บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.
21 กรกฎาคม 2554
<<< เงินบาทมีสิทธิ์แข็งค่าเข้าใกล้ 25 บาทต่อดอลล่าห์อีกครั้ง และเงินทุนสำรองของไทยก็มีสิทธิ์ไปใกล้ 250,000 ล้านดอลล่าห์ได้ด้วย >>>
http://quotes.ino.com/chart/index.html?s=FOREX_USDTHB&t=&a=&w=&v=dmax
---------------------------------------------------------------
http://www2.bot.or.th/statistics/BOTWEBSTAT.aspx?reportID=80&language=TH
---------------------------------------------------------------
ล่าสุดค่าเงินบาทอยู่แถวๆ 29 บาทเฉียดๆ 30 บาท ต่อดอลล่าห์
และเงินทุนสำรองก็ขึ้นไปถึง 180,000 ล้านดอลล่าห์แล้วในตอนนี้
มีโอกาสเกิน 200,000 ล้านในสิ้นปีนี้ด้วย
ถามว่าการที่เงินทุนสำรองสูงขึ้นช่วงนี้
เกิดจากฝีมือรัฐบาลใช่ไหม
คำตอบคือไม่ใช่
ไม่ใช่ว่าจะไม่ให้เครดิตรัฐบาลอภิสิทธิ์
เพราะเดี๋ยวรัฐบาลยิ่งลักษณ์
จะทะลักไปมากกว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์อีก
โดยที่รัฐบาลไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ
ส่วนเงินกู้ต่างประเทศสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์
ก็มีผลทำให้เงินทุนสำรองเพิ่มได้
แต่ไม่มากมายขนาดนี้
และการเพิ่มมากมายขนาดนี้ก็ไม่ต้องดีใจ
เตรียมกลุ้มใจล่วงหน้าอีก 5-10 ปีข้างหน้าจะดีกว่า
การเพิ่มขึ้นของเงินทุนสำรองไทยงวดนี้
สัมพันธ์กับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น
เนื่องจาก เศรษฐกิจอเมริกาโง่หัวไม่ขึ้น
คาดว่าอีกนานกว่าจะฟื้น
วิธีที่จะช่วยให้ฟื้นได้ก็คือ
การลดค่าเงินดอลล่าห์ลง
เพื่อจะขายของได้มากขึ้น
จะได้มีรายได้เข้าประเทศมาก
และจ้างแรงงานเพิ่ม
เกิดวงจรเศรษฐกิจอีกรอบ
แต่ทฤษฎีที่ว่า ไม่มีผลต่อ บ. แอปเปิ้ล
ผู้ผลิต ipad ipod iphone
ที่กำลังโกยรายได้ทั่วโลก
หลายแสนล้านเฉียดล้านล้านบาทแล้วในปีนี้
นี่เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า ของดี ไฮเทค
แม้จะแพงแค่ไหนก็มีคนซื้อ
ไม่จำเป็นต้องลดค่าเงินก็ขายได้
แต่สินค้าอื่นของเขาขายไม่ค่อยได้
ยกเว้นพวกไอที
ที่สำคัญทำให้ของนอกราคาแพงขึ้น
คนอเมริกันก็จะได้ซื้อของนอกน้อยลง
ซึ่งทุกวันนี้เข้าใจว่า
อาการคงคล้ายๆ ไทยช่วงเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง
แต่รอบนี้ผมว่าเหล่ากองทุนที่ฉลาด
เขาจะไม่นิ่งรอให้ทรัพย์สินในพอร์ตเขาลดลง
เขาจะโยกเงินออกจากอเมริกา
มาฝากไว้ตามประเทศแถวเอเชีย
โดยเฉพาะแถวอาเซียน จีน
เกาหลีใต้ ไต้หวัน อะไรพวกนี้
