บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


16 มีนาคม 2554

<<< เริ่มมีแนวร่วมต่อต้าน 112 มากขึ้นแล้ว >>>

facebook สมยศ พฤกษาเกษมสุข

ล้านนา 19 จว.มีมติขับเคลื่อนให้ปล่อยตัวสุรชัยและนักโทษการเมืองคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพทุกคน พร้อมทั้งรรรงค์ประชาชทุกจังหวัดชุมนุมต้านมาตรา112 มติที่ประชุมที่โรงแรมภูทองพาเลช จ.พะเยาว์ วันที่ 3เมษาประชุมสมัชชาตัวแทนทุกภาคพิจารณาแนวทางต่อสู้ต้านม.112ที่กทม.

------------------------------------------------------------------------------

ถ้ามีข้อเรียกร้องแล้วมีคนมาร่วมชุมนุม
โดยไม่จำเป็นต้องปราศรัยใดๆ เลยก็ได้
เพราะคนมาร่วม ส่วนใหญ่เข้าใจเห็นด้วยแล้วถึงมาร่วมชุมนุม
กับอีกพวกที่มาร่วมก็คือเจ้าหน้าที่ที่มาหาข่าวหรือมาหาสิ่งผิดกฏหมาย
ถ้าไม่กล้าปราศรัยก็ไม่ต้องปราศรัย มายืนชุมนุมกันเฉยๆ
ก็ยังดีกว่าม็อบที่ปราศรัยดุดันนั่นนี่แต่ไม่มีข้อเรียกร้องใดๆ

ม็อบแรงไม่แรง กดดันไม่กดดัน ให้ดูที่การกระทำกับข้อเรียกร้อง
ไม่ใช่ดูที่การปราศรัยของคนปราศรัยว่าแรงหรือไม่แรง
ถ้าข้อเรียกร้องแรง ไม่มีป้ายสักแผ่น
ไม่มีเวทีสักเวที ไม่มีคนปราศรัย ยังไงก็แรง
ถ้ามารวมตัวกันเยอะๆ เท่าใด
ก็จะยิ่งมีแรงกดดันต่อฝ่ายตรงข้ามมากขึ้นเท่านั้น

"ม็อบที่มีเวทีใหญ่โต เครื่องเสียงดังไปหลายกิโล ปราศรัยดุดันน่ากลัว
มวลชนมากมายมหาศาล แต่ไม่มีข้อเรียกร้องใดๆ
ก็ไม่ต่างอะไรกับงานวัด งานคอนเสิร์ต งานทอล์คโชว์ ดีๆ นี่เอง"


แถมถ้าข้อเรียกร้องคือสิ่งที่ได้แน่ๆ อยู่แล้ว
แบบไม่ต้องออกแรงมาแสดงพลังก็ได้
เหมือนต้องการอยากได้แค่เลือกตั้ง
ซึ่งอีกไม่กี่เดือนก็ได้เลือกตั้งแล้ว
ดังนั้นช่วงนี้จนถึงเลือกตั้งจะกี่เดือนกี่ปีก็ตาม
จัดม็อบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร
เปลืองเงินเปลืองทองเปล่าๆ
ไปจัดเวทีหาเสียง ซะยังจะดีกว่ามาจัดม็อบ
แล้วไม่รู้จะไปร่วมแสดงพลังอะไร
ในเมื่อมันก็จะได้เลือกตั้งอยู่แล้ว
ในเมื่ออยากเลือกตั้ง
ก็จะไปลงคะแนนเสียงให้ในวันเลือกตั้ง
ช่วงนี้ขอนอนเอาแรงรอไปเลือกตั้งแล้วกัน

สู้มาสี่ปีกว่า บางคนคิดว่า
ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งอย่างเดียวเลย
บางคนบอกในเมื่อเรียกร้องประชาธิปไตยแล้ว
มีเลือกตั้ง ไม่เลือก ไม่เชื่อมั่นรัฐสภา
จะเรียกได้ยังไงว่า มาเรียกร้องประชาธิปไตย
หลายประเทศเขาสู้กันจนจบแล้ว
ถึงเลือกตั้งมีประชาธิปไตยเต็มใบมาได้จนถึงวันนี้
หลายประเทศผ่านสงครามกลางเมืองมาแล้ว
ถึงได้ประชาธิปไตยที่ดีจนบัดนี้
ไม่ว่าจะอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส และอีกมากมาย

