ็บ 1 คน

8. อ.จะแนะ จำนวน 1 จุด
- บ.ปารี ต.จะแนะ พบขา 1 ข้าง ไม่ทราบว่าเป็นใคร

9. อ.สุไหงปาดี จำนวน 1 จุด
- บ.ต้นไม้สูง ต.ปะลุรู ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

รวมที่ระเบิดแล้วจำนวน 14 จุด (14 ลูก)
-จนท.ตร.บาดเจ็บเจ็บ 3 คน
-ราษฎรบาดเจ็บ 10 คน (ไม่ทราบว่าใคร 1 คน)
-ราษฎร เสียชีวิต 1 คน

ระเบิดที่เก็บกู้ได้ดังนี้ (โดยการทำให้ระเบิดและเก็บกู้)
1. อ.จะแนะ จำนวน 5 ลูก (บ.ปารี ต.จะแนะ )
2. อ.สุไหงปาดี จำนวน 1 ลูก (บ.ต้นไม้สูง ต.ปะลุรู)
3. อ.ตากใบ จำนวน 1 ลูก (บ.ทรายขาว ต.ไพรวัน)
รวม 7 ลูก

.........................................................

ระเบิดพื้นที่จังหวัดยะลา
อ.รามัน จำนวน 1 จุด
-บ.ไทย ม.2 ต.ตะโล๊ะหะลอ ราษฎรเจ็บ 1 คน

ระเบิดที่เก็บกู้ได้ (โดยการทำให้ระเบิดและเก็บกู้)
อ.รามัน จำนวน 2 ลูก
-บ.ทุ่งขมิ้น ม.3 ต.ตะโล๊ะหะลอ 2 ลูก (ทำให้ระเบิด 1 เก็บกู้ 1)

............................................................

ระเบิดพื้นที่จังหวัดปัตตานี
อ.กะพ้อ จำนวน 2 จุด
-บ.เจาะกะพ้อ ต.กะรุบี ราษฎรเจ็บ 2 คน

............................................................

รวมระเบิดที่ระเบิดแล้ว
จว.นธ. จำนวน 14 จุด (14 ลูก)
จว.ยล. จำนวน 1 จุด (1 ลูก)
จว.ปน. จำนวน 2 จุด (2 ลูก)
รวม จำนวน 17 จุด 17 ลูก

ระเบิดที่เก็บกู้ได้(โดยการทำให้ระเบิด และเก็บกู้)
จว.นธ. จำนวน 7 ลูก
จว.ยล. จำนวน 2 ลูก
จว.ปน จำนวน – ลูก
รวม 9 ลูก

การสูญเสียบาดเจ็บ และเสียชีวิต
จว.นธ.
จนท.ตร.บาดเจ็บ 3 คน
ราษฎร บาดเจ็บ 10 คน (ไม่ทราบเป็นผู้ใด 1 คน)(พุทธ 8 คน มุสลิม 1 คน ไม่ทราบศาสนา 1 คน)
ราษฎรเสียชีวิต 1 คน

จว.ยล.
ราษฎร บาดเจ็บ 1 คน

จว.ปน.
ราษฎร บาดเจ็บ 2 คน (พุทธ 1คน มุสลิม 1 คน )

รวม 3 จังหวัด เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 16 คน
จนท.ตร.บาดเจ็บ 3 คน
ราษฎร บาดเจ็บ 13 คน (พุทธ 10 คน มุสลิม 2 คน ไม่ทราบศาสนา 1 คน)
ราษฎร เสียชีวิต 1 คน

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1288057580&grpid=00&catid=

-------------------------------------------------------------

ย่องยื่นพาสปอร์ตอริสมันต์ ขอวีซ่าเขมรเผ่นประเทศที่ 3

"ประยุทธ์" ลั่น กลุ่มเสื้อแดงยื่นหนังสือ เลขาฯ ยูเอ็น ห้ามชุมนุมทุกกรณี หวั่นกระทบภาพลักษณ์ประเทศ วอนคนไทยหยุดทะเลาะกัน ร่วมแก้ปัญหาน้ำท่วมก่อน เตือนเรื่องหมิ่นสถาบัน ขอแจ้งเตือนให้ทราบ กำลังดำเนินการจับกุม แล้วอย่ามาโอดครวญ ระบุ ตั้งแต่ปู่ ย่า ตา ยาย ล้วนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสถาบันพระมหากษัตริย์มาทั้งสิ้น ด้าน ตำรวจนครบาล จัดกำลัง 7 กองร้อย รับมือ

