ซึ่งผมมองว่าก็แค่แวะแสดงน้ำใจ แถมยังหาแนวร่วมต่างสี
เท่าที่กลุ่มพวกเขาจะสามารถคิดและทำกันได้
ลองพิจารณาจากคำพูดของแกนนำกลุ่มและการตอบรับดังนี้
ร.อ.พิสิทธิ์ระบุว่า "มาเพื่อให้กำลังใจกับพี่น้องประชาชนต่างสี เพราะมีอุดมการณ์เดียวกัน คือความรักชาติและอยากได้ความยุติธรรม ทุกเสื้อต้องเรียกร้องความยุติธรรมด้วยกัน"
หลังจากที่ ร.อ.พิสิทธิ์พูดจบ พิธีกรบนเวทีของกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ กล่าวว่า "เหลืองและแดง ไม่ใช่ศัตรู แม้จะอยู่ต่างสี แต่ก็เป็นคนไทยเหมือนกัน"
แต่อาจไม่ถูกใจหรือทำให้กลุ่มที่คลั่งสีรับไม่ได้
ก็เลยเกิดอาการต่อต้าน แต่เลือกต่อต้านแบบมีนัยยะ
เช่นต่อต้านเฉพาะกลุ่มนี้ ที่แวะไปขึ้นเวทีพูดหาแนวร่วมด้วยซ้ำ
แต่กับทีเสื้อเหลืองมากมายที่กลับใจ
จนมาเป็นแกนนำกำหนดแนวทางการต่อสู้ให้เสื้อแดงหลายๆ คน
ไม่ว่าจะ บก.ลายจุด ไม่ว่าจะหมอแหวง และอีกหลายๆ คน
ถามว่าทำไมไม่ต่อต้าน
เพราะคนกลุ่มนี้ขึ้นเวทีพันธมิตรและเข้ากับเสื้อเหลืองจนล้มรัฐบาลทักษิณได้
วันนี้เข้ามาเป็นแกนนำกำหนดยุทธวิธีให้กับคนเสื้อแดงไม่ระแวงบ้างหรือ
ในขณะที่คนกลุ่มนี้ แค่แวะไปพูดบนเวที
แถมพูดลักษณะโน้มน้าวคนต่างสีมาเป็นพวกด้วยซ้ำ
ทำไมถึงทำเป็นรับไม่ได้
แล้วพวกที่เคยขึ้นเวทีด่าทักษิณขับไล่รัฐบาลทักษิณ
จนกลายเป็นเงื่อนไขในการทำรัฐประหาร
ทำไมถึงรับได้ นี่ก็บ่งบอกถึงสองมาตรฐานอย่างแท้จริง
ความผิดของพวกเขาน้อยนิดมากๆ หรือแทบไม่ผิดเท่าไหร่
เพียงแต่คนมีอคติกับอีกสี เลยทำเป็นรับไม่ได้
ที่พูดนี่ ไม่ได้หมายความว่า ให้ไประแวง บก.ลายจุด หรือหมอแหวงน่ะ
แค่ยกมาเปรียบเทียบ อาจพูดแรงไปหน่อยแต่ว่ายกมาให้เห็นๆ
พวกที่บอกว่าทำเป็นรับไม่ได้จะได้เข้าใจ เพราะมีตัวอย่างเปรียบเทียบชัดเจน
อีกกรณีหนึ่ง หม่อมปลื้ม อะไรที่เคยเห็นจัดรายการในทีวีเสื้อแดง
ทำไมปล่อยให้คนที่เคยบริจาคเงินหนุนพรรค ปชป. มาจัดทีวีเสื้อแดง
ทั้งๆ ที่ ควรจะต่อต้านพวก ปชป. และคนที่สนับสนุนหรือสินค้าที่ไปสนับสนุน ปชป.
มากกว่าพวกพันธมิตร เพราะเท่าที่เห็นเวลาไม่มีพวก ปชป. หนุนหลัง
พวกพันธมิตรก็ไม่มีพาวเว่อร์อะไร แสดงว่าที่เคยยิ่งใหญ่เป็นเพราะพวก ปชป. หนุนหลัง
แถมที่โดนคำสั่งไล่ฆ่าไล่ล่าในยุครัฐบาล ปชป.
พรรคนี้คงปฏิเสธความรับผิดชอบเบื้องต้นไม่ได้ และพวกหนุนหลังนั่นก็อีก
ส่วนกรณีที่พวกพันธมิตรเคยปะทะคนเสื้อแดงแล้วมีคนเจ็บตาย
แล้วถ้าเราจะเหมาพันธมิตรทั้งหมดที่เขาไม่ได้มาตีด้วยให้เป็นความผิดของพวกเขา
ถ้าอย่างนั้นกรณีเสื้อแดงบางคนที่ไปทำไม่ดีสารพัด หมายถึงเราเสื้อแดงต้องยอมรับได้ว่า
ร่วมลงมือกระทำความผิดด้วยทุกกรณี ใช่หรือไม่
ดังนั้นการพยายามล็อคเป้าโจมตีเล่นงานเฉพาะพวกพันธมิตร
หรือบอยคอตเฉพาะสินค้านายทุนพวกพันธมิตร
แต่พรรคพวก ปชป. ไม่สนใจ ปล่อยให้คนของเขามาพูดเพื่อให้คนของเราฟังได้
แต่ทีกับคนของเราไปพูดเพื่อให้คนของเขาฟังบ้างกับรับกันไม่ได้
ถ้าไม่คิดจะพูดคุยชักจูงคนต่างสี ก็เหลือแต่ปลุกคนพวกเดียวกัน
ที่ไม่ยอมออกมาร่วมหลายปีมาแล้วก็ไม่ยอมออกมาเคลื่อนไหวเท่านั้นเอง
พวกอื่นก็จ้องเป็นศัตรูต่อไป เข้าทางรัฐทหารตอนจบ
แถมพวกที่สามารถดึงคนต่างสีมาเป็นพวกได้ไม่ว่าวิธีใด
ผมว่ามีความสามารถและอดทนมากเหมือนกันถึงทำได้
พวกนี้ผมว่าเจ๋งกว่าปลุกคนเสื้อแดงด้วยกันให้ออกมาร่วมชุมนุมอีกน่ะ
เพราะว่าได้คนมาเพิ่มแบบได้กำไรเพราะเพิ่มทางเรา 1 คนก็ลดฝ่ายตรงข้าม 1 คน
และมีความยากลำบากกว่ากันมากๆ ที่จะทำได้ด้วย
จึงไม่ควรเห็นว่าการไปพูดกับเพื่อนพี่น้องคนรู้จักที่อยู่ต่างสีกัน
เป็นความผิดใหญ่หลวง ทั้งที่จริงควรยกย่องด้วยซ้ำว่ากล้าดีและมีความอดทนสูง
คราวนี้มามองในด้านกลยุทธ์
ซึ่งก็สามารถมองได้หลายรูปแบบ
เนื่องจากผมก็ไม่รู้จักคนเสื้อแดงในกลุ่มนี้สักคน
เลยไม่กล้ายืนยันให้ได้ว่า ไม่ใช่พวกแอบแฝง
มีบางคนพยายามมาแฉเรื่องเงินเรื่องทองว่า
บางคนในกลุ่มไม่ค่อยโปร่งใสอะไรกับเงินบริจาค
แต่ผมว่าเรื่องเงินเรื่องทองไม่โปร่งใสถ้าพูดถึงจำนวนเงิน
ผมว่าระดับแกนนำน่าจะโดนตรวจสอบถึงความไม่โปร่งใสมากกว่า
เพราะจำนวนเงินมหาศาลกว่ากัน
และจนบัดนี้ก็ไม่มีใครออกมาเคลียร์อะไรปล่อยให้เงียบไป
และคงไม่กล้ายืนยันว่า ไม่ใช่พวกของผู้มีอำนาจใช้ให้มาเดินเกม
ซึ่งอาจมองด้วยความระแวงได้หลายแนว เช่น
รับแผนมาเพื่อสร้างกระแสหาแนวร่วมให้กับเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ
หรือมาร่วมสร้างกระแสคลั่งชาติเสริมให้กับเครือข่ายนี้
หรือทำให้กัมพูชาเข้าใจผิดคิดว่าคนเสื้อแดงต่อต้านกัมพูชาด้วย
แล้วอาจทำให้แกนนำบางคนที่เข้าใจว่าหลบในกัมพูชามีปัญหา
หรืออาจจะมองอีกแนวก็ได้ว่า
พวกที่ออกมาต่อต้านการกระทำของคนกลุ่มนี้
ออกมาต่อต้านเพื่อสกัดไม่ให้สองสีรวมกันได้อะไรแบบนั้นก็ได้ทั้งนั้น
แต่ผมดูรวมๆ แล้ว แค่ระยะเวลาที่แวะไปให้กำลังใจและขึ้นพูดบนเวที
รวมทั้งคำพูดที่แกนนำกลุ่มนี้ขึ้นไปพูด ตามที่ผมยกตัวอย่างจากข่าวมาให้อ่าน
กรณีนี้ สำหรับผมระแวงได้ แต่ไม่ซีเรียส
จนออกอาการสร้างกระแสให้เกิดการคลั่งสีใหญ่โต
เพื่อกดดันคนกลุ่มนี้ ทั้งๆ ที่จุดมุ่งหมายของเขาก็ทำเพื่อเสื้อแดงเหมือนกัน
"..........2. โครงการเส้นทางสีแดง กำเนิดโดย คุณ ฟอร์ด เพื่อปั่นจักรยานไปทั้ง 4 ภาค โดยมีวัตถุประสงค์ เยียวยา รักษาแผลใจคนเสื้อแดง และอีก 4 ฃ้อคือ
....2.1. ปล่อย นักโทษการเมือง...........
