รมว.ไอซีทีลั่นแท็บเล็ตนำร่อง 5 โรงเรียน ใน 5 ภูมิภาค เปิดเทอม 2 พ.ย.54 ระบุรับผิดชอบเฉพาะบริหารจัดการคอนเทนต์ ขณะที่ รมว.ศึกษาฯ ชี้เด็ก ป.1 ฝึกทักษะง่าย เหมาะใช้มากที่สุด งบ 3 พันล้าน กระจายเด็ก 8 แสนคน...
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึงความคืบหน้านโยบายแจกแท็บเล็ตให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำร่อง โดยจะเริ่มแจกแท็บเล็ตให้กับ 5 โรงเรียน ใน 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ ในการเปิดภาคเรียนที่ 2 เดือน พ.ย.นี้ โดยมีกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นผู้ดำเนินการ ขณะที่กระทรวงไอซีทีรับผิดชอบบริหารจัดการคอนเทนต์
ด้าน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงได้ตั้งคณะกรรมการศึกษาและทดสอบระดับความรู้ความสามารถของ เด็กนักเรียน 4 ระดับชั้น ได้แก่ ประถมศึกษาปีที่ 1 ประถมศึกษาปีที่ 4 มัธยมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 4 เพื่อทดสอบดูว่าเด็กแต่ละช่วงชั้นมีลักษณะอย่างไร และประเมินผลเข้าโครงการแท็บเล็ต โดยเหตุผลที่เลือกชั้นป.1 เพราะเนื้อหาทำง่ายที่สุด
รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า โดยหลักแล้วการเพิ่มขีดความสามารถของเด็กไทย ควรต้องดำเนินการทั้งระบบ ขณะเดียวกัน กระทรวงก็ต้องพิจารณาว่าโรงเรียนไหนมีความพร้อมด้วย จึงจะลงไป อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่าเด็กชั้น ป.1 สามารถลงไปดำเนินการได้ง่ายมากที่สุด เพราะไม่ต้องสร้างหลักสูตรใหม่ เพียงแค่ฝึกทักษะ ขณะที่มองว่าระดับชั้นอื่นฝึกยาก
นายวรวัจน์ กล่าวด้วยว่า ขั้นตอนการสำรวจก่อนหน้านั้น กระทรวงมอบหมายให้ มศว ประสานมิตร ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เลือกโรงเรียนนำร่อง โดยที่ส่วนตัวไม่ได้เข้าไปก้าวก่าย นอกจากนี้ กระทรวงยังดำเนินการร่วมกับกระทรวงไอซีที และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตั้งแต่การวางระบบเครือข่าย และเรื่องขั้นตอนการดำเนินงานด้วย ขณะที่งบประมาณแท็บเล็ตอยู่ที่ราว 3 พันกว่าล้านบาท รองรับเด็กนักเรียนประมาณ 8 แสนคน.
ไทยรัฐออนไลน์
- โดย ทีมข่าวไอทีออนไลน์
- 30 กันยายน 2554, 05:30 น.
-------------------------------------------------
'วรวัจน์' ลั่นประมูล 'แท็บเล็ต' ต้องโปร่งใส ไม่เลือกสเปกห่วย!
รมว.ศธ.นั่งยันไม่เลือก พร้อมเปิดกว้างให้นักข่าวเข้าร่วมประมูลทีโออาร์เพื่อความโปร่งใส ลั่นไม่ให้บริษัทแท็บเล็ตพบแม้แต่รายเดียว ไม่รีบซื้อเพราะไม่อยากได้สเปกล้าสมัย...