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 25 ต.ค. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 25-28 ต.ค.ถึงการเตรียมความพร้อม รักษาความปลอดภัยให้กับ นายบัน คี มูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่จะเดินทางมาประเทศไทยในวันที่ 26 ต.ค.นี้ว่า ได้มอบหมายให้ พล.อ.ธีระวัฒน์ บุณยะประดับ รอง ผบ.ทบ. เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ และสั่งการแทน ซึ่งคงไม่ต้องเป็นห่วง และหากมีเรื่องเร่งด่วนตนก็สามารถสั่งการข้ามประเทศ และสามารถบินกลับมาได้ทันที โดยทาง ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถาน การณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ได้มีการประชุมและวางแผนในเรื่องนี้มาประมาณเดือนเศษ ๆ แล้ว ในขณะนี้พื้นที่ กรุงเทพฯ ยังประกาศ ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และได้มอบหมายให้จัดทำแผนรับรองในเรื่องของการดูแลรักษาความปลอดภัยของ นายบัน คี มูน ซึ่งได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบหลัก โดยมีแผนรักษาความปลอดภัยทั้งบุคคล สถานที่ และเส้นทางการเดินทาง

“ทั้งนี้ เบื้องต้นได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพันกว่านาย โดยทหารจะเป็นเจ้าหน้าที่สนับสนุนหลายร้อยนาย พร้อมทั้งจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเตรียมพร้อม หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลด้านการข่าวถึงการก่อเหตุใน ช่วงที่ เลขาฯยูเอ็นเดินทางมา แต่หน่วยงานด้านความมั่นคงไม่ได้ประมาท ได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไว้แล้ว ศอฉ.ได้ลงมติว่า ห้ามไม่ให้มีการชุมนุมโดยเด็ดขาด ซึ่งหากมีปัญหาขัดข้องใจก็ให้ส่งตัวแทนมายื่นหนังสือต่อ เลขาฯ ยูเอ็นได้ ทั้งนี้ขอร้องว่ามันเป็นหน้าตาของประเทศไทย จะทำอะไรก็ตามต้องทำแบบผู้ที่เจริญแล้ว หากมีปัญหาหรือข้อขัดข้องใด ๆ ก็ตาม หากจะให้ต่างชาติหรือ ยูเอ็นรับทราบ ก็สามารถเสนอได้เป็นเอกสาร ไม่ใช่ว่ามาชุมนุมเป็นกลุ่มใหญ่ แล้วก็สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ให้คนต่างชาติเขาเห็น ผมว่ามันน่าอับอาย ก็ขอเตือนไว้ว่าอย่าทำเลยดีกว่า เพราะไม่เกิดประโยชน์” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เมื่อเวลามีปัญหา อย่างที่ชายแดนมีเรื่องก็ต้องเรียกทหารทุกที แต่พอสงบเรียบร้อยทหาร ก็ถูกเล่นงานทุกที ทั้ง ๆ ที่ทหารก็คือลูก หลานของท่าน แล้วจะไปฆ่าทำลายประชาชน ได้อย่างไร หรือบอกว่า ตนไปสั่งฆ่ามันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ทหารที่ทำหน้าที่ทุกวันนี้ก็ทำตามกฎหมาย และไม่ได้เข้าข้างใคร ขอให้เข้าใจด้วย เมื่อตนได้กล่าวชี้แจงนั้น ก็ได้กล่าวในฐานะเป็นผู้บัญชาการทหารบก ไม่ใช่เป็นของตนเองที่อยากจะทำอะไรก็ทำได้หรือไม่ได้ ต้องระมัดระวังตัวตลอดเวลา พูดไปก็ต้องระวังเดี๋ยวจะพาดพิงไปยังฝ่ายอื่น ดังที่ตนเคยกล่าวไปแล้วว่าคนไทยมีแค่ 2 พวก คือ คนดีกับคนไม่ดี คนปกติกับคนทำผิดกฎหมาย ซึ่งคนไม่ดีกับคนทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดีไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามและค่อยไปต่อสู​้ทางกฎหมาย

