เผยรายชื่อ 40เศรษฐีไทย ธนินท์รวยสุด-ทักษิณ23
- 2 ก.ย. 53 09.21 น.
- สนับสนุนเนื้อหา
ฟอร์บส์ บริษัทจัดอันดับชื่อดังของโลก จัดอันดับบุคคลที่รวยที่สุดของไทย 40 อันดับ โดย เจ้าสัวซีพี รั้งอันดับ 1 , โกเหลียว กระทิงแดง ร่วงลงอันดับ 2 ขณะ พ.ต.ท.ทักษิณ รั้งอันดับ 23 หลังถูกยึดทรัพย์
1. ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) มูลค่ารวมทรัพย์สิน 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ กว่า 217,000 ล้านบาท
2. เฉลียว อยู่วิทยา หรือ "โกเหลียว" เจ้าของเครื่องดื่มชูกำลัง กระทิงแดง หรือ เรดบูล มูลค่ารวมทรัพย์สิน 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 130,000 ล้านบาท
3. เจริญ สิริวัฒนภักดี ผู้ก่อตั้งบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ เจ้าของธุรกิจวิสกี้และเบียร์ (เหล้าแม่โขง , เบียร์ช้างฯลฯ ) มูลค่ารวมทรัพย์สิน 4,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
4. ครอบครัว "จิราธิวัฒน์" เจ้าของกิจการหลายอย่าง ตั้งแต่ธุรกิจค้าปลีก เครือข่าย เซ็นทรัล กรุ๊ป มูลค่ารวมทรัพย์สิน 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
5. กฤตย์ รัตนรักษ์ ประธาน และ ซีอีโอ ของ บริษัท บางกอก บรอดคาสติ้ง แอนด์ ทีวี (ช่อง7) โดยมีทรัพย์สินรวมถึงหุ้นในธนาคารกรุงศรีอยุธยา และปูนซิเมนต์นครหลวง มูลค่ารวมทรัพย์สิน 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
6. Aloke Lohia Chief Executive Officer บริษัท อินโดรามา โพลีเมอร์ส จำกัด (มหาชน) และอาศัยอยู่ในประเทศไทยมานานกว่า 20 ปี มูลค่า รวมทรัพย์สิน 1,250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( นายอาลก โลเฮีย )
7. จำนงค์ ภิรมย์ภักดี ประธานบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ (เบียร์สิงห์ , ลีโอเบียร์) มูลค่ารวมทรัพย์สิน 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
8. ทองมา วิจิตรพงศ์พันธ์ เจ้าของกิจการพฤกษาเรียลเอสเตท บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ อันดับ 2 ของประเทศ มูลค่ารวมทรัพย์สิน 1,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
9. วิชัย มาลีนนท์ เจ้าของกิจการ บีอีซีเวิลด์ และไทยทีวีสี ช่อง 3 มูลค่ารวมทรัพย์สิน 1,110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
10. อิสระ ว่องกุศลกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทมิตรผล (น้ำตาลมิตรผล) มูลค่ารวมทรัพย์สิน 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
11. คุณหญิงประณีตศิลป์ วัชรพล ภรรยา นายกำพล วัชรพล เจ้าของหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หนังสือพิมพ์หัวสีใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ร่วมมูลค่าทรัพย์สิน 1,050 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
12. นายวาณิช ไชยวรรณ และครอบครัว เจ้าของกิจการไทยประกันชีวิต
13. นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTS)
14. นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเครือบริษัท ไทยซัมมิต ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ถือหุ้นส่วนหนึ่งอยู่ใน เนชั่น มัลติมีเดีย
15. นางสุรางค์ เปรมปรีดิ์ กรรมการผู้จัดการบีบีทีวี (ช่อง7)
16. นายประยุทธ มหากิจศิริ เจ้าของกิจการเหล็กกล้า ไทยน็อกซ์ สแตนเลส
17. นายอนันต์ อัศวโภคิน ผู้ก่อตั้งบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮาส์
18. นายไกรสร ชาญสิริ ประธานและผู้ก่อตั้ง ไทย ยูเนียน ฟรอซเซน กิจการทูน่ากระป๋อง ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก
19. วิลเลียม อี. ไฮเนคกี้ และครอบครัว เจ้าของกิจการ ไมเนอร์ คอร์ป., ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ทำธุรกิจ อาทิ เอสปรี และธุรกิจภัตตาคาร , สปา , โรงแรม มากกว่า 800 แห่งในหลายประเทศ
20. นายสรรเสริญ จุฬางกูร ผู้ก่อตั้งบริษัท สามมิตรมอเตอร์ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
21. นายบุญชัย เบญจรงคกุล และครอบครัวผู้ก่อตั้ง บริษัทโทรคมนาคม ดีแทค
22. คุณหญิงประภา และนายวิทย์ วิริยะประไพกิจ ผู้บริหาร สหวิริยา สตีล อินดัสตรี้
23. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี Thaksin Shinawatra ทรัพย์สิน 390 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
24. นิชิต้า ชาห์ สาวโสด เจ้าของกิจการพรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) ที่สืบทอดจากบิดา
25. นายวรวิทย์ วีรบวรพงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด(มหาชน)
26. นายจำรูญ ชินธรรมมิตร์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน)
27. น.พ.ประเสริฐ ปราสาททองโอสถ ผู้ก่อตั้งสายการบิน บางกอก แอร์เวย์ส