ก็ในเมื่อมันไม่เป็นประชาธิปไตย
การเลือกตั้งแค่หลอกชาวโลกว่าเป็นประชาธิปไตยแล้ว
จะให้ยอมรับผลเลือกตั้งที่เตรียมการโกงไว้แล้ว
ทั้งกติกา ทั้งกรรมการ ทั้งรธน. ต่างๆ
ล้วนเป็นเศษซากของเผด็จการทั้งนั้น
ไม่คิดที่จะรื้อออกให้หมด แถมยังไปร่วมสังฆกรรม
ยังจะมาพูดอีกว่า ยึดมั่นแนวทางรัฐสภา

"ผลผลิตของเผด็จการที่วางเอาไว้
ถ้าไม่รื้อออกให้หมด
แถมยังไปยอมรับร่วมสังฆกรรมกับเขา
เป็นได้แค่แนวร่วมเผด็จการ
เป็นแนวร่วมต่อต้านเผด็จการไม่ได้เลย"


พวกเราคิดว่าพวกเขาโง่
แต่จริงๆ แล้ว พวกเราเองแหล่ะที่โง่
เสี่ยงไปลุ้นเลือกตั้งเพื่อยอมรับสภาพ
แทนที่จะถือโอกาสรื้อโครงสร้างก่อน
แล้วไปเลือกภายหลัง ในเมื่อรอมาได้ตั้งหลายปี
จะเลือกตั้งแบบอยู่ในโครงสร้างดีๆ
ในอีกไม่กี่ปีต่อไปก็น่าจะรอได้
ในเมื่อชอบพูดว่าฉันรอได้

ช่วงที่ลุกขึ้นสู้ คนพวกเดียวกันก็พร้อมช่วยกันสู้
แต่เมื่อไปตามเกมเขา คือยอมไปร่วมสังฆกรรมกับเขา
เท่ากับกำลังสลายแนวร่วมคนลุกขึ้นสู้ แล้วต้องมาต่อสู้กันเองอีกด้วย
เป็นยุทธวิธีที่ผิด ถ้าไม่ผิดผลก็คงไม่ออกมายังงี้หรอก เพราะผลเกิดจากเหตุ
ไม่ใช่มาห้ามทะเลาะกัน ต้องสามัคคีกัน ห้ามแตกแยก
แต่มาชวนคนที่สู้ไปหมอบตามแนวที่กำลังทำ
คนที่สู้ไม่หมอบก็เกิดทะเลาะกัน จะให้โทษใคร
ถ้ายุทธวิธีถูกจริง ปัญหาแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น

"การวิเคราะห์บนหอคอยงาช้าง
ไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกคนที่สู้อยู่กลางสนามรบ"


ต่อไปการจะไปร่วมม็อบ ควรดูข้อเรียกร้องเป็นหลัก
ว่าตรงเจตนารมณ์ที่เราออกมาสู้หรือไม่ อย่าดูแค่หน้าคนจัด
แต่ก่อนผมแทบไม่ค่อยได้ไปม็อบแดงสยามเลย
ในเว็บมาหาอะไรมีแต่เรื่องม็อบ นปช. เยอะกว่าแดงอื่น
แต่วันนี้ม็อบแดงสยามมีข้อเรียกร้องที่น่าสนใจ
ในขณะที่ม็อบ นปช. ข้อเรียกร้องพากันไปเลือกตั้ง
ซึ่งไม่ต้องทำม็อบหยุดวันนี้เดี๋ยวก็ได้เลือกตั้งเหมือนกัน
แล้วจะไปกาให้ไม่ต้องห่วงถ้าอยากได้คะแนนเสียง
โดยไม่มาช่วยเรียกร้องสิ่งที่ต้องการก็ตาม
แต่ไม่ตามไปม็อบที่ไม่มีข้อเรียกร้องแล้ว
เพราะถ้าสมมุติต้องการต่อต้านกฏหมายนั้นนั่นนี่
แล้วไปม็อบปกป้องแทนร่วมต่อต้าน
ยิ่งไปร่วมม็อบแบบนี้เท่าไหร่ก็ยิ่งทำลายความหวัง
ในการต่อต้านมากขึ้นเท่านั้น เพราะคนต่อต้านจะน้อยลง
ในขณะที่คนปกป้องกับมากขึ้น สู้อยู่กับบ้านดีกว่าแบบนี้
จะได้ไม่ต้องไปช่วยเพิ่มจำนวนคนปกป้อง

ขอทำนายดักคอไว้เลยว่า
ถ้าผลเลือกตั้งออกมาชนะ
แต่คะแนนเสียงไม่ถึงครึ่งหนึ่ง
พวกนั้นสุมหัวกันตั้งรัฐบาลได้
ก็ไม่กล้าออกมาต่อต้านหรอก
ยกเว้นมีบางพวกยังต่อต้านอีก
แล้วมีคนเพิ่มเรื่อยๆ
ถึงเข้ามาเทคโอเวอร์เหมือนเคย

