บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


27 มีนาคม 2555

<<< วิธีที่ง่ายที่สุดในการลดการขาดดุลการค้า ก็แค่หันมาใช้แก๊สแทนน้ำมันก็ลดการเสียดุลการค้ามากมายเพราะใช้วิ่งได้เท่ากันแต่ต้นทุนต่างกันหลายเท่าตัว >>>

<<< วิธีที่ง่ายที่สุดในการลดการขาดดุลการค้า ก็แค่หันมาใช้แก๊สแทนน้ำมันก็ลดการเสียดุลการค้ามากมายเพราะใช้วิ่งได้เท่ากันแต่ต้นทุนต่างกันหลายเท่าตัว >>>
  • Tuy Hanselmann และอีก 2 คนถูกใจสิ่งนี้
    • Maha Arai จากข้อมูลที่เราไปหาราคาขายทั้ง LPG และน้ำมันในประเทศยุโรป ตามนี้ <<< ข้อเท็จจริงที่ควรรู้ เรื่อง ราคาแก๊ส LPG ในไทยเทียบกับต่างประเทศ >>>
      http://maha-arai.blogspot.com/2012/03/blog-post_16.html
    • Maha Arai ได้ผลสรุปประมาณนี้
      ราคา LPG ก่อนบวกค่าต่างๆ = 0.198 x 40.4401 = 8.0071398 บาท
      ราคา LPG+ค่าการตลาด = 0.456 x 40.4401 = 18.4406856 บาท
      ราคา LPG หลังบวกค่าต่างๆ = 0.887 x 40.4401 = 35.8703687 บาท

      ราคาเบนซิน ก่อนบวกค่าต่างๆ = 1.512 x 40.4401 = 61.1454312 บาท
      ราคาเบนซิน หลังบวกค่าต่างๆ = 1.830 x 40.4401 = 74.005383 บาท
      เบนซิน 1.830 แพงกว่า LPG 0.887 = 2.06313416 เท่า

      ราคาดีเซล ก่อนบวกค่าต่างๆ = 1.437 x 40.4401 = 58.1124237 บาท
      ราคาดีเซล หลังบวกค่าต่างๆ = 1.739 x 40.4401 = 70.3253339 บาท
      ดีเซล 1.739 แพงกว่า LPG 0.887 = 1.96054115 เท่า
    • Maha Arai จะเห็นได้ชัดว่าราคา LPG พร้อมขายโดยยังไม่บวกภาษี อยู่ประมาณ 8 บาท เท่านั้น แต่โดนแกล้งบวกค่านั่นนี่มากกว่าพวกน้ำมันราคาถึงขึ้นไปที่ประมาณ 35 บาทกว่าเกือบ 36 บาท แต่ราคาน้ำมันบวกนั่นนี่จากต้นทุนประมาณ 61 บาท บวกจนไปได้ 74 บาท
    • Maha Arai สมมุติง่ายๆ เอาราคาขายหัก 27 บาททั้ง lpg และน้ำมัน lpg ก็ประมาณ 8 บาท น้ำมันก็ลดให้เหลือประมาณ 47 บาทก็แล้วกันคิดสมมุติว่าราคาค่าการตลาดทั้งหมดเท่ากันช่วยลดกันสุดฤทธิ์เหลือที่ 40 บาท ก็แล้วกันจะได้คิดง่ายๆ แถมช่วยน้ำมันลดราคาไม่มีเหตุผลให้เพียบแล้วน่ะ ก็จะเหลือประมาณ ต้นทุนน้ำมันต่อ LPG ที่ 40 : 8 หรือ 5 : 1
    • Maha Arai สมมุติว่าประเทศไทยนำเข้าน้ำมัน 1,000,000 ล้านบาท ต่อปี สมมุติถ้าใช้ LPG หมดก็จะเสียเงินนำเข้าประมาณ 200,000 ล้านบาทต่อปี เท่านั้น แต่ LPG พี่ไทยผลิตได้เองแถมยังเหลือส่งขายในต่างประเทศพึ่งมีไม่กี่ปีมานี้ที่มีรถหันมาติดแก๊ส LPG เยอะ ก็เลยไม่เหลือพอส่งออกหรือแอบส่งออกก็ไม่รู้น่ะแต่เริ่มมีการนำเข้าผมมั่วๆ เอาว่าจาก 200,000 ล้านบาท ผลิตได้เองในประเทศไม่ต้องนำเข้าแค่ 20% ถ้าคนหันมาใช้ LPG ทั้งหมดก็เหลือนำเข้าแค่ 160,000 ล้านบาท
    • Maha Arai ขนาดมั่วช่วยน้ำมันสุดชีิวิต ผลออกมา แทนที่จะเสียเงินปีละ 1,000,000 ล้านบาท ก็เหลือแค่ 160,000 ล้านบาทเอง ต่างกันแค่ 840,000 ล้านบาทเอง เนี้ยะช่วยลดขาดดุลการค้าไม่พอยังทำให้ได้ดุลการค้าทั้งๆ ที่ขายของส่งออกได้เท่าเดิมก็เหอะแต่ลดรายจ่ายถึง 840,000 ล้านบาทต่อปี
    • Maha Arai ถ้าอยากได้ตัวเลขชัดเจนเที่ยงตรงกว่านี้ ก็ให้ทางรัฐเอาต้นทุนการผลิตน้ำมัน ราคาน้ำมันที่นำเข้าของจริงก็ส่วนใหญ่ราคาในตลดโลกที่ตอนนี้ ตกที่ 107.83 ดอลลาห์สหรัฐ ต่อบาเรล กับก๊าซธรรมชาติ ในตลาดโลกวันนี้ก็ 2.436 ดอลลาห์สหรัฐต่อ MMBTU หรือ ล้าน BTU เผลอๆ ที่ผมมั่วยกขึ้นมาว่าต่างกันแค่ 5 เท่า แต่ความจริงอาจต่างกันระดับหลายสิบเท่าก็ได้
    • Maha Arai ประเทศไทยใช้ก๊าซธรรมชาติวันละเท่าไหร่เมื่อเทียบกับปริมาณที่ผลิตได้เองภายในประเทศ