28. นางนิจพร จารนะจิตต์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ในอิตาเลียน-ไทย พี่สาวของ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานโรงแรมโอเรียนเต็ล และมีหุ้นส่วนตัวอยู่ในเครือโรงแรมอมารี
29. นายเปรมชัย กรรณสูต ผู้บริหารสูงสุดของ บริษัทรับเหมาก่อสร้าง อิตาเลียน-ไทย
30. นายนิติ โอสถานุเคราะห์ ได้รับตกทอดหุ้น บริษัท โอสถสภามา 25% มีเงินลงทุนอยู่ใน ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแน
31. นายรุ่งโรจน์ แสงศาสตรา ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไดนาสตี้ เซรามิค จำกัด (มหาชน)
32. นายเฉลิม อยู่วิทยา (ลูกชาย นายเฉียว อยู่วิทยา) เป็นผู้บริหาร บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด
33. นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
34. นายวิโรจน์ ธนาลงกรณ์ เจ้าของธุรกิจเสื้อผ้า โดยเฉพาะ ชุดชั้นใน ซาบีน่า
35. นายวิชัย รักศรีอักษร ผู้ก่อตั้งบริษัท คิง เพาเวอร์ ดำเนินกิจการร้านค้าปลอดภาษี
36. นางพรดี ลี้อิสระนุกูล สืบทอดกิจการในเครือกลุ่ม บริษัทสิทธิผล จาก นายวิทยา ผู้เป็นสามี มีหุ้นอยู่ในสิทธิผลมอเตอร์,ไทย สแตนเลย์ อีเลคทริค และบริษัทร่วมทุน อินูเอะ รับเบอร์
37. นายวิชา พูลวรลักษ์ เจ้าของกิจการ เมเจอร์ ซีนีเพลกซ์ เครือข่ายธุรกิจโรงภาพยนตร์ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
38. นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ เจ้าของกิจการบริษัทก่อสร้าง ช.การช่าง
39. นายเพชร (นักร้อง และนักดนตรี เจ้าของผลงานเพลง "เพียงชายคนนี้..ไม่ใช่ผู้วิเศษ" ที่โด่งดังเมื่อปี พ.ศ. 2530) และนายรัตน์ โอสถานุเคราะห์ ซึ่งทั้งสองเข้ารับช่วงการบริหารบริษัทในเครือโอสถสภา และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
40. นายพงษ์ศักดิ์ วิทยากร ผู้ก่อตั้ง โรงพยาบาลกรุงเทพ
ที่มา http://www.forbes.com/2010/09/01/thailands-richest-dhanin-wealth-thailands-rich-10_lander.html?feed=rss_home
1. ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) มูลค่ารวมทรัพย์สิน 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ กว่า 217,000 ล้านบาท
2. เฉลียว อยู่วิทยา หรือ "โกเหลียว" เจ้าของเครื่องดื่มชูกำลัง กระทิงแดง หรือ เรดบูล มูลค่ารวมทรัพย์สิน 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 130,000 ล้านบาท
3. เจริญ สิริวัฒนภักดี ผู้ก่อตั้งบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ เจ้าของธุรกิจวิสกี้และเบียร์ (เหล้าแม่โขง , เบียร์ช้างฯลฯ ) มูลค่ารวมทรัพย์สิน 4,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
4. ครอบครัว "จิราธิวัฒน์" เจ้าของกิจการหลายอย่าง ตั้งแต่ธุรกิจค้าปลีก เครือข่าย เซ็นทรัล กรุ๊ป มูลค่ารวมทรัพย์สิน 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
5. กฤตย์ รัตนรักษ์ ประธาน และ ซีอีโอ ของ บริษัท บางกอก บรอดคาสติ้ง แอนด์ ทีวี (ช่อง7) โดยมีทรัพย์สินรวมถึงหุ้นในธนาคารกรุงศรีอยุธยา และปูนซิเมนต์นครหลวง มูลค่ารวมทรัพย์สิน 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
6. Aloke Lohia Chief Executive Officer บริษัท อินโดรามา โพลีเมอร์ส จำกัด (มหาชน) และอาศัยอยู่ในประเทศไทยมานานกว่า 20 ปี มูลค่า รวมทรัพย์สิน 1,250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( นายอาลก โลเฮีย )
7. จำนงค์ ภิรมย์ภักดี ประธานบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ (เบียร์สิงห์ , ลีโอเบียร์) มูลค่ารวมทรัพย์สิน 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
8. ทองมา วิจิตรพงศ์พันธ์ เจ้าของกิจการพฤกษาเรียลเอสเตท บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ อันดับ 2 ของประเทศ มูลค่ารวมทรัพย์สิน 1,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
9. วิชัย มาลีนนท์ เจ้าของกิจการ บีอีซีเวิลด์ และไทยทีวีสี ช่อง 3 มูลค่ารวมทรัพย์สิน 1,110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
10. อิสระ ว่องกุศลกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทมิตรผล (น้ำตาลมิตรผล) มูลค่ารวมทรัพย์สิน 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
11. คุณหญิงประณีตศิลป์ วัชรพล ภรรยา นายกำพล วัชรพล เจ้าของหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หนังสือพิมพ์หัวสีใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ร่วมมูลค่าทรัพย์สิน 1,050 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
12. นายวาณิช ไชยวรรณ และครอบครัว เจ้าของกิจการไทยประกันชีวิต
13. นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTS)
14. นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเครือบริษัท ไทยซัมมิต ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ถือหุ้นส่วนหนึ่งอยู่ใน เนชั่น มัลติมีเดีย
15. นางสุรางค์ เปรมปรีดิ์ กรรมการผู้จัดการบีบีทีวี (ช่อง7)
