บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


16 มิถุนายน 2554

<<< กกต. ไม่ได้ย่อมาจาก โกงการตรวจสอบ น่ะจ๊ะ >>>

หนุ่มเลี้ยงหมูศรีสะเกษแจ้งจับผู้สมัคร ส.ส.พรรคมาตุภูมิซื้อเสียง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤษภาคม 2554 20:49 น.


ศรีสะเกษ-หนุ่มเลี้ยง หมูศรีสะเกษแจ้งจับผู้สมัคร ส.ส.พรรคมาตุภูมิ กล่าวหาว่ากระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งแจกเงินซื้อเสียง นำหลักฐานพร้อมคลิปวิดีโอแจ้งตำรวจดำเนินคดี

เมื่อเวลา 17.30 น. วันนี้(29 พ.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ นายกฤษนัย นัยนิตย์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 / 21 หมู่ 7 ต.ดู่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ อาชีพเลี้ยงหมูและทนายความ พร้อมด้วย นายจักรี แก้วเชียงทอง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 หมู่ 6 ชุมชนหนองม่วง ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ อาชีพเลี้ยงหมู ได้นำหลักฐานการแจกเงินซื้อเสียงประกอบด้วย ธนบัตรใบละ 100 บาท จำนวน 2 ใบ แผ่นพับหาเสียงของนายพิทยา บุญเฉลียว ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 2 พรรคมาตุภูมิ พร้อมด้วยภาพนิ่งและคลิปวิดีโอ เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.เสน่ห์ ใจเที่ยง พงส.สบ.2 สภ.โนนคูณ เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับนายพิทยา บุญเฉลียว ในข้อหากระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งและข้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพ.ต.ท.เสน่ห์ ได้ลงบันทึกประจำวันรับแจ้งความไว้ และทำการสอบปากคำผู้กล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายกฤษนัย นัยนิตย์ อายุ 45 ปี ให้การกับพนักงานสอบสวนว่า ในวันนี้ (29 พ.ค.54) เวลาประมาณ 14.30 น.ขณะที่ตนและนายจักรีไปตระเวนหารับซื้อหมูจากชาวบ้าน เพื่อนำเอาไปเลี้ยงและเมื่อมาถึงบริเวณศาลากลางบ้านเหล่าเสน ต.บก อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ พบว่า มีรถปราศรัยหาเสียงของนายพิทยา บุญเฉลียว ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 2 พรรคมาตุภูมิ จำนวนประมาณ 4 คันจอดอยู่ และนายพิทยากำลังปราศรัยหาเสียงอยู่กับชาวบ้าน ตนกับพวกจึงได้จอดรถพากันลงไปรับฟังคำปราศรัย

จากนั้นได้มีเสียงประกาศบอกว่า ใครที่ได้รับแผ่นพับหาเสียงของนายพิทยาแล้ว อย่าเพิ่งลุกออกไปเพราะจะทำให้สับสน ส่วนใครที่ได้รับแจกเงินแล้วให้ออกไปได้ ตนกับนายจักรีซึ่งได้รับแจกแผ่นพับแล้ว ได้นั่งรออยู่กับที่ ปรากฏว่าได้มีชายคนหนึ่งซึ่งตนจำหน้าได้ชัดเจน ได้นำเอาเงินจำนวน 200 บาท มาแจกให้กับตนและนายจักรี ซึ่งนายจักรีได้ถ่ายคลิปวิดีโอการแจกเงินเอาไว้ได้ ส่วนตนได้ถ่ายภาพนิ่งประกอบไว้เป็นหลักฐาน

ตนเห็นว่าการแจกเงินซื้อเสียงเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง ดังนั้น จึงได้นำเอาหลักฐานทั้งหมดมามอบให้พนักงานสอบสวน สภ.โนนคู เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งตนพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวน ทั้งของ กกต.ศรีสะเกษ และสภ.โนนคูณ เพื่อที่จะได้เป็นการทำให้การเลือกตั้ง ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 2 เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรมต่อไป

พ.ต.ท.เสน่ห์ ใจเที่ยง พงส.สบ.2 สภ.โนนคูณ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายเลือกตั้ง ดังนั้น ตนจะได้ทำการสอบปากคำผู้ที่มาแจ้งความกล่าวหาไว้และจะได้ทำการรวบรวมพยาน หลักฐาน นำเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นเพื่อพิจารณาสั่งการ จากนั้นจะได้สรุปรายงานเรื่องนี้ให้กกต.ศรีสะเกษทราบ และตนได้แนะนำให้ผู้กล่าวหาไปแจ้งความร้องทุกข์กับกกต.ศรีสะเกษด้วย เนื่องจากว่าเป็นเรื่องของกฎหมายเลือกตั้ง เพื่อที่กกต.ศรีสะเกษ จะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000065596

------------------------------------------------------

ผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษพรรคมาตุภูมิ ลั่นไม่เคยแจกเงินซื้อเสียง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2554 10:44 น.

