<<< เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐยกระดับการต
- Vjit Hunh, Wake Up Guys และ คนอื่นอีก 2 คน ถูกใจสิ่งนี้
Maha Arai ถามว่าทำไมผมไม่ดีใจเหมือนกับเสื้อแดงทั่วไป ที่เห็นการชนะศึกนี้โดยวิธีที่ตำรวจทำ แถมบางคนเชียร์ตำรวจออกหน้าออกตา เพราะผมรู้ว่าวิธีพวกนี้แหล่ะที่จะถูกนำกลับมาใช้กับเสื้อแดงในอนาคต ความจริงโดนมามากกว่านี้แต่ส่วนใหญ่โดนวันท้ายๆ คือใช้ปืน ใช้รถถังในการสลายม็อบ- Maha Arai แต่ช่วงการระดมพลหรือช่วงแรกๆ จะไม่โดน แต่ดูจากคราวนี้แล้วบอกได้คำเดียวว่าม็อบเสื้อแดงถ้าออกมาต่อต้านรัฐบาลที่ไม่ใช้รัฐบาลที่ตนเองเชียร์จะโดนอย่างม็อบอ้ายแช่แข็ง เป็นระดับเบื้องต้นพื้นฐานก่อนจบด้วยโดนไล่ยิงแบบเดิมๆ
- Maha Arai เทคนิคงวดนี้ของเจ้าหน้าที่ ทั้งบล็อคนายทุน ทั้งบล็อคเพื่อทำให้เดินทางเข้าสู่งานไม่เป็นไปตามที่หวัง กรณีหลังนี้เสื้อแดงเคยโดนบ่อยๆ แต่ไม่รู้ตัวโดยเฉพาะแดงเวทีเล็ก เพราะเราก็เคยโดนกับตัว ไอ้ประเภทกำหนดเวลาฤกษ์ไว้รับประกันได้ส่วนใหญ่ไปไม่ทันฤกษ์ขนาดเห็นอยู่แค่ไม่กี่สิบเมตรรถติดโดนสกัดแบบเนียนๆ ส่วนกรณีมีบางจุดโดนตั้งด่านตรวจอาวุธ อันนี้ว่าไม่ได้ คนมาพร้อมกันมากๆ ในเวลาใกล้กันมันก็ติดไม่รวมถึงการจราจร
- Maha Arai ตามมาด้วยบล็อคบริเวณงาน ปิดเส้นทาง ระดมตำรวจนับหมื่นรับมือ แก๊สน้ำตามทันทีที่เกิดเรื่องและเยอะมาก ม็อบไล่รัฐบาลไม่ว่าสีไหน งวดหน้ามาจะโดนแบบนี้เป็นระดับเบื้องต้น
- Maha Arai ดังนั้นทุกม็อบเขาก็ต้องยกระดับมารับมือ ไอ้ประเภทท่องจำกันมาว่าจะสันติอหิงสา เจอแก๊สน้ำตาเข้าไป รับประกันได้ว่าไม่เหลือแนวนั้นแน่นอน พูดไปก็ทำไม่ได้แน่นอน เพราะมันก็ต้องมีการโต้ตอบหนักเบาขึ้นอยู่กับจำนวนฮาร์ดคอร์และการเตรียมพร้อมไปลุย
- Maha Arai ที่สำคัญผลที่ตามมา จะเป็นการคัดแกนนำที่ไม่สู้ให้ออกจากวงโคจรม็อบไปเรื่อยๆ เพราะมานำม็อบไม่ได้หรอก นำมาเจอสกัดไปไม่เป็นถอยไม่ว่าม็อบสีไหนเหมือนกันงวดนี้จะเห็นว่าเขาเปลี่ยนจากอ้ายแช่แข็งเป็นสงค์แช่แข็งหรือ อะไรไม่รู้แช่แข็งทั้งนั้นแหล่ะพวกนี้ ล่าสุดเห็นศิษย์โพธิรักษ์จะนำกองทัพธรรมมาลุยแก้แค้นวันไหนแน่ๆ ไม่รู้แต่บอกว่าเร็วๆ นี้คาดว่าตั้งแต่ 10 ธ.ค. ไปจนถึงปีหน้า
