บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


22 ธันวาคม 2554

<<< ข้อคิดจากการประสบการณ์ในการดูดวง และแนวทางพัฒนาปรับปรุงตำราคำทำนายให้ดียิ่งขึ้น >>>

Maha Arai

<<< ข้อคิดจากการประสบการณ์ในดูดวง และแนวทางพัฒนาปรับปรุงตำราคำทำ
นายให้ดียิ่งขึ้น >>>
22 ธันวาคมเวลา 13:33 น.
    • Maha Arai จากประสบการณ์เริ่มหัดดูดวงจริงจังหลังหนีน้ำท่วมใหญ่ไปนครปฐมไปเจอตำราดูดวงเลข 7 ตัวฐาน4 จนไปหาวิธีการหาได้จนถึงฐาน 9 แต่ไม่มีคำทำนายเกี่ยวกับฐาน 8 และ ฐาน 9 แบบเป็นตำรามีแต่ความหมายศัพท์ จึงต้องเขียนตำราดูดวงในส่วนนี้ขึ้นมาใหม่หมด แม้มีประสบการณ์ตรง ตั้งแต่เริ่มดูดวงมั่วๆ มาจนถึงวันนี้ก็ประมาณเกือบจะ 2 เดือนแล้ว เลยอยากจะฝากข้อคิดเผื่อคนที่ต้องการดูดวงหรือเป็นหมอดูเอง นำไปพัฒนาทั้งตำราและวิธีการหาประโยชน์จากการดูดวง
      22 ธันวาคมเวลา 13:37 น.

    • Maha Arai ‎1. ไม่ควรทำนายดวงจรให้กับเด็ก เพราะเด็กยังมีกิเลสและสถานภาพไม่ครบ เช่น อาจยังไม่มีเรื่องเกี่ยวกับคู่ ลูก ทรัพย์สิน การงาน อะไรช่วงนี้ จะไปทำนายเด็กทารก ว่าจะมีงานได้ตำแหน่งอะไร ก็คงขำกันกลิ้ง คงมีงานดูดนมแม่แล้วก็ร้องอย่างเดียว ถ้าจะทำนายน่าจะทำนายแค่ดวงเดิม สัก 15 ปีขึ้นไปค่อยถึงทำนายดวงจร หรือให้ชัวร์ทำนายในวัยทำงานแล้วจะเวิร์กสุด
      22 ธันวาคมเวลา 13:40 น.
    • Maha Arai ‎2. ไม่ควรทำนายสัตว์ วัตถุสิ่งของ ควรทำนายคนเป็นหลัก เช่นไม่ควรทำนายดวงบ้านเรือน ดวงรถ ดวงเมือง ควรทำนายดวงคนที่อาศัยอยู่บ้านนั้น ดวงคนขับตอนนั้น หรือดวงคนมีอำนาจในการบริหารประเทศ ณ ขณะนั้นๆ ตัวอย่าง กรณีบ้านหลังหนึ่ง ถ้าเราจะทำนายควรทำนายคนที่อาศัยอยู่ในบ้าน คนมีอำนาจขายบ้านทำนั่นนี่ มากกว่าไปทำนายว่าบ้านนี้อยู่แล้วดี ไหม บ้านนี้ปีนี้จะเป็นยังไง ปีหน้าจะเป็นยังไง เพราะว่าบ้านไม่มีชีวิต ไม่มีกิเลส รัก โลภ โกรธ หลง แถมถ้าเปลี่ยนมือจากพ่อสู่ลูกหรือขายให้คนอื่นคนมาใหม่ถ้านิสัยไม่ดีอาจงัดนั่นนี่ในบ้านไปขาย แต่ถ้าคนมาใหม่ดีมีฐานะดี ก็อาจคิดปรับปรุงบ้านใหม่ให้ดีกว่าเดิม จะเห็นได้ว่าการทำนายคนมีอำนาจในบ้านจะดีกว่า ทำนายบ้าน แถมถ้าไม่มีใครอยู่ในบ้านปล่อยให้บ้านร้างแต่คำทำนายมีอยู่ทุกปีว่าดีไม่ดี ฟังดูก็ไม่สมเหตุผลเท่าไหร่
      22 ธันวาคมเวลา 13:44 น.