“ผมเตือนในเรื่องของสถาบัน ทุก ครั้งที่มีการชุมนุมและมีการเขียนป้าย โปส เตอร์ เขียนที่พื้น ตอนนี้มีหลักฐานแล้ว กำลังดำเนินการในการจับกุมอยู่ ก็ขอแจ้งให้ทราบไว้เลย แล้วก็อย่ามาโอดครวญ เพราะได้มีการเตือนหลายครั้งแล้ว แล้วท่านก็ไม่สมควรที่จะทำแบบนั้นด้วย ถ้าทำไปเพราะไม่รู้ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ให้ไปถามผู้ปกครองท่าน ถ้าไปถามผู้ปกครองท่านแล้วยังไม่รู้อีกก็ไปถามเหนือกว่านั้น ทุกคนที่ผ่านมาตั้งแต่ปู่ย่าตายายได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสถา บันพระมหากษัตริย์ทั้งสิ้นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่ารัชกาลไหนก็ตามประเทศไทย เกิดขึ้นด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ และวัน นี้ก็ยังมีสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ ดังนั้นในเรื่องของประชาธิปไตยจะแสดงออกโดยวิธีใดก็ตามก็อย่านำสถาบันพระมหากษัตริย์​มาเกี่ยวข้อง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการดำเนินการกับขบวน การล้มเจ้า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่ามีการสอบสวนสืบสวน ดำเนินการคดีอยู่ ปัจจุบันใครไม่เกี่ยวข้องก็ไม่ต้องออกมาพูด เจ้าหน้าที่ทุกส่วนยอมไม่ได้เรื่องการล้มสถาบัน เราพยายามทำความเข้าใจให้ทุกคนได้นึกถึงว่าทำอย่างไรให้ประเทศไทยไปได้ ถ้ายังคงดื้อดึง ขัดขืน หรือหาช่องว่างของกฎหมายดำเนินการอยู่อย่างปัจจุบัน จะไม่มีอะไรดีขึ้นเลย ที่สำคัญทั่ว โลกจะมองว่าประเทศไทยเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่สถาบันพระมหากษัตริย์ทำมาตลอดเวลาตลอดพระชนม์ชีพของท่าน คือสร้างให้ทุกคนในโลก 100 กว่าประเทศรู้จักประเทศไทย

