บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


14 ตุลาคม 2553

<<< เรื่องเสบียงนั้นสำคัญ ต้องควบคุมการใช้มันให้ดี และมีประสิทธิภาพ >>

ในสงครามสมัยก่อน
กลยุทธ์หนึ่งที่ใช้แล้วได้ผลมาหลายสงคราม
ก็คือการตัดเสบียงฝ่ายข้าศึก
ซึ่งมีทั้งการปิดเส้นทางส่งเสบียง
การปล้นหรือทำลายเสบียงข้าศึก
หรือแม้แต่การส่งคนไปผลาญเสบียงข้าศึก
คือทำยังไงก็ได้ให้ข้าศึกขาดเสบียง
เมื่อกองทัพเดินด้วยท้อง
พอขาดเสบียงทั้งข้าวและอาหาร
ก็มิอาจต้านทานต่อสู้ต่อไปได้
และพ่ายแพ้ไปในที่สุด

ถ้าเป็นเรื่องม็อบ
เสบียงก็น่าจะหมายถึงเงินทุน
ที่จะใช้ในการทำม็อบ
ซึ่งฝ่ายตรงข้ามก็คงคิดหาทางตัดเสบียงให้ได้
เช่น ตัดเส้นทางการจ่ายเสบียง
โดยอายัดเงินนายทุนหนุนม็อบ
หรือข่มขู่คุกคามนายทุนเพื่อให้หยุดส่งเสบียง
หรือพวกที่แฝงตัวเข้ามาในม็อบ
ทำการกั๊กไม่จ่ายเสบียงในยามที่จำเป็นต้องใช้
หรืออีกวิธีก็คือการผลาญเสบียง
หรือผลาญเงินทุนให้หมดๆ ไป
เช่น นำไปใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย
หรือแอบยักยอกเข้ากระเป่าตนเอง
ซึ่งกรณีหลังนี่อาจเป็นการกระทำ
เพราะความละโมบโลภมาก
แต่ผลของการกระทำนั้น
มันเข้าลักษณะช่วยฝ่ายตรงข้าม
ผลาญเสบียงได้เหมือนกัน

แทนที่เสบียงเหล่านั้น
จะถูกนำไปใช้อย่างเต็มที่
เพื่อให้ม็อบประสบชัยชนะ
เมื่อถูกตัดเสบียงหรือโดนกั๊กเอาไว้
หรือโดนยักยอกไป
ก็อาจส่งผลต่อการดำเนินการของม็อบได้
จนอาจส่งผลถึงแพ้ศึกครั้งนั้นๆ ได้อีกด้วย

ดังนั้นไม่ควรสนับสนุน ปิดบัง
ถ้ารู้ว่ามีเรื่องไม่โปร่งใส
เกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ ในม็อบ
เพราะมันเท่ากับไม่ได้รับการปิดรูรั่ว
จุดอ่อนไม่ได้รับการแก้ไข
ซึ่งจะมีผลต่อผลแพ้ชนะในศึกครั้งต่อไปได้อีกด้วย
ไม่ควรคิดว่ารอให้จบศึกก่อน ถึงค่อยมาเคลียร์กัน
เพราะมันอาจหมายถึงรอให้แพ้ศึกครั้งสุดท้าย
แล้วค่อยมาเคลียร์กันมันไม่มีประโยชน์
สู้เคลียร์หลังจบศึกในแต่ละครั้งจะดีกว่า
จะได้นำข้อผิดพลาดไปปรับปรุงแก้ไข
เพื่อช่วยเสริมให้ชนะศึกครั้งสุดท้ายให้ได้


