พ่อผมเคยเล่าเรื่องเพื่อนที่เป็นตำรวจคนหนึ่ง
ผมจำรายละเอียดไม่ได้ทั้งหมด
ขอเล่าคร่าวๆ แล้วเพื่อให้เห็นภาพแล้วกัน
เพื่อนพ่อที่เป็นนายตำรวจคนหนึ่ง
นำลูกน้องไปจัดการกับพวกแก๊งส์
ที่มีอาวุธสงครามตามที่มีสายรายงานมา
ปรากฏว่ากว่าจะพาลูกน้อง
ไปถึงจุดปะทะปาเข้าไปหลายชั่วโมง
จนพวกคนร้ายไหวตัวทันหนีไปก่อน
ส่วนรายละเอียดที่ว่าเป็นแก๊งส์ค้ายาบ้า
หรือจับตัวประกันเรียกค่าไถ่อะไรจำไม่ได้
แต่จำได้ว่าคนร้ายมีอาวุธสงคราม
และพาลูกน้องวนจนไปไม่ทันเวลา
สุดท้ายหลังเหตุการณ์วันนั้น
ลูกน้องก็ไม่ให้ความนับถือแถมยังแขวะ
หรือแซวให้ได้ยินจนรู้สึกกดดันอยู่ไม่ได้ ต้องลาออก
เพราะเขาไม่นับถือ ไม่มีความกล้าพอเป็นหัวหน้า
และเขาก็ไม่โง่ที่จะไม่รู้ว่าโดนหลอกถ่วงเวลา
ถ้าเขาไม่รู้ก็ว่าไปแต่ถ้าวันไหนเขาจับได้ว่าไม่กล้าจริง
ก็เป็นหัวหน้าพาเขาไปลุยต่อไม่ได้
เพราะไม่มีใครเขาไว้ใจว่า
จะหนีทิ้งพวกเขาไปก่อน
หรือว่าจะพาพวกเขาไปตายหรือเปล่า
เพราะหัวหน้าต้องกล้ามากกว่าลูกน้อง
เขาถึงยอมรับ ถ้าไม่กล้ากว่า
ต่อให้ยศใหญ่เขาก็ไม่นับถือ
เห็นชอบพูดกันว่า มีเป้าหมายเดียวกัน
จริงๆ แล้วคิดว่าเป้าหมายเดียวกันหรือไม่
เพราะคำว่า ปฏิวัติ ปฏิรูป สิ่งเดียวกัน
แต่เป้าหมายต่างกันชัดเจน
ถ้าไม่ใช่ก็แค่การหลอกให้เชื่อไปวันๆ
ว่าเป้าหมายเดียวกัน
ระหว่างคำพูดกับการกระทำ
ให้เชื่อการกระทำเอาไว้ก่อน
เพราะว่าคนจำนวนมาก
จะใช้วิธี จริงคือเท็จ เท็จคือจริง
ผลที่ได้ มวลชนสับสนและวุ่นวาย
ไม่มีผลดีใดๆ นอกจากคนพูดปลอดภัย
แต่ผลสำเร็จสู่เป้าหมาย
คืบหน้าไปไม่ได้ไกล
ถ้ายังไม่มีความชัดเจนใดๆ
โดย มาหาอะไร
FfF
บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.