เพราะแถวยุโรปก็กำลังแย่
ยิ่งญี่ปุ่นไม่ต้องพูดถึง
โดนทั้งพิษเศรษฐกิจอเมริกาตกต่ำ
ส่งของไปขายได้น้อยลง
โดนทั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียสรั่ว
สินค้าญี่ปุ่นโดยเฉพาะของกิน
อย่าว่าแต่ต่างชาติเริ่มกีดกันเลย
ในประเทศเองก็มีข่าวเมื่อวาน
เก็บเนื้อวัวกลัวกินหญ้า
ปนเปือนสารกัมมันตภาพรังสีเข้าไป
ผมให้อีก 10 ปี สำหรับญี่ปุ่น รอบนี้
จนกว่าคนจะลืม หรือจนกว่าจะควบคุมการแพร่กระจาย
ของสารกัมมันตภาพรังสีที่รั่วไหลออกมาได้
เมื่อกองทุนต่างชาติโยกเงินไหลเข้ามาในไทย
เขาจะได้กำไรจากค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ
สมมุติว่าเขาเอาเงินเข้ามาตอน 30 บาทต่อดอลล่าห์
แล้วเขาก็โยกเงินเข้ามาเรื่อยๆ
แบงค์ชาติสกัดไม่อยู่แน่
ก็อาจไหลไปถึง 25 บาทต่อดอลล่าห์
ถึงเวลานั้นเขาอาจค่อยๆ ทะยอยขาย
เพื่อทำกำไรแล้วโยกเงินกลับอเมริกา
ทุนสำรองของไทยก็จะลดลงฮวบฮาบ
ขึ้นอยู่กับว่าอเมริกาฟื้นเร็วหรือไม่
ดังนั้นใครเห็นมีตัวเลขเงินทุนสำรองเยอะๆ
แล้วออกมาหนุนให้นำมาใช้ทำนั่นทำนี่
วันหนึ่งเขาโยกเงินกลับไม่มีเงินทุนสำรอง
ในสกุลดอลลาห์ให้เขาแลกกลับ
ก็คงไม่พ้นต้องคลานไปหา IMF อีกรอบ
ตัวอย่างการคำนวนการเก็งกำไรค่าเงินบาท
สมมุตินำเงินเข้ามา 1 ดอลลาห์
ซื้อบาทได้ 30 บาท
พอนำเงินเข้ามาซื้อมากๆ
ก็เป็นไปตามกลไกตลาด
คือค่าเงินบาทจะแข็งขึ้น
เพราะความต้องการมากขึ้น
ก็จะแข็งค่าขึ้นไปเรื่อยๆ
สมมุติไปจนถึง 25 บาทต่อดอลลาห์
แล้วเขาก็นำเงินแค่ 25 บาท
แลกได้เงินดอลลาห์ 1 เหรียญ
คืนต้นทุนที่นำเข้ามา
แถมได้กำไรอีก 5 บาท
มีเยอะๆ เป็นแสนๆ ล้านดอลลาห์
ลองหลับตานึกภาพดูว่า
เขาจะฟันกำไรกันขนาดไหน
ในวันที่เขาขนเงินกลับ
ดังนั้นไม่ต้องดีใจ
คนไทยเตรียมตัว
ถูกปล้นความร่ำรวยอีกรอบ
ในอีก 5 ปีข้างหน้า
นี่เป็นความน่ากลัวอย่างหนึ่ง
ของโลกทุนเสรีแบบนี้
แถมยังมาช่วยกดอัตราดอกเบี้ย
ของธนาคารไทย ไม่ให้ขึ้นสูงอีกด้วย
เพราะกลัวว่าจะแห่ขนเงินมาฝากได้
และการที่เงินแข็งค่าขึ้น
นักท่องเที่ยวจากอเมริกา
หรือประเทศที่ค่าเงินไม่ได้แข็งขึ้นรอบนี้
มาไทยจะรู้สึกเหมือนกับว่า
ของทุกอย่างแพงขึ้น หลายสิบเปอร์เซ็นต์
นับตั้งแต่ตั๋วเครื่องบินมาเลย
ดังนั้นยอดนักท่องเที่ยวจากประเทศเหล่านี้อาจลดลง
ต้องหาเพิ่มแถวอาเซียนด้วยกันกับจีน
พอประคับประคองไปได้
ส่วนราคาพืชผลทางการเกษตร
ก็จะขายได้ราคาเป็นเงินบาทลดลง
ถ้าเขายึดการค้าขายด้วยเงินดอลลาห์
ทำให้นโยบายดันราคาข้าวสูง
จะไม่ง่ายเหมือนช่วงที่เงินบาทอ่อน
นั่นแทบไม่ต้องทำอะไรเท่าไหร่
มันก็จะสูงเองโดยมีค่าเงินช่วยหนุน
