อับราฮัม ลินคอล์น ผู้พ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำอีก
อดได้ ทนได้ จึงได้ดี จากการวิจัยพบว่าคนที่มีชื่อเสียง จำนวนมากมีสติปัญญาเท่าๆ กับคนทั่วไป คือมีสมองธรรมดาๆ แต่ว่าเป็นคนมีลักษณะพิเศษ คือ อุตสาหะพากเพียร อดทนและ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค คนเหล่านี้ เคยพ่ายแพ้มาหลายต่อหลายครั้ง แต่พวกเขาไม่เคยท้อถอย เขาใช้ความผิดพลาดในอดีต เป็นบทเรียน เป็นบันไดก้าวข้าม อุปสรรคไปสู่ความสำเร็จ อับราฮัม ลินคอล์น ผู้พ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำอีก “ผมก้าวเดินไปอย่างช้าๆ แต่ไม่เคยถอยหลัง” เป็นคำพูดของอับราฮัม ลินคอล์น ผู้ซึ่งมุ่งมั่น ที่จะยึดอาชีพทางการเมืองแม้ว่าจะประสบความ พ่ายแพ้อย่างเจ็บปวดมาหลายต่อหลายครั้ง 1. แพ้การเลือกตั้งสมาชิกสภาปี 2374 2. แพ้การเลือกตั้งสมาชิกสภาปี 2386 3. แพ้การเลือกตั้งสมาชิกสภาปี 2388 4. แพ้การเลือกตั้งวุฒิสมาชิกปี 2397 5. แพ้การเลือกตั้งวุฒิสมาชิกปี 2401 แต่ในที่สุดเขาก็ได้รับการเลือกตั้งเป็น ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา ในปี 2403 “อับราฮัม ลินคอห์น :บุรุษผู้ปลดปล่อยทาสของโลก” อับราฮัม ลินคอล์น ถือได้ว่าเป็นต้นแบบของการเลิกทาสของโลกนำไปสู่การสร้างความ คัดลอกบางตอนมาจาก หนังสือ...มีขันติ คือ ให้พรแก่ตัวเอง โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก http://www.dhammajak.net/forums/view...hp?f=9&t=20067 |
http://board.palungjit.com/f9/อับราฮัม-ลินคอล์น-ผู้พ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำอีก-295679.html
--------------------------------------
เตรียมรับมือกับความล้มเหลว
“คุณเคยทำสิ่งที่ผิดพลาดในชีวิตหรือไม่?”
แน่นอนว่าทุกคนย่อมตอบว่า “เคย” เพราะคงไม่มีใครไม่เคยผิดพลาดเลยในชีวิต สอบเอนทรานซ์ไม่ติด ทำงานผิดพลาด เลิกกับแฟน การค้าขาดทุน ฯลฯ สถานการณ์แย่ ๆ เหล่านี้ทำให้เราต้องคิดหาทางออกที่ต่างกันไป บางคนแก้ไขได้ก็ผ่านพ้นไปด้วย ดี แต่ถ้าไม่ อาจทำให้เกิดสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าขอเพียงแต่เราใช้ “สติ” ตั้งรับปัญหาและความล้มเหลวที่เกิดขึ้นด้วยวิธีการที่ไม่ยากอย่างที่คิด ลอง ดูตัวอย่างต่อไปนี้
ชาย คนหนึ่ง ทำธุรกิจล้มเหลว ตอนอายุ 21 ปี / สอบกฎหมายไม่ผ่าน ตอนอายุ 22 ปี / ทำธุรกิจล้มเหลวอีกครั้ง ตอนอายุ 24 ปี จนต้องทำงานชำระหนี้สิน ที่หุ้นส่วนได้ก่อไว้เป็นเวลาถึง 17 ปี / เกิดอาการทางประสาท เมื่ออายุ 27 ปี / เมื่ออายุ 34 ปี ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกรัฐสภาแห่ง "อิลลินอยด์" เขาประสบความปราชัยอย่างย่อยยับ
และเมื่อเขารักกับผู้หญิงคนหนึ่ง หมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้ว ยังไม่ทันจะแต่งงานเธอก็เสียชีวิตลง
เขาได้หวนกลับมาเล่นการเมืองอีกครั้ง พอสมัครรับเลือกตั้งก็พ่ายแพ้การเลือกตั้งเรื่อยมา ซ้ำแล้วซ้ำอีก หลายต่อหลายครั้ง
เขาล้มเหลว...อยู่ตลอดเวลา จนแทบจะตั้งตัวไม่ติดเลย
แต่เขาก็สามารถใช้ "ความพยายาม" เผชิญกับอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงได้ ไม่ว่าอะไร จะเกิดขึ้นเขาก็ไม่สิ้นความพยายาม คุณรู้ไหมว่า...เขาคนนั้นคือใคร
เขา..ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา เมื่อตอนอายุ 52 ปี... เขาคือ อับราฮัม ลินคอล์น นั่นเอง!!