วิธีแก้ปัญหาการถูกตัดเสบียงจากนายทุน
ก็คือการระดมทุนจากมวลชน
เช่น จัดโตีะจีน จัดคอนเสร์ต อะไรพวกนี้
ตามที่เคยๆ ทำกันมาแล้ว
แต่วิธีนี้แก้ปัญหาไม่ได้ยั่งยืน
คือไม่สามารถจัดได้บ่อยๆ
และช่วงวิกฤตจริงๆ ไม่สามารถจัดได้เลย
และถ้าได้ทุนมาแล้ว
ยังต้องมีค่าใช้จ่ายมากมาย
ในกรณีม็อบระยะยาว
ก็ไม่มีนายทุนใหญ่หรือทุนจากมวลชนที่ไหน
จะสนับสนุนได้นานๆ ตลอดไป

วิธีแก้ปัญหาเรื่องเสบียง
ก็ง่ายๆ ไม่ยาก ถ้าคิดจะทำ
ก็ด้วยการลดต้นทุน
เช่น การตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในม็อบออกไป
โดยจำลองสถานการณ์ว่า
โดนตัดเสบียงทุกเส้นทาง
เช่น ถ้าเราตัดเรื่องเวทีออกไปได้
ค่าใช้จ่ายจะหายไปจำนวนมากมาย
ทั้งเครื่องเสียง ฉาก เวที หรือค่าจิปาถะเกี่ยวกับเวที
ซึ่งเมื่ออยู่ในช่วงวิกฤต ก็มีเวทีไม่ได้อยู่แล้ว
เหมือนเช่น ช่วงนี้ในกรุงเทพที่ยังมี พรก.ฉุกเฉินอยู่
ก็จะช่วยลดการพึ่งพาเสบียงไปได้เยอะมากๆ

ถ้าทำให้เป็นเหมือนม็อบไร้แกนนำ 2 ครั้งที่ผ่านมา
ทั้งที่ราชประสงค์ล่าสุด และที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
เทียบกับช่วงที่มีเวทีจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน
เกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ
และถ้าจะลดต้นทุนลงไปอีก
โดยตัดส่วนที่สร้างสีสันไม่จำเป็นออกไป
ก็แทบไม่ได้จ่ายอะไรเลย
แต่ละคนรับผิดชอบมากันเอง
ดูแลปากท้องตนเอง
ม็อบแบบนี้สู้กันยาวๆ
นานแค่ไหนก็อยู่ได้สบายๆ
มากกว่าม็อบที่มีค่าใช้จ่ายยุบยับไปหมด
ถ้าพัฒนามาจนเป็นแบบนี้ได้
ก็แทบไม่ต้องไปสนใจ
เรื่องใครจะมาตัดเสบียงอะไรเลย
เพราะไม่ต้องใช้เสบียงจากใคร
นอกจากเสบียงใครเสบียงมัน
แต่ในความเป็นจริงมีบางคนมีเสบียงมาก
ก็อาจขนเสบียงเช่น นำอาหารมาแจกจ่ายเผื่อคนอื่น
หรือออกค่าใช้จ่ายเพื่อพาเพื่อนฝูงมาร่วมม็อบเพิ่มก็ได้


แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่า
เมื่อพัฒนามาจนลดต้นทุนได้มากมาย
ทำไมกลับคิดไปเพิ่มต้นทุนเหมือนเดิม
ด้วยการทำม็อบแบบเดิมๆ
ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะมีปัญหาเรื่องเสบียงในอนาคตได้อีก

ปล. กรณีม็อบไร้แกนนำ
ชื่อว่าไร้แกนนำก็จริง
แต่ช่วงแรกๆ ที่ม็อบยังไม่มีใครเคยคิดทำมาก่อน
หรือยังพึ่งทำไม่กี่ครั้ง
ก็ต้องมีคนเด่นคนดังพอที่จะจุดพลุ
ช่วยประคองไปก่อน
โดยจุดพลุนัดให้ไปชุมนุมที่นั่นที่นี่
โดยไม่ต้องเข้าไปยังสถานที่ชุมนุมเลยก็ได้
พัฒนาได้แบบนี้เมื่อไหร่
นัดชุมนุมทางไกลจากต่างประเทศยังได้เลย
โดยไม่จำเป็นต้องมีแกนนำมานำในม็อบอีกต่อไป

โดย มาหาอะไร
FfF