....2.2. ยุติสองมาตรฐาน....................
....2.3. ยุติรัฐประหาร ละเมิดสิทธิ์.........
....2.4. พ.ต.ท ทักษิณ กลับบ้าน.........."
พวกที่ออกอาการมาก เหมือนไม่เคยรับข่าวอีกด้านว่าเขาไปพูดว่าอะไร
แค่รู้ว่าเขาขึ้นไปพูดเวทีพวกเสื้อเหลือง ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ทันที
ผมเดาได้ว่ามี 2 อย่างคือโกรธจริงไม่แยกแยะโกรธดะโกรธไปหมด
ถ้าไปเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเสื้อเหลือง
กับโกรธแบบมีเลศนัย คือมาสร้างกระแสให้คลั่งสีเพื่อสกัดการรวมแนวร่วมชนรัฐบาล
ซึ่งถ้าเข้ากรณีนี้ผู้ที่ได้ประโยชน์สุดๆ ก็คือรัฐบาลมากกว่าพวกอื่น
จะว่าไปแนวที่แกนนำทั้งชุดอดีตและปัจจุบันทำก็ใช่ว่าไม่น่าระแวง
มีให้ระแวงเพียบเลย แถมน่าจะระแวงมากกว่าคนกลุ่มนี้
เพราะสามารถกำหนดแนวทางเคลื่อนไหวของม็อบใหญ่ได้
อย่างล่าสุดทั้งการชอบพาม็อบเคลื่อนไปมา
ซึ่งมีโอกาสเข้าทางการสร้างสถานการณ์ฝ่ายตรงข้าม
หรือการพยายามกลับเข้ามานำมาควบคุมม็อบให้ขึ้นตรงกับแกนนำ
ด้วยเทคนิคต่างๆ ก็ตาม เช่นการกำหนดวัน
แทนที่จะทุกวันที่ 10 กับ 19 เหมือนเดิม
ต้องมานั่งคอยฟังว่าจะเป็นวันไหนดีตามที่แกนนำกำหนด
ยุ่งยาก ต้องรอฟังคำสั่งตลอด
ถ้าไม่ตามข่าวก็อาจพลาดวันไปได้อีกเหมือนกัน เป็นต้น
ระแวงได้ และควรติดตามทุกกลุ่มทุกคนที่เป็นข่าว
หรือสามารถคุมมวลชนเคลื่อนไหวได้
เผื่อจะได้ไม่พากันออกนอกลู่นอกทางอะไรแบบนั้น
แต่ต้องระวังเรื่องการสร้างกระแสคลั่งสี คลั่งแกนนำ ด้วย
เพราะมันไม่มีประโยชน์ในตอนจบคือ
ถึงชนะก็ได้ลัทธิกูถูกพวกเดียวมาแทน
ส่วนแนวคิดของ เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ
เห็นจากชื่อนึกว่าพวกมาสร้างกระแสคลั่งชาติ
แบบว่าคนประเทศเดียวกันทำผิดทำถูกไม่รู้
ขอเชียร์และโจมตีอีกประเทศ
คล้ายๆ พวกเด็กช่างกลที่ยกพวกตีกันทุกวันนี้ไม่มีผิด
ลองไปสอบถามหาสาเหตุดูก็ได้ อาจหาไม่เจอ
เพียงแค่รุ่นพี่ของรุ่นพี่ของรุ่นพี่... ไม่ถูกกันเคยตีกัน
ก็เลยเป็นมรดกตกทอดเจอหน้าพวกสถาบันคู่อริ ก็จะตีกันแบบไม่มีเหตุผล
แนวคลั่งสถาบันไม่ต่างจากพวกที่กำลังสร้างกระแสคลั่งชาติตอนนี้
แต่เห็นข้อเรียกร้องหลังๆ นี่ พอรู้แนวคิดของคนกลุ่มนี้
"นายสุนทร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามการชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาล จะยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าเครือข่ายประชาชนฯ จะยุติบทบาท เพราะกลุ่มเครือข่ายพลังแผ่นดินซึ่งมีสมณโพธิรักษ์และกองทัพธรรมเป็นแกนหลัก จะดำเนินการชุมนุมเพื่อทำการอภิวัฒน์ประเทศไทยร่วมกับกลุ่มพลังประชาชนอื่น ๆ อาทิ กลุ่มพันธมิตรฯ เครือข่ายชาวนา และเครือข่ายสลัม 4 ภาค ทำการปิดล้อมรอบทำเนียบรัฐบาล เป็นการปฏิวัติโดยประชาชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 7 เพื่อให้นักการเมืองยุติบทบาทในการบริหารประเทศเป็นการชั่วคราว คืนความยุติธรรมให้กับประชาชน 60 ล้านคน"
"รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550
มาตรา ๗ ในเมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้วินิจฉัยกรณีนั้นไป
ตามประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"
ดูแล้วแนวคิดของกลุ่มนี้ คงต้องการนำระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชกลับมาใช้
หรือไม่ก็อยากได้รัฐทหารสมบูรณ์แบบ เพราะผู้มีอำนาจหนุนหลังพวกเดียวกัน
ถึงได้มีการทำให้เกิดเรื่องขึ้น
โดยการส่งคนของพวกตัวเองและ ส.ส. ปชป. ไปทำให้กัมพูชาจับตัว
เพื่อนำมาสร้างกระแสคลั่งชาติ เพื่อทำให้เกิดภาวะเสี่ยงสงคราม
คิดว่าผู้มีอำนาจที่หนุนขบวนการนี้คงยังไม่กล้าเสี่ยงให้มีสงครามจริงๆ
คงแค่นำเหตุการณ์มาบิ้วอารมณ์ปลุกกระแสคลั่งชาติ
กับสร้างความวุ่นวายเพื่อให้มีโอกาสเกิดรัฐทหารได้ในที่สุดเท่านั้น
ซึ่งแนวคิดของเครือข่ายนี้ คิดว่าน้อยคนที่จะเข้าใจแม้ออกเป็นข่าว
แต่ไม่มีรายละเอียดอะไรชัดเจน
ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่า กลุ่มเส้นทางสีแดงพวกนี้ก็คงไม่ทราบเหมือนกัน
การหามิตรเพิ่มก็ยากพออยู่แล้ว อย่าผลักมิตรเป็นศัตรูเลย
แค่นี้ก็เหนื่อยกันสาหัสสากรรจ์อยู่แล้ว
การยึดแนวคลั่งสีเป็นแนวทางที่จะล้มพวกทรราชได้ยาก
ในหลายประเทศที่มีการล้มทรราชอย่างล่าสุดที่ตูนีเซีย
หรือของไทยในอดีตที่ล้มถนอมอะไรนี่
ก็เกิดจากการลุกฮือด้วยเหตุการณ์เล็กๆ แต่สะเทือนใจ
บวกกับแรงกดดันที่สั่งสมกันมานานจนเกิดระเบิดขึ้นมาพร้อมๆ กัน
ก็เลยทำให้เกิดแรงกระเพื่อมรุนแรงจนสามารถล้มเหล่าทรราชได้ไม่ยาก
สังเกตุจากประวัติศาสตร์จะพบว่า
พวกกองเชียร์ทรราชมักไม่ค่อยออกมาต่อต้าน
ดังนั้น ไม่ควรเน้นแค่ว่าสีแดงเท่านั้นที่จะทำให้เกิดประชาธิปไตยได้
และออกอาการต่อต้านสีอื่นอย่างรุนแรง
ถ้าไปในแนวนั้น โอกาสที่ต่างฝ่ายต่างจับอาวุธขึ้นสู้กันมีสูงมาก
และไม่ว่าสีไหนจะชนะหรือพวกฉวยโอกาสเข้ามายึดอำนาจแทน
ก็คงกลายเป็นรัฐทหารกลายๆ
ภายใต้ชื่อเรียกแปลกๆ เท่าที่จะสรรหามาสร้างภาพกัน
ถ้าขืนยังยึดหลักการคลั่งสีในการเคลื่อนไหวต่อไป
สุดท้ายก็คงจบแบบรวันดา
ไล่ฆ่าคนต่างสีกันตายเกลื่อนเมือง
ไม่มีทางทำให้เกิดประชาธิปไตยที่แท้จริงไปได้
จะเกิดรัฐทหารสมบูรณ์แบบอีกครั้ง
เพราะมีความชอบธรรมในการออกมาปกครองประเทศ
เพื่อไม่ให้มีเหตุฆ่ากันตายอีก
ระวังจะตกหลุมพรางเขา
และไม่มีประชาธิปไตยที่ไหนในโลก
ต้องรักหรือเชียร์พรรคใดพรรคหนึ่ง สีใดสีหนึ่งเท่านั้น
เชียร์พวกอื่นเป็นศัตรูไปหมด อยู่ด้วยกันไม่ได้
ก็ผลัดกันล้มเท่านั้นเองถ้าคิดแบบนั้น ประเภทเองมาข้าล้ม
สุดท้ายก็เข้าทางรัฐทหารในที่สุด
รัฐทหารคือการปกครองด้วยปลายกระบอกปืน
คนคุมอำนาจทางทหารได้เท่านั้นที่สามารถปกครองประเทศได้
จึงเป็นการปกครองของผู้มีอำนาจ โดยผู้มีอำนาจ เพื่อผู้มีอำนาจ
ไม่ใช่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง
ที่เป็นการปกครองของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน
ปล. กรณีประเทศกัมพูชา ควรเข้าใจด้วยว่า
เขาทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของประเทศเขาเป็นหลัก
เขาไม่ได้เชียร์เสื้อแดงหรือเสื้อสีไหนหรือหนุนทักษิณหรือใคร
โดยไม่สนใจผลประโยชน์ตอบแทน
ส่วนใหญ่ที่เห็นๆ ก็ทำเพื่อนำประโยชน์ความขัดแย้งระหว่างสีของไทย
ไปเป็นประโยชน์ในการเพิ่มอำนาจต่อรองผลประโยชน์ให้กับประเทศเขาเท่านั้นเอง
เสื้อแดงบางคนที่ยังหลงไปหวังอะไรกับกัมพูชาก็ควรเลิกคิดเลิกหวังได้แล้ว
และไม่ควรไปหวังแบบนั้นด้วย เพราะถึงยังไงก็เป็นต่างประเทศ
การคิดไปหวังให้ต่างประเทศมาช่วยถล่มประเทศตัวเอง
สมมุติว่ามันเกิดสภาวะแบบนั้นโดยบังเอิญเพราะฝ่ายผู้มีอำนาจ
ต้องการให้เกิดสงครามเพื่ออะไรในเกมของเขาก็ตาม
แล้วสงครามมันขยายตัวเกินควบคุมได้ จนมีเหตุโดนเพื่อนบ้านบุก
ซึ่งถ้าประเทศแพ้ก็แพ้ทั้งประเทศเหมือนกัน