ศรีสะเกษ - ผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 2 พรรคมาตุภูมิ โต้ลั่นไม่เคยแจกเงินซื้อเสียง ยันขณะปราศรัยกับชาวบ้านไม่เห็นผู้ที่ไปแจ้งความกล่าวหาเข้าไปในบริเวณที่ กำลังปราศรัยกับชาวบ้านแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายกฤษนัย นัยนิตย์ อายุ 45 ปี อาชีพเลี้ยงหมูและทนายความ พร้อมด้วยนายจักรี แก้วเชียงทอง อายุ 34 ปี อาชีพเลี้ยงหมู ได้นำหลักฐานการแจกเงินซื้อเสียง แผ่นพับหาเสียงของนายพิทยา บุญเฉลียว ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 2 พรรคมาตุภูมิ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.เสน่ห์ ใจเที่ยง พงส.สบ.2 สภ.โนนคู เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อนายพิทยา บุญเฉลียว ในข้อหากระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และข้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง พ.ต.ท.เสน่ห์ได้ลงบันทึกประจำวันรับแจ้งความไว้ และทำการสอบปากคำผู้กล่าวหา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 29 พ.ค.54 นายพิทยา บุญเฉลียว ผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 2 พรรคมาตุภูมิ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามีการแจกเงินซื้อเสียงที่ศาลากลางบ้าน เหล่าเสน ต.บก อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เนื่องจากว่าตนไปถึงศาลากลางบ้านเหล่าเสน เมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันนี้ และได้ปราศรัยหาเสียงกับประชาชน โดยมีขบวนรถหาเสียงไปด้วยกันหลายคัน

ขณะที่ตนปราศรัยหาเสียงก็ไม่พบว่านายกฤษนัย นัยนิตย์ ซึ่งตนรู้จักดีเพราะว่าเป็นทนายความว่าความให้กับอดีตคนขับรถของตนคนหนึ่ง ได้เข้าไปในบริเวณที่ตนกำลังปราศรัยหาเสียงแต่อย่างใด และตนเพิ่งทราบว่านายกฤษนัยได้ไปแจ้งความกล่าวหาว่าตนแจกเงินซื้อเสียงในการ เลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้ ซึ่งตนขอยืนยันว่าตนไม่เคยแจกเงินซื้อเสียง หรือกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งใดๆ ในการเลือกตั้งครั้งนี้

นอกจากนี้ ตนไม่ทราบว่ามีการแจกเงินซื้อเสียงตามวัน เวลาและสถานที่ดังกล่าวข้างต้น เพราะว่าตนปราศรัยหาเสียงกับประชาชนเท่านั้น ไม่ได้มีการนำเอาเงินไปแจกให้กับประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 2 จ.ศรีสะเกษ ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามที่มีการแจ้งความกล่าวหาแต่อย่างใด

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000065721

------------------------------------------------------

“พล.อ.สนธิ” ชี้กรณีผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษซื้อเสียง ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กกต.

วันพุธ ที่ 15 มิ.ย. 2554

กรุงเทพฯ 15 มิ.ย. - พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ได้เดินหาเสียงตั้งแต่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสศาลาแดง ตลาดนัดหลังอาคารสีลมคอมเพล็กซ์ และ ซ.ละลายทรัพย์ โดยได้แจกใบปลิวของพรรค มีประชาชนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี นำดอกไม้ และพวงมาลัยมามอบให้ พร้อมทั้งขอถ่ายรูปและขอลายเซ็นด้วย ทั้งนี้นอกจากจะมีผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคร่วมเดินหาเสียงแล้ว นางปิยะดา บุญยรัตกลิน ภริยา ก็ได้มาช่วยหาเสียงด้วย