      อัตราการใช้พลังงานขึ้นอยู่กับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ หากประเทศไทยมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ระดับ 5-6% ต่อปีคาดว่าอัตราการใช้พลังงานจะสูงขึ้นในระดับเดียวกันหรือมากกว่าเล็กน้อย ในปัจจุบันประเทศไทยมีความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติวันละประมาณ 3,500 ล้านลูกบาศก์ฟุต ร้อยละ 70 นำมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า โดยเป็นส่วนที่เราสามารถผลิตได้เองภายในประเทศประมาณวันละ 2,500 ล้านลูกบาศก์ฟุต จากจำนวนที่ผลิตได้เองภายในประเทศเป็นก๊าซธรรมชาติที่ผลิตโดยบริษัทเชฟรอนฯ เฉลี่ยวันละประมาณ 1,600 ล้านลูกบาศก์ฟุต ส่วนที่เหลือผลิตโดยบริษัทผู้ประกอบการรายอื่นๆ เช่น บริษัทปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เป็นต้น จากการประมาณการโดยบริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้รับซื้อก๊าซธรรมชาติจากผู้ผลิตทุกรายคาดว่าปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติภายในประเทศจะเพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยคาดว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะเพิ่มเป็น 4,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต ในขณะที่ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติของเราสูงกว่าปริมาณที่เราสามารถผลิตได้เองภายในประเทศ ทำให้ประเทศไทยต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมจากประเทศพม่าโดยเฉลี่ยวันละประมาณ 1,000 ล้านลูกบาศ์กฟุตก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้เองในประเทศไทยมีราคาถูกหรือแพงกว่าในประเทศอื่นๆ

      ก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้ในประเทศไทยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3-4 เหรียญสหรัฐต่อค่าความร้อน 1 ล้านบีทียู ซึ่งถือว่ามีราคาถูกกว่าในประเทศอื่นๆ เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นประเทศเพื่อนบ้านในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยกันเช่นก๊าซจากประเทศพม่าที่เรานำเข้า หรือในประเทศญี่ปุ่นและประเทศสหรัฐอเมริกาที่ราคาเฉลี่ยก๊าซธรรมชาติโดยทั่วไปมีราคาอยู่ที่ประมาณ 7-10 เหรียญสหรัฐ จึงไม่น่าแปลกใจที่ราคาค่าไฟฟ้าในประเทศไทยนั้นมีราคาถูกกว่าทุกประเทศในอาเซียน อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง กัมพูชา ฟิลิปปินส์ เป็นต้น