แต่งวดนี้เรื่องข้าวก็ต้องจัดการให้ดี
มีสิทธิ์ขายได้ตามราคาที่กำหนด
แต่อาจต้องมีการจัดการที่ดีกว่าเดิม
เหนื่อยกว่าเดิมสักหน่อยแต่ไม่น่ายาก
โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ ของดีแพงแค่ไหน
เศรษฐีก็มีเงินซื้อกิน โดยเฉพาะตลาดจีน
มีเศรษฐีใหม่เยอะมากขึ้น
โดยเฉพาะตามหัวเมืองริมชายทะเลฝั่งตะวันตกของจีน
วิธีแก้ไขเรื่องการเก็งกำไรค่าเงินบาท
ก็คืออย่าไปหลงปลื้มกับการเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาท
หลงภาพเงินทุนสำรองที่สูงขึ้นมากๆ
ควรหาทางออกมาตรการสกัดแต่เนิ่นๆ
กีดกันไม่ให้มีการโยกเงินเข้ามาเก็งกำไรกันมากๆ
อย่าให้ทะลักเข้ามามากเพราะถ้าเข้ามามากๆ
แล้วถึงคิดไปกีดกันวันนั้นก็อาจได้รับผลสะเทือนมาก
อันที่จริงที่เข้ามาตอนนี้ก็ถือว่าเข้ามามากแล้ว
มากกว่าปกติเหยียบแสนล้านดอลล่าห์แล้ว
แต่โชคดีของไทยอีกอย่าง บนความโชคร้าย
เดี๋ยวก็เกิดความวุ่นวายทางการเมืองอีก
พวกที่ขนเงินมาไทยก็อาจย้ายไปแถวเพื่อนบ้านแทน
ไม่ต้องไปเสียดาย พวกนั้นเข้ามาฟันเราในอนาคตทั้งนั้น
ไล่ไปตอนนี้อนาคตจะได้ไม่ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนมาก
จะได้ไม่รู้สึกเหมือนโดนปล้นงวดหน้าอีกหลายแสนล้านบาท
ไล่ไปเหลือไม่เกินแสนล้านดอลลาห์ก็พอ
ค่าเงินบาทแข็งน้อยกว่าเพื่อนบ้านหน่อยๆ จะดีกับไทยมากกว่า
โดยเฉพาะสินค้าส่งออกและการท่องเที่ยว
ส่วนคนไทยที่มีเงินมากๆ
ก็รอวันไหนค่าเงินแข็งมากๆ สัก 25-27 บาท
ก็ไปซื้อเงินดอลลาห์กักตุนไว้ได้เลย
เดี๋ยวอีกไม่กี่ปีดอลลาห์ก็จะแข็งค่าอีก
แล้วเงินบาทก็จะอ่อนลง
แตะต่ำกว่า 30 บาทวันไหน
ถึงนำกลับมาแลกเงินบาท
ฟันกำไรอัตราแลกเปลี่ยน
การเก็งกำไรที่ซื้อดอลลาห์ช่วงบาทแข็ง
และนำกลับมาขายเมื่อบาทอ่อน
เป็นการช่วยชาติได้ถ้ามีปริมาณเยอะๆ
เพราะช่วยชลอไม่ให้เงินบาทแข็งค่ามากเกินไป
ในตอนไปซื้อเงินดอลลาห์
แล้วพอตอนขายก็ช่วยชลอไม่ให้อ่อนมากเกินไป
เป็นการทำกำไรค้าเงินแบบที่ไม่เรียกว่าซ้ำเติมประเทศ
ยกเว้นทำแบบพวกต่างชาติที่เอาเงินดอลลาห์
มาซื้อช่วงเงินบาทอ่อน แล้วขายช่วงเงินบาทแข็ง
แบบหลังนี่ทำกำไรซ้ำเติมประเทศ
โดย มาหาอะไร
---------------------------------------------------------------
'ไอโฟน-ไอแพด' ดันแอปเปิ้ลผงาด! ไตรมาส 3 รับกว่า 8 แสนล้าน
เผยรายได้ไตรมาส 3 ประจำปี 2011 ของแอปเปิ้ล กว่า 854,500 ล้านบาท กำไร 218,600 ล้านบาท ไอโฟน-ไอแพด ขายดีสุด รวมกันเกือบ 30 ล้านเครื่อง วันเดียวกันเปิดตัว แมคบุ๊กแอร์ รุ่นใหม่เขย่าวงการอีกครั้ง...