และถ้าใครดึงต่างชาติมาหนุนจนตนเองชนะ
สุดท้ายก็ต้องจ่ายคืนเขาทั้งต้นและทั้งดอกไม่ว่าในรูปแบบใด
อย่างกรณีเวียตนามมาช่วนฝ่ายฮุนเซน
ก็ยังมีคนเวียตนามมากมายที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในแผ่นดินกัมพูชา
ไม่ได้กลับประเทศเขาและผลประโยชน์อื่นๆ ที่กัมพูชาต้องเสียไป
โดย มาหาอะไร
-------------------------------------------------------------
"กลุ่มเส้นทางสีแดง" ขึ้นเวทีให้กำลังใจ "เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ" ลั่นต่างสีก็รักชาติเหมือนกัน
วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2554 เวลา 15:32:24 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 16 มกราคม ว่า ที่ถนนพิษณุโลก ทำเนียบรัฐบาล ฝั่งสะพานชมัยมรุเชษฐ ซึ่งกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ นำโดยนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำเครือข่ายได้ปิดถนนพิณุโลก เพื่อชุมนุมกดดันให้รัฐบาลช่วยเหลือ 7 คนไทยที่ทางการกัมพูชาจับกุมตัวข้อหารุกล้ำเขตแดนตามปกติ
ต่อมาเวลา 12.30 น. กลุ่มคนเสื้อแดงในนามกลุ่มเส้นทางสีแดง นำโดย ร.อ.พิสิทธิ์ พิพุฒ ซึ่งจะเดินทางไปแรลลี่ภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย เพื่อให้กำลังใจและเยี่ยมเยียนครอบครัวผู้สูญเสีย จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ( นปช.) ที่แยกราชประสงค์ โดยออกเดินทางจากแยกราชประสงค์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการทหารที่เกษียณอายุราชการแล้ว ประมาณ 20 คน ได้แวะเยี่ยมกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เป็นครั้งที่ 2 พร้อมขึ้นเวทีปราศรัย
ร.อ.พิสิทธิ์ระบุว่า "มาเพื่อให้กำลังใจกับพี่น้องประชาชนต่างสี เพราะมีอุดมการณ์เดียวกัน คือความรักชาติและอยากได้ความยุติธรรม ทุกเสื้อต้องเรียกร้องความยุติธรรมด้วยกัน"
หลังจากที่ ร.อ.พิสิทธิ์พูดจบ พิธีกรบนเวทีของกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ กล่าวว่า "เหลืองและแดง ไม่ใช่ศัตรู แม้จะอยู่ต่างสี แต่ก็เป็นคนไทยเหมือนกัน"
ทั้งนี้ นายไชยวัฒน์ยืนมองการขึ้นเวทีของกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่ด้านล่าง ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะเข้าไปต้อนรับและพูดคุยอย่างเป็นกันเองประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 13.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดงจึงได้เคลื่อนขบวนออกไปทันที โดยมีกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติเดินไปส่งพร้อมโบกมือลา
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1295166796&grpid=00&catid=&subcatid=
--------------------------------------------------------------------
"โพธิรักษ์" ลั่นปฎิวัติประชาชน
วันอาทิตย์ ที่ 16 มกราคม 2554 เวลา 13:10 น
เครือข่ายประชาชนไทยฯ เตรียมถวายฎีกาช่วย 7 คนไทย 18 ม.ค. ด้าน "โพธิรักษ์" เตรียมนำทัพล้อมทำเนียบปฎิวัติประชาชน
วันนี้ (16 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุของกลุ่มเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ที่บริเวณ ถนนพิษณุโลก หน้าทำเนียบรัฐบาล เขตดุสิต ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมฯ ได้มีการยกระดับการชุมนุมเป็นกลุ่มเครือข่ายพลังแผ่นดิน โดยมีสมณะโพธิรักษ์ จากสันติอโศก นำสมาชิกกองทัพธรรมจากทั่วประเทศ เดินทางเข้ามาสมทบการชุมนุม โดยมีการตั้งเวทีปราศรัย เพิ่มจำนวนเต็นท์ถาวรอีกนับสิบหลัง พร้อมทั้งปิด ถนนพิษณุโลก ช่วงแยกพาณิชยฯ พระนครจนถึงแยกสวนมิสกวัน ส่งผลให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดอย่างหนัก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ได้ส่งตัวแทนมาเจรจาให้มีการเปิดการจราจรตามปกติ แต่ไม่เป็นผล
ทั้งนี้สมณะโพธิรักษ์ ได้สนทนาธรรมกับผู้ชุมนุมตอนหนึ่ง ว่า จะมีการยกระดับการชุมนุมไปเรี่อย ๆ จนกว่าจะสัมฤทธิ์ผล ยืนยันว่าความสัมพันธ์ในกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่มีการแตกแยกหรือเปลี่ยนแปลง แม้จะมีความเห็นที่แตกต่างกันบ้าง แต่เป้าหมายคือต้องการทำให้สังคมดีขึ้น ยังเป็นเป้าหมายเดียวกัน จึงขอให้ทุกคนอย่างหวั่นไหวกับกระแสข่าวที่ออกมา
นายสุนทร รักษ์รงค์ ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนฯ เปิดเผยว่า หลังจากทางเครือข่ายได้พยายามช่วยเหลือ 7 คนไทย ที่ถูกทหารกัมพูชาเข้ามาลักพาตัวในเขตแดนไทยไปดำเนินคดีในข้อหารุกล้ำดินแดน กัมพูชา โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ ร่วมเป็นพยานให้กับฝ่ายกัมพูชานั้น
ทำให้เครือข่ายฯ ไม่มีทางเลือกจำเป็นจะต้องพึ่งพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อให้ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยในกรณี 7 คนไทย และกรณีเขตดินแดนไทย-กัมพูชา โดยในวันที่ 18 ม.ค.นี้ เครือข่ายประชาชนจะมีการตั้งขบวนธรรมยาตรา จากทำเนียบรัฐบาลไปถวายฎีกาที่พระบรมมหาราชวัง จากนั้นเราก็จะยุติบทบาทเพื่อไม่ให้เป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจ
นายสุนทร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามการชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาล จะยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าเครือข่ายประชาชนฯ จะยุติบทบาท เพราะกลุ่มเครือข่ายพลังแผ่นดินซึ่งมีสมณโพธิรักษ์และกองทัพธรรมเป็นแกนหลัก จะดำเนินการชุมนุมเพื่อทำการอภิวัฒน์ประเทศไทยร่วมกับกลุ่มพลังประชาชนอื่น ๆ อาทิ กลุ่มพันธมิตรฯ เครือข่ายชาวนา และเครือข่ายสลัม 4 ภาค ทำการปิดล้อมรอบทำเนียบรัฐบาล เป็นการปฏิวัติโดยประชาชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 7 เพื่อให้นักการเมืองยุติบทบาทในการบริหารประเทศเป็นการชั่วคราว คืนความยุติธรรมให้กับประชาชน 60 ล้านคน
ขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะชุมนุมยืดเยื้อยาวนานเท่าใด แต่คาดว่าจะชุมนุมจนกว่าจะนักการเมืองจะยุติบทบาทและมาร่วมเจรจากับประชาชน ออกแบบประเทศไทยใหม่ ก่อนส่งคืนให้ลูกหลานต่อไป
นายสุนทร กล่าวอีกว่า การปฏิวัติโดยประชาชนครั้งนี้จะไม่เน้นปริมาณ ไม่เน้นแพ้ชนะด้วยความรุนแรง แต่จะใช้วิธีของธรรมะและเศรษฐกิจพอเพียงเป็นตัวนำ มุ่งให้ความรู้กับประชาชน มาร่วมกันปฎิรูปประเทศไทย เนื่องจากการปฏิรูประเทศที่ผ่านมาของนายอภิสิทธิ์ หมดเงิน 600 ล้านให้ นพ.ประเวศ วะสี ประธานสมัชชาปฏิรูปและนายอานันท์ ปันยารชุน ประธานกรรมการปฏิรูป แต่ก็ไม่เกิดผลอะไร เหมือนเด็กเล่นขายของ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการยกระดับด้วยการปฏิวัติและปฎิรูปด้วยพลังประชาชน.