    • Maha Arai ‎3. ถ้าไม่รู้ประวัติในอดีตหรืออาชีพ เจ้าชะตา การทำนายก็เหมือนเดาสุ่มสี่สุ่มห้าทายไปเรื่อยเปื่อย ถูกบ้างผิดบ้าง เช่น ตำราบอกว่าตกตัวนั้นตัวนี้จะได้ตำแหน่ง ถ้าทายข้าราชการ หรือนักการเมืองยังพอมีลุ้น แต่ไปทายพ่อค้าแม่ค้าขายผักขายหมูทุกวี่วัน เขาจะไปได้ตำแหน่งอะไร โอกาสได้ตำแหน่งขายผักสูงขึ้นก็มึนแน่นอน อาชีพเจ้าชะตามีผลกับคำทำนาย ยิ่งรู้ปประวัติเก่าเทียบกับปีก่อนๆ ที่เคยตกตัวนี้แล้วเกิดอะไรขึ้น ก็สามารถมองภาพและทำนายอนาคตได้คร่าวๆ ว่างวดหน้าถ้าตกตัวนี้ จะเกิดอะไรขึ้น มันเหมือนเป็นการสืบอดีตทำนายอนาคต ความแม่นจะมากกว่า เหมือนเราถ้าให้ทำนายพวกนักการเมืองเราว่าทำนายได้เข้าท่ากว่าไปทำนายคนทั่วไปเพราะความหมายศัพท์มีหลากหลายมาก แต่ถ้าขีดวงแคบลงเหลือแค่อาชีพใดอาชีพหนึ่งก็จะทำนายได้ง่ายขึ้นแม่นขึ้น
      22 ธันวาคมเวลา 13:50 น.
    • Maha Arai ‎4. คนมาดูดวงส่วนใหญ่มาดูโดยหวังทดสอบความแม่นของหมอดูมากกว่าต้องการดูเพื่อนำไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหลีกเลี่ยงผ่อนสถานการณ์หนักเบาให้กับชีวิตตนเอง หรือมาดูให้รู้ว่า จะเกิดอะไรแต่พยายามปกปิดความจริงให้มากที่สุด ก็ไม่ต่างอะไรกับไปหาหมอแล้วหมอซักประวัติอะไรก็ไม่ตอบหรือตอบไม่ตรงจริง บอกว่าแพ้ยาอะไรไม่บอกให้ทาย บอกว่าตัวร้อนไหม ห้ามแตะตัวฉันลองทายซิ เชื่อว่าคำทำนายก็จะเอาคำทำนายรวมๆ ที่อาจใช้ทำนายอาชีพอื่นมาทำนายดวงให้กับเขา แทนที่จะมาเพื่อศึกษาหาลู่ทางผ่อนหนักเบา โดยยอมให้ซักประวัติเพื่อเก็บสถิติว่าเคยตกตัวนี้แล้วปีนั้นเกิดอะไรขึ้นถ้าตกตัวนี้อีกในงวดหน้าก็จะได้มีวิธีการ ซึ่งไม่ใช่วิธีแก้กรรมหรือพยายามหลีกเลี่ยงแต่เลือกวิธีจากถูกกระทำมาเป็นผู้กระทำแทน เช่น กรณีดวงผม เคยตก มหาอุบาทว์+ธนัง ก็ไปเสียเงินซื้อคอนโด บางปีก็เสียเงินเพราะโดนหลอก จะเห็นได้ว่ามีทั้งเป็นฝ่ายถูกกระทำและเป็นฝ่ายกระทำ ดังนั้น ถ้าปีไหนตกอีกก็ยอมเสียเงินซื้อทรัพย์สินเพิ่มดีกว่า หรือไปเที่ยวก็ยังดีกว่าโดนหลอกหรือเสียแบบน่าเจ็บใจ ซึ่งสมัยก่อนที่ยังดูดวงไม่เป็นก็จะใช้ความรู้สึกว่าปีนั้นปีนี้สภาพคล่องมากเหลือเที่ยวเยอะ ก็จะดิ้นรนสร้างหนี้ซื้อนั่นนี่เพื่อลดสภาพคล่องเพราะว่ารู้สึกเก็บเงินไม่ค่อยอยู่มีมากๆ แล้วชอบไปช้อปปิ้งหรือไปเที่ยวที่นั่นที่นี่หมด จึงชอบซื้ออสังหาริมทรัพย์เลยมีทั้งคอนโดบ้านที่ดินและจะมีที่ดินอีกในอนาคตเพราะจะซื้ออีกหลายรอบแล้ว แต่เงินไม่พอมีอีกก็ซื้ออีกเพราะชอบด้วย
      22 ธันวาคมเวลา 13:59 น.