- Maha Arai ดังนั้นพวกเบื่อแกนนำม็อบแนวไม่สู้ได้เห็นการเปลี่ยนตัวแกนนำในอนาคตแต่ต้อง เป็นช่วงคนละรัฐบาลที่เสื้อแดงหนุน ถึงเวลานั้นแกนนำที่ไม่สู้หรือสู้ไม่ได้ จะนำทัพออกมาสู้เรื่อยๆ ไม่มีใครเอาด้วยเดี๋ยวก็ไปเองตามสภาพ เป็นไปโดยธรรมชาติ เพราะยิ่งฝ่ายรัฐเล่นแรงเรื่อยๆ สภาพม็อบต้องยกระดับความแรงเรื่อยๆ ประเภทท่องสันติอหิงสา อาจไว้สร้างภาพได้แต่ของจริงภาพจะออกมาตรงกันข้ามทั้งนั้นแหล่ะ เจอแรงๆ ใครเขาจะอยู่เฉย
- Maha Arai สมัยคานทีก็มีแรงน่ะแม้จะเป็นต้นตำรับแต่ขบวนการต่อสู้ก็เจอสกัดแรงๆ เหมือนกัน แต่สมัยก่อนอาจมีแค่กระบองกับกระสุนให้เลือก ไม่มีอุปกรณ์ต่อต้านม็อบสารพัดที่เริ่มมีมากขึ้นในปัจจุบันสภาพมันจะต่างกัน เช่นโดนแก๊สน้ำตาเป็นใครก็นั่งไม่ได้ ต้องลุกไม่หนีเลิกม็อบก็ลุกขึ้นสู้โดยธรรมชาติ
- Maha Arai ดังนั้น ฝากถึงแกนนำแดงทั้งหลาย ถ้าคิดว่าจะนำกันต่อไปเตรียมพร้อมลุยกับสิ่งที่ม็อบตรงข้ามเจอในวันนี้เอาไว้ด้วยรวมไปถึงอนาคตที่พวกนั้นจะมาเอาคืนอีก เรียกว่าโดนแบบไหนก็จะโดนแบบเดียวกัน ทหารแตงโมตำรวจมะเขือเทศอาจมี แต่ทหารตำรวจที่เบื่อม็อบทุกสีก็มีไม่น้อยและ ที่เจอในหลายๆ ศึกหรือตามท้องถนนก็มีที่เชียร์แดงแต่มีไม่น้อยไม่เชียร์ ยิ่งเราเคยขึ้นไปโรงพัก 2 โรงไปเรื่องคดีของหายกับรถถูกชน สัมผัสได้ อย่าไปหลงคิดว่าจะแดงหมดอย่างที่คิดกัน
- Maha Arai และ ที่บอกว่าม็อบต้องมีแกนนำใช่ เห็นด้วย แต่เวลาเกิดเรื่องจริง ทั้งวันที่ 10 ที่แยกคอกวัวไม่เห็นหัวแกนนำ เกือบชั่วโมง ทั้งๆ ที่ห่างจากเวทีไม่มาก และเสียงปืนน่าจะได้ยินไปถึง แถมเวทีใหญ่ก็บอกจะส่งคนมาช่วย สรุปไปช่วยเฝ้าที่เวทีมากกว่าที่แยกคอกวัวที่กำลังปะทะกัน จนชาวบ้านที่ไม่มีแกนนำวิ่งเข้าใส่ลุยกับทหารที่แยกคอกวัวเจ็บหลายร้อยแล้ว นั่นแหล่ะ ถึงมีการส่งคนมาช่วยแต่ช่วยได้แต่คนส่งมาทำให้ยันได้ แต่ตัวแกนนำที่มาคุมช่วยอะไรไม่ได้เลย
- Maha Arai มีอย่างที่ไหนเขายิงกันเสียงสนั่นหวั่นไหว มามุกแนวสันติอหิงสาประกาศสั่งม็อบนั่งลงกลางสี่แยกปรากฏว่าไม่มีใครบ้าไปนั่งตามสั่งสักคน ทุกคนยืนพร้อมรับการบุกที่กำลังยันท่ามกลางเสียงอาวุธหนักชนิดระเบิดที่ยืน อยู่ไกลจากจุดที่เขาสู้กันยังรู้สึกได้ถึงเสียงที่ดังและพื้นดินที่สั่นสะเทือน มีแกนนำมานำแบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้เหมือนกัน