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=561&contentID=115720
-------------------------------------------------------------------
<<< รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 >>>
มาตรา ๗ ในเมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้วินิจฉัยกรณีนั้นไป
ตามประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
http://maha-arai.blogspot.com/2009/06/blog-post_2057.html
-------------------------------------------------------------------
ลึกๆเบื้องหลังแดงขึ้นเวทีเหลือง
แดงขึ้นเวทีเหลือง-กลุ่ม เส้นทางสีแดง นำโดยคุณฟอร์ดขึ้นเวทีให้กำลังใจกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ ซึ่งแปลงร่างมาจากพันธมิตรสายสันติอโศก จนตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของมวลชนคนเสื้อแดงถึงความเหมาะสมอย่างกว้างขวาง
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
17 มกราคม 2553
ก่อนจะเป็นข่าวใหญ่คือไม่เป็นข่าว
ทั้งนี้กลุ่มเส้นทางสีแดงนำโดยผู้ใช้นามว่าคุณฟอร์ด และร.ต.ธนะสิทธิ์ พิพุฒ ได้เปิดโครงการเส้นทางสีแดงจากราชประสงค์สู่เชียงราย ระยะทาง2,800 กิโลเมตร เมื่อ10โมงเช้าวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม ทางกลุ่มแจ้งว่าสื่อมวลชนไม่ได้ให้ความสนใจทำข่าว ขณะที่เงินทุนร่อยหรอลง อาจจะเป็นมูลเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้โครงการเส้นทางสีแดงแวะไปเวทีคนไทยหัวใจ รักชาติ และขึ้นเวทีให้กำลังใจ จนตกเป็นข่าวใหญ่
แต่ข่าวใหญ่ดังกล่าวได้ถูกวิจารณ์จากนักกิจกรรมและมวลชนเสื้อเดงอย่างกว้างขวาง
มวลชนเสื้อแดงวิพากษ์ไม่เห็นด้วยแดงขึ้นเวทีเหลือง
หลังจากมีข่าวกลุ่มนักกิจกรรมเส้นทางสีแดงปั่นจักรยานผ่านไปให้กำลังใจกลุ่มคน ไทยหัวใจรักชาติ ซึ่งตั้งเวทีอยู่หน้าทำเนียบรัฐบาล และได้ขึ้นเวทีเพื่อให้กำลังใจด้วยนั้น เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในหมู่คนเสื้อแดงว่า เป็นผลลบมากกว่าทางบวก
"ผมคนหนึ่ง ที่ไม่อาจยอมรับการกระทำของกลุ่มคุณฟอร์ด เส้นทางสีแดงได้ หากกลุ่มคุณฟอร์ดเส้นทางสีแดง ไม่ใส่เสื้อแดง ไม่ประกาศตัวเป็นคนเสื้อแดง ผมก็จะไม่ว่า ไม่ตำหนิเลย เพราะถือเป็นสิทธิส่วนตัว คำว่า "คนเสื้อแดง" วันนี้มีความหมาย ไม่ใช่แค่ การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริง หรือความเท่าเทียมกันของคนไทยแล้ว แต่ได้หมายรวมถึงชีวิตที่ตายไปนับร้อย และบาดเจ็บ พิการอีกนับพัน ของ"คนเสื้อแดง" ซึ่งส่วนหนึ่ง สาเหตุมาจากกลุ่มและเครือข่ายของกลุ่มคนที่อยู่หน้าทำเนียบฯตอนนี้นั่นเอง
ผมเห็นว่า ต่อให้กลุ่มคุณ ปั่นจักรยาน ไปอีกกี่พันกิโลเมตร ก็ไม่อาจกู้ความเชื่อถือคืนมาได้ มีแต่ คนทั้งหมดที่ทำไป ควรต้องออกมาขอโทษ "คนเสื้อแดง" " นักกิจกรรมเสื้อแดงรายหนึ่งกล่าวแสดงความเห็นในอีเมล์ที่ส่งถึงมิตรสหาย เสื้อแดง และมีเสียงวิจารณ์ทำนองไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่มเส้นทางสีแดงอย่าง กว้างขวางตามกระดานสนทนา และเฟซบุ๊คของคนเสื้อแดง
แป๊ะบางสนานย้ำชัดไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มขึ้นเวทีเสื้อเหลือง
ไม่เกี่ยวข้องแล้ว-แป๊ะ บางสนาน เจ้าของเพลงรักคนเสื้อแดง เจ้าของโครงการสองขาเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มบก.ลายจุด,นที สรวารี ที่เคยร่วมกับคุณฟอร์ดเปิดโครงการเส้นทางสีแดงไปภาคอีสาน ประกาศว่าไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับกลุ่มเส้นทางสีแดงที่เป็นข่าวขึ้ยเวที พันธมิตรในขณะนี้ โดยตอนนี้แป๊ะ บางสนานอยู่แถวสกลนคร
ขณะที่"แป๊ะ บางสนาน"เจ้าของเพลง"รักคนเสื้อแดง"และผู้ริเริ่มกิจกรรมโครงการ"สองขาเพื่อ ประชาธิปไตย" ซึ่งถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนนำขบวนเส้นทางสีแดงไปให้กำลังใจและขึ้นเวทีคนไทย หัวใจรักชาติ ได้ชี้แจงทางเฟซบุ๊คว่า "พี่น้องครับตอนนี้ผมอยู่สกลนคร มีข่าวว่าทีมสองขาประชาธิปไตย ไปขึ้นเวที พธม. ทีมสองขา ฯ ไม่ได้ไปขึ้นเวทีนะครับ ทีมที่ขึ้นนั้นคือทีมเส้นทางสีแดงครับขอโปรดเข้าใจด้วยครับ"
เปลือยเบื้องหลังก่อนขึ้นเวทีเหลืองเงินบริจาคร่อยหรอ
อนึ่งก่อนหน้าจะมีกิจกรรมเปิดโครงการในว้นที่ 16 มกราคม และไปขึ้นเวทีให้กำลังใจแก่คนไทยหัวใจรักชาตินั้น คุณฟอร์ด ผู้นำโครงการเส้นทางสีแดงได้มีหนังสือ ถึง"สื่อมวลชนและเพื่อนเสื้อแดง"ดังนี้
เหลืออีกเพียง 2 วันขบวนเดินทางเส้นทางสีแดง (ราชประสงค์-เชียงราย) กิจกรรมเพื่อมนุษยธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคนเสื้อแดงจะออกเดินทางจากราช ประสงค์ในเวลา 12.00 น. เช่นเคย กิจกรรมนี้ดำเนินโดยภาคประชาชนและไม่มีกลุ่มการเมืองใดอยู่เบื้องหลัง พวกเราจะออกเดินทางไปเยี่ยมเยียนพีน้องเสื้อแดงและผู้ได้รับผลกระทบจากการ ชุมนุมเป็นระยะเวลา 28 วัน 20 จังหวัด รวมระยะทาง 2,438 กม. และขณะนี้เรามีเงินอยู่เพียง 1,500 บาท ( ในบช.500 และเงินบริจาค 1,000 บาท ) ที่เหลือคงต้องไปหาเอาข้างหน้า!
หากสื่อมวลชนและเพื่อนเสื้อแดงเห็นว่ากิจกรรมนี้มีประโยชน์ในการต่อสู้ เรียกร้องความยุติธรรมให้กับครอบครัวผู้สูญเสียและเรียกร้องความยุติธรรม กลับสู่สังคมไทย เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของพวกเราและลูกหลานไทย ท่านสามารถสมทบทุนโครงการ หรือประชาสัมพันธ์ข้อมูลการร่วมสนับสนุนกิจกรรม ดังนี้
ธนาคารกรุงไทย (สาขาย่อยห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์) ออมทรัพย์ ชื่อบช. นายฉลาด สงเคราะห์สุข หรือ ร.ต. ธนะสิทธิ์ พิพุฒ เลขที่บช. 691-0-08342-3 พบกัน 10.00 น. อาทิตย์ 16 มค.ที่ราชประสงค์ !/FORD
เส้นทางสีแดงเปิดปูมไม่ลงรอยกับแป๊ะบางสนานเลยแยกทางทำกิจกรรม
ทั้งนี้ ร.ต.ธนะสิทธิ์ พิพุฒ 1ในแกนนำเส้นทางสีแดง และเป็นคนที่ปั่นจักรยานไปให้กำลังใจคนไทยหัวใจรักชาติ ได้ทำหนังสือแจ้งถึงไทยอีนิวส์ ชี้แจงความเป็นมาของโครงการเส้นทางสีแดง ดังนี้
....ความเดิม....
..........1. กลุ่มสองฃาเพื่อประชาธิปไตย กำเหนิดโดย แป๊ะ บางสนาน มาตั้งแต่คราวปั่นจักรยานจากกทม.ไปร่วมงาน เพื่อนร่วมร้องพี่น้องร่วมรบที่ เขาใหญ่ระยะทาง 200 กว่า กม.ภารกิจเสร็จสิ้นแยกย้ายกันไปทำมาหากิน แต่ยังมีคนกลุ่มนึง ยังปั่นจักรยานรักษาสถานะภาพและชื่อกลุ่มอยู่ ประกอบด้วย
....1.1. แป๊ะ บางสนาน ( ศิลปิน ) โทร. 086-167XXXX
....1.2. ร.อ. พิสิทธิ์ พิพุฒ ( นอกราชการ ) โทร. 085-365XXXX
....1.3. ร.ต. ธนะสิทธิ์ พิพุฒ ( นอกราชการ ) โทร. 089-228XXXX
....1.4. คุณ สมใจ ( ค้าฃายส่วนตัว ) โทร.081-905XXXX
....1.5. คุณ ศิริชัย ( ประธานนักศึกษา ) โทร.084-730XXXX
..........2. โครงการเส้นทางสีแดง กำเนิดโดย คุณ ฟอร์ด เพื่อปั่นจักรยานไปทั้ง 4 ภาค โดยมีวัตถุประสงค์ เยียวยา รักษาแผลใจคนเสื้อแดง และอีก 4 ฃ้อคือ
....2.1. ปล่อย นักโทษการเมือง...........
