บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


30 กันยายน 2554

<<< บารมีที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ที่วาจาหน้าตาท่าทาง หรือการวางอำนาจรวมทั้งยศฐาบรรดาศักดิ์ หากแต่อยู่ที่ศรัทธาจากประชาชน >>>

วันนี้มาหาอะไรจะมาเทศน์เรื่องการสร้างบารมี
ซึ่งถ้าเข้าใจหลักการผิดแทนที่จะเป็นบารมีในระบอบประชาธิปไตย
ก็อาจกลายเป็นบารมีในระบอบเผด็จการไปโดยไม่รู้ตัวได้

การสร้างบารมี แนวเผด็จการหรือแนวโบราณนั้น
ก็จะพยายามทำให้ตนเองมีอำนาจจนเป็นที่ย่ำเกรงของผู้คน
เช่นได้เป็นแม่ทัพหรือตำแหน่งใหญ่โตกว่านั้น
ถือว่าเป็นบารมีอย่างหนึ่ง แนวมีบารมีเพราะมีอำนาจ
แต่วันไหนหมดอำนาจบารมีก็หมดตามไปด้วย
และที่สำคัญไม่เหมาะกับระบอบประชาธิปไตย
ที่ประชาชนต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
แถมยังเป็นเจ้าของประเทศอีกด้วย
ในโลกประชาธิปไตยที่ประชาชนเป็นใหญ่
การจะอาสามาทำงานรับใช้ประชาชน
โดยพยายามทำให้ตนเองยิ่งใหญ่กว่าประชาชน
แล้วบังคับให้ประชาชนทำตาม
คงได้ตราเผด็จการติดหน้าผากในที่สุด
ถ้าเดินตามรอยนั้น

วิธีสร้างบารมีอีกวิธี คือการทำให้ประชาชนศรัทธา
เมื่อเขาศรัทธาแล้วเขาจะยอมเดินตามด้วยความเต็มใจ
แบบนี้เรียกว่ามีบารมีอย่างแท้จริง
แม้จะมีหรือไม่มียศฐาบรรดาศกดิ์
อำนาจหรือตำแหน่งใหญ่โตอะไรก็ตาม
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ เช่น
พวกณัฐวุฒิ จตุพรหรือแม้แต่บก.ลายจุด
ต่างก็มีบารมีมากน้อยแล้วแต่คนศรัทธา
ถามว่าคนที่ยกตัวอย่างมานี้มีบารมียังไง
ก็แค่เขาบอกจะไปจัดม็อบที่ไหน
ก็มีคนตามเขาไป นับเฉพาะพวกที่ไปเองไม่ได้ขนไป
นั่นแหล่ะคือต้นทุนบารมีของพวกเขา
มากน้อยแล้วแต่คนศรัทธา
จะเห็นได้ว่าจากตัวอย่าง 3 คนที่ยกมา
ซึ่งอาจมีแบบนี้อีกเยอะแยะในทุกสีทุกฝ่ายด้วย
แต่จากตัวอย่างจะเห็นว่าพวกเขามีบารมี
ในขณะที่ยังไม่มีอำนาจหรือยศใหญ่โตอะไร
เช่นมีตำแหน่งในระดับ รมต. ขึ้นไป
และก็ไม่ได้ใช้อำนาจเพื่อสร้างบารมี
ในขณะที่พวกที่มีอำนาจอยู่ตอนนี้
มีโอกาสสร้างบารมีได้มากกว่าพวกเขา
แต่ดูเหมือนบางคนกลับลดบารมีตนเองลงเสียอีก

กรณียิ่งลักษณ์ ถ้าดูจากการไปปราศรัย
มีคนมาฟังเยอะแยะหรือมีแฟนคลับมากมายในเฟสบุ๊ค
แบบนี้ก็เรียกว่ามีบารมีได้ระดับหนึ่ง
เรียกว่าระดับแฟนคลับก็ได้
ในขณะที่สามคนที่ผมยกตัวอย่างมา
คนที่ตามพวกเขาพร้อมลุยสู้ด้วย
ไม่ใช่ตามเชียร์พวกเขาอย่างเดียว
จะเห็นว่ายังแตกต่างกัน
ไม่ใช่ว่าคนที่มีพวกพร้อมลุยเดินตาม
จะมีบารมีอย่างเดียว
แต่ถ้ามีแบบนั้น ก็ถือว่าเป็นบารมีขั้นสูงสุด
แต่แนวทางสำหรับยิ่งลักษณ์อาจไม่ต้องถึงขั้นนั้นก็ได้
แค่มีคนพร้อมมาช่วยเหลือผลักดัน
ให้เป็นนายกอยู่ได้นานๆ หรือชนะเลือกตั้งอีกสมัย
ก็ถือว่าโอเคแล้ว ยกเว้นอยากมีบารมีขั้นสูงสุดกับเขาบ้าง
แต่แนวสร้างบารมีแบบกลัวว่า
จะมีอำนาจน้อยลง เพราะมีคนนั้นคนนี้มาแนะนำ
ต้องรักษาหน้าเกรงว่าบารมีจะลดน้อยลงไป
เราว่ากำลังเดินหลงทางไปแนวบารมีแบบโบราณ
มากกว่าไปแนวบารมีในระบอบประชาธิปไตย
เพราะบารมีในระบอบประชาธิปไตย
ต้องใจกว้างให้มากที่สุด
ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์หน้าตา
มากกว่าการมีส่วนร่วมของประชาชน
ซึ่งประชาชนก็รวมถึงทุกๆ คน
แต่ก็มีสิทธิที่จะเลือกทำหรือตัดสินใจเอง
และต้องรับ ผิดและชอบ
ของผลการตัดสินใจที่ตามมาด้วย
ส่วนการที่บอกว่าไม่ต้องคำนึงถึงการรักษาหน้าตาให้มาก
ไม่ได้หมายความว่าห้ามแต่งตัวแต่งหน้าแต่งตา
เหมือนพวกที่ยกเรื่องนี้มาแซวน่ะ
เพราะมันเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงหรือคนมีตำแหน่ง
ที่อาจต้องแต่งกายแต่งหน้าตาให้ดูดีเหมาะสถานการณ์