- Maha Arai อีกหลายๆ เหตุการณ์ก็ไม่มีแกนนำชัดเจน เช่นหลังแกนนำประกาศยอมมอบตัวหลังจากนั้ันก็เกิดเหตุตามมามากมายเพราะไม่มีแกนนำ จะเห็นได้ว่ายามหน้าสิ่วหน้าขวานยามเผชิญหน้ากับของจริงอาวุธจริงหน้างานจะเริ่มไม่มีใครมานำมาสั่งการแล้ว แต่ชาวบ้านก็ยังพยายามช่วยกันยันช่วยกันทำไปคนละทิศคนละทาง
- Maha Arai ถ้าคิดว่าการไม่มีแกนนำเป็นสิ่งไม่ดี ก็ควรฝึกการไม่มีแกนนำช่วงไม่มีแกนนำเอาไว้ด้วยเพราะจากหลายศึกที่ผ่านมา ส่วนใหญ่มีความรู้สึกว่าแกนนำมีไว้ให้ฝ่ายตรงข้ามจับตัวไปกับการปราศรัยเท่านั้นในการต่อสู้ยามไม่มีแกนนำเริ่มไร้ทิศทางอย่างที่ว่าจริง แต่ก็จะเกิดเหตุการณ์ไม่มีแกนนำจริงๆ ทุกครั้ง ดังนั้น กรณีนี้ก็ต้องเตรียมรับมือเพราะมันเกิดแบบนี้ทุกที
- Maha Arai อันที่จริงแกนนำตัวจริงมันควรอยู่ในจุดที่ปลอดภัยไม่ใช่อยู่ในจุดที่เสี่ยงที่เขาจะจับตัวไปได้ตลอดเช่นในม็อบ นั่นน่าจะเป็นแกนนำระดับรองลงไป และควรแยกระหว่างแกนนำกับนักปราศรัยให้ชัดเจนไม่ใช่แกนนำไปหมด คนที่ขึ้นเวทีจะทำหน้าที่เป็นศิลปินนักร้อง นักปราศรัย อะไร ก็ว่าไปไม่ถือว่าเป็นแกนนำ แกนนำต้องเป็นคนสั่งการทำนั่นทำนี่ไม่ใช่มั่วไปหมดแกนนำเพียบไม่รู้จะเชื่อใคร อันที่จริงแกนนำจริงๆ อยู่ต่างแดนก็โอเคแต่ในช่วงสู้อาจมีแกนนำ นำม็อบสู้แยกให้ออกระหว่างแกนนำม็อบกับนักปราศรัย และศิลปิน เพราะคนปราศรัยเก่ง ร้องเพลงเก่งอาจมานำม็อบให้ชนะศึกไม่ได้ ถ้าไม่รู้ทันฝ่ายตรงข้ามและโต้ตอบเขาได้สั่งการจัดการอะไรเขาได้ ไม่ใช่เอาใจเรียกเป็นแกนนำหมดแต่บางคนไม่เห็นทำอะไรให้สมชื่อเลยนอกจาก ปราศรัยร้องเพลงเป็นโฆษก มันแกนนำอะไร
- Maha Arai เหมือนกองทัพหนึ่งต้องมีแม่ทัพนำทัพใหญ่คนเดียว ถ้าจะเอาแนวมีแกนนำน่ะ ไม่ใช่อ.ธิดา ตู่ เต้น ก่อนหน้านั้น ยาวเป็นหางว่าวต่างคนต่างเป็นแกนนำ แต่อาจมีรองแม่ทัพคอยช่วยงานและระดับคนคุมกองพัน กองร้อย หรือหน่วยจรยุทธ อะไร ถ้าจะเอาแนวนี้ก็ต้องชัดเจนแบบนี้ หรือที่ปรึกษากุนซือแยกงานแยกหน้าที่เรียกให้มันไม่สับสน ไม่งั้นเหมือนมีแม่ทัพเต็มเวที และผิดหลักสายบังคับบัญชาการรบถ้าจะเอาแนวนั้นน่ะ