....2.2. ยุติสองมาตรฐาน....................
....2.3. ยุติรัฐประหาร ละเมิดสิทธิ์.........
....2.4. พ.ต.ท ทักษิณ กลับบ้าน..........
....ปัจจุบัน....
.......1. หลังภารกิจที่ 1 " เยียวยารักษาแผลใจ " เสื้อแดงภาคอีสานสำเร็จอย่างสวยงาม สังคมทุกส่วนให้การยอมรับ ว่าแดงแท้ / ฃี่จักรยานแท้ / นอบน้อม ถ่อมตน / สมถะไม่ฟุ่มเฟือย / ไม่โกหก /เงินบริจาคทุกบาททุกสตางค์ถึงมือพี่น้อง
........2. ภารกิจที่ 2 " เส้นทางสีแดงสู่ภาคตะวันออก " ถูกวางแผนอย่างเรียบง่าย ปัญหาทุกอย่างที่เกิดฃึ้นระหว่างเดินทางไปภาคอิสานถูกนำมาวิเคราะห์เจาะลึก ปรับปรุง แก้ไฃ ( ตามเอกสารที่มอบให้สมาชิก เส้นทางสีแดงทุกคน )แต่ระหว่างนี้เองมีคนคิดแผนการใส่ร้ายป้ายสีให้แตกแยก และชักชวนนักปั่นให้เลิกล้มโครงการเส้นทางสีแดง
....การตัดสินใจ....
....... ผมและนักปั่นจักรยานสองฃาเพื่อประชาธิปไตย อีก 3 ท่าน จึงปรึกษาคุณฟอร์ด ยืนยันอุดมการณ์และวัตถุประสงค์เดิมฃอง " เส้นทางสีแดง " โดยขอเปลี่ยนเส้นทางไปตะวันตกและเหนือแทน โดยจะใช้ชื่อกลุ่มใหม่ เป็น MILITARY DEMOCRACY / ทหารประชาธิปไตย / และใซ้โลโก้ใหม่ เพื่อเข้าร่วมกับเส้นทางสีแดงต่อไป โดยไม่ขอรับผิดชอบใดๆ กับการกระทำของกลุ่มสองขาเพื่อประชาธิปไตยของคุณแป๊ะ บางสนาน
แดงเชียงใหม่ประกาศไม่ยินดีต้อนรับกลุ่มแดงขึ้นเวทีเหลือง
ดาบชิต เลขานุการ ผู้ประสานงาน ศูณย์ประสานงานกลาง แดงเชียงใหม่ ประกาศว่า ในนามของ ศูณย์ประสานงานกลาง "แดงเชียงใหม่" ขอประกาศให้ทราบว่า เราไม่สนับสนุนการกระทำของกลุ่มนี้ ดังนั้นทางศูณย์ประสานงานกลางแดงเชียงใหม่จะไม่ทำกิจกรรม หรือจัดกิจกรรมร่วมกับ "ทีมเส้นทางสีแดง" ที่จะเดินทางมาภาคเหนือ
...ซึ่งมีข่าวว่าจะมีการต้อนรับหรือทำกิจกรรมร่วม อนึ่งได้รับประสานจากทาง สายฝาง แม่อาย ไชยปราการ เครือข่ายแดงเชียงใหม่
ได้แจ้งเข้ามาแล้วว่าขอยกเลิกการจัดกิจกรรมร่วมกับกลุ่มนี้ด้วย
หากกลุ่มนี้นำชื่อของศูณย์ประสานงานกลางแดงเชียงใหม่และเครือข่าย ไปใช้ว่าให้การสนับสนุน ทางกลุ่มขอยืนยันว่า ไม่ให้การสนับสนุนกลุ่มนี้ไม่รับรู้ในการกระทำใดๆทั้งสิ้น
เสื้อแดงกล่าวหาคนกลุ่มนี้บางรายอาจเคยยกป้ายต้านสมัครที่ฮิวส์ตัน
กระดานสนทนาอินเตอร์เน็ตฟรีด้อม นำเสนอข้อมูลว่า แกนนำในกลุ่มคนเสื้อแดงนอกจากคุณฟอร์ดแล้ว ที่เหลือมีประวัติที่น่ากังขา เช่น
เรืออากาศตรี ธนะสิทธิ์ พิพุฒ เป็นพวก"ธรรมยาตราสันติอโศก" เคยไปชูป้ายประท้วงนายสมัคร สุนทรเวช ขณะไปรักษาตัวที่ฮิวส์ตัน สหรัฐอเมริกา ในขณะที่สมัครกำลังป่วยด้วยโรคมะเร็ง
ส.อ.ฉลาด สงเคราะห์สุข (ผู้กองเต่า) อดีตทีมรับบริจาคมูลนิธิ"ชัยพัฒนา" และผู้จัดกิจกรรม"ปั่นจักรยานทางไกลบอกรักแม่"
รวมทั้งผู้รับเหมาก่อสร้างคนหนึ่ง ที่อ้างตัวเป็น เสธ.ดำ ซึ่งแต่งตัวเลียนแบบ เสธ.แดงออกมาเดินถือกล่องบริจาคเรี่ยไรตามม็อบ จนสร้างความไม่พอใจให้น้องเดียร์และแฟนคลับหลายคน "ของแท้มีคนเดียวก็เพียงพอ"
อย่างไรก็ตามไทยอีนิวส์ขอย้ำว่ายังไม่ได้มีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ผู้อ่านพึงใช้วิจารณญาณ และยินดีรับฟังคำชี้แจงจากผู้ที่ถูกพาดพิง เพื่อประโยชน์ต่อขบวนการคนเสื้อแดงโดยรวม
*******
Posted by นักข่าวชาวรากหญ้า at 1/17/2011 07:59:00 ก่อนเที่ยง
http://thaienews.blogspot.com/2011/01/blog-post_17.html
-------------------------------------------------------------------
หมูหนองคาย |
| |||||||||
|
| |||||||||
|
|
-------------------------------------------------------------------
บก.ลายจุด | Facebook
บก.ลายจุด ทีมเส้นทางสีแดง ไม่ใช่แดงเทียม พวกเขาเพียงอ่อนประสบการณ์ แล้วกำลังถูกกระแสวิจารณ์และตรวจสอบอย่างหนัก8 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่านทาง TweetDeck
บก.ลายจุด เรืออากาศตรี ธนะสิทธิ์ พิพุฒ เป็นพนักงานแผนกช่าง ไม่ใช่คนที่ยกป้ายประท้วงแช่งคุณสมัคร คนละคนกัน
8 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่านทาง TweetDeck
www.facebook.com/redbuff
----------------------------------------------------------------
ร.ต.ธนะสิทธิ์ได้ชี้แจง ผ่านไทยอีนิวส์ว่า "การไล่ลุงหมัก ไม่ใช่ผมแน่นอน ยินดีให้ตรวจสอบ พาสปอร์ต/วีซ่าเฃ้าอเมริกา และผมเป็น MR. FITNESS การบินไทย เป็น นักปั่นจักรยาน หุ่นเฟิร์ม ไม่เฟอะฟะเหมือนคนในรูปตัดแปะ"
เขาชี้แจง เพิ่มเติมว่า "การขึ้นเวทีพันธมิตรหน้าทำเนียบฯนั้น เพราะผมไม่กลัวพันธมิตร และการฃึ้นเวที แล้วผมพูดว่า " การเป็นคนดีไม่ใด้อยู่ที่สีเสื้อ แต่อยู่ที่การกระทำ " ไม่ใช่ความผิด"
ส่วน การกล่าวหาว่าเขาเป็นพวกสันติอโศกเพราะไปร่วมเดืนยาตราเพื่อสันติใน3จังหวัด ชายแดนภาคใต้นั้น เขาชี้แจงว่า"เดินเพื่อสันติสู่ปัตตานี 1,100 กม.จากศาลายาสู่ปัตตานีเพราะหัวใจสลายจากความตายพ่ายแพ้ อยากพิสูจน์หัวใจ ดร.โคทม อารียา และสันติอโศกที่จัดเดินขบวนเพื่อสันติภาพว่าทำด้วยอะไร ผมเป็นนักสันติวิธี ไม่โกรธ ไม่รุนแรง ไม่ตอบโต้ (สายหมอเหวง )จริงๆแล้ว ที่ผมพูดมาทั้งหมด แค่เปิด FACE BOOK แล้วพิมพ์ชื่อ ร.ต. ธนะสิทธิ์ หรือ ผู้กอง เต่า ความจริงทั้งหมดก็จะปรากฏ ไม่คิดปิดบัง"
ร.ต.ธนะสิทธิ์ชี้แจงด้วยว่า "อันที่จริง นปช. และ พรรคเพื่อไทย ไม่ใด้มีความสำคัญกับผมเท่าไร แค่อุดมการณ์เดียวกัน
....สิ่งที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้ ผมแค่ทำในสิ่งที่อยากจะทำ และทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ ด้วยเงินส่วนตัว
....ผมเป็นนายทหาร 10 กว่าปีรักความเป็นธรรมรักความยุติธรรม