พล.อ.สนธิ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สอบสวนกรณีผู้สมัคร ส.ส. จ.ศรีสะเกษ พรรคมาตุภูมิ ซื้อเสียงว่า เป็นเรื่องของ กกต.ที่ต้องรวบรวมหลักฐาน ก็ต้องขอความเห็นใจและขอความเป็นธรรมด้วย อย่างไรก็ตาม หาก กกต.แจกใบแดงจริง ๆ ก็ไม่ส่งผลอะไรกับพรรค พรรคไม่ได้รู้เห็นกับการกระทำดังกล่าว เพราะได้มอบหลักการและข้อตักเตือนในการหาเสียงต่าง ๆ ให้กับผู้สมัครไว้ตั้งแต่ต้น และขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผู้สมัครคนดังกล่าวทำเช่นนั้นจริงหรือไม่ ต้องแล้วแต่ กกต.จะพิจารณา เพราะเจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่ได้ทำ.-สำนักข่าวไทย

http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/224003.html

------------------------------------------------------

"สมชัย"เผย"มาตุภูมิ"ส่อโดนใบแดง แจกเงินซื้อเสียง จ.ศรีสะเกษ
วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2554 เวลา 15:17:23 น.

นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านสืบสวนสอบสวน เปิดเผยว่า ส่วนตัวเห็นว่าสามารถเพิกถอนสิทธิผู้สมัคร (ใบแดง) แก่ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดศรีสะเกษ พรรคมาตุภูมิได้แล้ว เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจนถึงการซื้อเสียงในพื้นที่จากคลิปวิดีโอ และภาพนิ่งที่ชุดสืบสวนหาข่าวถ่ายมาได้ เพราะในภาพเห็นว่าผู้สมัครได้ยื่นแบงก์ร้อยให้อย่างชัดเจน

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1308125198&grpid=03&catid=&subcatid=

------------------------------------------------------

กกต.กลางสั่งสอบเพิ่มผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ ซื้อเสียง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 มิถุนายน 2554 10:45 น.

ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. พิจารณาความเห็น กกต.ศรีสะเกษ เสนอให้เพิกถอนสิทธิ์ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 หรือ ให้ใบแดง โดยการสืบสวนสอบสวนพบหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า มีการทุจริตซื้อเสียงจริง ซึ่งการนำเสนอข้อมูลประกอบการพิจารณานั้น ได้นำคลิปวิดีโอ และภาพนิ่ง มาประกอบการพิจารณาให้กับ กกต.ทั้ง 5 คน
ทั้งนี้ กกต.ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง ก่อนลงมติ 3 ต่อ 2 ให้สอบเพิ่มเติม เนื่องจากเห็นว่า ยังมีพยานบางปากเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้สอบ จึงให้นำกลับไปสอบเพิ่มเติมและเสนอกลับเข้ามาใหม่
โดยมีรายงานว่า มติ 3 เสียงที่เห็นว่ายังต้องสอบเพิ่มเติม ประกอบด้วย นายอภิชาต สุขัคคานนท์ นายประพันธ์ นัยโกวิท และนางสดศรี สัตยธรรม ทำให้กกต.ยังไม่สามารถเพิกถอนผู้สมัครก่อนการเลือกตั้งได้ในขณะนี้

http://www.thaiday.com/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9540000072949

------------------------------------------------------

กกต.จะถกหาเสียงชูรัฐบาลแห่งชาติ-คนนอกเป็นนายกฯ
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

กกต.เตรียมสรุปสอบเพิ่มเติม ผู้สมัครศรีสะเกษซื้อเสียง ก่อนวินิจฉัยอีก เผยจะพิจารณาปมพรรคหาเสียงชูตั้งรัฐบาลแห่งชาติ อ้างคนภายนอกเป็นนายกฯ

นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวถึงกรณีมีพรรคการเมืองอ้างนโยบายหาเสียงเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ขณะที่บางพรรคชูบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นนายกรัฐมนตรี โดย กกต.จะต้องพิจารณารายละเอียดก่อน ประกอบกับการร้องเรียนจากบุคคลถูกอ้างอิง

ส่วนมติ กกต. 3 ต่อ 2 เสียง ยังไม่ให้ใบแดงผู้สมัครส.ส.ศรีสะเกษ ให้หาหลักฐานเพิ่มเติมนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า คาดว่าวันนี้ (15 มิ.ย.) จะได้ข้อสรุปต้องสอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งจะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา หากมีหลักฐานชัดเจนก็สามารถตัดสินได้ ไม่มีการถ่วงเวลาเพื่อช่วยเหลือพรรคการเมือง

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/politics/20110615/395653/news.html