    • Maha Arai ‎5. ต้องเก็บสถิติสมัยใหม่ๆ อยู่เสมอ คำทำนายสมัยก่อน ยุคก่อน ความเจริญก้าวหน้าต่างๆ ต่างกันมาก สภาพวิถีชีวิตก็เปลี่ยนไป จากชนบทมาเป็นเมือง นิสัยใจคอคนก็เปลี่ยนไป รวมไปถึงอาชีพแปลกๆ ก็เพิ่มขึ้นมากมาย บางครั้งไม่อาจนำคำทำนายเก่าๆ มาทำนายในยุคสมัยใหม่ๆ ได้ดี นี่เป็นการพัฒนาคำทำนายให้แม่นขึ้นอย่างแท้จริง จะต้องเก็บสถิติให้มากๆ และหลากหลาย และหลายๆ วงการรวมทั้งจัดเก็บฐานข้อมูลแยกอาชีพได้ด้วยยิ่งดี เพราะบางทีไม่อาจนำคำทำนายของอีกอาชีพไปใช้กับอีกอาชีพได้ตามตัวอย่างที่เล่าให้ฟังมาแล้ว อีกตัวอย่างหนึ่งอย่างกรณี มหาโจร+นาวัง ถ้าอาชีพอื่นก็อาจอีกคำทำนายหนึ่ง แต่คนในวงการการเมืองก็อาจอีกคำทำนายหนึ่ง อย่างกรณีนี้หมายถึง ร่วมขับไล่รัฐบาล เช่นกรณี เปรมในปี 2519 ก็ร่วมกับคณะรัฐประหาร, ปี 49 ก็ตกตัวนี้ สนธิลิ้มปี 49 ก็ตกตัวนี้ก่อม็อบพันธมิตรขับไล่รัฐบาลทักษิณ อภิสิทธิ์ ในปี 2552 นับธันวา 51 ด้วย เพราะเป็นเดือนอ้าย ก็ขับไล่รัฐบาลสมชายได้สำเร็จแถมสร้างตำนานงูเห่าจนได้เป็นนายก ส่วนทั้งทุนทั้งคนก็สนับสนุนพันธมิตรอย่างลับๆ หรือเปิดเผยอย่างที่รู้ๆ กันคงไม่ต้องพูดถึง นี่คือตัวอย่างคำทำนายคนในอาชีพการเมือง แล้วเราจะเอาคำทำนายนี้ไปทำนายชาวบ้านที่ทำมาหากินไม่ได้สนใจการเมืองก็ไม่ถูกแน่ ถ้าจะถูกอาจถูกถีบแทนก็ได้
      22 ธันวาคมเวลา 14:11 น.
    • Maha Arai ‎6. ถ้ามีหัวหน้า ทำนายแค่หัวหน้าก็สามารถทำนายภาพรวมได้ เช่น รัฐบาลมีนายกเป็นหัวหน้าทำนายดวงนายกบอกภาพรวมรัฐบาลได้ว่าจะอยู่หรือจะไป หรือกรณีการชุมนุมก็เหมือนกัน ดูดวงแกนนำหลักๆ ที่มีอำนาจจริงๆ ในม็อบ ก็ทำนายความเคลื่อนไหวของม็อบได้แล้วเพราะแกนนำสั่งหยุดม็ม็อบก็หยุดตาม แกนนำเคลื่อนไหวม็อบก็เคลื่อนไหว ต้องดูคนที่เป็นแกนนำจริงๆ ไม่ใช่แกนทำตามสั่งแกนนำลับๆ อีกที เพราะการไปไล่ดูดวงคนมาร่วมม็อบทั้งหมดเพื่อดูภาพของม็อบนั้นคงดูยากเพราะดวงแต่ละคนมั่วไปหมดแถมยังรวมไปถึงดวงปกติในการทำมาหากินของเขาไม่ใช่เรื่องการเมืองอีก และยุ่งยาก ทำได้ยาก ไม่ได้ผลเท่าดูแค่ระดับนำจริงๆ ไม่กี่คนก็ทราบทิศทางได้เร็วและแม่นยำกว่ากันเยอะเลย
      22 ธันวาคมเวลา 14:16 น.