ส่วนแนวทางการสร้างบารมีสำหรับคนมีตำแหน่ง
ผมไม่อยากลงรายละเอียดให้มาก
เดี๋ยวจะกลายเป็นหลอกด่ามากกว่ามาแนะนำ
ผมขอยกตัวอย่างง่ายๆ ให้เห็นภาพแล้วกัน
คนที่มีอำนาจมากแต่ยอมลดตัวให้ดูเหมือนมีอำนาจน้อย
กับคนที่มีอำนาจมากและทำให้ดูเหมือนมีมากยิ่งขึ้น
หนทางไหนนำไปสู่การสร้างบารมี
ในระบอบประชาธิปไตยมากกว่ากัน
หรือถ้าต้องการสร้างบารมีจากคนรักประชาธิปไตย
ก็ต้องทำให้เห็นว่าเป็นคนรักประชาธิปไตยด้วย
แม้แต่ข้อเสนอไม่กี่ข้อของคณะนิติราษฎร์
ก็สามารถสร้างบารมีให้กับคณะนิติราษฎร์ได้อย่างทันตา
ในขณะที่รัฐอาจทุ่มเทสุดชีวิต
ทำงานมากมายให้ดูเหมือนทำงานหนัก
แต่บารมีด้านประชาธิปไตยอาจไม่มี
หรือได้ใจคนรักประชาธิปไตยไม่ได้
แถมจะลดบารมีจนเกิดการต่อต้านได้
ถ้าทำตัวให้เห็นว่าไม่ปกป้องสิทธิเสรีภาพประชาชน
หรือละเลยปกป้องหลักการประชาธิปไตย
บางเรื่องอาจดูยากทำเองมีปัญหา
แค่หนุนหรือไม่ขัดขวางก็ไม่ลดบารมีลง
แต่เรื่องไหนอาจทำได้ง่ายในช่วงที่ยังไม่มีบารมี
ก็สามารถสร้างขึ้นมาได้อย่างง่ายๆ ในเมื่อมีอำนาจอยู่แล้ว
อยู่ที่นำมาใช้ได้ถูกต้องเหมาะสมโดนใจหรือไม่เท่านั้น
แต่การทุ่มเททำงานหนักก็สร้างบารมีกับคนอีกกลุ่มได้ไม่ใช่ว่าไม่ได้
ซึ่งสร้างหลายๆ กลุ่มก็จะมีบารมีครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
แต่กลุ่มที่สามารถช่วยเหลือปกป้องยามที่เข้าตาจนได้
เป็นกลุ่มที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง
แถมอีกนิดวิธีการใดที่จะนำออกมาใช้
เพื่อหวังให้เกิดการปรองดองทำได้ก็สร้างบารมีอีกแบบ
แต่ถ้าคนที่สนับสนุนหลักจนได้มามีอำนาจเขาค้าน
วิธีการนั้นยังไงก็สร้างความปรองดองไม่ได้
นอกจากแนวทั้งกลุ่มกองเชียร์และฝ่ายค้าน
ปรองดองรุมกระทืบก็อาจมีทางเป็นไปได้
จะเห็นได้ว่ามีหลักการง่ายๆ
ในการออกนโยบายแต่ละอย่างเพื่อการปรองดอง
ว่าจะทำแล้วปรองดองได้จริงหรือไม่

คำคมสำหรับวันนี้
"บารมีที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ที่วาจาหน้าตาท่าทาง
หรือการวางอำนาจรวมทั้งยศฐาบรรดาศักดิ์
หากแต่อยู่ที่ศรัทธาจากประชาชน"

โดย มาหาอะไร
FfF