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ว่า แอปเปิ้ล บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ยังผงาดอย่างไม่หยุดยั้ง ล่าสุดเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 3 ประจำปี 2011 ระหว่างเม.ย - 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา ว่าสามารถทำเงินมากถึง 28,570 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กว่า 854,500 ล้านบาท (มากกว่าปีที่แล้ว 83 เปอร์เซ็นต์) และทำกำไรได้ 7,310 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กว่า 218,600 ล้านบาท (มากกว่าปีที่แล้ว 95 เปอร์เซ็นต์) ถือเป็นรายได้สูงสุดประจำไตรมาสในประวัติการณ์ของแอปเปิ้ล
สำหรับยอดขายโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนสุดฮิต "ไอโฟน" ในไตรมาสดังกล่าว สรุปได้ 18.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กว่า 557 ล้านบาท มากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 113 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีผลอย่างยิ่งต่อการสร้างรายได้ให้กับไตรมาสนี้ เพราะแอปเปิ้ลเปิดตัว ไอโฟน และ ไอแพด รุ่นใหม่ โดยมียอดขายในไตรมาสนี้ได้รวมกันเกือบ 30 ล้านเครื่อง
ด้าน สตีฟ จ็อบส์ ซีอีโอของแอปเปิ้ล เผยว่า "ตอนนี้ เรากำลังโฟกัสไปที่ iOS5 และ iCloud ซึ่งจะสามารถนำมาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันในฤดูใบไม้ร่วงนี้"
วันเดียวกันมีรายงานว่า แอปเปิ้ล ได้เปิดตัว "แมคบุ๊กแอร์" รุ่นใหม่ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานกว่าเดิม ระบบประมวลผลอินเทล แซนดี้ บริดจ์ core i5 และ i7 ดูอัลโพรเซสเซอร์ คีย์บอร์ดเรืองแสง การเชื่อมต่อทันเดอร์โบลต์ความเร็วสูง เช่นเดียวกับการอัพเกรด "แมคบุ๊กโปร" ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี่ที่ผ่านมา สำหรับขนาดหน้าจอยังคงเป็น 11 และ 13 นิ้วเช่นเดิม.
http://www.thairath.co.th/content/oversea/187949
---------------------------------------------------------------
ช็อก!ยุ่นพบรังสีนุกปนเปื้อนฟางข้าวเลี้ยงวัว 10 จังหวัด
ทางการญี่ปุ่นพบการปนเปื้อนของกัมมันตภาพรังสี " ซีเซียม" ในฟางข้าวที่ใช้เลี้ยงปศุสัตว์ในพื้นที่กว่า 10 จังหวัด ถือเป็นข่าวร้ายล่าสุดของแวดวงอุตสาหกรรมอาหารของญี่ปุ่นหลังเกิดการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมา ไดอิจิเมื่อ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา...
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 21 ก.ค. ว่า ทางการญี่ปุ่นตรวจพบการปนเปื้อนของกัมมันตภาพรังสีชนิด " ซีเซียม" ในฟางข้าวที่ใช้เลี้ยงปศุสัตว์แล้วในพื้นที่กว่า 10 จังหวัด ขณะที่เนื้อของปศุสัตว์ที่บริโภคฟางข้าวที่ปนเปื้อนเหล่านี้ได้ถูกชำแหละส่งไปจำหน่ายเกือบทั่วประเทศ
รายงานข่าวระบุว่า คณะผู้ตรวจสอบจากสำนักงานความปลอดภัยทางนิวเคลียร์แห่งชาติของญี่ปุ่นตรวจพบการปนเปื้อนของสาร "ซีเซียม" ในฟางข้าว ในระดับที่สูงเกินกว่ามาตรฐานความปลอดภัยที่รัฐบาลญี่ปุ่นกำหนดไว้ถึง 7 เท่า ที่ฟาร์มแห่งหนึ่งในจังหวัดชิสึโอกะ ถือเป็นการตรวจพบการปนเปื้อนของกัมมันตภาพรังสีในฟางข้าวเป็นจังหวัดที่ 10 ของประเทศ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร (19) ทางการญี่ปุ่นเพิ่งสั่งห้ามขนส่งเคลื่อนย้ายเนื้อวัวจากจังหวัดฟุกุชิมา หลังตรวจพบการปนเปื้อนของกัมมันตภาพรังสีชนิดเดียวกันนี้ในเนื้อวัวที่มาจากจังหวัดดังกล่าว โดยมีรายงานจากสื่อท้องถิ่นของญี่ปุ่นว่า พบปริมาณการปนเปื้อนในเนื้อวัวล็อตดังกล่าวสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 9 เท่า
http://www.thairath.co.th/content/oversea/188029
---------------------------------------------------------------
FfF