พักนี้มีข่าวเกี่ยวกับปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ
ซึ่งเท่าที่ดูปัญหาเกิดจากการใช้เงิน
ผิดวัตถุประสงค์ของคนที่ให้
ซึ่งอาจทำให้คนที่ให้
รู้สึกสงสัยคลางแคลงใจ
จนเกิดความเข้าใจผิดกันได้
ถ้าไม่รีบเคลียร์ให้ชัดเจน
อันที่จริงถ้านำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ของคนให้
ปัญหาก็จะไม่เกิดหรือเกิดก็น้อยมาก
แต่ถ้านำไปใช้ไม่ถูกวัตถุประสงค์
จะเกิดปัญหามากมายตามมา
เหมือนคุณบริจาคเงินสร้างโบสถ์
แต่พระเอาไปใช้จ่ายเป็นค่าไฟในวัด
ถ้าคนที่บริจาครู้ เขาอาจไม่พอใจได้
เพราะมันผิดวัตถุประสงค์ของเขา
แม้จะเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์
ต่อคนที่ได้รับเหมือนกันก็ตาม
หรือจะคิดว่าเงินจำนวนไม่มาก
เอาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ก็คงไม่น่าจะเป็นอะไร
หรือไม่น่ามาโกรธกัน
ซึ่งคงไม่น่าจะถูกต้องนัก
เพราะแม้เขาจะบริจาคเงินจำนวนน้อยนิด
อาจคนละ 20 บาท 100 บาท
เพื่อทำบุญสร้างโบสถ์อย่างที่ยกตัวอย่างไว้แต่แรก
แต่เขาตั้งจิตอธิฐานว่าต้องการให้สร้างโบสถ์
ใครเอาไปใช้อย่างอื่น คงไม่ใช่เรื่องที่ถูกนัก
และเดี๋ยวนี้ตามวัดใหญ่ๆ ที่มีคนบริจาคเงินมากๆ
ยังแยกกล่องให้ใส่เงินบริจาค
ว่าจะเอาไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในวัด
ไปสร้างโบสถ์ หรือเข้ามูลนิธิต่างๆ
จะเห็นได้ว่าแม้แต่วัด เขายังต้องแยกกล่องรับเงิน
เพื่อนำเงินไปใช้ให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของผู้ให้เลย
หรืออีกกรณีหนึ่ง
สมมุติมีคนมาขอเงินคุณ บอกว่าตกรถกลับบ้านไม่ได้
ปรากฏว่าถ้าคุณสงสารเกิดให้เงินช่วยเขาไป
แต่มารู้ทีหลังว่า ไม่ได้เอาไปใช้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายกลับบ้าน
แม้เป็นเงินไม่กี่บาท ก็อาจทำให้คุณโกรธได้
เพราะรู้สึกถูกหลอกลวง
การเสียเงินเป็นแสนเป็นล้าน
ถ้าคุณเสียไปเพื่อแลกกับความสุขคุณ
และคุณมีเงินเหลือเฟือ
คุณอาจรู้สึกเฉยๆ กับเงินก้อนนั้น
แต่ถ้าคุณเสียไปเพราะโดนหลอกลวง
ความรู้สึกจะเปลี่ยนไป
แม้โดนหลอกไปแค่บาทเดียวก็ตาม
อาจเจ็บใจจนจำไม่ลืมก็ได้
ยิ่งถ้าเยอะๆ อาจถึงขั้นนอนไม่หลับไปหลายวันได้เหมือนกัน
หรืออาจกระทำการใดๆ
อย่างไร้สติได้เหมือนกันสำหรับบางคน
เพราะการเสียรู้คน กับ ความเต็มใจ มันต่างกันมาก
ต่อให้มูลค่าที่เสียไปเท่ากันหรือไม่เท่ากันก็ตาม
ดังนั้นควรใช้เงินให้ถูกวัตถุประสงค์ของคนบริจาค
เพื่อแก้ปัญหาที่จะมีตามมาภายหลัง
โดย มาหาอะไร
FfF
บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.