ถ้าผลเลือกตั้งออกมา แล้วฝ่ายตรงข้ามชนะขาด
ม็อบต่อต้านเผด็จการจะหยุดไปเองโดยอัตโนมัติ
ถ้าเป็นแนวนี้ นี่คือการพาม็อบ
ไปสยบเผด็จการอย่างสมบูรณ์แบบ
จากต่อต้านอยู่ดีๆ มาเลิกเพราะแพ้เกมเขา
เป็นการปิดฉากม็อบต่อต้านโดยสมบูรณ์แบบ
เพราะอ้างไม่ได้ว่าเป็นเสียงส่วนมาก
ตอนนี้ยังอ้างสถิติเก่าๆ เพื่อใช้ในการต่อต้าน
จนถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างได้สำเร้จ
แต่ถ้าผลเลือกตั้งใหม่ออกมา
ว่าไม่ใช่เสียงข้างมาก
ไม่ว่าจะโดนโกงเนียนไม่เนียนยังไง
ก็จบแบบหมดแรงต่อต้านไปตามๆ กัน
และแพจะแตกไปคนละทาง
โดยเฉพาะพวกนักการเมือง
ไม่รวมถึงมวลชนที่หลงคิดว่า
มีพวกมากที่สุดเห็นด้วยกับเสื้อแดงอะไรด้วย

หาผลดีแทบไม่เจอ นอกจากจะไปเสี่ยง
ทำให้การต่อต้านไร้พลัง แทบจะต้องไปนับหนึ่งใหม่อีกที
แทนที่จะต่อต้านไปเรื่อยๆ ไม่สนใจ โดยบอยคอตการเลือกตั้ง
อ้างการแก้รัฐธรรมนูญ ที่พึ่งแก้แบบโดนเอาเปรียบ
ไม่รวมเรื่องเก่าๆ ที่ยังไม่ได้แก้ให้ดีอีกด้วย
นำพลังต่อต้านทั้งหมด ต่อต้านไม่ยอมรับผลเลือกตั้ง
จนกว่าจะยอมเปลี่ยนกติกา กรรมการ และ รธน.
ให้เป็นประชาธิปไตย แตกหักก็แตกหัก
แต่พลังต่อต้านเต็มเปี่ยมและจะมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อไม่มีการยอมรับผลเลือกตั้งที่ไม่ได้ร่วมสังฆกรรม
การบอยคอตไม่ใช่การไม่ร่วมสังฆกรรมเฉยๆ
แต่ต้องระคนมาต่อต้านสิ่งที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
สิ่งกีดขวางประชาธิปไตยไปเรื่อยๆ ดูสิว่ามันจะทำยังไง

ถ้ามันทำรัฐประหารก็เข้าทาง
มันทำไม่รู้ไม่ชี้ดันทุรังเลือกตั้ง
โดยไม่แก้อะไรให้ดีขึ้นก่อน
ประเภทหักดิบเลือกตั้ง ไม่สนใจคนค่อนประเทศ
ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา แบบนี้ไม่ดีกว่าหรือ
เทียบกับแนวยอมรับสภาพ พากันไปเลือกตั้ง
แล้วยอมรับผลแบบไม่อยากยอมรับ
พลังการต่อต้านค่อยๆ ลดน้อยลง
แต่ รธน. ก็ยังเป็นของโจร กรรมการก็โจรตั้ง
นั่นนี่ก็โจรเต็มบ้านเต็มเมือง
แต่พลังการต่อต้านลดน้อยลง

คนที่เชื่อว่าประชาธิปไตย คือการเลือกตั้ง
สู้มาสี่ปี่กว่าคิดกันได้แค่นี้ ควรจะต้องคิดใหม่ว่า
ประชาธิปไตย คือการเลือกตั้งภายใต้กติกาที่เป็นประชาธิปไตย
กรรมการต้องโปร่งใสยุติธรรม รธน. ก็ต้องเป็นประชาธิปไตยด้วย
ไม่ใช่รัฐธรรมนูญ เผด็จการห้ามแก้อีกต่างหาก
ให้ยอมรับการเลือกตั้ง ก็ไม่ต่างอะไรกับเกลียดตัวแต่กินไข่

ถ้าขืนสู้แบบนักการเมืองไม่มีทางได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงไปได้
เพราะนักการเมืองอาจกลัวว่าชาตินี้จะไม่ได้เลือกตั้งอย่างเดียว
เลือกแล้วโดนถีบ โดนคดีตัดสิทธิ์กี่ปี โดนกลั่นแกล้งนั่นนี่
แถมยังโดนยุบพรรคหลายหน แล้วกลัวอะไรกับการไม่มีเลือกตั้ง

โดย มาหาอะไร

FfF