16. นายประยุทธ มหากิจศิริ เจ้าของกิจการเหล็กกล้า ไทยน็อกซ์ สแตนเลส
17. นายอนันต์ อัศวโภคิน ผู้ก่อตั้งบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮาส์
18. นายไกรสร ชาญสิริ ประธานและผู้ก่อตั้ง ไทย ยูเนียน ฟรอซเซน กิจการทูน่ากระป๋อง ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก
19. วิลเลียม อี. ไฮเนคกี้ และครอบครัว เจ้าของกิจการ ไมเนอร์ คอร์ป., ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ทำธุรกิจ อาทิ เอสปรี และธุรกิจภัตตาคาร , สปา , โรงแรม มากกว่า 800 แห่งในหลายประเทศ
20. นายสรรเสริญ จุฬางกูร ผู้ก่อตั้งบริษัท สามมิตรมอเตอร์ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
21. นายบุญชัย เบญจรงคกุล และครอบครัวผู้ก่อตั้ง บริษัทโทรคมนาคม ดีแทค
22. คุณหญิงประภา และนายวิทย์ วิริยะประไพกิจ ผู้บริหาร สหวิริยา สตีล อินดัสตรี้
23. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี Thaksin Shinawatra ทรัพย์สิน 390 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
24. นิชิต้า ชาห์ สาวโสด เจ้าของกิจการพรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) ที่สืบทอดจากบิดา
25. นายวรวิทย์ วีรบวรพงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด(มหาชน)
26. นายจำรูญ ชินธรรมมิตร์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน)
27. น.พ.ประเสริฐ ปราสาททองโอสถ ผู้ก่อตั้งสายการบิน บางกอก แอร์เวย์ส
28. นางนิจพร จารนะจิตต์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ในอิตาเลียน-ไทย พี่สาวของ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานโรงแรมโอเรียนเต็ล และมีหุ้นส่วนตัวอยู่ในเครือโรงแรมอมารี
29. นายเปรมชัย กรรณสูต ผู้บริหารสูงสุดของ บริษัทรับเหมาก่อสร้าง อิตาเลียน-ไทย
30. นายนิติ โอสถานุเคราะห์ ได้รับตกทอดหุ้น บริษัท โอสถสภามา 25% มีเงินลงทุนอยู่ใน ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแน
31. นายรุ่งโรจน์ แสงศาสตรา ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไดนาสตี้ เซรามิค จำกัด (มหาชน)
32. นายเฉลิม อยู่วิทยา (ลูกชาย นายเฉียว อยู่วิทยา) เป็นผู้บริหาร บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด
33. นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
34. นายวิโรจน์ ธนาลงกรณ์ เจ้าของธุรกิจเสื้อผ้า โดยเฉพาะ ชุดชั้นใน ซาบีน่า
35. นายวิชัย รักศรีอักษร ผู้ก่อตั้งบริษัท คิง เพาเวอร์ ดำเนินกิจการร้านค้าปลอดภาษี
36. นางพรดี ลี้อิสระนุกูล สืบทอดกิจการในเครือกลุ่ม บริษัทสิทธิผล จาก นายวิทยา ผู้เป็นสามี มีหุ้นอยู่ในสิทธิผลมอเตอร์,ไทย สแตนเลย์ อีเลคทริค และบริษัทร่วมทุน อินูเอะ รับเบอร์
37. นายวิชา พูลวรลักษ์ เจ้าของกิจการ เมเจอร์ ซีนีเพลกซ์ เครือข่ายธุรกิจโรงภาพยนตร์ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
38. นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ เจ้าของกิจการบริษัทก่อสร้าง ช.การช่าง
39. นายเพชร (นักร้อง และนักดนตรี เจ้าของผลงานเพลง "เพียงชายคนนี้..ไม่ใช่ผู้วิเศษ" ที่โด่งดังเมื่อปี พ.ศ. 2530) และนายรัตน์ โอสถานุเคราะห์ ซึ่งทั้งสองเข้ารับช่วงการบริหารบริษัทในเครือโอสถสภา และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
40. นายพงษ์ศักดิ์ วิทยากร ผู้ก่อตั้ง โรงพยาบาลกรุงเทพ
ที่มา http://www.forbes.com/2010/09/01/thailands-richest-dhanin-wealth-thailands-rich-10_lander.html?feed=rss_home
http://news.sanook.com/963434-เผยรายชื่อ-40เศรษฐีไทย-ธนินท์รวยสุด-ทักษิณ23.html
------------------------------------------
ข้อมูลอันดับโลกของ ธนินท์ เจียรวนนท์ มหาเศรษฐีไทยอันดับ 1 ของไทยในปี 2553
Dhanin Chearavanont & family
Net Worth $6.5 B As of March 2011
At a Glance
- Age: 72
- Source: Diversified , inherited and growing
- Residence: Bangkok, Thailand
- Country of citizenship: Thailand
- Marital Status: Married
- Children: 5
Profile
Heads agribusiness conglomerate Charoen Pokphand Group, which father founded as small Bangkok seed importer. Over the past year stock more than doubled at 3 largest shareholdings: 7-Eleven store operator, CP ALL, on higher profits and successful expansion; as well as food producers Charoen Pokphand Foods and PT Charoen Pokphand on demand from China and high-margin food sales. Also owns country's third largest mobile phone company, which just took over Hutchison Telecom's Thailand operations. Philanthropist restores Buddhist temples in Thailand, sponsors schools and orphanages. Wealth of his three brothers, whom we believe to be billionaires, has been added to Dhanin's total worth.