    • Maha Arai แต่ถ้าเป็นกรณีม็อบไร้แกนนำก็ตัวใครตัวมัน ทำนายอะไรไม่ได้เลย ควบคุมก็ยากเห็นความแตกต่างยัง แม้แต่การดูดวงยังมีความยากง่ายเลย ซึ่งก็แล้วแต่สถานการณ์ บ้านเราก็คงมีแกนนำไปตลอดพองวดไหนไม่มีเดี๋ยวก็มีคนจัดให้มีจนได้ ไม่เช่นนั้นจะต่อรองกับใคร ไปไล่ต่อรองกับมวลชนทีละคนคงไม่ได้แน่ สรุปก็ต้องมีแกนนำ แต่ต้องมีวิธีตรวจสอบติดตามผลแกนนำอีกทีถ้าต้องการหวังผลว่าพาไปตรงเป้าจริงหรือไม
      อะไรแบบนี้คือส่วนหนึ่งของประโยชน์ของการดูดวงแล้วแต่จะมองเห็นหรือไม่หรือนำมาปรับปรุงพัฒนาอย่างไรต่อไปแล้วแต่ละคน
      22 ธันวาคมเวลา 14:20 น.
    • Au Thipavalai แบบนี้ อีกหน่อยจะเลือกใครเป็นแกนนำต้องนำตัวมาดูดวงก่อน จะได้ชนะ ใช่ไหมน้า ^^
      22 ธันวาคมเวลา 21:51 น.
    • Maha Arai มีผลเหมือนกันน่ะ ผู้นำดวงไม่ดี ก็พากันแย่หมด เพราะทุกอย่างต้องทำตามสั่งผู้นำ ระหว่างผู้นำดวงดีกับไม่ดีในเรื่องที่จะทำ ถ้าให้เลือกเพื่อความอุ่นใจก็เลือกคนที่มีดวงดีเป็นพื้นฐานด้านนั้นก็จะทำให้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ กรณียิ่งลักษณ์ เกิดวันพุธ พื้นดวงเก่งด้านสื่อสาร พูดจาอยู่แล้ว และเกิด 21 มิถุนายน ตามตำราไทยอาจบอกว่าเขาเกิดเดือนกรกฎาคม แต่ตำราสากลส่วนใหญ่ระบุว่าเขายังอยู่ในราศีเมถุน เป็นราศีที่เก่งด้านการสื่อสารที่สุดในบรรดาราศีทั้งหมด ตัวอย่าง ณัฐวุฒิ ก็อยู่ในราศีเมถุนเหมือนกัน
      23 ธันวาคมเวลา 10:26 น.
    • Maha Arai เพียงแต่ว่ากรณียิ่งลักษณ์เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะทำได้ สื่อสารได้ และยังคิดว่าตนเองเป็นราศีกรกฎ ถึงมีชื่อว่าปูด้วยก็คงฝั่งใจว่าเป็นราศีปูอยู่นั่นเอง แต่ตามหลักสากลเขาคือราศี คนคู่ เหมือนเป็นหญิงและชายในคนๆ เดียวกัน แต่ก่อนอาจไม่เห็นแวว พอมาเล่นการเมืองมาเป็นนายก แววมันออกว่าไม่ใช่ราศีกรกฏเป็นราศีเมถุนหรือคนคู่ชัดเจนขึ้น จากที่ไม่กล้าพูดบนเวทีแป๊บเดียว เดี๋ยวนี้เขาพูดได้คล่องขึ้นไม่ถึงปี เพียงแต่แรกๆ อาจไม่รู้เรื่องการเมืองก็อาจพูดผิดถูกบ้างแต่ก็เห็นพัฒนาการเร็วขึ้นคนมีพื้นทางไหนจะทำสิ่งนั้นได้ดีกว่าคนไม่มี เหมือนเรามีพื้นด้านแต่งเพลงและโหรและการเขียน 3 สิ่งนี้สมัยเด็กๆ ไม่เคยมีแวว พอมาเล่นการเมืองเอามาใช้ได้ทั้งสามสิ่งและเรียนรู้เรื่องการดูดวงได้ไวขนาดจะแต่งตำราให้เขาใหม่ไม่ใช่งมอยู่กับสิ่งเดิมๆ อีกด้วย อิอิ
      23 ธันวาคมเวลา 10:31 น.