....ผมเป็นวิศวกรการบินไทย 20 กว่าปี เป็นกรรมการสหภาพ 1 สมัย กรรมการสโมสร 1 สมัย
....ผมชอบการเลือกตั้ง
....นั่นคือ แบร์กกราวด์เล็กน้อยของผม"
ขณะที่คุณ FORD เรด ทรู้ธ โอนลี่ ได้แจ้งว่า "ผมได้ส่งคลิปที่พวกเราส่งให้กับ Voice TV / Asia Update เป็นคลิปที่พวกเราชี้แจงกรณีไปร่วมเวทีพันธมิตรและยืนยันความตั้งใจที่จะทำ กิจกรรมเส้นทางสีแดงจนจบ
อนึ่ง บนเวทีพวกเราพูดกันคนละไม่เกิน 2 นาที ผมสรุปปิดท้ายว่าเส้นทางสีแดงทำกิจกรรมเพื่อมนุษยธรรม ไม่เกี่ยวกับการเมืองและไม่มีพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองหนุนหลัง และพวกเราจะมาผ่านทางเพื่อไปทำกิจกรรมที่เชียงราย หลังจากนั้นทุกคนรีบออกมาเพราะทราบดีว่าไม่ควรจะอยู่นาน ทุกคำพูดบนเวทีไม่ได้ทำให้คนเสื้อแดงเราเสียหาย แต่ทำให้คนที่ใส่เสื้อต่างสีและสื่อสีเหลืองได้เช้าใจหัวใจคนเสื้อแดงมาก กว่าเดิม
กรุณาคลิกคำชี้แจงที่ http://www.youtube.com/watch?v=Bc0BjyargYc
นอกจาก นั้นได้แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ว่า เมื่อ 23 มค.โครงการเส้นทางสีแดงเดินทางมาถึงอ.มโนรมย์ จังหวัดชัยนาท เข้าพักที่วัดกลาง ได้ทำการไหว้อัฐิของผู้เสียชีวิตในวันที่ 19 พค. ซึ่งถูกยิงด้วยกระสุนปืน m16 เสียชีวิตคาที่ ชาวต่างชาติที่มาร่วมกิจกรรมได้ร่วมจุดธูปคารวะดวงวิญญาณผู้ตายด้วย และเช้า 24 มค.พวกเราได้ทำบุญอุทิศสวดกุศล นิมนต์พระ 4 รูปสวดให้กับดวงวิญญาณวีรชน หลังจากนั้นจะเดินทางไปที่จ.อุทัยธานีและเข้าพักที่วัดท่าซุง
http://www.youtube.com/watch?v=P1pGtxXhMZc
http://www.youtube.com/watch?v=85bd0kArPYA
ก่อนหน้านี้(21มกราคม)คุณฟอร์ดได้ทำคำชี้แจงฉบับหนึ่ง ดังต่อไปนี้
ถึงสื่อมวลชน และเพื่อนเสื้อแดง
วันนี้(21มกราคม)เป็นวันแรกที่ผมมีโอกาสเข้าร้านเน็ท และตรวจสอบข้อมูลอย่างจริงจัง กรณีที่กลุ่มเส้นทางสีแดงขึ้นเวทีทักทายให้กำลังใจพี่น้องต่างสีเมื่อวัน อาทิตย์ที่ผ่านมา
พวกเราออกจากเวทีพันธมิตรในบ่ายวันนั้น แล้วเดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และได้เดินทางไปที่จังหวัดนครปฐม ที่นั่นผมได้ขึ้นเวทีเพื่อตอบคำถามพี่น้องเสื้อแดงนครปฐมถึงเหตุผลในการตัดสินใจขึ้นเวทีพันธมิตรในวันนั้น
ผมชี้แจงให้พี่น้องนับร้อยคนที่องค์พระปฐมเจดีย์ ทุกคนที่ได้ฟังผมล้วนแต่เข้าใจและไม่ตำหนิผม
เช่นเดียวกับพี่น้องเสื้อแดงที่บ้านโป่ง ราชบุรีที่ไปพบพวกเราที่วัดท่าเดื่อ พวกเรานั่งจับเข่าคุยกันอ่างเปิดอก ผมได้อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นและได้ยกตัวอย่างกิจกรรมของเราที่อีสาน โดยเฉพาะกรณีที่พวกเราไปเยี่ยมคุณเกียรติศักดิ์ที่ตาบอดทั้งสองข้าง เพราะแก๊สน้ำตาในวันที่ 10 เม.ย. ทุกคนเข้าใจ
เช่นเดียวกับทุกๆที่ ที่เราไปไม่ว่าจะเป็นที่กาญจนบุรี ทั้งที่ไร่ของพล.ท.มะ โพธิ์งาม และที่อ.เลาขวัญ ทุกๆสายที่โทรเข้ามาสอบถามเมื่อได้รับทราบข้อเท็จจริงต่างให้อภัย บางคนแสดงความเห็นว่าพวกเราทำในสิ่งที่ถูกต้องที่หลายๆคนไม่มีโอกาสหรือแม้ แต่คิดที่จะทำ!
พวกเราปั่นจักรยานกันทั้งวันๆละ 6-8 ชม. เช้าวันที่สามพวกเราไปเยี่ยมผู้สูญเสียที่ถูกยิงที่นัยน์ตา พวกเราลากันด้วยน้ำตาทั้งผู้ส่งและผู้เยี่ยม
วันนั้นเราปั่นจากวัด ชัฏป่าหวายไปบ้านพล.ท.มะ ตั้งแต่ 9.00-17.00 น. ระยะทาง 125 กม. พบผู้สูญญเสียอีกหนึ่งรายซึ่งได้ทำการเก็บข้อมูล และมอบเงินเยียวยาให้
เช้าวันถัดมาเราเดินทางไปอ.เลาขวัญ ตั้งแต่เวลา 9.00-18.00 น.ระยะทาง 112 กม.
ข้อจำกัดประการหนึ่งของการออกมาทำกิจกรรมลักษณะนี้คือ พวกเราต้องใช้เวลาส่วนใหญ๋อยู่บนท้องถนนวันละหลายๆชั่วโมง และแทบไม่มีโอกาสอ่านข่าวหนังสือพิมพ์หรือโทรทัศน์ พวกเราได้ทราบสถานการณ์จากเพื่อนๆและผู้สนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มเท่านั้น
พวกเราได้รับการบอกเล่าว่าพวกเราถูกโจมตีในหลายๆเรื่อง หากตัดเรื่องเหลวไหลไร้สาระ ( เช่น พวกเราไม่ใช่แดงแท้ พวกเราเป็นแดงเทียม พวกเราเป็นสีเหลือง พวกเราเป็นสีน้ำเงิน พวกเราไม่โปร่งใสเรื่องเงินบริจาค พวกเราเคยถือป้ายไล่สมัคร พวกเราเป็นสันติอโศก ฯลฯ) หนึ่งในการโจมตีให้ร้ายพวกเราคือพวกเราขึ้นเวทีพันธมิตรและ "จับมือ" กับเสื้อเหลือง
พวกเราต่างแปลกใจกับข่าวที่ได้รับ พวกเราใช้เวลาว่างในการอ่านหนังสือพิมพ์ ติดตามข่าวทางโทรทัศน์ พวกเราพบว่า หนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่ต่างรายงานข่าวอย่างเป็นกลาง บางฉบับที่หวือหวาหน่อยอาจจะรายงานว่าพวกเรา "จับมือ" กับพันธมิตร (ซึ่ง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะกลุ่มผู้ที่ติดตามเรามาหลายคนต่าง "จับมือ" กับพี่น้องต่างสีในลักษณะของการทักทายและโอภาปราศัย แต่ไม่ปรากฏว่าพวกเราคนใดบอกว่าจะเปลี่ยนอุดมการณ์ไปสนับสนุนพันธมิตร )
แต่สำหรับข่าวโทรทัศน์แล้ว ผมพบคลิป 2 คลิปที่ youtube และพยามยามดูหลายรอบก็ไม่มีตรงไหน จุดใดที่แสดงให้เห็นว่า พวกเราไปจับมือกับพันธิมิตรในลักษณะการร่วมมือกันหรือทรยศต่อคนเสื้อแดง?!?
ผมและกลุ่มเส้นทางสีแดงทำกิจกรรมเพื่อคนเสื้อแดงกันอย่างหนัก กลับจาก 1,700 กม.ที่อีสานพวกเราเตรียมงานต่อเพื่อขึ้นภาคเหนือ 2,438 กม.
พวกเราทำกิจกรรมเพื่อคนเสื้อแดงแบบไม่หวังอะไรตอบแทน สมาชิกในกลุ่มครั้งนี้ มีทั้งนักปั่นชราอายุ 73 ปี อดีตทหารอากาศวัย 68ปี ชาวยุโรปที่รักประชาธิปไตยอายุ 68 ปี
คนพวกนี้ออกมาต่อสู้เพื่อ ประชาธิปไตยของลูกหลานไทย แต่กลับมีคนซื่อบื้อบางคนออกมาโจมตีพวกเราอย่างไร้เหตุผล และปราศจากวุฒิภาวะ ปลุกให้คนเสื้อแดงขับไล่พวกเราอย่างไร้เหตุผล
ไหนบอกว่าคนเสื้อแดงเป็นคนรักความถูกต้อง รักความยุติธรรม รักประชาธิปไตย?