http://www.forbes.com/profile/dhanin-chearavanont
------------------------------------------------
2 ปีกว่าของรัฐบาลอภิสิทธิ์
ดันธุรกิจค่อนข้างผูกขาดด้านสินค้าเกษตรของไทย
พุ่งพรวดจนราคาหุ้นพุ่งหลายเท่าตัว
โดยเฉพาะบริษัท CPF ของ ธนินท์ เจียรวนนท์
(ช่วงรัฐบาลที่มีพรรค พปช. เป็นแกนนำ)
ปี 51 มูลค่าหลักทรัพย์อยู่ที่ 23,913.40 ล้านบาท
(ช่วงรัฐบาลที่มีพรรค ปชป. เป็นแกนนำ)
ปี 52 มูลค่าหลักทรัพย์พุ่งพรวดไปที่ 85,727.29 ล้านบาท
ปี 53 มูลค่าหลักทรัพย์พุ่งทยานไปที่ 185,742.46 ล้านบาท
ปี 54 มูลค่าหลักทรัพย์ทะลุ 2 แสนล้านบาทอยู่ที่ 242,517.99 ล้านบาท
2 ปีครึ่ง เพิ่มขึ้น 1,014.15%
ซึ่งเป็นผลมาจากกำไรสุทธิที่พุ่งพรวด
ปี 51 อยู่ที่ 3,128.40 ล้านบาท
ปี 52 พุ่งไป 10,190.22 ล้านบาท
ปี 53 อยู่ที่ 13,562.55 ล้านบาท
ครึ่งปี 54 อยู่ที่ 8,348.15 ล้านบาท
จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมค่าครองชีพสูงขึ้น
นอกจากราคาน้ำมันแล้ว สินค้าราคาแพง
ทั้งอาหารสัตว์ ลูกพันธุ์สัตว์ต่างๆ ล้วนแพงขึ้น
นี่เป็นสาเหตุหนึ่งแน่นอน
http://www.set.or.th/set/companyhighlight.do?symbol=CPF&language=th&country=TH
-----------------------------------------------------
แถม นายอรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ พ่อของอภิสิทธิ์
ยังนั่งควบ 2 ตำแหน่งในเก้าอี้คณะกรรมการบริษัท CPF อีกด้วย
ซึ่งนั่งมานานแล้ว และล่าสุดก็ยังมีชื่ออยู่ในปัจจุบันนี้
ทำไมในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ ไม่ค่อยได้ยินคำว่าผลประโยชน์ทับซ้อน
จากพวก สื่อ อาจารย์ นักวิชาการ นักคุณธรรม นักจริยธรรม ทั้งหลายเลย
CPF : บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)
รายชื่อกรรมการล่าสุด
รายชื่อกรรมการ
ตำแหน่ง
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ ประธานคณะผู้บริหาร
พล.ต.อ.เภา สารสิน รองประธานกรรมการ
นายประเสริฐ พุ่งกุมาร รองประธานกรรมการ
นายมิน เธียรวร รองประธานกรรมการ
นายชิงชัย โลหะวัฒนะกุล รองประธานกรรมการ
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่
นายพงษ์เทพ เจียรวนนท์ กรรมการ
ดร.วีรวัฒน์ กาญจนดุล กรรมการ
นายพงษ์ วิเศษไพฑูรย์ กรรมการ
นายสุนทร อรุณานนท์ชัย กรรมการ
นางอรุณี วัชรานานันท์ กรรมการ
พล.ต.อ.เภา สารสิน กรรมการอิสระ
นายอาสา สารสิน กรรมการอิสระ
นายอรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ กรรมการอิสระ
นางสุภาพรรณ รัตนาภรณ์ กรรมการอิสระ
นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ กรรมการอิสระ
พล.ต.อ.เภา สารสิน ประธานกรรมการตรวจสอบ
นายอาสา สารสิน กรรมการตรวจสอบ
นายอรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ กรรมการตรวจสอบ
นางสุภาพรรณ รัตนาภรณ์ กรรมการตรวจสอบ
นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ กรรมการตรวจสอบ
http://www.set.or.th/set/companyprofile.do?symbol=CPF&language=th&country=TH
----------------------------------------------------
เนื่องจากซีพีเอฟจะคัดสรรเฉพาะ วัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพสูงเข้าสู่กระบวนการผลิต นอกจากนี้ อาหารสัตว์บก ซีพีเอฟสำหรับสัตว์แต่ละประเภท ยังได้ทำการวิจัยพัฒนาสูตรอาหาร ให้สอดคล้องเหมาะสมกับสัตว์ ในแต่ละช่วงอายุ ซึ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญข้อหนึ่ง ของหลักการเลี้ยงสัตว์อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ อาหารสัตว์บกที่ผลิตจากโรงงานของซีพีเอฟ ยังสามารถตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ไปยังแหล่งที่มาได้อีกด้วย
ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์บกของซีพีเอฟ ประกอบไปด้วย
