โดยธรรมชาติแล้วม็อบเรียกร้องประชาธิปไตย
ถ้ายังไม่ได้ประชาธิปไตยก็จะยังไม่หยุด ไม่เลิก และอาจไม่สนใจการเลือกตั้งก็ได้
ถ้าการเลือกตั้งนั้นไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของประชาธิปไตยที่แท้จริง
แต่ม็อบหาเสียงประจำพรรคการเมืองเป้าหมายสูงสุด
แค่หวังได้เลือกตั้งเผื่อฟลุ๊คเปลี่ยนขั้วการเมืองได้เป็นรัฐบาลบ้างเท่านั้นเอง
จึงอาจทำให้เกิดความขัดแย้งในแนวทางการเคลื่อนไหว
อย่างเห็นได้ชัดในปัจจุบันอนาคตจะมีมากขึ้นเพราะมันฝืนธรรมชาติ
ธรรมชาติของประชาธิปไตยที่แท้จริง
จะไม่อิงพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
เหมือนระบอบเผด็จการหรือลัทธิการเมืองอื่น ที่ยอมให้มีแค่พรรคเดียว
สูตรสำเร็จที่ชอบนำมาอ้างกันในการต่อสู้คือ
มีมวลชน มีพรรค มีกองทัพ อะไรนั้น
ถ้าเป็นสูตรของพรรคคอมมิวนิสต์ หรือเผด็จการผูกขาดคล้ายๆ พวกนาซี
จะมีรูปแบบดังนี้ มีมวลชนประจำพรรค มีพรรคหลักพรรคเดียว มีกองทัพประจำพรรค
แต่สำหรับรูปแบบการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริงแล้ว
จะมีรูปแบบดังนี้ มีมวลชนจากทุกพรรค มีหลายพรรคหนุน มีกองทัพประชาชน
( ถ้าเกิดสงครามกลางเมืองจริงๆ ถ้าไม่เกิดก็ไม่จำเป็นต้องมี
แต่ต้องปฏิรูปกองทัพให้ปกป้องประชาธิปไตยมากขึ้น )
ม็อบเรียกร้องประชาธิปไตยที่แท้จริง
ไม่ควรทำให้มีกองเชียร์แค่พรรคเดียวหนุน
ควรเปิดกว้างให้กองเชียร์หลายๆ พรรค
สามารถเข้าร่วมต่อสู้ได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ
นอกจากจะไม่มีพรรคอื่นมาร่วม
เป้าหมาย ก็ควรเน้นรื้อโครงสร้างที่ไม่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง
และทุกพรรคสามารถแอบหนุนหรือหนุนแบบเปิดเผยได้อย่างเต็มที่
เพราะทุกพรรคที่หนุนจะได้ประโยชน์จากโครงสร้างที่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง
จึงควรทำม็อบแยกให้ชัดเจนว่าม็อบนี้เป้นม็อบประจำพรรคการเมือง
ส่วนอีกม็อบเป็นม็อบเรียกร้องประชาธิปไตย
ซึ่งแนวทางอาจจะต่างกันมาก แต่ก้ไม่เป็นปัญหา
มวลชนก็ไม่สับสน สามารถไปร่วมเคลื่อนไหวกับม็อบที่ต้องการได้
ตามโอกาสและสถานการณ์ที่ตนเองต้องการ
และจะได้ไม่กดดันแกนนำผิดม็อบ
เช่น คาดหวังเรื่องประชาธิปไตยที่แท้จริง
ก็ต้องไปกดดันแกนนำม็อบเรียกร้องประชาธิปไตยที่แท้จริง
ไม่ควรไปกดดันแกนนำม็อบหาเสียงเลือกตั้ง เป็นต้น
แต่ปัจจุบันมีการผูกติดม็อบเรียกร้องประชาธิปไตยหรือม็อบเสื้อแดง
เข้ากับพรรคเพื่อไทย ก็เลยกลายเป็นม็อบหาเสียงประจำพรรคเพื่อไทยไปในที่สุด
เพราะแนวทางทั้งหมดก็จะไปในแนวหาเสียง หรือ เรียกร้องช่วยทักษิณกลับมา
โดยไม่สนใจว่าจะได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงอะไรหรือไม่อย่างไร
วิธีการทำม็อบก็เน้นการนั่งสู้ คือนั่งฟังปราศรัยหาเสียงไปวันๆ
ไม่ใช่ม็อบลุกขึ้นสุ้ ที่จะยืนตื่นตัวตลอดเวลา
ม็อบแนวทางการหาเสียงก็จะเน้นไม่เคลื่อนไหวให้เสียคะแนนเสียง
แต่ม็อบแนวทางลุกขึ้นสู้อาจมีการประท้วงกดดันต่างๆ นาๆ
เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ จนอาจทำให้เสียคะแนนเสียงได้
แต่เมื่อไม่ใช่พรรคการเมืองจึงไม่จำเป็นต้องสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก
การยึดติดกับพรรคเพื่อไทย คนรักประชาธิปไตยที่ชอบพรรคอื่น
ไม่ชอบทักษิณ ก็ไม่อยากมาร่วม นี่ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง
เพราะเขามองว่านี่เป็นม็อบหาเสียงประจำพรรคเพื่อไทย
ซึ่งถ้าแยกกันให้ชัดเจน มวลชนที่จะมาร่วมก็จะได้ไม่สับสน
ถ้ายังรวมกันแบบนี้อนาคตก็อาจจะเกิดปัญหาขึ้นมาอีก
เมื่อแกนนำพร้อมทำตามผู้นำพรรคตัวจริง
ผู้นำพรรคสั่งหยุด ก็หยุดตาม ประชาธิปไตยได้หรือยังไม่รู้
ก็จะโดนพวกที่เรียกร้องประชาธิปไตยหันหลังให้เรื่อยๆ ในที่สุด
อันที่จริงผู้นำพรรคเพื่อไทย ควรจะแยกม็อบตามกลุ่มเป้าหมาย
เช่น ม็อบเสื้อแดงก็ควรวางเป้าไว้ที่เรื่องการทำโครงสร้างประชาธิปไตยล้วนๆ
ม็อบหาเสียงประจำพรรคเพื่อไทยก็ทำเรื่องชูทักษิณกลับมาและการหาเสียงเลือกตั้ง
แบบนี้ก็จะไม่สับสนเพราะมวลชนสามารถไปร่วมได้ทั้งสองม็อบ
ไม่ใช่พยายามมาแย่งนำม็อบเสื้อแดง เพื่อควบคุมม็อบ
ไปในแนวม็อบหาเสียงประจำพรรคเพื่อไทยอย่างที่เป็นอยู่แบบทุกวันนี้
จุดประสงค์ของการให้แยกม็อบแบบนี้
ไม่ใช่หวังเพื่อให้มีคนพรรคอื่นมาร่วมมากขึ้น
เพราะมันมาไกลแล้วถ้าช่วงต้นๆ
อาจมีคนฝ่ายอื่นมาร่วมด้วยมากกว่านี้
ถ้าไม่ยึดติดกับพรรคเพื่อไทยตั้งแต่แรก
แต่ป้องกันความสับสนของมวลชน
ที่จะเกิดความคาดหวังผิดๆ
คิดว่าม็อบหาเสียงประจำพรรคเพื่อไทย
คือม็อบเรียกร้องประชาธิปไตยที่แท้จริง
ผมขอเสนอให้แกนนำ นปช. ไปเป็นม็อบหาเสียงพรรคเพื่อไทยเต็มตัว
แล้วจะลงสมัคร ส.ส. ก็ไม่มีใครว่าเพราะเป็นม็อบประจำพรรค
ก็ต้องหาเสียงเข้าสภาเรื่องปกติ
ส่วนอีกม็อบเป็นม็อบเสื้อแดงแบบเดิมหรือม็อบใหม่ก็ได้
เรียกร้องรื้อโครงสร้างทำให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงเพียวๆ
ไม่เน้นเรื่องนโยบายหาเสียงต่างๆ
เน้นต่อสู้เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง
และข้อเรียกร้องต้องไม่ยึดเกี่ยวกับพรรคการเมืองมากนัก
เช่น นโยบายหาเสียงไม่ต้องนำมาใช้ในม็อบนี้
ไม่ว่าจะหนุนเศรษฐกิจแบบทุนนิยมหรือแบบสังคมนิยม
นั่นเป็นเรื่องพรรคการเมือง
ใครชอบแนวไหนก็ไปตั้งพรรคหนุนแนวนั้นหาเสียงแนวนั้น
แต่ม็อบเรียกร้องประชาธิปไตย
ควรเรียกร้องโครงสร้างที่รองรับทุกระบบได้ อย่างเป็นธรรม
มีกติกาที่เป็นประชาธิปไตย การเลือกตั้งที่โปร่งใส
สนับสนุนการสร้างเสรีชนทุกพรรคการเมือง
เพื่อคอยตรวจสอบพรรคที่ชอบและพรรคอื่นๆ
รวมไปถึงการทำงานทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล
แบบนี้น่าจะเข้าท่ากว่าไม่สับสน
แต่ถ้าพยายามนำม็อบที่ชอบอ้างว่าเรียกร้องประชาธิปไตย
ไปเรียกร้องอะไรเกี่ยวกับเรื่องพรรคเพื่อไทยมากกว่าเรียกร้องประชาธิปไตย
เช่น การเรียกร้องให้ทักษิณกลับมา การเชียร์พรรคเพื่อไทย
หรือชูนโยบายอะไรให้ ส.ส. ขึ้นเวทีหาเสียง
ก็จะทำให้เกิดความสับสนและจะมีปัญหาในแนวทางที่ขัดกันเรื่อยๆ
แต่ถ้าแยกตัวเป็นม็อบประจำพรรคเพื่อไทยไปเลย
ส.ส. ก็กล้าขึ้นหาเสียงตามแนวทางของพรรค
หรือจะแอบหนุนม็อบเรียกร้องประชาธิปไตยข้างหลังก็ยังได้
แต่ควรปล่อยม็อบให้เป็นไปในแนวทางที่ควรจะเป็น
ทำได้อย่างนี้ก็จะไม่มีปัญหากันทั้งสองฝ่ายทั้งปัจจุบันและอนาคต
โดย มาหาอะไร
FfF
บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.