บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


05 สิงหาคม 2554

<<< ควรเปลี่ยนวิธีสำรวจภาวะคนว่างงานใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับวิธีการแก้ปัญหาการว่างงานทั้งระบบต่อไป >>>

เห็นวิธีสำรวจการว่างงาน
ก็ส่อให้เห็นความไม่มีมาตราฐาน
สามารถกำหนดขึ้นลงตามใจคนได้ด้วย
เพราะใช้วิธีสำรวจหรือทำโพลล์
ยุคสมัยนี้ยังคิดจะใช้วิธีโบราณกันอีก

<<< ข้อเท็จจริงที่ควรรู้ เรื่อง วิธีสำรวจภาวะคนว่างงาน เขาทำกันยังไง >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2010/02/blog-post_18.html

แทนที่จะใช้วิธีมาตรฐานเหมาะสมกับยุคสมัย
ฝากรัฐบาลนี้ช่วยสังคายนาให้ที
วิธีสำรวจคนว่างงานแบบในอดีตเชื่อถือไม่ได้
สามารถทำตามใจผู้บริหารประเทศได้
อยากให้ผลออกมาดีก็ดีได้
เพราะทำมาจากการสำรวจหรือทำโพลล์ดีๆ นี่เอง

วิธีที่ควรจะเป็น
ต้องกำหนดเว็บไซด์ทางการสำหรับคนว่างงาน
ประชาสัมพันธ์ตามสื่อทีวี วิทยุ นสพ.
ให้รับรู้ทั่วกันว่า
ใครว่างงานให้มาลงทะเบียน
และกรอกประวัติสำหรับการสมัครงานทิ้งไว้
รัฐจะถือตัวเลขในเว็บเป็นตัวเลขการว่างงานที่แท้จริง
ใครเล่นเน็ตไม่เป็น ไปที่กรมแรงงาน
แต่ละจังหวัดหรืออำเภอป้อนข้อมูลให้
หรือให้ลูกหลานสอนก็ได้
ให้ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ช่วยลงทะเบียนให้ก็ได้
ไม่กี่บาทเดี๋ยวนี้เหลือชั่วโมงละไม่กี่สิบบาทแล้ว

ใครไม่กรอกแสดงว่า
ไม่ต้องการอยากมีงานทำ
ไม่ถือเป็นบุคคลว่างงานที่แท้จริง
ผู้รับจ้างทั่วไปแรงงานเกษตรต่างๆ
ที่ไม่มีงานทำ ก็มาลงทะเบียนทิ้งไว้
และหาวิธีเชื่อมโยงตรวจสอบ
กับฐานข้อมูลประกันสังคม
ว่าคนพวกนี้มีงานทำยัง
อัพเดตสถานะทุกอาทิตย์หรือทุกวันได้ยิ่งดี
กรณีแรงงานนอกประกันสังคม
ก็ต้องระบุและมาอัพเดตสถานะ
ว่าตนเองมีงานทำหรือยัง
หรือหาทางนำเข้าประกันสังคมให้หมด
โดยอาจให้รัฐเปิดบริษัทเฉพาะกิจ
สำหรับแรงงานภาคการเกษตรแรงงานไร้ฝีมือแรงงานทั่วไป
ใครต้องการแรงงานให้มาคัดคนไป
เรียกว่าพยายามนำเข้าประกันสังคมให้หมด
ค่อยๆทำไปเดี่ยวก็มีหนทางเก็บข้อมูลได้ครบ
และน่าเชื่อถือตรวจสอบได้ด้วย

แถมรัฐยังสามารถนำข้อมูลคนว่างงาน
ในสาขาวิชาชีพต่างๆ มากำหนดนโยบาย
สร้างงานให้กับสาขานั้นเช่น
จบศิลปะมาก็อาจให้ทำผลงานศิลปะมาขายรัฐ
ในราคาที่เหมาะสมประดับตามที่สาธารณะ เป็นต้น
สาขาอื่นก็เหมือนกัน สามารถรับรู้ได้ว่า
มีคนตกงานที่จังหวัดไหน
และอยากไปทำงานที่ไหนสาขาไหน
จะได้ส่งเสริมอุตสาหกรรม
หรืออาชีพได้ถูกต้อง
นี้จะเป็นการแก้ปัญหาคนตกงาน
ได้อย่างจริงจังที่สุดในโลกด้วย
เพราะยังไม่เคยมีประเทศไหนทำมาก่อน
ส่วนใหญ่ก็ใช้วิธีเดียวกับไทยที่ทำตอนนี้
เน้นสำรวจสุ่มนั่งเทียน
ไม่คิดแก้ปัญหาคนว่างงานจริงจัง
แถมพวกชอบทำตามตำรานิยม
จะไม่ทำให้มีคนตกงานหายตกงานหมด
เพราะกลัวเงินเฟ้อซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
คนที่อยากทำงานต้องทำให้เขามีงานทำ
ให้ได้หมดทุกคนเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
แล้วถ้าเกิดสาขาไหนขาดแคลนมันมีวิธีแก้
แบบง่ายๆ ก็นำเข้าแรงงานสาขานั้นจากต่างประเทศ
เพราะความสามารถในการบริหารเศรษฐกิจ
ของแต่ละประเทศไม่เท่ากัน รวมไปถึงข้อจำกัด
ดังนั้นเลิกกลัวเงินเฟ้อเพราะอัตราว่างงานเข้าใกล้ 0% ได้แล้ว
ไม่เช่นนั้นก็ยังปล่อยปละละเลยให้มีคนตกงานไว้แบบทุกวันนี้

ที่สำคัญมันยังโยงถึงหลักสูตรการศึกษาระดับ ปวช. ปวส. และป.ตรี
ว่าสาขาไหนมีความต้องการในเว็บทางการต้องมีที่รับสมัครงาน
ตำแหน่งที่บ.ต่างๆ ต้องการรับสมัครด้วย
จะได้ข้อมูลมากำหนดหลักสูตรการศึกษาให้สอดคล้อง
มองอนาคตกันออกว่าเรียนมามีงานทำแน่สาขานี้
หรือเรียนมาตกงานแน่เยอะเกิน
ก็ไปเรียนสาขาอื่นรวมไปถึงลดประมาณการสอนลง
ควรมีการปรับปรุงปรับเปลี่ยนหลักสูตรเสมอๆ
ไม่ใช่เคยสอนมายังไงจำนวนคนเท่าไหร่แต่ละปี
ก็ทำเหมือนๆ เดิม เป็นหลัก แบบไม่สนใจว่า
ความต้องการตลาดต้องการสาขาไหน แบบปัจจุบัน
ทำกันได้ไร้สาระมาก
ถ้าทำแบบที่ว่าจะสามารถแก้ปัญหาแรงงานได้ทั้งระบบ

โดย มาหาอะไร
FfF