นับแต่นี้ไปกลุ่มเส้นทางสีแดงจะเคลื่อนไหวโดยอิสระไม่ขึ้นกับกลุ่มใด กลุ่มจะตัดสินใจทำกิจกรรมด้วยตัวของกลุ่มเอง และจะรับผิดชอบต่อการกระทำทุกครั้ง กลุ่มเส้นทางสีแดงจะไม่มีวันทรยศต่อคำสามคำนี้ และจะไม่มีทางสนับสนุนเผด็จการ
พวกเราเป็นใคร? พวกเราจะเป็นอะไรได้นอกจากคนเสื้อแดงที่มีความเป็นนักสู้ 100% พวกเราจะไม่เสียเวลาในการจิ้มแป้นด่าผู้อื่นไปวันๆ พวกเราจะไม่เสียเวลาในการประนามผู้อื่นว่าเป็นแดงแท้ หรือแดงเทียม แต่พวกเราจะเดินหน้าต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของตัวเองและลูกหลานไทย
พวกเราจะเดินหน้าทำกิจกรรมเส้นทางสีแดง (ราชประสงค์-เชียงราย) ต่อไปโดยไม่มีการถอยหลัง ไม่ว่าจะมีใครมาต้อนรับหรือไม่ ไม่สำคัญ
จังหวัดใดที่มีข้อมูลของผู้สูญเสียเราจะเดินทางไปเยี่ยมพวกเขา ไปให้กำลังใจ และมอบเงินบริจาคที่เราได้รับให้กับผู้สูญเสียทุกราย
และในวันสุดท้ายของโครงการ 12 กพ. เส้นทางสีแดงจะนำป้ายคำขวัญโครงการว่า "สามัคคีรวมพลัง นำทักษินกลับมา" ไปติดไว้หน้าบ้านท่านนายกฯทักษินด้วยตัวของพวกเราเอง!
ด้วยความเคารพ
FORD
*******
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:ลึกๆเบื้องหลังแดงขึ้นเวทีเหลือง
----------------------------------------------------------------
FfF
บก.ลายจุด เรืออากาศตรี ธนะสิทธิ์ พิพุฒ เป็นพนักงานแผนกช่าง ไม่ใช่คนที่ยกป้ายประท้วงแช่งคุณสมัคร คนละคนกัน
8 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่านทาง TweetDeck
www.facebook.com/redbuff
----------------------------------------------------------------
วันจันทร์, มกราคม 24, 2011
แดงขึ้นเวทีเหลืองแจงไม่เคยยกป้ายด่าสมัคร
ร.ต.ธนะสิทธิ์ เสื้อแดงขึ้นเวทีเหลืองปฏิเสธไม่ได้เป็นคนยกป้ายด่าสมัครที่ฮิวส์ตัน
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
24 มกราคม 2554
หมายเหตุไทยอีนิวส์:หลังจากเปิดโครงการเส้นทางสีแดง 2,438 กิโลเมตร และได้แวะไปทักทายจับมือและขึ้นเวทีพันธมิตรเมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา จนตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของมวลชนเสื้อแดง กระทั่งนปช.แดงทั้งแผ่นดินออกมาแถลงข่าวยืนยันไม่ใช่นโยบายของเสื้อแดงที่จะร่วมมือกับพันธมิตร ล่าสุดคุณFORDแกนนำกลุ่มเส้นทางสีแดง ที่เป็น"แดงขึ้นเวทีเหลืองพันธมิตร"และร.ต.ธนะสิทธิ์ พิพุฒ แกนนำอีกรายได้มีคำชี้แจงมา ดังต่อไปนี้ตามที่มีผู้กล่าวหาตามอินเตอร์เน็ต และกระดานสนทนาคนเสื้อแดง นำเสนอข้อมูลว่า แกนนำในกลุ่มคนเสื้อแดงนอกจากคุณฟอร์ดแล้ว ที่เหลือมีประวัติที่น่ากังขา เช่น เรืออากาศตรี ธนะสิทธิ์ พิพุฒ เป็นพวก"ธรรมยาตราสันติอโศก" เคยไปชูป้ายประท้วงนายสมัคร สุนทรเวช ขณะไปรักษาตัวที่ฮิวส์ตัน สหรัฐอเมริกา ในขณะที่สมัครกำลังป่วยด้วยโรคมะเร็ง นั้น
ร.ต.ธนะสิทธิ์ได้ชี้แจง ผ่านไทยอีนิวส์ว่า "การไล่ลุงหมัก ไม่ใช่ผมแน่นอน ยินดีให้ตรวจสอบ พาสปอร์ต/วีซ่าเฃ้าอเมริกา และผมเป็น MR. FITNESS การบินไทย เป็น นักปั่นจักรยาน หุ่นเฟิร์ม ไม่เฟอะฟะเหมือนคนในรูปตัดแปะ"
เขาชี้แจง เพิ่มเติมว่า "การขึ้นเวทีพันธมิตรหน้าทำเนียบฯนั้น เพราะผมไม่กลัวพันธมิตร และการฃึ้นเวที แล้วผมพูดว่า " การเป็นคนดีไม่ใด้อยู่ที่สีเสื้อ แต่อยู่ที่การกระทำ " ไม่ใช่ความผิด"
ส่วน การกล่าวหาว่าเขาเป็นพวกสันติอโศกเพราะไปร่วมเดืนยาตราเพื่อสันติใน3จังหวัด ชายแดนภาคใต้นั้น เขาชี้แจงว่า"เดินเพื่อสันติสู่ปัตตานี 1,100 กม.จากศาลายาสู่ปัตตานีเพราะหัวใจสลายจากความตายพ่ายแพ้ อยากพิสูจน์หัวใจ ดร.โคทม อารียา และสันติอโศกที่จัดเดินขบวนเพื่อสันติภาพว่าทำด้วยอะไร ผมเป็นนักสันติวิธี ไม่โกรธ ไม่รุนแรง ไม่ตอบโต้ (สายหมอเหวง )จริงๆแล้ว ที่ผมพูดมาทั้งหมด แค่เปิด FACE BOOK แล้วพิมพ์ชื่อ ร.ต. ธนะสิทธิ์ หรือ ผู้กอง เต่า ความจริงทั้งหมดก็จะปรากฏ ไม่คิดปิดบัง"
ร.ต.ธนะสิทธิ์ชี้แจงด้วยว่า "อันที่จริง นปช. และ พรรคเพื่อไทย ไม่ใด้มีความสำคัญกับผมเท่าไร แค่อุดมการณ์เดียวกัน
....สิ่งที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้ ผมแค่ทำในสิ่งที่อยากจะทำ และทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ ด้วยเงินส่วนตัว
....ผมเป็นนายทหาร 10 กว่าปีรักความเป็นธรรมรักความยุติธรรม
....ผมเป็นวิศวกรการบินไทย 20 กว่าปี เป็นกรรมการสหภาพ 1 สมัย กรรมการสโมสร 1 สมัย
....ผมชอบการเลือกตั้ง
....นั่นคือ แบร์กกราวด์เล็กน้อยของผม"
...คงวิเคราะห์ เจาะลึกผมแล้วแหละ
...เป็น แดงแท้ แดงเทียม แดงตบทรัพย์ หรือคนแก่สติฟั่นเฟือน หัวใจสลาย
...ใน FB ใครบางคนเรียกผมว่า "นักปั่น เดินเท้า " " แสบ นครบาล "
...แต่ผมสมัครใจที่จะเรียกตัวเองว่า " ผู้ก่อการรัก "
...ยึดแนวทาง สันติวิธี ไม่โกรธ ไม่รุนแร็ง ไม่ตอบโต้ ไม่ผิดกฏหมาย
...และถ้าแกนนำ นปช. / พรรคเพื่อไทย จะผลักใสไล่ส่ง
...ผมก็ไม่ตำหนิ ไม่ตอบโต้
...ฝากเรียนฃอบคุณ
...1.ดร. อภิวันท์ รองหน.พรรคเพื่อไทย
...2.อ. ธิดา ประธาน น.ป.ช.
...3.คุณ สมหวัง แกนนำ น.ป.ช
...4.คุณ จ่า ประสิทธิ์ ตำรวจมะเฃือเทศ.....