- Maha Arai แต่ถ้าไม่เอาแนวนั้น ก็ต้องส่งเสริมให้ประชาชน เก่งขึ้นเยอะๆ ควบคุมหลวมๆ ไม่ใช่ให้เชื่อฟังแบบห้ามซักห้ามถามห้ามสงสัยอวยได้อย่างเดียวอะไรแบบนี้ เพราะของจริงเวลายามไม่มีแกนนำเกิดบ่อยด้วยยามหน้าสิ่วหน้าขวาน มวลชนที่นั่งรอแต่แกนนำทำอะไรไม่เป็น ในขณะพวกไม่ยึดติดแกนนำสามารถเคลื่อนไหวได้ทันทีต่อไป ยกตัวอย่างหลังแกนนำยอมมอบตัวในศึกปี 52 คนที่ไม่ยอมก็ไปรวมตัวกันที่สนามหลวงแบบไม่มีการนัดแนะอะไรต่างคนต่างไป ระดับหลายร้อยเสร็จแล้วเริ่มกระจายข่าวตามเว็บออกไปจนเป็นระดับหลายพัน ไม่มีใครนำไปยืนคุยพอคนเยอะๆ เริ่มมีมาตั้งเวทีเล็กๆ เริ่มจากไม่มีเครื่องเสียงเพราะโดนแกล้งถูกยึดไปก็เอาไม้พาดยืนบนรถกระบะโทรโข่งอันหนึ่งฟังได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้างพอคนเริ่มระดับเป็นพันขึ้นไป แกนนำใหญ่ถูกปล่อยออกมาคุมตามฟอร์มแล้วก็กลับเข้าสู่วงจรมีแกนนำต่อไป เช่นเดียวกับหลังศึก 53 ม็อบไอ้เหี้ยสั่งฆ่าอีห่าสั่งยิง เริ่มแรงขึ้นมา หลังจากนั้นก็เริ่มมีการส่งคนมานำก็คืออ.ธิดา ออกมานำชัดเจนตั้งแต่ช่วงนั้นแล้วก็หมดความแรงลงไปอย่างสิ้นเชิง
- Maha Arai จะ เห็นได้ว่าคนที่เขาผ่านการไม่มีแกนนำมาเขาไม่เห็นกลัวว่าไม่มีแกนนำเพราะยาม หน้าสิ่วหน้าขวานต้องนำตนเองทั้งนั้นไปรวมตัวกันเยอะๆ ให้ได้แต่คนที่ติดแกนนำ ถ้าแกนนำโดนจับอยู่ ก็บ้านใครบ้านมันนั่งๆ รอๆ ว่าจะมีแกนนำเฉพาะที่ตนเองชอบหรือแกนนำเก่าๆ อีกต่างหากถึงอยากมาร่วมม็อบ แบบนี้จบเห่ ไปไหนไม่ได้ไกลไม่ใช่ว่าผมจะดูถูกเพราะมีวิธีจัดการง่ายมากๆ ในเมื่อเรารู้ทำไมฝ่ายตรงข้ามันจะไม่รู้และนำมาใช้แล้วด้วยเพียงแต่มันไม่ชัด พอที่จะชี้หน้าว่าตรงๆ เท่านั้นเอง แต่ดูไปเหอะยังไงฝ่ายตรงข้ามมันก็ต้องมาคุมแกนนำให้ได้เพราะเท่ากับคุมการ เคลื่อนไหวได้ทั้งระบบถ้ายังทำกันแบบนี้ และมันเป็นวิธีที่ถูกต้องด้วยเป็นเราถ้าเป็นฝ่ายตรงข้ามก็ต้องทำแบบนี้แหล่ะ คุมม็อบให้เคลื่อนไหวอยู่ในโอวาทไปวันๆ จะเข้าจะออกทำเข้าทางเขาบ่อยๆ คนไม่รู้ก็ไม่รู้ อาจเป็นเพราะไม่รู้ทันเกมฝ่ายตรงข้ามก็ได้พยายามมองในแง่ดีสุดๆ แต่อนาคตจะได้เห็นแน่นอน ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนให้เห็นกันยังได้เพราะมันต้องมีสักวันแหล่ะที่จับได้คา หนังคาเขา
http://www.facebook.com/maha.arai
--------------------------------------------------------
FfF
