บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


04 กุมภาพันธ์ 2554

<<< กษัตริย์ผู้รู้ร้อนรู้หนาว >>>

จอร์แดนปลดครม.ยกชุด ตั้งนายกฯใหม่เร่งปฏิรูปการเมือง
วันพุธ ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลาห์ที่ 2 แห่งราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน ทรงมีพระบรมราชโองการสั่งให้มีการยุบสภารัฐบาลชุดปัจจุบันเมื่อวานนี้ หลังการชุมนุมประท้วงตามท้องถนนของประชาชน และยังทรงมอบหมายให้อดีตนายพลกองทัพแต่ตั้งคณะรัฐบาลใหม่

สำนักพระราชวังจอร์แดนระบุในแถลงการณ์ว่ากษัตริย์อับดุลลาห์ของจอร์แดนที่สองได้ สั่งปลดคณะรัฐมนตรีทั้งชุดพร้อมแต่งตั้งให้นายมารุฟ บาคฮิต เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่และเร่งจัดตั้งรัฐบาลเพื่อเดินหน้าปฏิรูปทากงารเมือง อย่างแท้จริง โดยมให้มีการทบทวนกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและสิทธิและเสรีภาพของ พลเรือนเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดในอดีตและเพื่อการพัฒนาอันจะนำไปสู่การ เปลี่ยนแปลงและการปฏิรูป

กษัตริย์อับดุลลาห์ยังเรียกร้องให้รัฐบาล ใหม่เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐานของสถานบันรวมทั้งต่อสู้ กับปัญหาการคอรัปชั่นและจัดการกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการคอรัปชั่นให้ สิ้นซาก

การเคลื่อนไหวของกษัตริย์จอร์แดนมีขึ้นหลังจากที่มีการ ชุมนุมประท้วงของประชาชนหลายพันคนเมื่อวันศุกร์ที่แล้วที่ออกมาเรียกร้องให้ สั่งปลดนายกรัฐมนตรีคนเก่ารวมทั้งยุบสภาและเร่งปฏิรูปเศรษฐกิจและการเมือง

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการแต่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่แต่ดูเหมือนกันจะไม่เป็นที่พอใจสำหรับ่าย ค้าน โดยเฉพาะกลุ่มแนวร่วมปฏิบัติการอิสลามที่เป็นกลุ่มเคลื่อนไหวฝ่ายค้าน ที่ยังติดใจว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้นมีประวัติในเรื่องการคอรัปชั่นและการ ปราบปรามกลุ่มต่อต้าน จึงไม่ใช่คนที่เหมาะสมที่จะนำจอร์แดนออกจากวิกฤตการณ์

จอร์แดนนั้นมีคนว่างงานสูงมาก และในจำนวนประชากร 6 ล้านคน ส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ย 25 ปี และต้องเผชิญกับปัญหาว่างงาน,ข้าวยากหมากแพงจากราคาอาหารและเชื้อเพลิงที่ สูงขึ้น ซึ่งรัฐบาลจอร์แดนก็พยายามแก้ไขปัญหา ด้วยการออกมาตรการเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการลดภาษีรายได้,การเข้าไปอุดหนุนสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อควบคุม ราคาสินค้า หรือการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้เป็น 28 ดอลล่าร์ต่อวันให้กับข้าราชการพลเรือน,ทหารและผู้เกษียณ แต่ผู้ประท้วงก็ยังไม่พอใจเพราะต้องการให้มีการปฏิรูปการเมืองอย่างขนานใหญ่ และที่สำคัญต้องการเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรง

นอกจากจอร์แดนแล้ว ปรกาฏการณ์โดมิโน่ยังปรากฏชัดที่เยเมนอีกด้วย มีรายงานว่า ประธานาธิบดีอาลี อับดุลลาห์ ซาเล่ห์ ลาออกจากตำแหน่ง ขณะที่ฝ่ายค้านนัดชุมนุมใหญ่ทั่วประเทศในพรุ่งนี้ ซึ่งฝ่ายค้านเรียกว่า"วันแห่งความเดือดดาล" พร้อมประกาศว่าสายเกินไปที่จะเปิดเจรจา ประธานาธิบดีซาเล่ห์ซึ่งครองอำนาจยาวนานมากกว่า 32 ปีต้องออกไปเท่านั้น ด้านประธานาธิบดีซาเล่ห์ก็เรียกประชุมสภาและสภาที่ปรึกษาเพื่อหาทางควบคุม สถานการณ์ โดยก่อนหน้านี้ก็ออกมาตรการหลายอย่างเพื่อบรรเทาความโกรธแค้นของประชาชนอาทิ การขึ้นเดือน การลดภาษีหรือจัดตั้งกองทุนสำหรับจ้างงานนักษาศึกที่จบใหม่ รวมทั้งขยายระบบประกันสังคม แต่ฝ่ายค้านระบุว่าไม่เพียงพอ เยเมนต้องเปลี่ยนแปลงโดยจะต้องเริ่มจากการเปลี่ยนตัวประธานาธิบดีก่อน ทั้งนี้ประธานาธิบดีซาเล่ห์พยายามผลักดันให้สภาผ่านญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ จะทำให้เขาสามารถนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีตลอดชีวิต

http://www.krobkruakao.com/ข่าว/33152/จอร์แดนตั้งว่าที่นายกฯ-ฟอร์มรัฐบาลใหม่.html

-------------------------------------------------------------------

ประชาชนชุมนุมใหญ่ไม่นาน
กษัตริย์จอร์แดน ช่างเป็นผู้ที่รู้ร้อนรู้หนาว
รีบออกมาแก้ไขสถานการณ์
แม้จะยังไม่ตรงกับความต้องการของผู้ชุมนุมทั้งหมดนัก
เพราะยังแก้ไขปัญหาไม่เบ็ดเสร็จเท่าไหร่
แต่การกระทำที่แสดงออกมา สามารถพูดได้ว่า
ไม่ใช่กษัตริย์ที่ชอบทำตัวไม่รู้ไม่ชี้
ไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาว หรือไม่เห็นหัวประชาชน

อันที่จริงถ้าคิดปรับตัวก่อนที่จะโดนฝูงชนปรับให้
ยังไงก็ยังพอรักษาสถานภาพเอาไว้ได้อีกนานพอสมควร
ยกเว้นอนาคตเกิดบ้าอำนาจอยากรวบอำนาจ
ไม่อยากให้ประชาชนปกครองตนเองก็อาจมีปัญหาอีก
แต่ถ้าไม่คิดปรับตัวหรือปรับตัวครึ่งๆ กลางๆ
ก็อาจจะมีปัญหาได้ถ้าสถานการณ์บานปลาย
แต่ถึงยังไงก็สามารถพอยกย่องกันได้ว่า
ช่างเป็นกษัตริย์ที่รู้ร้อนรู้หนาวจริงๆ

โดย มาหาอะไร
FfF