    • Maha Arai ลองไปดูรูปเวลาออกไปตะเวนตรวจน้ำท่วมดูซิ บางทีมาดก็เหมือนผู้ชาย บางงานไฮโซมาดผู้ญิ้งผู้หญิง เนี้ยะราศีคนคู่ชัดเจน แต่โหรไทยไปเรียนตำราต่างประเทศแต่พยายามดัดแปลงให้เป็นไทยก็เลยดัดแปลงราศีเร็วขึ้้นทำให้เพี้ยนไปหมด แต่เอาไปอ้างอิงกับคนทั้งโลกสากลไม่ได้เขาจะงงเอาเช่นไปตู่ว่าดาราหรือคนเด่นดังในโลกนี้ เกิดราศีนั้นราศีนี้ตามแบบไทย เจ้าตัวเขาจะงง เพราะเขาคิดแบบสากลเขาจะอีกราศีหนึ่ง และสากลเขาก็มีตำนานด้านโหราศาตร์มาหลายพันปี มาตั้งแต่สมัยบาบิโลน 4,000 กว่าปีมาแล้ว ทุกตำราทั้งโหราศาตร์ไทยและเลข 7 ตัว สืบทอดมาจากของดั้งเดิมแล้วมาดัดแปลงเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง แต่รากเหง้าเค้าโครงเดิมมาจากแหล่งเดียวกัน แผ่มาจากการขยายสงครามผ่าน มาทางอินเดียเข้าพม่าไทย แล้วก็แต่งเพิ่มเติมแต่ เค้าโครงของเลข 7 ตัวไทยเหมือนพม่าที่ลอกมาจากสายที่ว่าอีกที่ และแนวโหราศาตร์ก็เหมือนตำราโหรแบบยูเนี่ยนอะไรของเขานั่นเอง ต่างกันแค่รูปแบบแต่เค้าโครงคล้ายกันมาก
      23 ธันวาคมเวลา 10:36 น.
    • Maha Arai สรุปเรื่องราศีเรายึดหลักสากลเพื่อจะได้อ้างอิงชาวต่างชาติที่เคยเกิดราศีนั้นได้ถูกไม่ใช่เขาคิดว่าเขาเกิดราศีนี้แต่พี่ไทยไปบอกว่าเขาราศีนั้นแต่คนทั้งโลกส่วนใหญ่ถ้ายึดสากลก็จะคิดเหมือนกัน แถมดูลึกๆ ก็ไปลอกตำราเขามาดัดแปลงเอง สรุป เราไปยึดของเดิมดีกว่าเพราะดูหลายตำราเรื่องราศีแล้วเราตรงกับราศีทางสากลมากกว่าราศีที่โหรไทยว่า
      23 ธันวาคมเวลา 10:39 น.
    • Maha Arai โม้ซะยาวสรุปแล้วกันว่าถ้าต้องการคนพูดเก่งก็เลือกผู้นำราศีเมถุนก็ไม่ผิดหวัง แต่ถ้าต้องการผู้นำที่ลุยแนวบู๊ ต้องไปเลือกราศีอื่น ราศีนี้ไปบู๊ไม่ได้พื้นดวงไม่ให้ การตัดสินไม่เด็ดขาดและหลายๆ อย่างไม่เข้าตำราผู้นำแนวบู๊ เห็นไหมว่าการดูดวงก็สามารถเลือกใช้คนได้ตามความถนัดของเขาก็จะดี เหมือนเลือกคนทำงานในสิ่งที่เขาถนัดผลมันก็จะออกมาได้ดีกว่าคนเดียวทำทุกอย่างดีไม่ดีขอให้ได้ทำ หรือต้องยากลำบากมากมายกว่าจะทำได้แต่ก็อาจไม่ดีกว่าอีกราศีที่อาจทำเรื่องเดียวกันได้ง่ายๆ กว่า ยกตัวอย่างง่ายๆ เอาคนไม่มีพื้นดวงการพูดไปพูด พูดให้ตายอาจทำได้แต่อาจสู้คนที่มีพื้นดวงด้านนี้อยู่แล้ว จะทำได้ง่ายเร็วและดีกว่า เช่นเดียวกัน บางคนอาจไม่ถนัดพูดแต่ถนัดเขียนเอาไปเขียนแทนพูดเขาก็จะทำได้ดีและทำได้ง่ายๆ เช่นให้เราเขียนนั่นนี่ อย่างที่เขียนตอนนี้ก็เขียนสดๆ คิดเขียนคิดเขียน ไวมาก เป็นเรื่องง่ายสำหรับเราด้ว
      23 ธันวาคมเวลา 10:46 น.