ผลิตภัณฑ์อาหารไก่ เนื้อของซีพีเอฟจะแบ่งตามระยะการเลี้ยง ได้แก่ ไก่เนื้อระยะแรก ไก่เนื้อระยะสอง และไก่เนื้อระยะสุดท้าย ซึ่งเป็นการแบ่งตามช่วงอายุของไก่เนื้อ |
ผลิตภัณฑ์อาหารไก่ไข่ จะแบ่งเป็นอาหารออกเป็น อาหารไก่เล็กรุ่น ซีพีเอฟได้แบ่งหมวดหมู่ของอาหารให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงอายุของไก่ไข่ โดยแบ่งช่วงอายุเป็น ไก่เล็ก ไก่รุ่น และไก่สาว อาหารไก่ระยะไข่ จะแยกประเภทอาหารออกเป็น ไก่ระยะไข่ และไก่ไข่ก่อนปลด |
ผลิตภัณฑ์อาหารสุกรซีพีเอฟ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มย่อย ได้แก่ อาหารสุกรพันธุ์ อาหารสุกรอ่อน,นม อาหารสุกรขุน อาหารสุกรพันธุ์ แบ่งเป็นสุกรพันธุ์ระยะเล็ก สุกรพันธุ์ระยะรุ่น สุกรแม่พันธุ์ระยะอุ้มท้อง สุกรพันธุ์ระยะเลี้ยงลูก อาหารสุกรอ่อน,นม แบ่งเป็นสุกรระยะเลียราง อาหารสุกรนม สุกร อาหารสุกรขุน แบ่งเป็นสุกรเล็ก สุกรรุ่น และสุกรขุน |
แบ่งออกเป็นเป็ดเนื้อและ เป็ดไข่ อาหารเป็ดเนื้อ ยังแบ่งได้เป็น เป็ดเนื้อระยะแรก เป็ดเนื้อระยะสอง และเป็ดเนื้อระยะสุดท้าย โดยแบ่งตามระยะของช่วงอายุ อาหารเป็ดไข่ แบ่งเป็นอาหารของเป็ดระยะเล็ก และเป็ดระยะไข่ |
แบ่งได้เป็น อาหารโคนม จะประกอบไปด้วย อาหารลูกโค อาหารโครุ่น อาหารโคสาว อาหารโคนมและอาหารโคดราย อาหารโคเนื้อ จะประกอบไปด้วย อาหารลูกโค อาคารโครุ่น และอาหารโคขุน. |
ได้แก่ อาหารนกกระทา อาหารกระต่าย อาหารไก่ชน อาหารไก่พื้นเมือง อาหารนกกระจอกเทศ อาหารช้าง และอาหารแพะ |
http://www.cpfworldwide.com/cpd/th/page/product/feed_livestock.aspx
----------------------------------------------------
CPF - ในปัจจุบันเป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์น้ำระดับแนวหน้าของประเทศ ทางบริษัทได้ศึกษาค้นคว้า และทำการวิจัยพัฒนา ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์น้ำอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี ที่ผ่านมา
ที่ทางบริษัททำการผลิต แบ่งสายการผลิตได้เป็น 3 ประเภท คือ
อาหารกุ้งกุลาดำ: สำหรับใช้เลี้ยงกุ้งกุลาดำโดยเฉพาะ แบ่งตามระยะการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ ได้แก่ ลูกกุ้งระยะพี 5-15, ลูกกุ้งวัยอ่อนระยะที่ 1, ลูกกุ้งวัยอ่อนระยะที่ 2, กุ้งเล็ก, กุ้งเล็กระยะที่ 2, กุ้งรุ่น, กุ้งกลาง และกุ้งใหญ่
อาหารกุ้งขาว: สำหรับใช้เลี้ยงกุ้งขาวโดยเฉพาะ แบ่งตามระยะการเลี้ยงกุ้งขาว ได้แก่ ลูกกุ้งวัยอ่อนระยะที่ 1, ลูกกุ้งวัยอ่อนระยะที่ 2, กุ้งเล็ก, กุ้งรุ่น ขนาด 2-8 กรัม, กุ้งรุ่น ขนาด 8-15 กรัม กุ้งกลาง และกุ้งใหญ่
อาหารกุ้งสมทบ: สำหรับการเลี้ยงกุ้งระบบกึ่งพัฒนา หรือธรรมชาติ ที่มีจำนวนความหนาแน่นของกุ้งต่อพื้นที่น้อย แบ่งตามระยะการเลี้ยงกุ้ง ได้แก่ ลูกกุ้งวัยอ่อนระยะที่ 1, ลูกกุ้งวัยอ่อนระยะที่ 2, กุ้งเล็ก กุ้งเล็กระยะที่ 2, กุ้งรุ่น และกุ้งกลาง
อาหารปลาทับทิม: สำหรับใช้เลี้ยงปลาทับทิม ได้แก่ ปลาทับทิมเล็ก ปลาทับทิม รุ่น ปลาทับทิมใหญ่
อาหารปลาดุก: สำหรับใช้เลี้ยงปลาดุก ได้แก่ ปลาดุกเล็ก ปลาดุกรุ่น ปลาดุกใหญ่
อาหารปลาทะเล: สำหรับใช้เลี้ยงปลาทะเล แบ่งตามน้ำหนักของปลาทะเล ได้แก่ ปลาทะเลขนาดเล็ก ปลาทะเลขนาดกลาง ปลาทะเลขนาดใหญ่
อาหารกุ้งก้ามกราม: สำหรับใช้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม แบ่งตามขนาดและน้ำหนักของกุ้ง ได้แก่ กุ้งก้ามกรามขนาดเล็ก กุ้งก้ามกรามขนาดกลาง กุ้งก้ามกรามขนาดใหญ่
อาหารปลากินพืช: สำหรับใช้เลี้ยงปลากินพืชทุกชนิด ได้แก่ ปลากินพืชขนาดเล็ก ปลากินพืชขนาดใหญ่
อาหารกบ: สำหรับใช้เลี้ยงกบ แบ่งตามน้ำหนักและระยะการเลี้ยงของกบ ได้แก่ กบเล็ก กบรุ่น กบใหญ่่