http://www.pattanakit.net/รวมแนะนำบทความดีๆ/คุณเคยทำสิ่งที่ผิดพลาดในชีวิตหรือไม่--.html--------------------------------------
อย่าอายที่จะเป็นผู้แพ้ แต่จงอายที่ไม่กล้าลุกขึ้นมาต่อสู้
posted on 26 Apr 2009 21:05 by dikaauj
อับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกา ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เขาผู้นี้ ต้องบอกว่าเป็นผู้แพ้มาทั้งชีวิต 40 กว่าปี แพ้ตลอด แต่มาชนะเอาเมื่อ 7 ปีสุดท้ายของชีวิต และชื่อของเขาก็จารึกลงในความทรงจำของมวลมนุษยชาติ โดยเฉพาะผลงานสำคัญคือ การเลิกทาส และสงครามรวมชาติสหรัฐอเมริกา
ลินคอล์น เกิดมาก็แพ้แล้ว ด้วยชีวิตที่ยากจนค้นแค้นสุดๆ เรียกว่าอยู่บ้านนอก พื้นบ้านเป็นดินชื้น บ้านไม่มีหน้าต่างหรือช่องลม แม่ตายตั้งแต่ยังเด็ก พ่อก็เหมือนคนสำมะเหร่เทเมา โชคดีหน่อยที่ได้แม่เลี้ยงที่ดี ลินคอล์น ถูกเพื่อนบ้านด่าว่าเป็นคนไม่เอาถ่าน เพราะไปทำไร่ก็ไม่กระจิตกระใจที่จะทำ นั่งฝันกลางวันอยู่ตลอดเวลา
เรื่องการเรียน ก็ไม่ได้เข้าโรงเรียนแบบคนปกติหรอก ทั้งชีวิตก็เรียนด้วยตนเองเสียมากกว่า แต่สิ่งที่ดีมากๆของลินคอล์นคือเป็นคนรักการอ่าน หนังสือไม่ใช่ว่าจะมีเงินซื้อ หรือจะมีห้องสมุดให้หยิบยืมกันง่ายๆ อาศัยว่า บ้านไหนมีหนังสือดีๆ ก็ขอยืมเข้ามาอ่าน บางทีต้องเดินกันขาลาก กว่าจะถึงบ้านคนที่มีหนังสือให้ยืม
ครั้งหนึ่งเขายืมหนังสือ"ชีวิตวอชิงตัน"มาอ่าน เมื่ออ่านจบ เขาแสดงความปราถนาอันแรงกล้าออกมาว่า"ผมจะต้องเป็นประธานธิบดีอย่างยอร์ช วอชิงตัน"
ผู้ที่ได้ยินได้ฟังต่างพากันหัวเราขบขัน บ้างเย้ยหยันว่าเด็กโง่ๆทึ่มๆ และไร้การศึกษาอย่างเขาเหมาะที่จะเป็นภารโรงหรือเด็กรับใช้มากกว่าจะตะเกียก ตะกายเป็นประธานาธิบดี แต่เขาหาโกรธไม่ กลับมุมานะพยายามอย่างแรงกล้าที่จะศึกษาหาความรู้เพื่อจะให้ได้เป็น ประธานาธิบดี
ลินคอล์น เห็นว่าการเป็นชาวไร่นี้ถ้าจะไม่มีอนาคต พร้อมกับได้แรงดลใจจากการอ่านหนังสือคำบรรยายกฎหมาย เขาจึงจะตัดสินใจเรียนกฎหมาย แต่ไม่ใช่ว่าจะไปเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ แบบนี้ลินคอล์นไม่มีปัญญา ก็อาศัยหยิบยืมหนังสือมาอ่านแล้วไปสอบเป็นทนายความ
เป็นทนายความชีวิตก็ยังลุ่มๆดอนๆ เงินทองก็หามายาก จนต้องไปหากินด้วยการติดตามผู้พิพากษาไปในชนบทไกลๆ
ลินคอล์น นอกจากเป็นทนายความ เงินทองไม่ค่อยจะพอ ก็ร่วมทุนกับเพื่อนทำร้านโชวห่วย เปิดได้ไม่นานก็ต้องเลิกกิจการ
ลินคอล์นเป็นคนที่มีคารมคมคาย แต่ไม่ใช่เรื่องพรสรรค์ แต่เป็นการทำงานหนักของเขาที่จะต้องศึกษาหาความรู้เพื่อจะนำมาร่างเป็น สุนทรพจน์ และด้วยแรงผลักดันของภรรยาที่มีความทะเยอทะยานสุดๆ ผลัดดันให้คนเฉื่อยแฉะอย่างลินคอล์น ก้าวสู่วงการการเมือง