      นอกจากนั้น เมื่อเปรียบเทียบก๊าซธรรมชาติกับเชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ เช่น น้ำมันดีเซล และ น้ำมันเตาแล้ว ก๊าซธรรมชาติยังมีราคาถูกกว่ามาก และมีประสิทธิภาพสูง ตลอดจนมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย ในสภาวะปัจจุบันที่ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นไปสูงกว่า 50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ราคาก๊าซธรรมชาติที่ผลิตในประเทศเมื่อเทียบกับราคาน้ำมันดิบมีราคาเพียงประมาณ 20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเท่านั้น ก๊าซธรรมชาติจึงเป็นเชื้อเพลิงที่ช่วยให้อุตสาหกรรมภายในประเทศประหยัดต้นทุนด้านพลังงานและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้ดียิ่งขึ้น
      ...
      http://www.chevronthailand.com/faq.asp

http://www.facebook.com/maha.arai

-------------------------------------------------------


ผลการทดสอบใช้รถติดแก๊ส ต่อให้ขึ้นไป กิโลกรัมละ 30 บาท หรือ ลิตรละ 20 บาท ผมคำนวนแล้วก็ยังถูกกว่าราคาน้ำมันตอนน
ี้ พวกแท็กซี่อาจมีปัญหา
  • Au Thipavalai, Nattanon Pethaisong และคนอื่นอีก 2 คนถูกใจสิ่งนี้
    • Maha Arai จากข่าวที่ว่ารัฐจะขึ้นราคาแก๊สทุกเดือนเดือนละ 75 สตางค์ต่อกก. รวม12 เดือนขึ้นไป 9 บาท จากเดิมอยู่ประมาณ 20บาทก็ประมาณว่า 30 บาทต่อกก. สำหรับพวกแท็กซี่กำไรจะหดมากแต่สำหรับคนเคยใช้น้ำมันอย่างผม ผมคิดเบ็ดเสร็จก็ยังถูกกว่าน้ำมันดังนี้
    • Maha Arai แต่ก่อนไม่เคยใช้แก๊สได้ยินขึ้นไป 30 บาทอาจตกใจเลิกติดแก๊สหรือไม่กล้าใช้แต่พอลองคำนวนของจริงพบว่าก็ยังถูกอยู่นั่นเอง
    • Maha Arai ผมไปกลับที่ทำงานวันหนึ่ง 70 กม. 5 วัน 350 กม. แต่ก่อนเคยลองรถใหม่กินน้ำ้ำมันประมาณ 13 กม.ต่อลิตร เพราะเจอรถติดไม่มากมีวิ่งออกชานเมือง ตีว่ากินน้ำมันประมาณ 27 ลิตรต่อ 350 กม. พอเอารถเก่าไปติดแก๊สปกติน้ำมันก็กินอยู่ประมาณ 8-10 กม.ต่อลิตร ขึ้นอยู่ว่าติดมากน้อย พอติดแก๊สกินแก๊ส ประมาณ 40 ลิตรต่อ 350 กม. ถ้าเป็นรถใหม่ไปติดแก๊ส ตัวเลขจะดีกว่านี้เยอะแต่ต่อให้
    • Maha Arai จะดูเฉพาะลิตรกินมากน้อยไม่ได้เพราะลิตรแก๊สมันคำนวนได้ตั้งแต่ 1.8-1.9 ลิตรต่อกก. แถมขึ้นอยู่กับความร้อนอีกเอาเป็นว่าเป็นค่าโดยประมาณต้องคำนวนเป็นตัวเงินที่จ่ายจะเข้าใจว่าถูกแพงยังไง ขนาดต่อให้ ด้วยการนำรถเก่ากินแก๊สกินน้ำมันมาเทียบกับรถใหม่ด้วย