------------------------------------------------------

การเมือง
วันที่ 2 มีนาคม 2552 17:07
สุเมธหลุด กกต.ของปลอม เพราะคมช.แต่งตั้ง
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
สุเมธ อุปนิสากร

กกต.พ้นวาระโยนระเบิด หวั่นเลือก กกต.แทนอาจต้องส่งศาลรธน.ชี้ขาด รับชุดปัจจุบัน คมช.แต่งตั้ง ของปลอม แนะตุลาการถอยห่างการเมือง หวั่นเหลิงอำนา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้จัดงาน “กกต.พบสื่อมวลชน 899 วัน บนเส้นทางการขับเคลื่อนภารกิจเพื่อชาติ” เพื่ออำลาตำแหน่ง ของ นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านกิจการมีส่วนร่วม ก่อนจะพ้นตำแหน่ง เนื่องจากอายุ 70 ปีบริบูรณ์ในวันที่ 8 มี.ค.นี้

โดยนายสุเมธ กล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปตนจะไม่ร่วมเข้าประชุมกกต. เนื่องจากจะได้ไม่ต้องเซ็นคำวินิจฉัยหลังจากสัปดาห์นี้ ส่วนคำวินิจฉัยเดิมที่ค้างอยู่ก็จะเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ตนยังเป็นห่วงเรื่องคำวินิจฉัยที่คั่งค้าง เพราะทุกวันนี้มีการพิจารณาสำนวนร้องคัดค้านสัปดาห์ละประมาณ 70 เรื่อง แต่คนที่ทำงานเขียนคำวินิจฉัยมีเพียง 21 คน

ดังนั้น จึงคิดว่าควรมีความจำเป็นต้องเพิ่มคน รวมถึงปรับระบบ เช่น ให้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนเขียนคำวินิจฉัยมรกรณีที่ยกคำร้อง ขณะที่ฝ่ายวินิจฉัยและคดีจะเขียนคำร้องในกรณีที่จะเขียนเรื่องส่งให้ศาลเท่านั้น นอกจากนี้การรับคนมาทำงานควรรับบุคคลที่จบเนติบัณฑิต เพื่อให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการเขียนคำวินิจฉัย รวมทั้งต้องเพิ่มค่าตอบแทน เพราะคิดว่าหากต้องการของดีก็ต้องจ่ายแพง

นายสุเมธ กล่าวถึงการบริหารองค์กร กกต. ว่า ควรมีการเปลี่ยนระบบจากเดิม กกต.แต่ละคนดูแลงานเฉพาะด้านของตน เป็น กกต.นั่งอยู่ในระบบคณะกรรมการ ซึ่งทุกคนสามารถเข้าไปช่วยดูช่วยคิดในงานแต่ละด้าน ทุกคนต้องช่วยกันได้ เพราะบางครั้งคนที่ดูแลอยู่ ก็ตันเหมือนกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากเห็นคนแบบไหนเข้ามาแทนตำแหน่งของตนเอง นายสุเมธ กล่าวว่า อยากให้คนที่มาดำรงแหน่ง กกต.คนใหม่ มาจากสายรัฐศาสตร์ การจัดการ เพราะจะได้มาช่วยกันพัฒนาละจัดรูปแบบองค์กร เนื่องจากตอนนี้ที่มีอยู่เป็นนักกฎหมายผู้พิพากษา อัยการ ทั้งนั้น ซึ่งไม่ถนัดงานบริหารงาน ทำให้การจัดงานฝ่ายบุคคลล่าช้า จึงคิดว่าอยากได้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถด้านรัฐศาสตร์เข้ามาช่วยบริหารงานด้วย

เมื่อถามว่า มองการเมืองหลังจากนี้เป็นอย่างไร นายสุเมธ กล่าวว่า การเมืองน่าจะดีขึ้น ดวงเมืองน่าจะดีขึ้น วิกฤตต่างๆน่าจะหายไป ทุกคนอยากเห็นบ้านเมืองสงบ ไม่ว่าจะรักสีอะไรก็อยากให้บ้านเมืองสงบกันทั้งนั้น ทุกคนก็ไม่อยากให้ลูกหลานลำบาก หากยังคงเป็นอย่างนี้ต่อไปอนาคตจะเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการตุลาการภิวัตน์มองว่าอนาคตของตุลาการภิวัฒน์จะเป็นอย่างไร นายสุเมธ กล่าวว่า เรื่องนี้พูดยาก ยังไม่รู้จะเป็นอย่างไร แต่หากบ้านเมืองเรียบร้อยตนก็อยากเห็นตุลาการกลับเข้ากรมกอง ชีวิตการเป็นศาลกับการอยู่ข้างนอกไม่เหมือนกัน