ทั้งนี้ เพื่อให้ได้อาหารที่เหมาะสมกับสัตว์น้ำแต่ละชนิด แต่ละช่วงอายุ โดยคำนึงถึงสภาพการเลี้ยงสัตว์น้ำ ของเกษตรกรอย่างเข้มงวด วัตถุดิบแต่ละชนิดจะถูกตรวจสอบ เพื่อให้ได้คุณภาพดีที่สุด ปราศจากสิ่งปลอมปน หรือสารตกค้าง แล้วจึงนำมาผลิตด้วยเครื่องจักรและระบบการผลิตที่มีมาตรฐานสูง ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานสากล เช่น GMP,HACCP, ISO 9001:2000 และ ISO 14001: 2004 ทำให้อาหารมคุณภาพดีสม่ำเสมอทุกเม็ด
เมื่อนำไปเลี้ยงทำให้สัตว์น้ำเจริญ เติบโตดี FCR ดี อัตรารอดสูง ให้ผลผลิตต่อพื้นที่การเลี้ยงสูง ผลผลิตสัตว์น้ำที่ได้จะ เป็นผลผลิตที่ปราศจากสารเคมีตกค้าง มีความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค ยังสามารถตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ไปยังแหล่งที่มาได้อีกด้วย อาหารคุณภาพดียังช่วยรักษาสภาพแวดล้อมไปพร้อมๆ กับความสำเร็จของเกษตรกรไทย
http://www.cpfworldwide.com/cpd/th/page/product/feed_aquaculture.aspx
----------------------------------------------------
โดยผลิตภัณฑ์พันธุ์สัตว์บกของซีพีเอฟจะประกอบไปด้วย
ลูกไก่เนื้อ: ซี พีเอฟจำหน่ายลูกไก่เนื้อ ซี.พี.707 อายุ 1 วัน (Day old chick) ที่ผลิตจากฟาร์มและโรงฟักที่ได้มาตรฐานเป็นไก่เนื้อสายพันธุ์ดี ที่มีสุขภาพแข็งแรงและให้เนื้อมาก
ลูกไก่ไข่: ซี พีเอฟจำหน่ายลูกไก่ไข่ ซี.พี.บราวน์ อายุ 1 วัน และไก่รุ่นไข่ ซี.พี.บราวน์ อายุ 17 สัปดาห์ สายพันธุ์ ISA Brown ซึ่งเลี้ยงง่าย ใช้อาหารน้อย มีอัตรารอดสูง ให้ไข่ดก และไข่ทน
ลูกเป็ดไข่ : ซี พีเอฟจำหน่ายลูกเป็ดไข่ ซี.พี.ซุปเปอร์ อายุ 1 วัน น้ำหนักประมาณ 40 กรัม เป็นสายพันธุ์ปรับปรุงใหม่ที่ให้ไข่ดก กินอาหารน้อย น้ำหนักไข่เฉลี่ย 72 กรัม เปลือกไข่สีขาวและสีเขียว
ลูกสุกรขุน CP ขุนเล็ก: น้ำหนักประมาณ 25 กก. สุขภาพแข็งแรง โตเร็ว ซากสวย สะโพกใหญ่ เนื้อสันมาก
ลูกสุกรหย่านม CP ขุนเล็ก W (Wean): น้ำหนักประมาณ 6 กก. อายุราว 3 สัปดาห์ สุขภาพแข็งแรง โตเร็ว ซากสวย สะโพกใหญ่ เนื้อสันมาก
พ่อพันธุ์สุกร: พันธุ์ CP31 และ CP73 ทั้ง 2 พันธุ์นี้เป็นพ่อพันธุ์ลูกผสม อายุประมาณ 26 สัปดาห์ น้ำหนักราว 100 กก. รูปร่างดี ไหล่และสะโพกใหญ่ สามารถถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมได้ดี มี Libido (ความคึก) สูง นอกจากนี้พ่อพันธุ์ CP73 ยังมีจุดเด่นในด้านการให้ปริมาณน้ำเชื้อมากอีกด้วย
แม่พันธุ์สุกร: พันธุ์ CP21 และ CP23 เป็นแม่พันธ์ลูกผสม 2 สายพันธุ์ อายุประมาณ 24 สัปดาห์ น้ำหนักราว 90 กก. ได้รับการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์มาอย่างดี มีรูปร่างสมส่วน ขาแข็งแรง ลำตัวยาว ให้ลูกดก นอกจากนี้ พันธุ์ CP23 ยังมีจุดเด่นในด้านที่เป็นพันธุ์ Free PRRS หรือเป็นพันธุ์ที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์ให้ปลอดจากเชื้อ PRRS ด้วย
http://www.cpfworldwide.com/cpd/th/page/product/breed_livestock.aspx
----------------------------------------------------
การจัดการการเลี้ยงที่ทันสมัย รวมถึงการเลี้ยงในระบบ “ความปลอดภัยทางชีวภาพ” (Bio-security) เลี้ยงด้วยอาหารเม็ดสำเร็จรูปคุณภาพสูง และโปรแกรมการให้อาหารที่ดี และการส่งเสริมตลาด โดยมีเจ้าหน้าที่ ของซีพีเอฟคอยดูแล และให้คำปรึกษาตลอดการเลี้ยง เพื่อให้เกษตรกรและผู้สนใจ สามารถเลี้ยงสัตว์น้ำ ได้ประสบความสำเร็จ และเป็นอาชีพที่ยั่งยืน ซึ่งมีองค์ประกอบหรือปัจจัย ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ในอาชีพการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ของเกษตรกรไทย โดยผลิตภัณฑ์พันธุ์สัตว์น้ำของซีพีเอฟ จะประกอบไปด้วย
ลูกพันธุ์กุ้งขาว (L.vannamei): ที่ดีมีคุณภาพจากพ่อแม่พันธุ์ที่แข็งแรง โตเร็วและปลอดเชื้อไวรัสที่เป็นอันตราย ภายใต้กระบวนการผลิตในโรงเพาะฟักที่มีระบบการจัดการเลี้ยง ให้เป็นแบบธรรมชาติมากที่สุด ควบคุมอุณหภูมและอาหาร และได้รับมาตรฐาน ISO 9001:2000 และ ISO 14001:2004 ทำให้ลูกกุ้งขาวสายพันธุ์ CPF-R เป็นลูกกุ้งขาวสายพันธุ์ที่ปลอดโรค อัตรารอดสูง อัตราการเจริญโตดี มีคุณสมบัติต้านทานโรคจากเชื้อไวรัสได้ดีโดยเฉพาะทอร่าซินโดรม
เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์ แบบธรรมชาติ (Natural Selection) ที่มีลักษณะเด่นในด้านต่างๆ มาผสมพันธุ์ และคัดเลือกลักษณะเด่นที่ต้องการ ทำให้ได้สายพันธุ์สัตว์น้ำที่มีคุณภาพสูง มีอัตรารอดดี แข็งแรง และเจริญเติบโตดี แบ่งออกเป็น 4 สายพันธุ์
ลูกพันธุ์ปลาทับทิม ซีพี: เลี้ยงในแหล่งน้ำที่สะอาด ให้รสชาติดี มีเนื้อมาก ไม่มีกลิ่นโคลน ปลอดภัยจาก
สารตกค้างๆ สามารถนำไปปรุงอาหารได้หลากหลาย เช่น ต้ม แกง ทอด ลวก นึ่งฯ
สารตกค้างๆ สามารถนำไปปรุงอาหารได้หลากหลาย เช่น ต้ม แกง ทอด ลวก นึ่งฯ
ลูกพันธุ์ปลานิล ซีพี: ปริมาณเนื้อมาก รสชาติดี ไม่มีกลิ่นโคลนเพราะเลี้ยงในแหล่งน้ำที่สะอาด ปลอดภัย ปลอดสารตกค้างฯ เป็นที่ต้องการของตลาดในและต่างประเทศ
ลูกพันธุ์ปลาดุก ซีพี: สด สะอาด ถูกสุขอนามัย ด้วยระบบการเลี้ยงในฟาร์มที่ได้มาตรฐาน ด้วยอาหารเม็ดสำเร็จรูป เนื้อเหลือง รสชาตินุ่มหวานอร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
ลูกพันธุ์กุ้งก้ามกราม ซีพี: เนื้อแน่น ก้ามเล็ก รสชาติดี ปลอดภัยจากสารตกค้าง เป็นที่ต้องการทั้งใน และต่างประเทศ
http://www.cpfworldwide.com/cpd/th/page/product/breed_aquaculture.aspx
------------------------------------------
พณ.ตั้งทีมสอบราคาสินค้า3ชนิดชี้ส่อพฤติกรรมขายพ่วงลูกไก่-อาหารสัตว์แพงเกินจริง
พาณิชย์ตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงราคาสินค้าแพง 3 ชนิด ทั้งไข่ไก่-ไก่เนื้อ-เนื้อหมู เบื้องต้นพบพฤติกรรมขายพ่วงลูกไก่กับอาหารสัตว์ เตรียมงัดกฎหมายแข่งขันทางการค้าเอาผิดต่อไป พร้อมชงครม.เสนองบ 900 ล้านบาทจัดมหกรรมลดค่าครองชีพคนไทย
นายฉัตรชัย ชูแก้ว ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง และพฤติกรรมทางการค้าของผู้ประกอบการสินค้า ไข่ไก่ ไก่เนื้อ และสุกร กล่าวว่า ได้ลงนามแต่งตั้งคณะทำงานย่อย 3 ชุด คือชุด ไข่ไก่ ไก่เนื้อ และสุกร ซึ่งจะมีตัวแทนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้ามาเร่งศึกษาข้อเท็จจริง เกี่ยวกับพฤติกรรมทางการค้าของผู้ค้าในตลาดว่ามีการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม หรือมีการฮั้วกันจนทำให้ราคาสินค้าทั้ง 3 รายการแพงขึ้นหรือไม่ หรือมีการลักลอบส่งออกสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านจนส่งผลกระทบต่อราคาและ ปริมาณหรือไม่
ทั้งนี้ จากการให้คณะทำงานย่อยติดตามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติกรรมการค้าในสินค้า 3 กลุ่ม และได้มีการประชุมคณะทำงานเบื้องต้นพบว่า ผู้ประกอบการหลายรายมีพฤติกรรมเข้าข่ายการค้าที่ไม่เป็นธรรม โดยมีการขายพ่วงลูกไก่กับอาหารสัตว์ รวมถึงมีการขายอาหารสัตว์ในราคาที่แพงเกินจริง ทั้งอาหารไก่ไข่ อาหารหมู และอาหารไก่เนื้อ ซึ่งขณะนี้คณะทำงานย่อยกำลังเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อเอาผิดตาม พ.ร.บ.ว่าแข่งขันทางการค้าต่อไป
นอกจากนี้ คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ หรือเอ๊กบอร์ด และกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะต้องเข้ามาดูแลปัญหานี้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องผลผลิตไข่ไก่ที่ลดลง รวมทั้งเรื่องของโรคระบาดที่เกิดขึ้นภายในฟาร์ม ไม่ใช่ให้กระทรวงพาณิชย์แก้ปัญหาเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ในวันที่ 26 เมษายนนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอโครงการการจัดงาน มหกรรมลดค่าครองชีพคนไทยเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยจะขอจัดสรรงบประมาณจำนวน 900 ล้านบาท มาใช้ดำเนินโครงการจัดหาสินค้าราคาถูกมาจำหน่ายแก่ประชาชนทั่วประเทศ โดยจะเน้นสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ เช่น ข้าวสาร น้ำตาลทราย น้ำมันพืช เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ ผัก ผลไม้ ปัจจัยการผลิตด้านการเกษตร เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง สบู่ ยาสีฟัน เป็นต้น
