มันมีหลายวิธี แต่วันนี้จะขอยกตัวอย่างสัก 1 วิธี
ซึ่งที่จริงหลายคนก็น่าจะรู้แล้วแต่อาจลืมไปแล้ว
ง่ายๆ ถ้าเคยดูหนังพวกเจ้าพ่อมาเฟียทั้งหลาย
จะเห็นคนแฝงเข้ามาในองค์กรเหล่านั้นด้วยวิธีการต่างๆ
เพื่อให้คนคุมองค์กรนั้นๆ เชื่อใจจนไว้ใจ
สั่งให้ไปทำนั่นนี่ รวมไปถึงรับรู้ข้อมูลทั้งองค์กร
วิธีที่จะทำให้เชื่อใจ ก็ง่ายๆ ก็คือทำให้เชื่อใจนั่นแหล่ะ
ไม่ได้กวนแต่บอกวิธีไปก็ไม่หมดแล้วแต่พวกนั้นจะคิดจะทำกัน
แต่จุดประสงค์คือทำทุกอย่างเพื่อทำให้เชื่อใจ
วิธีสังเกตุก็ไม่ยาก
อย่างที่เคยเขียนไว้เรื่อง
<<< ผีเสื้อยังไงก็เป็นผีเสื้อ >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2009/12/blog-post_29.html
จะแปลงร่างเป็นหนอนเป็นดักแด้
สุดท้ายก็จะกลายเป็นผีเสื้อให้เห็น
ดังนั้นก็ต้องสังเกตุว่าพวกเขาอยากรู้ข้อมูลอะไรในองค์กร
กรณีเรื่องม็อบนั้น
สิ่งที่เขาอยากรู้ก็มีหลายอย่างเท่าที่เดาๆ
จากข่าวที่ปรากฏออกมาก็คือ
1. ใครเป็นนายทุนหนุนม็อบ
เนื่องจากคุณไม่สามารถจะไว้ใจใครได้เลย
ถ้าคุณต้องการเป็นนายทุนหนุนม็อบแบบไม่ต้องการให้ใครรู้
ก็ต้องมีวิธีบริจาคโดยใช้รหัสลับ ชื่อแฝง
ไม่ใช่ใช้ชื่อจริง และให้แบบลับๆ
โดยคิดว่าจะเป็นความลับตลอดไป
ซึ่งก็พอพิสูจน์มาหลายครั้งหลายหนทั้งอดีตจนปัจจุบันแล้วว่า
ปิดกันไม่อยู่ แตกคอกันก็เปิดโปงกันหมดได้
ถึงไม่แตกคอ แต่มีหลักฐานครบพอที่ฝ่ายตรงข้ามจะกล่าวหาได้
ก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป
แต่ถ้าคุณพร้อมบริจาคแบบเปิดเผย
ก็ส่งตรงจากมือคุณไปเลย ไม่ต้องผ่านใครอีก
เพื่อจะได้ไม่เกิดกรณีหักหัวคิว
2. ใครร่วมขบวนการบ้าง
ซึ่งถ้าเปิดเผยก็ไม่ต้องไปเสียเวลาหาก็เห็นๆ กัน
แต่สำหรับกรณีพวกไม่อยากเปิดเผย
ก็อย่าได้เปิดเผยกับใครเป็นอันขาด
ก็อย่างที่บอกอยู่แล้วว่า ความลับมักเก็บกันไม่อยู่
ไม่คนที่คุณเปิดเผยด้วยจะเป็นคนเปิดเอง หรือชี้เป้า
ก็ฝ่ายตรงข้ามสะกดรอยตามจนเจอเอง
ยังไงเขาก็ต้องรู้สักวัน
3. คิดจะทำอะไร ยังไง
อันนี้ต้องระดับวงในสุดๆ หรือเรียกว่าระดับแกนนำขึ้นไป
ที่จะสามารถรับรู้เรื่องเหล่านี้ได้เร็วกว่าผู้อื่น
ดังนั้นเขาก็ต้องหาวิธีส่งคนเข้าไปร่วมก๊วน
หรือข้างๆ ก๊วนแกนนำให้ได้
ก็ด้วยวิธีทำให้เชื่อใจอย่างที่บอก
แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าใช้วิธีไหนบ้าง
เพราะมันพลิกแพลงได้เยอะ
และอาจไปกระทบกับคนที่เขาทำด้วยความจริงใจได้
อันที่จริงแล้วขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตย
ไม่ใช่ขบวนการมาเฟียที่ไหน
โดยเฉพาะพวกที่คิดเล่นบนดินด้วย
นั่งปรึกษากันทางเว็บให้พวกนั้นรับรู้ไปด้วยยังได้เลย
เช่น จะบอกว่าฉันจะฝึกม็อบให้กล้าสู้
เพื่อประจันหน้าในวันปะทะจริง จะทำยังงั้นยังงี้
เขารู้เขาจะใช้วิธีข่มขู่เพื่อให้กลัว ก็เท่ากับเข้าทางเรา