ลินคอล์นยังแพ้ไม่พอ ลงสมัครเป็น ส.ส. ของรัฐก็แพ้ แพ้หลายครั้ง จนไม่อยากจะจำ แต่ด้วยความที่เป็นนักต่อสู้ แพ้มาหลายครั้งในชีวิต จะแพ้อีกสักหน่อยจะเป็นไร ก็สู้สมัครเป็น ส.ส. รัฐ มาเรื่อย จนได้เป็นสมความหวัง
จาก ส.ส. พี่ลินคอล์น ก็นึกสนุกอยากจะเป็น ส.ว. บ้าง ลินคอล์น นี้ สังกัด รีพับลิกัน ต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่อดีตเคยเป็นคู่แข่งในชีวิตรัก ชื่อของคู่แข่งคือ สตีเฟน ดักลัส
ดักลัสนี้เรียนสูง ร่ำรวย เรียกว่าเทียบลินคอล์นนี้คนละเรื่องเลย ปรากฏว่า ลินคอล์นพยายามต่อสู้อย่างดุเดือด สุดท้ายลินคอล์นแพ้
แพ้ซ้ำซาก อย่างนี้ เป็นคนอื่นคงจะถอดใจ
มาถึงตอนนี้ ลินคอล์นก็ยังเป็นทนายบ้านนอก ยากจนอยู่ ยังดูอนาคตยังหมองหม่นอยู่ หากมีใครมาบอกว่า เขาจะเป็นประธานาธิบดี ก็ต้องบอกว่า ฝันไปหรือเปล่า
แต่คนมันจะรุ่ง ช่วยไม่ได้ มาตอนที่พรรครีพับริกันจะเลือกผู้สมัครท้าชิงประธานาธิบดี ที่จริง พรรคเขาจะเลือก วุฒิสมาชิก ชิวเวิร์ด อยู่แล้ว แต่มีปัญหาทางเทคนิคนิดหน่อย เลยเลื่อนเวลาอีก 12 ชั่วโมง เพื่อลงคะแนนเสียง
ตอนนั้น มีกระทานาย กรีลีย์ มีแค้นเก่ากับชิวเวิร์ด ก็ออกล็อบบี้ สร้างภาพน่ากลัวว่าเลือกชิวเวิร์ดละก็แย่แน่ๆ สู้หันมาเทคะแนนเลือก ลินคอล์น ซึ่งเคยเป็นคู่แข่งของ ดักลัส ซึ่งจะเป็นตัวแทนของเดโมแครตดีกว่า
แล้วที่สุด ลินคอล์นก็ได้รับเลือก แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ตอนนั้น เดโมแครต ทะเลาะกัน แทนที่จะส่งแต่ดักลัสคนเดียว ก็มีพวกที่แยกออกมาลงอีก 2 คน เรียกว่าคะแนนเสียงแตก ฟ้าบันดาลให้ ลินคอล์น เป็น ประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกา
แม้แต่ตอนที่จะมาเป็น ประธานาธิบดี ลินคอล์นยังเป็นทนายจนๆอยู่เหมือนเดิม
ตอนนั้น เป็นช่วงกลียุคของ สหรัฐอเมริกา เกิดสงครามกลางเมือง ฝ่ายเหนือให้เลิกทาส ฝ่ายใต้ไม่ยอม
ตอนแรกๆ ฝ่ายใต้นี้ก็ชนะมาเรื่อย ด้วยฝีมือของ นายพลดังอย่าง นายพลลี
ไม่วาย เป็นประธานาธิบดี ก็ยังต้องแพ้สงครามมาเรื่อยๆ จนเกือบประกาศยอมแพ้อยู่แล้ว
แต่ สุดท้าย ไปได้ นายพลฝีมือดี อย่างนายพล แกรนต์ มาเป็นนายทัพ คราวนี้ก็เริ่มดีขึ้นรุกไล่ฝ่ายใต้ จนชนะสงคราม
ผู้แพ้อย่าง ลินคอล์น ก็ถูกจารึกชื่อ เป็นประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
เป็นไงครับ หากคุณแพ้บ่อยๆ อย่าพึ่งท้อ ไม่แน่ คุณอาจจะชนะอย่างยิ่งใหญ่เหมือนกับ ลินคอล์นก็ได้
อย่าอายที่จะเป็นผู้แพ้ แต่จงอายที่ไม่กล้าลุกขึ้นมาต่อสู้
--------------------------------------
FfF