“หากออกมามากๆ กลัวจะเหลิง เพราะการเมืองต้องเจอหลายประเภท และการที่ศาลจะกลับได้ต้องอยู่ที่การแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งการจะแก้ได้ก็ต้องให้บ้านเมืองสงบ โดยรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับก็จะเหมาะกับสถานการณ์ในขณะนั้น รัฐธรรมนูญปี 50 ก็เหมาะกับการแก้ปัญหาช่วงนั้น หรือ มาตรา 237 เรื่องการยุบพรรค เมื่อมาถึงตอนนี้ก็ต้องดูว่า สมควรหรือไม่ เช่นผู้จัดการทำผิดจำเป็นต้องยุบบริษัทเลยหรือ การให้ยาแรงอาจจำเป็นในเวลานั้น แต่ตอนนี้ที่ไข้ยังไม่มากให้ยาแรงมากไปเดี่ยวจะตายกันหมด”

นายสุเมธ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังอาจมีปัญหาข้อกฎหมายอว่า เมื่อตนพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ใครจะเป็นผู้ทำหน้าที่สรรหาแทน เพราะตามรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 231 ระบุถึงการสรรหา กกต. ว่ามีสองส่วนคือ มาจากส่วนของกรรมการสรรหาจำนวน 3 คน และ ส่วนของ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาจำนวน 2 คน และจึงเสนอให้วุฒิสภารับรอง

อย่างไรก็ตอนที่มีการแต่งตั้งตนมาเป็น กกต. นั้นเป็นการแต่งตั้งมาจาก คมช. ในช่วงปี 2549 จึงไม่สามารถระบุได้ว่ามาจากสายใด และใครจะเป็นผู้คัดเลือกหากตนพ้นจากตำแหน่งไป หรือแม้จะไปใช้ตามมาตรา 7 ที่ระบุว่า หากไม่มีบทบัญญัติใดให้ดำเนินการตามประเพณี ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่เคยมีประเพณีมาก่อน เพราะเรามี กกต. ตามรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2540 จะมองเป็นประเพณีได้หรือไม่ แต่เราก็ไม่เคยมีการบัญญัติแยกที่มาอย่างนี้เหมือนกัน ทั้งนี้ ตนมองว่าเรื่องนี้ถึงที่สุดแล้วอาจะต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตีความ

“ ผมยอมรับว่า กกต.ชุดนี้เป็นของปลอม เพราะถูกตั้งโดย คมช. ไม่ได้ถูกตั้งมาตามรัฐธรรมนูญ หรือได้รับการโปรดเกล้าฯ เรื่องนี้ไม่ขอโต้เถียงใครที่กล่าวหา แต่ตนเห็นว่าแม้ไม่ได้มาตามรัฐธรรมนูญแต่กฎหมายก็เปิดโอกาสให้ทำได้”นายสุเมธ กล่าวตอนท้าย

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/politics/20090302/20959/สุเมธหลุด-กกต.ของปลอม-เพราะคมช.แต่งตั้ง.html

------------------------------------------------------

แค่เริ่มต้นช่วงหาเสียง ปี 54
ก็เริ่มส่อเค้าว่าจะคล้ายเลือกตั้งปี 50 เข้าไปทุกที
โดยเฉพาะมาตรฐานการตัดสินเรื่องต่างๆ ของ กกต.

เริ่มจากเรื่องโกงจะๆ มีหลักฐานชัดทั้งภาพนิ่งและคลิป
ขณะผู้หาเสียงพรรคมาตุภูมิที่ศรีสะเกษซื้อเสียง
ยังลงมติ 3 ต่อ 2 ทำให้ ให้ใบแดงไม่ได้
เพราะเป็นพรรคของ สนธิ หัวหน้า คมช. คนที่ทำรัฐประหาร
และแต่งตั้ง กกต. ส่วนใหญ่
ที่เหลืออยู่ตอนนี้ใช่หรือไม่
ถ้ากรณีนี้เป็นพรรค พท. จะตัดสินให้ใบแดงทันที
ไม่ต้องรอนานหลายสัปดาห์แล้วยื้อต่อแบบนี้ใช่หรือเปล่า

โดย มาหาอะไร

FfF