เพราะการฝึกคนให้กล้า ก็ต้องมีการทำให้กลัว
ถึงจะรู้ว่ากล้ากันขึ้นมารึยัง
ไม่ยังงั้นจะรู้ได้ยังไงว่ากล้าขึ้น
มาร่วมชุมนุม มาร้องรำทำเพลง ฟังปราศรัยก็กลับ
ไม่สามารถวัดได้ว่ามีความกล้าอะไร
แต่ถ้ามาในสถานการณ์ที่ฝ่ายตรงข้ามข่มขู่แล้วข่มขู่อีก
อันนี้เริ่มวัดได้แล้วว่ามีคนกล้ามามากน้อยเท่าไหร่
จะเห็นได้ว่าวิธีการสู้บนดินจริงๆ นั้น
ไม่จำเป็นต้องเป็นความลับเลย
แถมยังต้องพยายามเผยแพร่ให้รับรู้ทั่วถึงกันมากๆ ด้วยซ้ำ
ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่รู้ว่าจะส่งคนมาหาข่าวทำไม
นอกจากเปิดเว็บไซด์ล่อให้มาโพสแสดงความเห็น
ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องไปสนใจ แต่ไม่จำเป็นต้องลงรายละเอียด
แต่ถ้าพวกเล่นใต้ดิน จะมาเล่นแบบนี้ไม่ได้
วิธีที่พอจะช่วยได้บ้างในสภาวะที่ไม่รู้ใครเป็นใคร
ถ้ามีคนพยายามเข้าหาคุณ เพื่อร่วมกลุ่มกับคุณ
ควรจะระแวงมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ใช่ไว้ใจมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างที่ผมบอก ถ้าแตกกลุ่มเหลือ 1 คน 1 กลุ่ม ก็จะไม่มีปัญหา
หรือระดับย่อยๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรมากเท่าระดับที่สามารถ
คุมทุน คุมคน คุมการเคลื่อนไหวของม็อบได้
ระดับนี้ต้องมีการคัดคนและที่สำคัญต้องระวังตลอดเวลา
อย่าเชื่อใจเพราะเขาใช้วิธีทำให้เชื่อใจมากๆ นัก
เช่น เขาอาจไปทะเลาะกับฝ่ายตรงข้ามเราเลยเข้ามาเป็นพวก
ถ้าเป็นแก๊งส์มาเฟีย พวกที่แฝงตัวเข้าไปอาจต้องยิงคนพวกเดียวกัน
เพื่อจะได้ทำให้เจ้านายใหญ่ของแก๊งส์มาเฟียไว้ใจ
เหมือนในหนังเกี่ยวกับมาเฟียทั้งหลาย
ฝากเอาไว้เรื่อง 2 ใน 13 อย่า
ที่เคยเขียนไว้นานแล้ว
http://maha-arai.blogspot.com/2009/09/blog-post_14.html
"อย่าลืมว่ามีสายสืบอยู่ทุกที่
อย่าคิดว่าคนภักดีจะไม่เปลี่ยนไป"
ฝากอีกเรื่องหนึ่ง
ถ้าคุณคิดจะสู้เพื่อประชาธิปไตย
ไม่ได้สู้เพื่อใคร หรือเพื่ออะไร
เช่น ยศฐาบรรดาศักดิ์ หรือ เงินทอง
ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องดิ้นรนเข้าหาองค์กรอะไรเลย
แค่ทำตัวเป็นแกนนำตนเองได้ทุกคน
หรือทำตนเป็นชาวศิวิไลซ์ให้ได้
ก็ร่วมกันเคลื่อนไหวเพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงได้
หลังชนะได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงมาแล้ว
ก็ยังปกป้องประชาธิปไตยนั้นๆ เอาไว้ได้
ถ้าพวกเราเป็นชาวศิวิไลซ์ได้แล้ว
แต่ถ้าพวกเราเป็นชาวศิวิไลซ์ไม่ได้
แล้วพยายามใช้ทุกวิถีทางเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้
สุดท้ายพวกเราจะกลายเป็นเผด็จการชุดต่อไป
เพราะพวกเราไม่ได้พัฒนาตนเองจนเอาชนะพวกเขา
แต่เอาชนะพวกเขา เพราะแย่งอำนาจจากพวกเขามาเท่านั้นเอง
โดย มาหาอะไร
FfF
บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.