บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


21 พฤษภาคม 2555

<<< กรณีเอกสารวิจัยของเจ้าหน้าที่ระดับสูง IMF ระบุว่าอีก 10 ปี น้ำมันราคาแพงกว่านี้เท่าตัว ผมว่าไม่รับงานมาก็ไม่เป็นงาน >>>

วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 13:41 น. ข่าวสดออนไลน์

ข่าวร้าย ! อีก 10 ปีราคาน้ำมันพุ่งเป็น2เท่า..คำเตือนจากไอเอ็มเอฟ

เอกสารวิจัยภายในไอเอ็มเอฟ เตือนเศรษฐกิจโลก ระวังอีก 10 ปีราคาน้ำมันพุ่งสูงกว่าราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเวลานี้อีกเท่าตัว

การ์เดียน หนังสือพิมพ์ระดับแนวหน้าของอังกฤษรายงานเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ว่า เอกสารวิจัยภายในของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ใช้แบบจำลองคาดการณ์สถานการณ์น้ำมันในช่วง 10 ปีข้างหน้า เตือนว่าเมื่อถึงปี 2565 ราคาน้ำมันดิบที่ซื้อขายกันอยู่ในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อไม่นานมานี้ที่ 113 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกราวเท่าตัว และระดับราคาดังกล่าวจะคงอยู่ถาวร ไม่ได้พุ่งขึ้นสูงแล้วอ่อนตัวลงเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศของโลกอย่างใหญ่หลวง

"เพราะที่ผ่านมาเราไม่เคยมีประสบการณ์ระดับราคาน้ำมันสูงๆ เกินกว่าระยะเวลาเพียง 2-3 เดือน ทำให้ระดับราคาสูงแบบถาวรดังกล่าวกลายเป็นเหตุปัจจัยที่ทำให้การค้าโลกและเศรษฐกิจทั่วโลกตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เคยประสบกันมาก่อน" รายงานชื่อ "อนาคตของน้ำมัน:ธรณีวิทยา ปะทะ เทคโนโลยี" ของทีมวิจัยภายในไอเอ็มเอฟระบุ ทั้งนี้ นอกจากประเด็นเรื่องระดับราคาแล้ว ที่น่าสังเกตอย่างมากก็คือ การศึกษาวิจัยโดยใช้แบบจำลองของไอเอ็มเอฟดังกล่าวนี้ ไม่ได้นำปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่นักวิเคราะห์ทั่วไปนำมาใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงราคาน้ำมันในอนาคตอยู่เสมอนั่นคือ ภาวะ พีค ออยล์ หรือการที่น้ำมันดิบในแหล่งน้ำมันลดน้อยลงจนเหลือเพียงส่วนที่ยากต่อการนำขึ้นมาใช้ และต้องใช้เทคโนโลยีในระดับสูงทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดเพิ่มสูงขึ้น

แบบจำลองของไอเอ็มเอฟไม่ได้คำนึงถึงปัจจัยพีค ออยล์ดังกล่าว เพราะเชื่อว่าระดับราคาน้ำมันที่สามารถขายได้จะเป็นตัวกำหนดอัตราการขุดเจาะน้ำมันออกมาจากแหล่งขุด ทำให้ปัญหาพีค ออยล์ไม่กระทบต่อระดับราคาที่แท้จริงเท่าใดนัก ทั้งนี้ รายงานชิ้นนี้ระบุว่า จะมีการเพิ่มผลผลิตน้ำมันโลกขึ้นเป็นจำนวนน้อย สืบเนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่แท้จริงในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงระดับเกือบเป็น 2 เท่าตัวของระดับราคาสูงสุดในปัจจุบันในทศวรรษที่จะมาถึง และระดับราคาสูงมากดังกล่าวจะคงอยู่ถาวรเป็นระยะเวลานาน

แม้รายงานดังกล่าวจะระบุไม่ให้ยึดถือว่าเป็นทรรศนะของไอเอ็มเอฟก็ตาม แต่ผู้ศึกษาวิจัยและจัดทำแบบทดลองครั้งนี้เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไอเอ็มเอฟ รวมทั้ง ยาโรเมียร์ บีนส์ อดีตหัวหน้าสำนักงานจัดทำแบบจำลองเศรษฐกิจมหภาค ของธนาคารแห่งชาติเช็ก ที่ปัจจุบันนี้เป็นลูกจ้างในสังกัดของไอเอ็มเอฟ ทั้งนี้ รายงานชิ้นนี้ระบุว่า แบบจำลองที่ใช้แสดงให้เห็นถึงความถูกต้องใกล้เคียงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาอย่างยิ่ง และถ้าหากยังคงถูกต้องในระดับดังกล่าวเหมือนเช่นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาต่อไปอีก อนาคตก็จะยุ่งยากลำบากไม่น้อย