.......ที่กรุณาประชาสัมพันธิ์ " เส้นทางสีแดงทุกครั้งที่ขึ้นเวที "
ขณะที่คุณ FORD เรด ทรู้ธ โอนลี่ ได้แจ้งว่า "ผมได้ส่งคลิปที่พวกเราส่งให้กับ Voice TV / Asia Update เป็นคลิปที่พวกเราชี้แจงกรณีไปร่วมเวทีพันธมิตรและยืนยันความตั้งใจที่จะทำ กิจกรรมเส้นทางสีแดงจนจบ
อนึ่ง บนเวทีพวกเราพูดกันคนละไม่เกิน 2 นาที ผมสรุปปิดท้ายว่าเส้นทางสีแดงทำกิจกรรมเพื่อมนุษยธรรม ไม่เกี่ยวกับการเมืองและไม่มีพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองหนุนหลัง และพวกเราจะมาผ่านทางเพื่อไปทำกิจกรรมที่เชียงราย หลังจากนั้นทุกคนรีบออกมาเพราะทราบดีว่าไม่ควรจะอยู่นาน ทุกคำพูดบนเวทีไม่ได้ทำให้คนเสื้อแดงเราเสียหาย แต่ทำให้คนที่ใส่เสื้อต่างสีและสื่อสีเหลืองได้เช้าใจหัวใจคนเสื้อแดงมาก กว่าเดิม
กรุณาคลิกคำชี้แจงที่ http://www.youtube.com/watch?v=Bc0BjyargYc
นอกจาก นั้นได้แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ว่า เมื่อ 23 มค.โครงการเส้นทางสีแดงเดินทางมาถึงอ.มโนรมย์ จังหวัดชัยนาท เข้าพักที่วัดกลาง ได้ทำการไหว้อัฐิของผู้เสียชีวิตในวันที่ 19 พค. ซึ่งถูกยิงด้วยกระสุนปืน m16 เสียชีวิตคาที่ ชาวต่างชาติที่มาร่วมกิจกรรมได้ร่วมจุดธูปคารวะดวงวิญญาณผู้ตายด้วย และเช้า 24 มค.พวกเราได้ทำบุญอุทิศสวดกุศล นิมนต์พระ 4 รูปสวดให้กับดวงวิญญาณวีรชน หลังจากนั้นจะเดินทางไปที่จ.อุทัยธานีและเข้าพักที่วัดท่าซุง
http://www.youtube.com/watch?v=P1pGtxXhMZc
http://www.youtube.com/watch?v=85bd0kArPYA
ก่อนหน้านี้(21มกราคม)คุณฟอร์ดได้ทำคำชี้แจงฉบับหนึ่ง ดังต่อไปนี้
ถึงสื่อมวลชน และเพื่อนเสื้อแดง
วันนี้(21มกราคม)เป็นวันแรกที่ผมมีโอกาสเข้าร้านเน็ท และตรวจสอบข้อมูลอย่างจริงจัง กรณีที่กลุ่มเส้นทางสีแดงขึ้นเวทีทักทายให้กำลังใจพี่น้องต่างสีเมื่อวัน อาทิตย์ที่ผ่านมา
พวกเราออกจากเวทีพันธมิตรในบ่ายวันนั้น แล้วเดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และได้เดินทางไปที่จังหวัดนครปฐม ที่นั่นผมได้ขึ้นเวทีเพื่อตอบคำถามพี่น้องเสื้อแดงนครปฐมถึงเหตุผลในการตัดสินใจขึ้นเวทีพันธมิตรในวันนั้น
ผมชี้แจงให้พี่น้องนับร้อยคนที่องค์พระปฐมเจดีย์ ทุกคนที่ได้ฟังผมล้วนแต่เข้าใจและไม่ตำหนิผม
เช่นเดียวกับพี่น้องเสื้อแดงที่บ้านโป่ง ราชบุรีที่ไปพบพวกเราที่วัดท่าเดื่อ พวกเรานั่งจับเข่าคุยกันอ่างเปิดอก ผมได้อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นและได้ยกตัวอย่างกิจกรรมของเราที่อีสาน โดยเฉพาะกรณีที่พวกเราไปเยี่ยมคุณเกียรติศักดิ์ที่ตาบอดทั้งสองข้าง เพราะแก๊สน้ำตาในวันที่ 10 เม.ย. ทุกคนเข้าใจ
เช่นเดียวกับทุกๆที่ ที่เราไปไม่ว่าจะเป็นที่กาญจนบุรี ทั้งที่ไร่ของพล.ท.มะ โพธิ์งาม และที่อ.เลาขวัญ ทุกๆสายที่โทรเข้ามาสอบถามเมื่อได้รับทราบข้อเท็จจริงต่างให้อภัย บางคนแสดงความเห็นว่าพวกเราทำในสิ่งที่ถูกต้องที่หลายๆคนไม่มีโอกาสหรือแม้ แต่คิดที่จะทำ!
พวกเราปั่นจักรยานกันทั้งวันๆละ 6-8 ชม. เช้าวันที่สามพวกเราไปเยี่ยมผู้สูญเสียที่ถูกยิงที่นัยน์ตา พวกเราลากันด้วยน้ำตาทั้งผู้ส่งและผู้เยี่ยม
วันนั้นเราปั่นจากวัด ชัฏป่าหวายไปบ้านพล.ท.มะ ตั้งแต่ 9.00-17.00 น. ระยะทาง 125 กม. พบผู้สูญญเสียอีกหนึ่งรายซึ่งได้ทำการเก็บข้อมูล และมอบเงินเยียวยาให้
เช้าวันถัดมาเราเดินทางไปอ.เลาขวัญ ตั้งแต่เวลา 9.00-18.00 น.ระยะทาง 112 กม.
ข้อจำกัดประการหนึ่งของการออกมาทำกิจกรรมลักษณะนี้คือ พวกเราต้องใช้เวลาส่วนใหญ๋อยู่บนท้องถนนวันละหลายๆชั่วโมง และแทบไม่มีโอกาสอ่านข่าวหนังสือพิมพ์หรือโทรทัศน์ พวกเราได้ทราบสถานการณ์จากเพื่อนๆและผู้สนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มเท่านั้น
พวกเราได้รับการบอกเล่าว่าพวกเราถูกโจมตีในหลายๆเรื่อง หากตัดเรื่องเหลวไหลไร้สาระ ( เช่น พวกเราไม่ใช่แดงแท้ พวกเราเป็นแดงเทียม พวกเราเป็นสีเหลือง พวกเราเป็นสีน้ำเงิน พวกเราไม่โปร่งใสเรื่องเงินบริจาค พวกเราเคยถือป้ายไล่สมัคร พวกเราเป็นสันติอโศก ฯลฯ) หนึ่งในการโจมตีให้ร้ายพวกเราคือพวกเราขึ้นเวทีพันธมิตรและ "จับมือ" กับเสื้อเหลือง
พวกเราต่างแปลกใจกับข่าวที่ได้รับ พวกเราใช้เวลาว่างในการอ่านหนังสือพิมพ์ ติดตามข่าวทางโทรทัศน์ พวกเราพบว่า หนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่ต่างรายงานข่าวอย่างเป็นกลาง บางฉบับที่หวือหวาหน่อยอาจจะรายงานว่าพวกเรา "จับมือ" กับพันธมิตร (ซึ่ง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะกลุ่มผู้ที่ติดตามเรามาหลายคนต่าง "จับมือ" กับพี่น้องต่างสีในลักษณะของการทักทายและโอภาปราศัย แต่ไม่ปรากฏว่าพวกเราคนใดบอกว่าจะเปลี่ยนอุดมการณ์ไปสนับสนุนพันธมิตร )
แต่สำหรับข่าวโทรทัศน์แล้ว ผมพบคลิป 2 คลิปที่ youtube และพยามยามดูหลายรอบก็ไม่มีตรงไหน จุดใดที่แสดงให้เห็นว่า พวกเราไปจับมือกับพันธิมิตรในลักษณะการร่วมมือกันหรือทรยศต่อคนเสื้อแดง?!?
ผมและกลุ่มเส้นทางสีแดงทำกิจกรรมเพื่อคนเสื้อแดงกันอย่างหนัก กลับจาก 1,700 กม.ที่อีสานพวกเราเตรียมงานต่อเพื่อขึ้นภาคเหนือ 2,438 กม.
พวกเราทำกิจกรรมเพื่อคนเสื้อแดงแบบไม่หวังอะไรตอบแทน สมาชิกในกลุ่มครั้งนี้ มีทั้งนักปั่นชราอายุ 73 ปี อดีตทหารอากาศวัย 68ปี ชาวยุโรปที่รักประชาธิปไตยอายุ 68 ปี
คนพวกนี้ออกมาต่อสู้เพื่อ ประชาธิปไตยของลูกหลานไทย แต่กลับมีคนซื่อบื้อบางคนออกมาโจมตีพวกเราอย่างไร้เหตุผล และปราศจากวุฒิภาวะ ปลุกให้คนเสื้อแดงขับไล่พวกเราอย่างไร้เหตุผล
ไหนบอกว่าคนเสื้อแดงเป็นคนรักความถูกต้อง รักความยุติธรรม รักประชาธิปไตย?
นับแต่นี้ไปกลุ่มเส้นทางสีแดงจะเคลื่อนไหวโดยอิสระไม่ขึ้นกับกลุ่มใด กลุ่มจะตัดสินใจทำกิจกรรมด้วยตัวของกลุ่มเอง และจะรับผิดชอบต่อการกระทำทุกครั้ง กลุ่มเส้นทางสีแดงจะไม่มีวันทรยศต่อคำสามคำนี้ และจะไม่มีทางสนับสนุนเผด็จการ
พวกเราเป็นใคร? พวกเราจะเป็นอะไรได้นอกจากคนเสื้อแดงที่มีความเป็นนักสู้ 100% พวกเราจะไม่เสียเวลาในการจิ้มแป้นด่าผู้อื่นไปวันๆ พวกเราจะไม่เสียเวลาในการประนามผู้อื่นว่าเป็นแดงแท้ หรือแดงเทียม แต่พวกเราจะเดินหน้าต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของตัวเองและลูกหลานไทย
พวกเราจะเดินหน้าทำกิจกรรมเส้นทางสีแดง (ราชประสงค์-เชียงราย) ต่อไปโดยไม่มีการถอยหลัง ไม่ว่าจะมีใครมาต้อนรับหรือไม่ ไม่สำคัญ
จังหวัดใดที่มีข้อมูลของผู้สูญเสียเราจะเดินทางไปเยี่ยมพวกเขา ไปให้กำลังใจ และมอบเงินบริจาคที่เราได้รับให้กับผู้สูญเสียทุกราย
และในวันสุดท้ายของโครงการ 12 กพ. เส้นทางสีแดงจะนำป้ายคำขวัญโครงการว่า "สามัคคีรวมพลัง นำทักษินกลับมา" ไปติดไว้หน้าบ้านท่านนายกฯทักษินด้วยตัวของพวกเราเอง!
ด้วยความเคารพ
FORD
*******
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:ลึกๆเบื้องหลังแดงขึ้นเวทีเหลือง
----------------------------------------------------------------