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงการประมูลแท็บเล็ต ตามนโยบายแจกแท็บเล็ตว่า ส่วนตัวไม่ได้คุยกับบริษัทผู้ผลิต หรือตัวแทนจำหน่ายแท็บเล็ต แต่ยอมรับว่า มีบางบริษัทติดต่อเข้ามาขอพบ แต่ไม่ขอยุ่งเกี่ยว โดยมอบหมายให้มหาวิทยาลัย มศว ประสานมิตร ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นผู้ดำเนินการเรื่องสเปกของแท็บเล็ต
ทั้งนี้ เบื้องต้นยังประเมินการจัดซื้อแท็บเล็ต ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบดำเนินการ แต่ควรศึกษารายละเอียดของแท็บเล็ตให้ดีก่อน เพราะเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงไม่อยากให้ของที่ได้มาล้าสมัย
รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า โครงการนี้ กระทรวงศึกษาฯ ดำเนินการร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตั้งแต่การวางระบบเครือข่าย และเรื่องขั้นตอนการดำเนินงานทุกอย่าง นอกจากนี้ ยังพร้อมเปิดให้ผู้สื่อข่าวเป็นกรรมการในการประมูลและเลือกสเปกเพื่อความ โปร่งใสด้วย สำหรับโครงการแจกแท็บเล็ตใช้งบประมาณทั้งสิ้น 3 พันกว่าล้านบาท รองรับเด็กนักเรียนประมาณ 8 แสนคน
“ผมพร้อมเปิดให้ผู้สื่อข่าว เข้าดูขั้นตอนการประมูลแท็บเล็ต ยินดี อยากให้สบายๆ ที่สุด ยิ่งมีคนมายิ่งดี ความรู้สึกผมคืออยากทำให้เด็ก ทำให้ดี และไม่ซื้อของห่วยๆ ให้เด็กใช้ และผมไม่อยากคุยกับใคร เพราะอีก 6 เดือนข้างหน้า เทคโนโลยีก็เปลี่ยนหมดแล้ว กว่างบประมาณจะผ่านสภาฯ เทคโนโลยีไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ ผมจะรีบทำตรงนั้นทำนั้นไปทำไม ต้นปี 55 ผมเชื่อว่าทุกอย่างเปลี่ยนหมด” นายวรวัจน์ กล่าว.
ไทยรัฐออนไลน์
- โดย ทีมข่าวไอทีออนไลน์
- 30 กันยายน 2554, 08:30 น.
ความคืบหน้าโครงการแท็บเล็ต
กำลังใกล้สำเร็จอีกโครงการแล้ว
โครงการนี้ดูๆ ไปแล้วก็ไม่น่าจะมีอะไรมาก
ตามเงื่อนไขหาเสียงเฉพาะเด็ก ป.1
ได้ใช้กันทั่วประเทศจริงๆ คงรองบผ่านสภา
น่าจะปีหน้า ตอนนี้คงนำร่องก่อน
เพราะมีงบประมาณน้อย
ตอนนี้อาจได้ยินคำว่านำร่องบ่อยๆ
อย่างที่เคยแซวแต่ก็อย่างว่าเพราะเป็นของใหม่ 1
และเพราะงบประมาณยังไม่มี
ที่ใช้อยู่นี่งบที่เหลือใช้รัฐบาลก่อน 2
ก็เลยต้องได้ยินนำร่องไปก่อน
ปีหน้าคงค่อยๆ หายนำร่อง
เป็นเพราะว่าต้องการให้โครงการได้เดินหน้า
เห็นเป็นรูปธรรมบ้างก่อน
ก็เลยต้องมีการนำร่องใช้เงินไม่มากไปก่อน
แต่ฝากนิดเดียวให้เฉพาะ ป.1 เลิกติดใจแล้ว
เพราะดูแล้วงบประมาณไม่พอ
ถ้าให้ทุกชั้นเรียน สิบกว่าล้านคน
คงจะไปก่อหนี้เพิ่มเยอะอีก
แต่สนใจบทเรียนให้ดาวน์โหลดได้ถึง ป.ตรีมากกว่า
ทำได้เยอะๆ หลายวิชาหลายชั้นปี
ถือว่าเป็นการวางรากฐานการศึกษา
ผ่านไอทีอย่างแท้จริงและเยี่ยมยอดที่สุด
เมื่อมีงบเหลือวันไหน อยากจะขยายไปชั้นปีอื่น
ก็แค่ซื้อเครื่องมาก็จบมีข้อมูลการศึกษาครบหมดแล้ว
แต่ถ้ายังไม่มีครบก็งั้นๆ แจกทุกชั้นปี
ก็ไม่มีประโยชน์อะไรมาก
ถ้ามีครบไม่มีเงินแจกเขายังไปดาว์นโหลดมาอ่านได้
เช่น ตามร้านเน็ตคาเฟ่หรือคอมที่บ้านหรือมือถือที่เล่นเน็ตได้
จะเห็นว่าในระบบคอมพิวเตอร์หัวใจหลักอยู่ที่ซอฟท์แวร์
ส่วนฮาร์ดแวร์หายไป โดนไฟไหม้พังหมด
ก็ไปซื้อใหม่ลงซอฟท์แวร์วันเดียวใช้งานได้ต่อ
แต่ถ้าซอฟท์แวร์ไม่มี หายไปหมด ไม่มีแบ็คอัพ
เป็นเรื่องใหญ่โตมโหฬารจริงๆ
โดย มาหาอะไร
FfF