ทั้งนี้ สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพิ่งออกแถลงการณ์เตือนประเทศอุตสาหกรรมทั้งหลายว่าระดับราคาน้ำมันในปี 2555 นี้จะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง เพราะความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและตะวันตก และการที่ความต้องการน้ำมันซึ่งเคยตกต่ำลงได้สิ้นสุดลงแล้ว จะยิ่งทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งเป็นทรรศนะที่สอดคล้องกับทรรศนะของกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก (โอเปค) เช่นกัน

ที่มา มติชน

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNek56QTJOREV6Tnc9PQ%3D%3D§ionid

----------------------------------------------------------

เมื่อไม่กี่วันราคาน้ำมันโลกกำลังลดลง
เพราะเจอพิษความไม่แน่นอนทางการเมือง
ทั้งในกรีซและอีกหลายประเทศในยุโรป
อยู่ๆ ก็มีข่าวนี้หลุดมาเสมือนหนึ่งมาช่วยพยุงราคาน้ำมัน
วิกฤตเศรษฐกิจโลกช่วงนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า
ราคาน้ำมันแพงคือสาเหตุต้นๆ ถึงสาเหตุหลักตัวหนึ่ง
การจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจโลกงวดนี้ให้ฟื้นได้
ต้องทุบราคาน้ำมันลงมาให้มากๆ
ยิ่งทุบยิ่งฟื้นเร็วไม่ใช่ช่วยพยุงให้มันสูงอยู่เหมือนเดิมหรือสูงขึ้นไปอีก

พวกที่มาช่วยพยุงให้มันสูงเข้าไปอีกแถมเป็นพวก IMF
ผมสามารถพูดได้เต็มปากว่ารับงานมาหรือไม่ก็ทำงานไม่เป็น
ใครไปทำตามคำแนะนำของ IMF ก็ระวังจะเจ๊งไม่เป็นท่าอีก
เหมือนอดีตหลายประเทศแบบนี้

<​<​<​ วิกฤตต้มยำกุ้ง #4 เด็กดี หนูลองยา IMF >>>

เพราะการพยุงให้น้ำมันสูงแบบนี้แหล่ะ
ที่จะทำให้เจ๊งทั้งประเทศ
จนต้องขุดเอาทรัพย์สินมาขายหลายประเทศแล้วในอดีต
เขามีแต่พยายามทำให้มันราคาลดลง
ด้วยการโปรโมทพลังงานทางเลือก
ส่งเสริม กระตุ้น รณรงค์ ลดภาษี
เพื่อให้น้ำมันขายได้ถูกลง
ซึ่งถ้าวันนี้มีการส่งเสริมให้
มีการผลิตรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า
ลดราคาลงมาเหลือระดับหลายแสนบาทได้
มีเท่าไหร่ก็แทบไม่พอขาย
และจะก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าตลาดรถ
แทนที่โตโยต้า ฮอนด้า หรือยี่ห้อต่างๆ
เหมือนที่โนเกียโดนซัมซุงล้มนั่นแหล่ะ

งบประมาณมีแทนที่จะไปรณรงค์
ให้หันไปใช้พลังงานทางเลือกเต็มที่
ทั้งไฟฟ้าที่บ้านด้วย อะไรใช้แผงโซล่าเซลล์ได้
ก็ลดการเก็บภาษีเพื่อให้มันถูกลง
กระตุ้นการวิจัยหรือส่งเสริมให้คนหันมาใช้
รวมไปถึงการกดราคารถใช้พลังงานทางเลือกทุกชนิด
ยอมลดภาษีให้ช่วง 5 ปีนี้ มีหรือน้ำมันจะแพงขึ้นไปอีก
มีแต่จะลดลงเรื่อยๆ แต่ไม่ทำกัน
ตั้งแต่ระดับโลกยันระดับประเทศต่างๆ รวมทั้งในไทย
คัดคนเป็น รมต.พลังงาน แต่ละคน
ไม่รู้เอาเด็กในคาถาบริษัทค้าน้ำมันหรือค้ารถยนต์ไปเป็นหรือเปล่า
รู้สึกจะปกป้องพวกนั้นมากกว่าจะชนเพื่อกดดันให้ราคาลงมา

ส่วนที่ว่าทำงานไม่เป็นก็คือ
แทนที่จะออกข่าวว่าน้ำมันจะโดนพลังงานทดแทนเข้ามาแทนที่
นี่กลับไม่ได้เอาไปคิดกลับไปนั่งเทียนวิเคราะห์กราฟราคาน้ำมันอย่างเดียว
ลืมดูพลังงานทางเลือกอื่นๆ แล้วปล่อยให้เอกสารหลุดมาช่วงน้ำมันราคาตกลงพอดี
ไม่ให้คิดว่ารับงานมาพยุงราคาน้ำมัน ก็ต้องคิดว่าทำงานไม่เป็นไม่ได้เรื่องเท่านั้นเอง

โดย มาหาอะไร
FfF