    • Maha Arai บางคนไม่สนใจเรื่องดวงหรือโหราศาสตร์อะไรทำให้เขาเสียโอกาสดึงความสามารถที่อาจมีแต่ไม่เคยลองทำมาก่อนและคิดว่าทำไม่ได้ แต่ถ้าได้ลองทำเขาอาจทำได้ง่ายๆ ก็ได้ ถ้าเขามีพื้นดวงด้านนั้นที่ดี อย่างเราก็เหมือนกัน สิบกว่าปีก่อนใครจะคิดว่าเราเขียนนั่นนี่ได้มากมาย แต่งเพลงก็ได้ ทั้งๆ ที่ร้องไม่เอาอ่าวพาออกทะเลประจำ หรือแต่งกลอน ดูดวงก็เป็น เห็นไหมว่าทำอะไรได้ตั้งหลายอย่างไม่ใช่ทำได้แค่อย่างสองอย่างอย่างที่คิด เพียงแต่บางคนไม่รู้จักตนเองดีพอเลยพลาดโอกาสดึงศักยภาพตนเองออกมาใช้อย่างเต็มที่
      23 ธันวาคมเวลา 10:49 น.
    • Au Thipavalai นายกดู ๆ แล้วไม่น่าเกิดวันพุธเลยนะน้า พูดผิดพูดถูกทุกที ขนาดมีโพยก็แล้วนะเนี่ยะ แล้วน้าเกิดวันพุธหรือเปล่า ทำไมโม้ได้เก่งกว่ายิ่งลักษณ์เสียอีก อิอิ ^^
      23 ธันวาคมเวลา 12:12 น.
    • Maha Arai พูดเก่งกับพูดผิดๆ ถูกๆ นี่คนละเรื่องกันน่ะ คือถ้าไม่รู้เรื่องต่อให้เป็นนักพูดเก่งยกตัวอย่างเช่นณัฐวุฒิไปพูดเรื่องเศรษฐกิจที่เขาไม่ได้ชำนาญหรือเรียนมาด้านนี้โดยตรงหรือสนใจศึกษามาก่อนเขามีโอกาสพูดผิดๆ ถูกๆ ได้ เพราะไม่รู้ศัพท์ในวงการนั้นๆ ดีพอ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาพูดเก่ง เพราะสามารถตรึงคนจนเลยเที่ยงคืนได้ยังมีคนเรือนหมื่นนั่งฟังไม่หนีกลับไปก่อน ตอนเขามาปราศรัยบนเวทีครั้งแรกประมาณม็อบ นปก. ช่วงนั้นเราไปบ่อยยังจำได้ว่าแรกๆ เขาก็ให้มาเป็นโฆษกแนะนำตัวคนที่จะพูดด้วยซ้ำยังไม่ได้ปราศรัยทางการเมืองจริงจังอะไรนานเป็นเดือนเหมือนกันถึงเริ่มที่จะลองปราศรัย และไม่นาน เขาก็มายืนแถวหน้าแซงหน้ารุ่นพี่ที่เคยปราศรัยมาก่อนได้ อย่างไม่ต้องสงสัยเลย นี่คือตัวอย่างการพัฒนาการและจะทำได้ดีเมื่อเขาเข้าใจในเรื่องที่จะพูดแต่ถ้าเขาไม่เข้าใจพูดเก่งแค่ไหนก็พูดผิดๆ ถูกๆ ไม่เชื่อลองให้ไปแถลงอะไรเกี่ยวกับวงการหมอ ศัพท์ด้านช่างหรือวงการเศรษฐกิจดูซิ เดี๋ยวก็มีโอกาสพูดผิดๆ ถูกๆ เป็นเหมือนกันทุกคน คนที่ด่ายิ่งลักษณ์ก็เหมือนกันต่อให้เขียนโพยไปให้อ่านในเรื่องที่ตนเองยังไม่เข้าใจดีพอจะไม่ค่อยมั่นใจที่จะพูดและอาจทำให้พูดผิดๆ ถูกๆ ได้ ลองให้ชำนาญเรื่องพวกนี้เจอบ่อยๆ สักปีสองปีมาดูกันอีกที มือใหม่ก็ยังงี้แหล่ะ แต่ดูพัฒนาการจากขี้อายไม่กล้า มาได้ขนาดนี้ คิดว่าทำได้ดีกว่าเขาไหมแค่นี้แหล่ะวัดพัฒนาการได้
      23 ธันวาคมเวลา 17:37 น.
    • Au Thipavalai ก็จะรอดูต่อไปเหมือนกัน ว่าจะตกม้าตายตอนไหน หนูเห็นน้าดูคนผิดมาตั้งหลายคนแระ ^^
      23 ธันวาคมเวลา 20:26 น.


http://www.facebook.com/maha.arai

--------------------------------------------------

โดย มาหาอะไร
FfF