“ผมคิดว่าพระองค์ทำได้ดีกว่าทุกส่วน อย่าลืมว่าทุกประเทศชื่นชม แล้วอยากมาเที่ยวเมืองไทย และไม่ว่าจะเป็นความเจริญก้าวหน้า ด้านการเกษตร ความพอเพียง เป็นสิ่งที่สถาบันพระมหากษัตริย์ทำตลอดพระชนม์ชีพ แล้วท่านเป็นใคร ที่มาทำ มาเขียน อายุน้อย ๆ ทั้งนั้น รู้เรื่องหรือเปล่าว่าทำอะไรอยู่ เพราะฉะนั้นน่าจะไปทบทวนตัวเอง ต้องไปถามผู้ปกครองของท่านว่าเคยได้รับพระบารมีหรือเปล่า คนในประเทศไทยก็ได้รับทั้งหมด ซึ่งประวัติศาสตร์ชาติไทยเป็นอย่างไร อนาคตก็เป็นอย่างนั้น ก็คืออยู่ด้วยกันอย่างสันติ คือไม่มีพวก ไม่มีฝ่าย ไม่ทำผิดกฎหมาย ให้เจ้าหน้าที่ลำบากใจ ผมเรียนว่าช่วงนี้ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต่างเหน็ดเหนื่อยเรื่องน้ำท่วม แล้วท่านยังจะทะเลาะเถียงกันอยู่ทำให้รัฐบาลทำงานไม่ได้ ก็หยุด ๆ กันซักพักให้น้ำหายท่วมแล้วค่อยว่ากันใหม่ ถ้าจะทะเลาะกันก็เอาไว้วันหลัง แล้วผมขออีกครั้งว่าสถาบันอย่าเอาลงมายุ่งเกี่ยว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวว่า ได้รับการตอบรับจากเจ้าหน้าที่ยูเอ็น ประจำประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยอนุญาตให้ส่งตัวแทนกลุ่ม นปช. เข้ายื่นหนังสือต่อ นายบัน คี มูน ภายในสำนักงานยูเอ็น ได้ 4 คน ประกอบด้วย น.ส.จารุพรรณ กุลดิลก ทีมวิชาการกลุ่ม นปช. นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส. กมลเกด อัคฮาด หนึ่งในผู้เสียชีวิต 6 ศพ ในวัดปทุมวนารามฯ และตนเอง ส่วนคนที่ 4 อยู่ ระหว่างการพิจารณา สำหรับเวลาคาดว่าอยู่ระหว่าง 13.00-14.00 น. ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ห้ามคนเสื้อแดงชุมนุมในระหว่างที่เลขาธิการยูเอ็นเยือนประเทศไทยนั้น ไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วง เพราะไม่มีการชุมนุมอยู่แล้ว หลังยื่นหนังสือเสร็จจะเดินทางกลับทันที แต่ทั้งนี้ตนก็ไม่สามารถไปห้ามผู้ที่จะมาร่วมเป็นสักขีพยานได้ และไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีคนมาร่วมจำนวนเท่าใด แต่ไม่มีปัญหาอะไร อยู่แล้วเพราะเราส่งตัวแทนเข้าไปแค่ 4 คน ที่เหลือก็อยู่ข้างนอก ซึ่งตนก็ขอร้องให้พี่น้องอยู่อย่างสุภาพชน แต่ความจริง ผบ.ทบ. มีหน้าที่ป้องกันประเทศไม่ใช่มากำหนดการยื่นหนังสือของประชาชน และขอให้ พล.อ. ประยุทธ์ มองโลกในแง่ดีบ้าง เพราะถ้ามองแบบมีปัญหาก็จะมีแต่ปัญหา

ทางด้าน พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานด้านการจราจร พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก บช.น. พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ร่วมประชุม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมมาตรการรับมือ กลุ่ม นปช. ที่จะมายื่นหนังสือต่อ นายบัน คี มูน ว่า ได้จัดเตรียมกำลังตำรวจนครบาลเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยไว้ 7 กองร้อย ประกอบด้วย บก.น.1, 2, 5, 6 และ กองอารักขาถวายความปลอดภัยและควบคุมฝูงชน (บก.อคฝ.) ซึ่งทุกหน่วย มีหน้าที่รับผิดชอบดูในพื้นที่ส่วนของตนเอง เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยมากที่สุด ส่วนการยื่นหนังสือของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ก็ คงจะต้องมีดำเนินการไป เพราะว่า เลขาฯ ยูเอ็น ไปที่ไหนทั่วโลกก็มักจะมีการยื่นหนังสือ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่อาจจะไม่ใช่กลุ่มคนเสื้อแดงอย่างเดียว อาจจะมีกลุ่มอื่น ๆ ด้วย ซึ่งจะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ในจุดที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษคือ บริเวณทำเนียบรัฐบาล และบริเวณหน้ายูเอ็น แต่คาดว่าหากมีการยื่นหนังสือก็คงจะเป็นที่หน้ายูเอ็น โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต. วิชัย คอยดูแลจัดระเบียบ

วันเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า นาย อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง หรือ กี้ร์ ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย หลบหนีหมายจับของทางการไทย ได้นำพาสปอร์ต มาขอวีซ่าเข้าประเทศกัมพูชา ต่อกงสุลใหญ่กัมพูชา ประจำอรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อจะเดินทางต่อไปยังประเทศที่สาม โดยรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 24 ต.ค. เวลา 17.00 น. ได้มีผู้นำหนังสือเดินทางของ นายอริสมันต์ มายื่นขอวีซ่าเข้าประเทศ ต่อกงสุลใหญ่ กัมพูชา ซึ่งตั้งอยู่ที่สามแยกโคกสะแบง บ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชาประมาณ 1 กม. โดยไม่ได้นำตัว นายอริสมันต์มาด้วยแต่อย่างใด แต่ในหนังสือเดินทางของ นายอริสมันต์ ได้มีรอยตราประทับของ ตม.ไทยด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นตราปลอม แต่ก็ได้มีการออก วีซ่าให้กับ นายอริสมันต์ โดยลงวันที่ 24 ต.ค. 2553 ส่วนตัว นายอริสมันต์ มีรายงานข่าวแจ้งว่า ได้พักอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.เสียมราฐ ของกัมพูชา โดยมีเจ้าหน้าที่กัมพูชาและการ์ดคนไทยคอยเฝ้าประกบดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=8&contentID=100291