    • Maha Arai แก๊ส40ลิตร ตอนนี้เติมล่าสุดอยู่ที่ 12 บาทกว่าๆ ประมาณเกือบ 500 บาท ต่อให้ขึ้นไปที่ 15 บาท ก็ 600 บาท 20บาท ก็ 800 บาท ต่อ 350 กม. ต่อ5วัน
    • Maha Arai ผมใช้ lpg ส่วน ngv จะถูกกว่านี้อีก lpg 1.8 ลิตรประมาณ 1 กิโลกรัม ถ้าลิตรละ 15 บาท ก็กก. ละ 27 บาท ถ้าลิตรละ 20 บาทก็ กก. ละ 36 บาท จะเห็นได้ว่าถ้าขึ้นไปที่ 30 บาท ต่อกิโลกรัม ก็แค่ 16.67 บาท ต่อลิตร หรือ 40 ลิตร ประมาณ 666 บาท ต่อ 5 วันเพิ่มมาแค่ร้อยกว่าบาท ต่อ 5 วัน
    • Maha Arai แล้วน้ำมันละขนาดใช้ต่างกันกับแก๊ส ที่ใช้ 40 ลิตรที่ระยะทางเท่ากันน้ำมันใช้ 27 ลิตรเอง แต่ตอนนี้ลิตรละเท่าไหร่มาไล่ดูทีละตัว
      ถ้าใช้เบนซิน95 ก็เอา 45 คูณ 27 ได้เท่ากับ 1,215 บาท
      ถ้าใช้เบนซฺน91 ก็เอา 41 คูณ 27 ได้เท่ากับ 1,107 บาท
      ถ้าใช้แก๊สโซฮอลก็เอา 40 คูณ 27 ได้เท่ากับ 1,080บาท
      ถ้าใช้ e20 ก็เอา 37 คูณ 27 ได้เท่ากับ 999 บาท
      ถ้าใช้ดีเซล ก็เอา 32 คูณ 27 ได้เท่ากับ 864
      บาท
      ซึ่งราคาน้ำมันทุกประเภทต่อ
      ให้ปัดเศษทิ้งด้วยถ้ารวมเศษก็ราคามากกว่าที่คำนวนให้ดู และกว่า lpg ขึ้นไป 666 บาทในอีก 1 ปีข้างหน้าก็ยังถูกอยู่ดีอย่างที่บอกยกเว้นพวกแท็กซี่ อาจมีเงินกำไรแต่ละวัน ลดลงไปเกือบสองร้อยบาท ถ้าไม่มีการปรับราคาก็จะขาดทุนกำไรในแต่ละวันแต่สำหรับผมที่ใช้ของแพงมาหลายปีรู้สึกเฉยๆ
    • Maha Arai สรุปถ้าเป็นรถใหม่มาติดแก๊สหัวฉีดด้วยจะเสียเงินน้อยกว่าที่ผมคำนวนยิ่งถ้าบ้านไม่ไกล รถไม่ติดมาก ก็เสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่านี้ รวมไปถึงถ้าใช้ ngv ก็จะถูกลงกว่านี้อีก ในระยะทางเท่ากัน สรุปว่าต้องคำนวนจากการใช้จริงจะเห็นภาพว่าจะมีต้นทุนเพิ่มมากเท่าไหร่ ที่สำคัญราคาก๊าซในตลาดโลกลดลงจาก 6 ดอลล่าห์เหลือ 2 ดอลล่าห์ในช่วง 5 ปีมานี้ แต่ทำไมราคาแก๊ซจะเพิ่มมากขึ้นได้นอกจากมีการบวกค่านั่นนี่ผสมโรงด้วย แต่ยังไงผมก็ยังสนับสนุนให้ลอยตัวราคาก๊าซแต่ต้องช่วยพวกแท็กซี่ครึ่งๆก็ยังดีแต่พวกขนส่งต้นทุนมันไม่ได้ขึ้นมากมายทำให้ขาดทุนอะไรไม่น่ากังวลใดๆ นอกจากฉวยโอกาสตามน้ำ แต่ในโลกการค้าเสรีการขึ้นโดยไม่ดูคู่แข่งว่าเขาสามารถยันได้หรือไม่ ขึ้นไปก็ขายของกันไม่ได้เองหรือคนเปลี่ยนไปใช้บริการของเจ้าอื่นแทนได้

http://www.facebook.com/maha.arai

-------------------------------------------------------
โดย มาหาอะไร
FfF