รวม ทั้งเพื่อแบ่งเบาภาระต้นทุนการจำหน่ายให้แก่ผู้ค้าที่เข้าร่วมงานมหกรรมได้ ขายสินค้าในราคาถูกตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด โดยเฉพาะผู้ค้ารายย่อยและโอท็อปที่มีต้นทุนการจำหน่ายที่สูงกว่าผู้ค้าราย ใหญ่ กระทรวงพาณิชย์จะให้บริการขนส่งสินค้าจากแหล่งผลิตไปจำหน่ายยังสถานที่ต่างๆ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายด้วย ซึ่งหาก ครม.มีมติอนุมัติจะเริ่มดำเนินโครงการได้ทันทีไปจนถึงสิ้นปีนี้ เบื้องต้นตั้งเป้าจะจัดงานให้ได้ตำบลละ 2 ครั้ง อำเภอละ 1 ครั้ง
http://www.komchadluek.net/detail/20110425/95642/พณ.ตั้งทีมสอบราคาสินค้า3ชนิดชี้ส่อพฤติกรรมขายพ่วงลูกไก่อาหารสัตว์แพงเกินจริง.html
----------------------------------------------------
ฟาร์มใหญ่ติดโรค เหตุหมูแพง ระดมวัคซีนแก้
นักวิชาการม.เกษตรฯ แฉฟาร์มเลี้ยงบริษัทใหญ่ติดโรค เป็นสาเหตุให้หมูไทยแพง ต้องระดมฉีดวัคซีนแก้ไข ประกอบกับค่าอาหารสัตว์พุ่ง 20-40% ตั้งแต่ปี 52 คาดปลายปีราคาหมูถึงจะเริ่มลดลง...
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. มีรายงานว่า รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมด้วยคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ภาควิชาเวชศาสตร์และทรัพยากรการผลิตสัตว์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ แถลงถึงปัญหาหมูแพง โดย รศ.วุฒิชัย กล่าวว่า ในทางเศรษฐศาตร์นั้น ปัญหาหมูแพงขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานทั้งๆ ที่การบริโภคหมูในบ้านเราที่ผ่านมา ยังคงอยู่ในสภาวะปกติ แต่ที่ราคาซื้อขายแพงสาเหตุมาจากอาหารสัตว์มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 20-40% ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา ดังนั้น จึงส่งผลให้ต้นทุนการผลิตขยับตัวสูงขึ้น
...
http://www.150vip.net/bbs/forum.php?mod=viewthread&tid=8226
----------------------------------------------------
ตอนแรกตั้งใจจะสืบค้นหารายชื่อเศรษฐีไทยเก็บไว้หน่อย
สืบไปสืบมาเอ๊ะเปลี่ยนเรื่องเป็นราคาของแพงดีกว่า
เพราะรู้สึกว่าจะพบต้นตอสาเหตุหลักที่ทำให้ของแพงแล้ว
ทั้งพันธุ์สัตว์ และทั้งอาหารสัตว์ ที่สูงขึ้น
สอดคล้องกับผลกำไรที่แสดงให้เห็นชัดๆ
ตั้งแต่ปี 52 เป็นต้นมา หลักฐานมัดแน่นที่สุดแล้ว
ไม่ต้องไปแก้ที่ไหนเลยของแพง
ฟัน บ. ทำอาหารสัตว์กับพันธู์สัตว์ขายอย่างเดียวจบ
ยกเว้นลูบหน้าปะจมูกเที่ยวไปแก้ที่ปลายเหตุ
ไปไล่จับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดที่ขายของเกินกำหนดราคา
ก็ในเมื่อต้นทุนสูงเขาก้ขายสูงถ้าอยากให้ขายต่ำลงมา
ก็ควรมาแก้ที่ต้นตอแรกเลยคือราคาอาหารสัตว์และพันธุ์สัตว์
แต่รัฐบาลที่แล้ว ลูบหน้าปะจมูก แก้ไม่ถูกจุด
ไปไล่บี้กับพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยอย่างเดียว
ไม่มีข่าวไล่บี้พ่อค้าอาหารสัตว์และพันธุ์สัตว์เลย
มีแต่ข่าวว่ารู้สาเหตุแล้วก็เงียบไปไม่กล้าแตะ
ควรมาสนใจแก้ปัญหาที่ต้นเหตุที่แท้จริง
คือราคาอาหารที่ขึ้นไปหลายสิบเปอร์เซ็นต์
เสมือนหนึ่งไม่ใช่สินค้าควบคุม
ถ้าไม่ใช่ก็รีบบรรจุได้เลย เพราะมันสามารถเป็นตัวการ
ทำให้สินค้าราคาแพงกระทบรัฐบาลและประชาชนทั่วไปได้
ไม่ต่างจากสินค้าควบคุมตัวอื่นๆ ถ้ามีการควบคุมอยู่แล้ว
แต่ปล่อยให้ขึ้นทีมากมายแสดงให้เห็นถึงผลประโยชน์ทับซ้อน
และการต่างตอบแทนนายทุนพรรคแน่นอน
โดย มาหาอะไร
FfF