--------------------------------------------------------

ไม่เห็นกระตือรือร้นเหมือนที่ทำกับม็อบเสื้อแดงเลย
แค่เขาจะไปยื่นหนังสือต่อเลขา UN ก็กลับ
แต่ทำราวกับว่า เขาจะไปฆ่าใครตาย
ภาพลักษณ์ประเทศเสียหาย
ทำไมตอนมาทำรัฐประหารนี่
ภาพลักษณ์ประเทศดียังไง
ไล่ยิงคนมือเปล่าอีก ภาพลักษณ์ดียังไง
ทำไมกรณีทางใต้
ไม่เห็นขึงขังสั่งการออกทีวีแบบนี้
หรือเห็นว่าพวกนั้นมีอาวุธ
แต่เสื้อแดงไม่ค่อยมีเท่าไหร่
แถมมีก็หน่อมแหน้มอีก
เลยสามารถออกอาการขึงขังสั่งการได้
แต่กับพวกมีอาวุธหงอ เฮ้อ
แถมอีกเรื่อง
ประวัติศาสตร์หลายๆ ที่ พบว่า
ช่วงท้ายๆ ผู้มีอำนาจ
มักจะเห็นการใช้อำนาจทางทหารข่มขู่ประชาชนมากขึ้น
ยิ่งมีมากเท่าไหร่ก็ยิ่งใกล้วาระนั้นเข้าไปทุกที
ไม่มีคนที่เขาเกลียดอะไรแล้ว
เขาจะยอมจำนนโดยการถูกกดหัวหรอก
มีแต่พวกบ้าอำนาจไม่รู้เท่านั้น

แต่ก็เห็นว่าดี
เพราะว่า สถานการณ์ช่างเหมาะและบังเอิญดีแท้
ไม่ต้องแจกยาหยอดตาอะไรเลยพับผ่า
พวกเล่นแก้ผ้าโชว์อำนาจกันให้เห็นๆ เลย
ลูกน้องวางอำนาจบาตรใหญ่ใส่ชาวบ้าน
คิดว่าเจ้านายจะได้รับการยกย่องเพิ่มขึ้นหรือลดลง
อันนี้เป็นคำถาม ลองแกล้งวัดไอคิวเหล่าพวกขึงขังดู อิอิ

ผมนึกถึงสะพรั่งยังไงไม่รู้
ตอนแรก งานนี้ผมว่าจะอู้ไม่ไป
แต่พอได้ยิน ประยุทธ พูด
เกือบจะไปแต่เช้าแล้ว
แต่พบว่าเงินในกระเป๋าตอนนี้
เหลืออยู่ 40 บาท อิอิ
พอสำหรับข้าวเย็นวันนี้
ค่าเดินทางไปกลับที่ม็อบ
สงสัยจะไปได้อย่างเดียวกลับไม่ได้ อิอิ
เลยอู้ต่อ เอาไว้งวดหน้า
ขู่มาอีก ไม่พลาดแน่
ช่วงนี้รายจ่ายนอกแผนการใช้เงินเราเยอะ
เมื่อไหร่จะถึงพรุ่งนี้หนอ
เงินเดือนออกแล้ว
ไปยืมญาติบ่อยๆ ก็เกรงใจ
เดี๋ยวเขาจะไม่รับโทรศัพท์เอา อิอิ
เลยต้องใช้วิธีดัดหลังตัวเองไปพลางๆ
แบบว่าช่วงเงินเดือนออกอยากได้อะไรก็ช็อปกระจาย
แล้วมาอดช่วงปลายเดือนเอา
เหมือนสมัยเข้ามาเรียนในกรุงเทพเลย

โดย มาหาอะไร
FfF